Tesla รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2017 ขาดทุน 671.4 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการขาดทุนมากที่สุดในไตรมาสเดียวของบริษัท โดยมีรายได้รวม 2,984.7 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน

ในจดหมายรายงานกับนักลงทุน Tesla บอกว่ารถยนต์คันลำดับที่ 250,000 ได้ถูกส่งมอบในไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการผ่านด่านสำคัญเพราะเมื่อ 5 ปีที่แล้ว บริษัทได้ส่งมอบรถคันที่ 2,500 ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไป บริษัทก็ผลิตรถส่งมอบได้มากขึ้นถึง 100 เท่า

Activision Blizzard บริษัทเกมยักษ์ใหญ่ของโลก เผยผลประกอบการไตรมาส 3/2017 (ข่าวของไตรมาส 1/2017 และ 2/2017) มีรายได้ 1,618 ล้านดอลลาร์ กำไรสุทธิ 188 ล้านดอลลาร์ ดีเกินกว่าที่บริษัทคาดการณ์ไว้

บริษัทลูกที่ทำผลงานได้ดีในไตรมาสนี้ กลับเป็นฝั่ง Activision ที่วางขายเกม Destiny 2 และทำยอดขายถล่มทลายในสหรัฐ ส่งผลให้ Activision ทำรายได้ในไตรมาสนี้ถึง 759 ล้านดอลลาร์

Alibaba รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสล่าสุด กรกฎาคม-กันยายน 2017 มีรายได้เพิ่มขึ้น 61% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 8,285 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 2,616 ล้านดอลลาร์

ซีอีโอ Daniel Zhang กล่าวว่าผลลัพธ์ที่ออกมานี้ยังเป็นแค่การเริ่มต้นของกลยุทธ์ในการหลอมรวมช่องทางจำหน่ายออนไลน์และออฟไลน์เข้าหากัน เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าคุณภาพและได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งๆ ขึ้นไป

Alibaba มีลูกค้าที่ใช้งานผ่านมือถือ 549 ล้านคน เพิ่มขึ้น 20% ส่วนบริการคลาวด์ Aliyun ยังคงเติบโตสูง มีรายได้เพิ่มขึ้น 99%

แอปเปิลรายงานผลประกอบการของไตรมาส 4 ตามปีการเงินบริษัท (กรกฎาคม-กันยายน) มีรายได้รวม 52,579 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 10,714 ล้านดอลลาร์ โดยรายได้จากตลาดต่างประเทศ (ไม่รวมอเมริกา) คิดเป็น 62% ของรายได้รวม

ในไตรมาสที่ผ่านมาแอปเปิลเริ่มขาย iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ซึ่งก็สะท้อนกลับมาโดย iPhone ขายไปได้ 46.7 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อน ส่วน iPad ขายได้ 10.3 ล้านเครื่อง (+11%) และ Mac ขายได้ 5.4 ล้านเครื่อง (10%)

ธุรกิจบริการ (App Store, Apple Music, iTunes) ยังคงเติบโตต่อเนื่อง ไตรมาสนี้มีรายได้เฉพาะธุรกิจส่วนนี้ 8,501 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 34% อีกตัวเลขที่น่าสนใจคือยอดขายในประเทศจีน ซึ่งอยู่ที่ 9,801 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 12%

เอไอเอสรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3/2560 มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 4.0% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 38,580 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 7,469 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% สาเหตุหลักจากรายได้ที่เติบโต และต้นทุนการทำแคมเปญมือถือลดลง ถึงแม้ต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านโครงข่ายจะเพิ่มสูงขึ้น

จำนวนลูกค้าเอไอเอสสิ้นสุดไตรมาส 3 มีจำนวนลดลง 287,200 เลขหมาย รวมเป็น 40.19 ล้านเลขหมาย โดยจำนวนลูกค้ารายเดือนเพิ่มขึ้น ขณะที่ระบบเติมเงินลดลง อัตราการใช้งานดาต้าต่อเดือนยังคงเพิ่มต่อเนื่อง เฉลี่ยอยู่ที่ 5.9GB/เลขหมาย/เดือน ถ้าดูเฉพาะลูกค้ารายเดือนตัวเลขนี้สูงถึง 7.5GB

Fitbit รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ปี 2017 รายได้ลดลง 22% อยู่ที่ 392.5 ล้านดอลลาร์ และขาดทุนสุทธิ 2.8 ล้านดอลลาร์ โดยขายอุปกรณ์ไปได้ 3.6 ล้านชิ้นในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา

ซีอีโอ James Park ให้ความเชื่อมั่นว่าบริษัทจะสามารถเติบโตและมีกำไรได้ โดยเฉพาะจากผลิตภัณฑ์ล่าสุดอย่าง Fitbit Ionic ที่ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้า จึงมีส่วนแบ่งในตลาดสมาร์ทวอทช์เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่ง Fitbit เชื่อว่านี่คือผลิตภัณฑ์ดีที่สุดในฐานะอุปกรณ์สวมใส่ด้านสุขภาพและฟิตเนสตอนนี้

ที่มา: Fitbit

Facebook รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3/2017 มีรายได้รวม 10,328 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 47% จากไตรมาสเดียวกันในปี 2016 ซึ่งถือเป็นไตรมาสแรกที่ Facebook มีรายได้เกินหมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 4,707 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 79% จากปีก่อน โดยรายได้จากโฆษณาผ่านมือถือคิดเป็น 88% ของรายได้จากโฆษณารวมทั้งหมด

จำนวนผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน (MAUs) 2,072 ล้านคน เพิ่มขึ้น 16% และผู้ใช้งานเป็นประจำทุกวัน (DAUs) มี 1,368 ล้านคน เพิ่มขึ้น 16%

โซนี่รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ตามปีการเงินบริษัท 2017 (กรกฎาคม-กันยายน) มีรายได้รวม 2.06 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น 22.1% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 1.43 แสนล้านเยน เพิ่มขึ้น 739%

กลุ่มธุรกิจ Game & Network Services มีการเติบโตดีที่สุด รายได้เพิ่มขึ้น 35% จากยอดขายเกม PS4 ที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งปัจจัยจากค่าเงิน ขณะที่ธุรกิจโทรศัพท์มือถือมีรายได้เพิ่มเล็กน้อย และเป็นกลุ่มธุรกิจเดียวของโซนี่ที่ขาดทุน

โซนี่ยังมองธุรกิจโทรศัพท์มือถือในไตรมาสข้างหน้าว่ายอดขายจะยังคงลดลง และกำไรจากการดำเนินงานยังถูกกดดันด้วยต้นทุนชิ้นส่วนที่มีราคาเพิ่มสูงขึ้น

ที่มา: โซนี่

ซัมซุงรายงานผลการดำเนินงานของไตรมาสที่ 3 ปี 2017 ซึ่งมีรายละเอียดเพิ่มเติมจากตัวเลขคาดการณ์เมื่อต้นเดือน โดยมีรายได้รวม 62.05 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 29.8% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน มีกำไรจากการดำเนินงาน 14.53 ล้านล้านวอน และมีกำไรสุทธิ 11.19 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 146% เนื่องจากปีที่แล้วกำไรลดลงมากจากปัญหา Galaxy Note 7

ธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยังคงเติบโตต่อเนื่องทุกไตรมาส และกลายมาเป็นธุรกิจหลักของซัมซุงไปแล้ว รายได้ส่วนนี้อยู่ที่ 28.02 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 38% เฉพาะธุรกิจหน่วยความจำเพิ่มขึ้นถึง 65% และชิ้นส่วนหน้าจอเพิ่มขึ้น 17% ขณะที่ธุรกิจโทรศัพท์รายได้เพิ่มขึ้น 23% เป็น 27.69 ล้านล้านวอน ซึ่งกำไรส่วนใหญ่ก็อยู่ที่ธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์

นินเทนโดรายงานผลการดำเนินงานของไตรมาสเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2017 มีรายได้รวม 220 ล้านล้านเยน และมีกำไรจากการดำเนินงานรวม 2.38 หมื่นล้านเยน

Nintendo Switch ขายได้ 2.93 ล้านเครื่องในไตรมาสที่ผ่านมา ทำให้มียอดขายรวมแล้ว 7.63 ล้านเครื่อง โดยนินเทนโดได้ประกาศเพิ่มเป้าหมายยอดขายในอีก 2 ไตรมาสถัดไปรวมเป็น 14 ล้านเครื่อง จากเดิมที่คาดไว้ 10 ล้านเครื่อง

Tatsumi Kimishima ประธานนินเทนโดกล่าวว่าบริษัทได้เพิ่มกำลังการผลิต Switch เพื่อให้ทันต่อความต้องการ และบริษัทเชื่อว่าความต้องการจะเพิ่มสูงมากขึ้นกว่านี้อีกในช่วงเทศกาลวันหยุดปลายปี

Baidu รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ปี 2017 มีรายได้รวม 3.53 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 29% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน โดยรายได้ 73% มาจากบนมือถือ และมีกำไรสุทธิ 1.2 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 156%

