JD.com อีคอมเมิร์ซเบอร์ 2 ของจีน รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2017 รายได้รวม 16,932 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 38.7% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 69.1 ล้านดอลลาร์ ซึ่งลดลงมาจากปีก่อนมาก สาเหตุจากค่าใช้จ่ายการตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น และบริษัทเพิ่มการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องหลายอย่าง
จำนวนบัญชีผู้ใช้งาน JD.com มีจำนวนเพิ่มขึ้น 29% เป็น 292.5 ล้านบัญชี
ซีอีโอ Richard Liu กล่าวถึงผลการดำเนินงานว่า JD.com ยังคงดำเนินงานตามวิสัยทัศน์ค้าปลีกที่ไร้พรมแดน ซึ่งเชื่อมต่อทุกช่องทางการจำหน่ายไปยังลูกค้าไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในจีน โดยใช้เทคโนโลยีสนับสนุนไม่ว่าจะเป็น AI, Big Data ยกระดับให้กับแพลตฟอร์มของ JD.com เพิ่มมูลค่าให้ทั้งกับลูกค้าและคู่ค้าธุรกิจ
กลุ่มทรู รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ปี 2560 มีรายได้รวม 40,751 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.3% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน โดยเป็นรายได้จากการให้บริการ 24,805 ล้านบาท และรายได้จากการขาย 11,259 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 5,391 ล้านบาท จากปัจจัยรายได้ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นทุนไม่เพิ่มขึ้นสูงตาม และยังได้ส่วนแบ่งกำไรจากกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (DIF)
กลุ่มบริษัท Sea ที่มี Garena, Shopee และ AirPay อยู่ในเครือ รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4/2017 รายได้รวม 164.5 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 72.8% จากช่วงเดียวกันในปี 2016 มีกำไรขั้นต้น 23.5 ล้านดอลลาร์ และขาดทุนสุทธิ 251.6 ล้านดอลลาร์
โดยผลการดำเนินงานแยกตามกลุ่มธุรกิจนั้น Garena (สื่อบันเทิง) มีรายได้ 141.9 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 59.2% มีจำนวนผู้ใช้งาน 87.8 ล้านคน, Shopee (อีคอมเมิร์ซ) มีรายได้ 9.3 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 61.6% จากยอดขายสุทธิ (GMV) 1.6 พันล้านดอลลาร์ และ Airpay (เงินดิจิทัล) มีปริมาณการใช้จ่ายรวม 1 พันล้านดอลลาร์
Fitbit รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ปี 2017 รายได้รวม 570.8 ล้านดอลลาร์ ลดลง 0.5% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และขาดทุนน้อยลงเป็น 45.5 ล้านดอลลาร์ ขายอุปกรณ์ไปได้ 5.4 ล้านชิ้น และมีราคาเฉลี่ยต่อชิ้นเพิ่มขึ้น 20% เนื่องจากมีการขายสมาร์ทวอทช์ Fitbit Ionic เพิ่มเข้ามา
ซีอีโอ James Park กล่าวว่าปี 2017 Fitbit มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง อาทิ การเปิดตัวระบบปฏิบัติการและ SDK สำหรับนักพัฒนา, ขยายบริการที่เน้นเรื่องสุขภาพมากขึ้น ซึ่งในปีนี้ Fitbit จะโฟกัสการขยายฐานในกลุ่มสมาร์ทวอทช์ และเน้นบริการด้านฟิตเนสและสุขภาพมากขึ้น
HP Inc. รายงานผลประกอบการของไตรมาส พฤศจิกายน 2017 - มกราคม 2018 มีรายได้รวม 14,517 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 1,938 ล้านดอลลาร์
ซีอีโอ Dion Weisler กล่าวว่า HP Inc. ยังคงเติบโตเพิ่มขึ้น และโตในระดับตัวเลขสองหลักทั้งรายได้และกำไร ผลลัพธ์ที่ออกมาดีในทุกส่วนธุรกิจและทุกตลาด สะท้อนถึงนวัตกรรมในผลิตภัณฑ์ของบริษัท
ธุรกิจของ HP Inc. แบ่งเป็นสองส่วนคือพีซีและพรินเตอร์ โดยกลุ่มธุรกิจพีซี (Personal Systems) มีรายได้เพิ่มขึ้น 15% โดยรายได้จากกลุ่มลูกค้าองค์กรเพิ่มขึ้น 16% และลูกค้ารายย่อยเพิ่มขึ้น 13% จำนวนเครื่องที่ขายได้เพิ่มขึ้น 8%
HPE หรือ Hewlett Packard Enterprise รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงินบริษัท 2018 (พฤศจิกายน-มกราคม) มีรายได้รวม 7,660 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 11% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 524 ล้านดอลลาร์
