LINE รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 4 ของปี 2017 รายได้โต 21.7% จากปีก่อนหน้าเป็น 4.64 หมื่นล้านเยน โดยมีการเติบโตหลักมาจากธุรกิจโฆษณา ที่มีรายได้เพิ่มขึ้น 40.2%

จำนวนผู้ใช้แบบเป็นประจำทุกเดือน (MAUs) ใน 4 ประเทศตลาดหลัก รวมทั้งหมดอยู่ที่ 168 ล้านคน ซึ่งเท่ากับไตรมาสก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามจำนวนผู้ใช้โดยไม่รวมญี่ปุ่น (ไทย, ไต้หวัน และอินโดนีเซีย) ลดลงอีก 2 ล้าน เป็น 95 ล้านคน ส่วนญี่ปุ่นยังมีจำนวนเพิ่มขึ้น

ซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2017 รายได้รวม 65.98 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 24% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 12.26 ล้านล้านวอน ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่สูงสุดของบริษัทต่อเนื่องอีกไตรมาส

ธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยังคงเป็นธุรกิจหลักของซัมซุง ทั้งในแง่รายได้และกำไร โดยเฉพาะชิ้นส่วนหน่วยความจำ DRAM และ NAND ขณะที่ชิ้นส่วนหน้าจอภาพรวมยังคงเติบโตจาก OLED ที่มีการสั่งซื้อไปใช้กับสมาร์ทโฟนระดับบนเพิ่มขึ้น ส่วน LCD มีคำสั่งซื้อที่ลดลง

EA รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท 2018 สิ้นสุดเดือนธันวาคม มีรายได้รวม 1,160 ล้านดอลลาร์ และสุทธิขาดทุน 186 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมีสาเหตุจากการปรับโครงสร้างภาษีในสหรัฐ

ซีเอฟโอ Blake Jorgensen เปิดเผยหลังรายงานผลประกอบการว่า Star Wars Battlefront II เกมเด่นในช่วงไตรมาสที่ผ่นมา ทำยอดขายได้ 9 ล้านชุด ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาด และน้อยกว่าภาคแรกที่ขายได้ 14 ล้านชุด โดย Jorgensen บอกว่าปัญหาระบบปลดล็อกในเกมส่งผลกระทบต่อยอดขาย และถือเป็นโอกาสที่ EA จะได้เรียนรู้จากกรณีนี้

AMD รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2017 รายได้รวม 1,480 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 34% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 61 ล้านดอลลาร์

ซีอีโอ Dr. Lisa Su กล่าวว่า ภายรวมตลอดปี 2017 ที่ผ่านมา AMD มีรายได้เพิ่มขึ้น 25% จากการปรับพอร์ตโฟลิโอของผลิตภัณฑ์ ทำให้ตลอดทั้งปีสามารถทำกำไรได้ ซึ่งในปี 2018 นี้จะมีผลิตภัณฑ์ประสิทธิภาพสูงออกมา และเสริมให้ AMD เป็นบริษัททางเทคโนโลยีที่มีการเติบโตในระยะยาว

AMD ระบุว่ารายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากยอดขายที่แข็งแกร่งทั้งสินค้าตระกูล Radeon และ Ryzen โดยถ้าพิจารณาเฉพาะสินค้ากลุ่มกราฟิกนั้นรายได้เพิ่มขึ้นถึง 60%

ดีแทครายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2560 มีรายได้รวม 20,274 ล้านบาท ลดลง 5.5% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 542 ล้านบาท

ภาพรวมผู้ใช้งาน ณ สิ้นปี 2560 ดีแทคมีอยู่ 22.652 ล้านเลขหมาย ลดลง 4.5 แสนเลขหมาย จากไตรมาส 3/2560 โดยยังเป็นแนวโน้มเดิมคือ ลูกค้าเติมเงินลดลง 5.6 แสนเลขหมาย ส่วนรายเดือนเพิ่มขึ้น 1.2 แสนเลขหมาย มีลูกค้าที่อยู่บนโครงข่าย 2.1GHz อยู่ 98% และมีผู้ใช้บริการ 4G อยู่ 7.9 ล้านเลขหมาย

ดีแทคมองแนวโน้มในปี 2561 ว่าอุตสาหกรรมยังมีการเติบโต แต่การแข่งขันยังคงอยู่ในระดับสูง โดยประเมินว่ารายได้ตลอดปี 2561 จะใกล้เคียงกับปี 2560

อินเทลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2017 รายได้รวม 17,053 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 17% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ และขาดทุนสุทธิ 687 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลจากการปรับโครงสร้างภาษีสหรัฐ ทำให้บริษัทต้องลงค่าใช้จ่ายครั้งเดียวเพิ่มราว 5,400 ล้านดอลลาร์ ซึ่งหากไม่มีรายการนี้ก็ยังมีกำไร

Brian Krzanich ซีอีโออินเทลกล่าวว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ที่ออกมาดี เป็นผลจากการเน้นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ข้อมูล นอกจากนี้การลงทุนเชิงกลยุทธ์ในธุรกิจอย่างหน่วยความจำ, Programmable solutions หรือรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ก็เริ่มให้ผลตอบแทนที่ชัดเจน และส่งผลให้อินเทลเติบโตขึ้นต่อเนื่อง

Netflix รายงานผลการดำเนินงานของไตรมาสที่ 4 ปี 2017 จำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นอีก 8.33 ล้านคน ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดภายในไตรมาสเดียว ทำให้มีสมาชิกทั่วโลกรวมแล้ว 117.58 ล้านคน โดย 8.33 ล้านคนที่เพิ่มมานี้แบ่งเป็น ในอเมริกา 1.98 ล้านคน และนอกอเมริกา 6.36 ล้านคน

รายได้รวมอยู่ที่ 3,286 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 32.6% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 186 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ Netflix ยังบอกว่าปี 2017 นี้ ถือเป็นปีแรกที่ธุรกิจนอกอเมริกา สามารถทำกำไรขั้นต้นได้เป็นครั้งแรก จากที่ก่อนหน้านี้ขาดทุนมาตลอด

ไอบีเอ็มรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ปี 2017 มีรายได้รวม 22,543 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 4% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และถือเป็นครั้งแรกในรอบ 23 ไตรมาส ที่ไอบีเอ็มมีรายได้เพิ่มขึ้น ส่วนสุทธิแล้วขาดทุน 1,053 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากต้องลงบัญชีค่าใช้จ่ายพิเศษที่เป็นผลจากกฎหมายปฏิรูปภาษีในสหรัฐ 5,522 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถ้าไม่รวมรายการดังกล่าว ก็จะมีกำไร 4,468 ล้านดอลลาร์

Ginni Rometty ซีอีโอไอบีเอ็มกล่าวว่า กลุ่มธุรกิจใหม่ตามกลยุทธ์ยังคงเติบโตสูง และตอนนี้คิดเป็น 46% ของรายได้รวมแล้ว

โดยการเติบโตในส่วนธุรกิจใหม่นั้น คลาวด์โต 30%, Analytics โต 9%, Mobile เติบโต 23% และกลุ่ม Security เติบโต 132%

GoPro รายงานผลประกอบการเบื้องต้น ของไตรมาสที่ 4 ปี 2017 โดยคาดมีรายได้ราว 340 ล้านดอลลาร์ และมีอัตรากำไรเบื้องต้น 25-27%

ซีอีโอ Nicholas Woodman ยอมรับว่า HERO5 Black มียอดขายช่วงเทศกาลวันหยุดน้อยกว่าคาด โดยยอดขายเริ่มกระเตื้องขึ้นเมื่อบริษัทประกาศลดราคาในเดือนธันวาคม ส่วน HERO6 Black ที่เพิ่งเริ่มขายก็ทำผลงานได้ดี

The Wall Street Journal อ้างว่าได้ข้อมูลหลุดตัวเลขผลประกอบการ Uber ประจำไตรมาสที่ 3/2017 โดยภาพรวมยังคงมีแนวโน้มเดิมคือ รายได้เพิ่ม แต่ก็ขาดทุนเพิ่มขึ้น

• Gross Booking รายได้จากการเดินทางรวม 9,705 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 11% จากไตรมาส 2/2017
• รายได้สุทธิ 2,013 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 21%
• ขาดทุนสุทธิ 1,023 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2017 ที่ขาดทุน 773 ล้านดอลลาร์

ที่มา: Business Insider

อโดบีรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท 2017 (กันยายน-พฤศจิกายน) รายได้เพิ่มขึ้น 25% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และทำสถิติใหม่ผ่านด่าน 2 พันล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์บริษัท เป็น 2,006.6 ล้านดอลลาร์ ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 501.5 ล้านดอลลาร์