ซีอีโอ Robin Li กล่าวว่า Baidu ยังคงอยู่ในแผนงานเพิ่มความแข็งแกร่งในแพลตฟอร์มมือถือ และต่อยอดสู่การเป็นผู้นำด้าน AI โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์มของอุปกรณ์อัจฉริยะ, รถยนต์อัตโนมัติ ไปจนถึงบริการอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น ด้านการเงิน

ด้าน Qi Lu ซีโอโอ Baidu กล่าวว่า Baidu จะดำเนินกลยุทธ์โดยผลักดัน AI ไปในทุกส่วนธุรกิจ อาทิ iQIYI ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในฐานะแพลตฟอร์มวิดีโอ ก็มี AI เป็นส่วนสำคัญเบื้องหลัง

อินเทลรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ปี 2017 มีรายได้ 16,149 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2.4% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 4,516 ล้านดอลลาร์

ซีอีโอ Brian Krzanich กล่าวว่าไตรมาสที่ผ่านยังคงมีผลงานที่แข็งแกร่งในทุกส่วนธุรกิจ และยังคงเป้าหมายที่ปีนี้อินเทลจะทำสถิติใหม่สูงสุด ทั้งย้ำว่ากลุ่มสินค้าในระหว่างการพัฒนาตอนนี้แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่มีมา พร้อมนวัตกรรมที่รองรับไม่ว่าจะเป็น AI, รถยนต์อัตโนมัติ และอื่นๆ อีกมาก

เมื่อดูยอดขายรายกลุ่มธุรกิจมีการเติบโตทุกกลุ่ม ทั้งกลุ่ม Data Center โต 7%, IoT โต 23%, หน่วยความจำ 37% ส่วนกลุ่มพีซีรายได้คงที่

ไมโครซอฟท์รายงานผลประกอบการของไตรมาสแรก ตามปีการเงินบริษัท 2018 (กรกฎาคม-กันยายน) รายได้รวมเพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน อยู่ที่ 24,538 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 16% เป็น 6,576 ล้านดอลลาร์

ซีอีโอ Satya Nadella บอกว่าความสำเร็จที่สำคัญของไตรมาสนี้คือรายได้จากคลาวด์จากฐานลูกค้าประจำรายปี (Run Rate) ตอนนี้สูงกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์แล้ว ซึ่งเดิมไมโครซอฟท์ตั้งเป้าว่าจะทำได้ในปีหน้า สะท้อนว่าลูกค้ายังคงเปลี่ยนผ่านสู่คลาวด์ด้วยผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์ต่อเนื่อง

Amazon รายงานผลการดำเนินงานของไตรมาสที่ 3 ปี 2017 รายได้เพิ่มขึ้น 34% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน อยู่ที่ 43,744 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 256 ล้านดอลลาร์ สาเหตุที่รายได้เติบโตสูงเนื่องจากเริ่มรวมรายได้จาก Whole Foods เข้ามาด้วย ซึ่งหากตัดรายการนี้ก็จะโต 29%

AWS ยังคงเป็นแหล่งรายได้ที่เติบโตและผลิตกำไรให้ Amazon โดยรายได้เพิ่ม 34% เป็น 4,584 ล้านดอลลาร์ เฉพาะส่วนนี้มีกำไร 1,171 ล้านดอลลาร์ เพื่อชดเชยกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซต่างประเทศที่ยังขาดทุน

Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิล รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ปี 2017 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 24% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนอยู่ที่ 27,772 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 6,732 ล้านดอลลาร์

รายได้หลักกูเกิลยังอยู่ที่ธุรกิจโฆษณา ส่วนรายได้จากการขายฮาร์ดแวร์และ Play Store นั้นอยู่ในหมวด Others ซึ่งเฉพาะส่วนนี้รายได้เพิ่ม 40% เป็น 3,405 ล้านดอลลาร์ โดยไม่ได้มีการแจกแจงรายละเอียด ส่วนกลุ่มธุรกิจใหม่ Other Bets มีรายได้รวม 302 ล้านดอลลาร์

ซีอีโอ Sundar Pichai กล่าวในช่วงแถลงผลประกอบการว่า ยอดพรีออเดอร์ Pixel 2 ในวันแรกนั้นสูงกว่าปีที่แล้วถึงเท่าตัว และกูเกิลจะลงทุนด้านการตลาดเพื่อจำหน่ายสินค้าให้มากประเทศขึ้น รวมทั้งเพิ่มช่องทางจำหน่ายมากขึ้นด้วย

LINE รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ปี 2017 จำนวนผู้ใช้ในตลาดหลักไม่รวมญี่ปุ่น (ไทย, ไต้หวัน และอินโดนีเซีย) ยังคงลดลงจาก 99 ล้านคนในไตรมาสที่แล้ว มาอยู่ที่ 97 ล้านคน ส่วนญี่ปุ่นมีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยภาพรวมมีผู้ใช้งาน 168 ล้านคน

แม้จำนวนผู้ใช้จะลดลง แต่รายได้ของ LINE ไม่ได้ลดตาม โดยรายได้เพิ่มขึ้น 18.4% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนอยู่ที่ 42,537 ล้านเยน และมีกำไรสุทธิ 1,635 ล้านเยน

โฆษณาคือส่วนที่ทำรายได้หลักให้กับ LINE เพิ่มขึ้น 60.5% ขณะที่รายได้จากสติกเกอร์ค่อนข้างคงที่ และ LINE Pay มีปริมาณการใช้จ่ายผ่านแพลตฟอร์ม 115,000 ล้านเยน ซึ่งการเติบโตหลักมาจากไต้หวัน

Twitter รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3/2017 มีรายได้ 590 ล้านดอลลาร์ ลดลง 4% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และขาดทุนน้อยลงเหลือ 21 ล้านดอลลาร์

จำนวนผู้ใช้งาน MAU ของไตรมาสที่แล้วไม่เพิ่ม แต่ไตรมาสนี้เพิ่มมา 4 ล้านคน รวมเป็น 330 ล้านคน ขณะที่ DAU ยังคงไม่เปิดเผยตัวเลข บอกเพียงเพิ่มขึ้น 14% จากปีก่อน

ซีอีโอ Jack Dorsey กล่าวว่าสัญญาณของ Twitter นั้นดีขึ้นเรื่อยๆ คือการปรับปรุงรายได้ พยายามทำกำไร และเพิ่มจำนวนผู้ใช้แบบ DAU

ที่มา: Twitter

LG รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ปี 2017 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 15.1% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน เป็น 15.2 ล้านล้านวอน และมีกำไรจากการดำเนินงาน 0.5 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 1.3%

เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ความบันเทิงในบ้าน เป็น 2 ธุรกิจที่ทำรายได้หลักและมีกำไรให้ LG มีรายได้เพิ่มขึ้น 16.4% และ 12% ตามลำดับ ขณะที่ธุรกิจโทรศัพท์มือถือ แม้ยอดขายเพิ่มขึ้น 7.9% แต่ก็ยังขาดทุนอีก 0.38 ล้านล้านวอน

V30 สมาร์ทโฟนเรือธงตัวล่าสุดของ LG เพิ่งเริ่มจำหน่ายเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ยอดขายจึงยังไม่ถูกสะท้อนในรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ออกมา

ที่มา: LG (pdf)

AMD รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3/2017 มีรายได้ 1,643 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 26% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน โดยมีการเติบโตหลักจากสินค้าตระกูล Radeon และ Ryzen สุทธิแล้วบริษัทมีกำไร 71 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายไตรมาสที่ AMD มีกำไร

ซีอีโอ Lisa Su กล่าวว่าสินค้ากลุ่มประสิทธิภาพสูงของบริษัทได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ส่งผลให้รายได้เติบโตและการเงินบริษัทดีขึ้นมากจากปีก่อน รวมทั้งถือเป็นหลักไมล์สำคัญอีกครั้งที่บริษัทจะเติบโตต่อจากนี้

ที่มา: AMD

หุ้นของ Sea หรือชื่อเดิมที่หลายคนคุ้นว่า Garena ได้ไอพีโอซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้เป็นวันแรก ตามที่บริษัทได้ยื่นเอกสารไฟลิ่งเมื่อเดือนก่อน ที่ราคาหุ้นละ 15 ดอลลาร์ ได้เงินระดมทุนไปได้ 884 ล้านดอลลาร์ โดยราคาหุ้นวันแรกปิดการซื้อขายที่ 16.26 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 8.40% โดยใช้ตัวย่อ SE (เพราะ SEA มีคนบริษัทอื่นใช้แล้ว)

Tencent ยักษ์ใหญ่อินเทอร์เน็ตของจีนเป็นผู้ถือหุ้นหลักของ Sea ซึ่งเกมบนแพลตฟอร์ม Garena ก็มาจาก Tencent ส่วนผลประกอบการของ Sea ในครึ่งปีแรกมีรายได้ 195.5 ล้านดอลลาร์ และยังขาดทุน 165.2 ล้านดอลลาร์