ซีอีโอ Shantanu Narayen กล่าวว่าธุรกิจของอโดบียังเติบโตแข็งแกร่ง จากการมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นผู้นำตลาด และช่วยให้ลูกค้าสร้างสรรค์ตลอดจนรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่โลกดิจิทัล

Adobe Experience Cloud เป็นกลุ่มธุรกิจที่เติบโตสูง มีรายได้เพิ่มขึ้น 18% เป็น 550 ล้านดอลลาร์

ที่มา: Adobe

ออราเคิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ตามปีการเงินบริษัท 2018 (กันยายน-พฤศจิกายน) มีรายได้เพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 9,621 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 2,233 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 10%

ซีทีโอ Larry Ellison กล่าวว่าออราเคิลเตรียมเปิดตัวฐานข้อมูลแบบดูแลตัวเองเป็นครั้งแรกในโลกเร็วๆ นี้ ซึ่งไม่ต้องใช้คนดูแลจัดการใดๆ ทั้งยังรับประกันว่าค่าใช้จ่ายการรันฐานข้อมูลอัตโนมัตินี้บน Oracle Cloud จะถูกกว่ารันฐานข้อมูลบน Amazon Cloud มากกว่าครึ่ง

ออราเคิลยังคงเดินหน้าเปลี่ยนผ่านจากการขายไลเซนส์และการบำรุงรักษา มาเป็นรูปแบบขายระบบบนคลาวด์ โดยไตรมาสนี้รายได้ส่วนคลาวด์เติบโตถึง 44% และเป็นตัวผลักดันให้รายได้รวมเติบโต

ปี 2017 เป็นปีที่หนักหนาของ Uber กับเรื่องข่าวฉาว อาจเป็นอีกปัจจัยให้คู่แข่งมีโอกาสทำรายได้มากขึ้น The Information เว็บไซต์ข่าวการเงินรายงานว่า Lyft ทำรายได้ในครึ่งปีแรกของปี 2017 จำนวน 483 ล้านดอลลาร์ โตขึ้นเกือบสามเท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่ทำรายได้ 150 ล้านดอลลาร์

Lyft ยังลดช่องว่างการขาดทุนลงได้ โดยลดจาก 283 ล้านดอลลาร์ เหลือ 206 ล้านดอลลาร์ ในทางกลับกัน Uber สูญเสียรายได้มากขึ้นเป็น 1.5 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสล่าสุดซึ่งเป็นความสูญเสียเพิ่มขึ้นจาก 1.06 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสก่อนหน้านี้

Uber รายงานตัวเลขผลประกอบการของไตรมาสที่ 3/2017 ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อมูลที่นำเสนอให้กับนักลงทุนเพื่อประกอบการตัดสินใจขายหุ้นให้กับ SoftBank โดยมีรายได้รวม 2.01 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 21% จากยอดรวมการจอง 9.71 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 11% อย่างไรก็ตามแม้รายได้จะดีขึ้นตลอด แต่สุทธิแล้วก็ยังขาดทุนเพิ่มมากขึ้นเป็น 1.46 พันล้านดอลลาร์

ช่วงไตรมาสที่ 3 นั้นเป็นช่วงที่ Uber ค่อนข้างมีปัญหามาก เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนการสรรหาซีอีโอ ส่วนซีอีโอคนใหม่ก็เพิ่งมาเริ่มงานในเดือนกันยายน และปัจจุบันบริษัทยังไม่มีผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการเงิน (ซีเอฟโอ)

Rovio Entertainment เจ้าของเกมตระกูล Angry Birds รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสเดือน กรกฎาคม-กันยายน ซึ่งเป็นครั้งแรกหลังจากไอพีโอเข้าตลาดหุ้นฟินแลนด์ มีรายได้ 70.7 ล้านยูโร เพิ่มขึ้น 41% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน สุทธิแล้วขาดทุน 5 แสนยูโร

ซีอีโอ Kati Levoranta กล่าวว่า รายได้ที่เพิ่มขึ้นสูงมาจากกลยุทธ์เติบโตด้วยธุรกิจเกมซึ่งได้ผลเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามบริษัทก็มีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น จากการเพิ่มจำนวนผู้เล่นทำให้ส่งผลกระทบต่อกำไรในระยะสั้น แต่การลงทุนเหล่านี้จะเห็นผลใน 8-10 เดือน

อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าคาดก็ส่งผลให้ราคาหุ้นร่วงลงถึง 20% หลังรายงานผลประกอบการ