PayPal รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2017 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในไตรมาสดีที่สุดนับตั้งแต่บริษัทแยกออกมาจาก eBay มีรายได้เพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 3,239 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 560 ล้านดอลลาร์ จากยอดใช้จ่ายเงินผ่านระบบรวม (Total Payment Volume) 114,045 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 30%

จำนวนบัญชีลูกค้าเพิ่มขึ้นอีก 8.2 ล้านบัญชีในไตรมาสที่ผ่านมา รวมเป็น 218 ล้านบัญชี โดยมีบัญชีร้านค้าอยู่ 17 ล้านบัญชี จำนวนการใช้จ่าย (transaction) 1.9 พันล้านครั้ง

eBay รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2017 รายได้ 2,409 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 9% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 514 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 1% และเมื่อพิจารณายอดขายสุทธิ (GMV) ตามส่วนธุรกิจนั้น Marketplace เติบโต 9%, StubHub โต 2% และ Classifieds โต 19%

สิ่งที่ท้าทาย eBay มากตอนนี้คืออัตราการเติบโต ซึ่งจะเห็นว่าอยู่ในระดับเลขหลักเดียว แตกต่างจาก Amazon ที่ถือเป็นอีคอมเมิร์ซรุ่นบุกเบิกเหมือนกัน แต่ยังเติบโตในอัตราที่สูง

eBay ระบุว่าจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นอีก 2 ล้านคน รวมเป็น 168 ล้านคนทั่วโลก

MongoDB บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ฐานข้อมูล เตรียมนำหุ้นไอพีโอเข้าซื้อขายในตลาดหุ้น NASDAQ คืนนี้ด้วยตัวย่อ MDB (ตามที่มีข่าวก่อนหน้า) ที่ราคา 24 ดอลลาร์ต่อหุ้น ระดมทุนไปได้ 192 ล้านดอลลาร์ และมีมูลค่ากิจการ 1.2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าราคาประเมินเบื้องต้นที่หุ้นละ 20-22 ดอลลาร์

รูปแบบรายได้ของ MongoDB นั้นคือการให้บริการฐานข้อมูลแบบโอเพ่นซอร์ส และหาเงินจากการขายเครื่องมือเสริมต่างๆ และบริการสนับสนุนสำหรับองค์กร ซึ่งรายได้และจำนวนลูกค้าของ MongoDB นั้นก็เติบโตต่อเนื่องทุกไตรมาส โดยไตรมาสล่าสุดมีรายได้ราว 35 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงมีผลการดำเนินงานขาดทุนทุกไตรมาสเช่นกัน

ดีแทครายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ปี 2560 มีรายได้รวม 18,809 ล้านบาท ลดลง 3.7% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 601 ล้านบาท ลดลง 8.8% สาเหตุหลักจากค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย

อย่างไรก็ตามเนื่องจากค่าเสื่อมราคาเป็นรายการค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่เงินสด ตัวเลขที่ควรพิจารณาด้วยจึงเป็น EBITDA ซึ่งเพิ่มขึ้น 7.2% และเป็นการเพิ่มขึ้นอีกไตรมาส ส่วนหนึ่งจากการให้ส่วนลดค่าเครื่องที่ลดลง

จำนวนผู้ใช้ดีแทคยังคงลดลงอีกไตรมาส โดยไตรมาสนี้ลดลง 508,000 เลขหมาย รวมมีผู้ใช้ 23.1 ล้านเลขหมาย ซึ่งแนวโน้มยังเหมือนเดิมคือผู้ใช้เติมเงินลดลง ขณะที่ผู้ใช้แบบรายเดือนเพิ่มขึ้น 1.3 แสนเลขหมาย

ไอบีเอ็มรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2017 มีรายได้ 19,153 ล้านดอลลาร์ ลดลง 1% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 2,726 ล้านดอลลาร์ ลดลง 4%

ซีอีโอ Ginni Rometty กล่าวว่ากลุ่มธุรกิจใหม่ตามกลยุทธ์ยังคงเติบโตระดับ 2 หลัก โดยเฉพาะกลุ่มคลาวด์สำหรับองค์กร และโซลูชั่นสำหรับธุรกิจ ขณะเดียวกันก็มียอดขายเมนเฟรมตระกูล Z เพิ่มสูงขึ้นมาก เนื่องจากมีการเพิ่มระดับความปลอดภัยทำให้เป็นที่ต้องการของลูกค้า

รายได้จากกลุ่มธุรกิจใหม่ตามกลยุทธ์ใหม่ของไอบีเอ็มเป็นดังนี้ คลาวด์เติบโต 20%. Analytics เติบโต 5%, Mobile เติบโต 7% และความปลอดภัย เติบโต 51%

ที่มา: ไอบีเอ็ม