HP Inc. รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสเดือนสิงหาคม-ตุลาคม 2017 มีรายได้รวม 13,927 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 11% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 660 ล้านดอลลาร์

Dion Weisler ซีอีโอ HP กล่าวว่า ผลการดำเนินงานที่ออกมาสะท้อนว่าธุรกิจของ HP ยังแข็งแกร่งและแกร่งมากขึ้นด้วย โดยทั้งพีซีและพรินเตอร์ยังคงเติบโตดี และมีการเติบโตระดับสองหลักในทั้ง 3 ภูมิภาค (อเมริกา, EMEA, APJ)

กลุ่มธุรกิจพีซี (Personal Systems) มีรายได้เพิ่มขึ้น 13% โดยในกลุ่มลูกค้าทั่วไปเติบโตถึง 18% ขณะที่จำนวนโน้ตบุ๊กขายได้เพิ่มขึ้น 8% และเดสก์ทอปพิ่มขึ้น 2% ส่วนธุรกิจพรินเตอร์มีรายได้เพิ่มเติม 8%

ที่มา: HP

Square Enix เผยผลประกอบการประจำครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2018 (เมษายน-กันยายน 2017) รายได้ 132 พันล้านเยน (โต 24.2%) กำไรสุทธิ 17.5 พันล้านเยน (โต 218%)

ปัจจัยสำคัญมาจากธุรกิจเกมที่รายได้เพิ่มขึ้นถึง 23.8 พันล้านเยน จากยอดขายเกมสำคัญ Dragon Quest XI (ที่ยังขายเฉพาะในญี่ปุ่น) และภาคเสริมของ Final Fantasy XIV: Stormblood ในขณะที่ยอดขายของ NieR:Automata ก็แตะ 2 ล้านชุดแล้ว ส่วนเกมบนมือถือและเบราว์เซอร์ (เช่น Brave Exvius) ก็ทำรายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

HPE หรือ Hewlett Packard Enterprise รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท 2017 (สิงหาคม-ตุลาคม) มีรายได้รวม 7,660 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 524 ล้านดอลลาร์

ซีอีโอ Meg Whitman กล่าวว่าตัวเลขผลการดำเนินงานที่ออกมาแข็งแกร่ง ตลอดจนอัตรากำไรที่เพิ่มสูงขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงผลลัพธ์จากการเปลี่ยนองค์กร HPE ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เพื่อให้เป็นองค์กรที่รวดเร็ว, โฟกัส และมีนวัตกรรม

รายได้ของ HPE ตามกลุ่มธุรกิจ กลุ่มเซิร์ฟเวอร์ ลดลง 5% กลุ่มสตอเรจ เพิ่มขึ้น 5% และกลุ่มอุปกรณ์เครือข่ายเพิ่มขึ้น 21%

ที่มา: HPE

Cisco รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปีการเงินบริษัท 2018 (สิงหาคม-ตุลาคม) มีรายได้รวม 12,136 ล้านดอลลาร์ ลดลงจากปีก่อน 2% ซึ่งถือเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 8 และมีกำไรสุทธิ 2,394 ล้านดอลลาร์

ซีอีโอ Chuck Robbins กล่าวว่าผลการดำเนินงานนี้สะท้อนกลยุทธ์ของบริษัทที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากอุปกรณ์เครือข่ายเข้ามามีบทบาทสำคัญมากต่อความสำเร็จของธุรกิจที่มุ่งสู่ดิจิทัลมากขึ้น และ Cisco ก็มีส่วนสำคัญในการช่วยเหลือลูกค้าให้มีระบบเครือข่ายที่ปลอดภัยและอัจฉริยะ

กลุ่มธุรกิจแพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐาน รายได้ลดลง 4% ขณะที่กลุ่มธุรกิจความปลอดภัยเพิ่มขึ้น 8% และแอพพลิเคชั่น เพิ่มขึ้น 6%

Tencent บริษัทด้านอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ของจีน รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2017 มีรายได้รวม 9,825 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 61% จากไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว และมีกำไรสุทธิ 2,713 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 69%

WeChat มีผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน (MAU) 980 ล้านคน เพิ่มขึ้น 15.8% จากปีก่อน มีข้อความส่งหากันมากกว่า 38,000 ล้านข้อความต่อวัน รายได้จากธุรกิจเกมพีซีเพิ่มขึ้น 27%, รายได้จากโฆษณาออนไลน์เพิ่มขึ้น 48%

Ma Huateng ซีอีโอ Tencent กล่าวว่าบริการ Tencent Video ตอนนี้มีผู้สมัครใช้บริการแบบเสียเงินแล้ว 43 ล้านบัญชี ทำให้กลายเป็นบริการวิดีโอสตรีมมิ่งรายใหญ่ที่สุดในจีน

กลุ่มทรู รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2560 รายได้รวม 29,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.6% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และขาดทุนสุทธิ 691 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่ขาดทุน 2,540 ล้านบาท โดยมีสาเหตุจากกำไรจากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นเป็น 583 ล้านบาท ที่สะท้อนจากการควบคุมค่าใช้จ่าย

ทรูมูฟ เอช ยังคงเป็นผู้ให้บริการมือถือเพียงรายเดียวที่มีลูกค้าสุทธิเพิ่มขึ้น (เอไอเอสลดลง 2.9 แสน ดีแทคลดลง 5 แสน) โดยมีลูกค้าเพิ่มขึ้นประมาณ 4 แสนราย เป็น 26.7 ล้านราย ส่งผลให้รายได้ส่วนนี้เพิ่มขึ้น 15.3%

JD.com อีคอมเมิร์ซอันดับ 2 ของจีน รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2017 มีรายได้รวม 12,587 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 39.2% จากช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว และมีกำไรสุทธิ 147 ล้านดอลลาร์

Richard Liu ซีอีโอ JD.com กล่าวว่าเรายังเดินหน้าสู่เป้าหมาย นำสินค้าที่มีความหลากหลายมากที่สุดส่งมอบให้กับลูกค้าในจีน และมอบประสบการณ์คุณภาพสูงสุดบนอีคอมเมิร์ซ

Razer ได้นำบริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกงวันนี้ ตามที่มีข่าวมาก่อนหน้า โดยราคาหุ้นวันแรกปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 41% จากราคาไอพีโอ ซึ่ง Razer ได้เงินเพิ่มทุนจากไอพีโอรวม 4.1 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง และกลายเป็นหุ้นร้อนแรงตัวหนึ่ง เนื่องจากมีคำสั่งจองซื้อมากกว่าจำนวนไอพีโอถึง 290 เท่า มีมูลค่ากิจการตามราคาไอพีโอราว 34,000 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง

Razer มีผู้ลงทุนในบริษัทรุ่นแรกรายสำคัญได้แก่ กองทุนเพื่อความมั่งคั่งของสิงคโปร์ และมหาเศรษฐีฮ่องกง Li Ka-shing โดยตัวซีอีโอ Tan Min-Liang ยังคงถือหุ้นอยู่ราว 42% เมื่อเข้าตลาดหุ้น

NVIDIA รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ปี 2017 มีรายได้รวม 2,636 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 32% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 838 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 55%

ซีอีโอ Jensen Huang กล่าวว่า ไตรมาสที่ผ่านมาถือว่ายอดเยี่ยมมาก และมีการเติบโตในทุกส่วน โดยเฉพาะปัจจัยจากการที่ทุกอุตสาหกรรมทั่วโลกเร่งนำ AI เข้ามาใช้งาน Volta GPU ได้รับการตอบรับ

ดีจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและคลาวด์ ตลอดจนผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ ส่วน TensorRT ก็เติบโตดีในกลุ่ม Data Center

เมื่อดูแนวโน้มแยกตามกลุ่มธุรกิจนั้น Data Center มีการเติบโตสูงที่สุดกว่าเท่าตัว และธุรกิจเกมยังคงเป็นรายได้หลักของบริษัท

Snap Inc. เจ้าของแอพ Snapchat รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3/2017 รายได้เพิ่มขึ้น 62% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน เป็น 207.9 ล้านดอลลาร์ และขาดทุนอีก 443.2 ล้านดอลลาร์ จากต้นทุนและค่าใช้จ่าย R&D ที่เพิ่มขึ้นมาก รวมทั้งตัดค่าใช้จ่ายสต็อกส่วนเกิน 39.9 ล้านดอลลาร์ ของแว่นตา Spectacles ที่มีข่าวก่อนหน้านี้

จำนวนผู้ใช้งาน Snapchat ที่ถูกตั้งคำถามมาตลอดว่าจะเติบโตแค่ไหน ไตรมาสที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นอีก 4.5 ล้านคน ทำให้มีผู้ใช้รวม 178 ล้านคน เพิ่มขึ้น 17% จากปีก่อน และคิดเป็นเพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาสที่แล้ว