ซีอีโอ Antonio Neri กล่าวว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ที่แข็งแกร่งพิสูจน์แล้วว่า HPE ดำเนินกลยุทธ์ที่ถูกต้อง โดยมีรายได้เติบโตในทุกส่วนธุรกิจ เป็นไปตามแผน HPE Next
Supercell บริษัทเกมจากฟินแลนด์ เจ้าของเกมยอดฮิตอย่าง Clash of Clans และ Hay Day รายงานผลการดำเนินงานของปี 2017 มีรายได้รวม 2,029 ล้านดอลลาร์ ลดลงจากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 2,300 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 810 ล้านดอลลาร์ ที่น่าสนใจคือแม้รายได้ลดลง แต่กำไรก็ยังสูงมาก แถมปีที่ผ่านมาบริษัทไม่มีการออกเกมใหม่เลย
ปัจจุบัน Supercell มีเกมหลักทั้งหมดเพียง 4 เกมคือ Clash of Clans, Hay Day, Clash Royale และ Boom Beach ในปีที่ผ่านมามีการออกเกม Brawl Stars ซึ่งยังอยู่ในสถานะเบต้าเปิดให้เล่นเฉพาะในแคนาดา
Cisco รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่สองของปีการเงินบริษัท 2018 (พฤศจิกายน-มกราคม) รายได้รวม 11,887 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน ทำให้ Cisco กลับมามีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรก หลังจากที่รายได้ลดลงติดต่อกันหลายไตรมาส และมีกำไรสุทธิ 3,100 ล้านดอลลาร์
ซีอีโอ Chuck Robbins กล่าวว่าไตรมาสที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่ากลยุทธ์ของบริษัทได้ผลดี ธุรกิจมีการเติบโต และนวัตกรรมใหม่ๆ ก็อยู่ในแผนเปิดตัวต่อไป ซึ่งถือเป็นการเป็นออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่รวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์บริษัท
สำหรับรายได้แยกตามกลุ่มธุรกิจนั้น กลุ่มแพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐาน รายได้เพิ่มขึ้น 2%, กลุ่มแอพพลิเคชั่น เติบโต 6% และ Security เติบโต 6%
Uber รายงานตัวเลขผลการดำเนินงานของไตรมาส 4/2017 ให้กับนักลงทุนของบริษัท รายได้ยังคงเติบโต 11.8% จากไตรมาส 3/2017 เป็น 2,200 ล้านดอลลาร์ และเพิ่มขึ้น 61% จากช่วงเดียวกันในปี 2016 ขณะที่ตัวเลขขาดทุนอยู่ที่ 1,100 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมีแนวโน้มที่ดีว่ารายได้ยังเพิ่มเติม แต่ขาดทุนลดลง
รายได้จากการเดินทางรวมหรือ Gross Booking ก็เพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน 14% เป็น 11,000 ล้านดอลลาร์
Dara Khosrowshahi ซีอีโอ Uber ยังเปิดเผยตัวเลขที่น่าสนใจของธุรกิจจัดส่งอาหาร UberEats ว่าตอนนี้ทำเงินคิดเป็น 10% ของรายได้รวม Uber แล้ว
Twitter รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4/2017 มีรายได้ 732 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน โดยแบ่งเป็นรายได้จากอเมริกา 406 ล้านดอลลาร์ (-8%) และนอกอเมริกา 326 ล้านดอลลาร์ (+17%) ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ไตรมาสที่มีรายได้เพิ่มขึ้น และยังมีกำไรสุทธิ 141 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นไตรมาสแรกที่มีกำไร
แม้ตัวเลขทางการเงินจะดีมาก แต่จำนวนผู้ใช้งานยังคงเป็นสิ่งท้าทาย จำนวนผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน (MAUs) รวม 330 ล้านคน ไม่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้ว โดยผู้ใช้ในอเมริกาลดลง 1 ล้านคน แต่ก็ได้ผู้ใช้ในต่างประเทศเพิ่มขึ้นมา 1 ล้านคน ส่วน DAUs ไม่เปิดเผยจำนวน แต่บอกเพียงเติบโต 12%
NVIDIA รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2017 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 34% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 2,911 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 1,081 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 54%
ซีอีโอ Jensen Huang กล่าวว่าไตรมาสที่ผ่านมาถือเป็นสถิติใหม่ของบริษัทอีกครั้ง โดยเฉพาะเทคโนโลยี GPU ของ NVIDIA ที่ได้รับการตอบรับอย่างสูง เห็นได้จากงานสัมมนา GPU Technology Conferences ที่มีผู้เข้าร่วมกว่า 22,000 คน และในวงการซอฟต์แวร์ก็มีการนำ GPU ไปใช้ทั้งใน AI, รถยนต์อัตโนมัติ และในส่วนงานอื่นๆ
เมื่อวาน SpaceX เพิ่งปล่อยจรวด Falcon Heavy ออกสู่อวกาศ สร้างความฮือฮาได้มาก ข้ามมาดูฝั่ง Tesla ที่มี Elon Musk เป็นซีอีโอเช่นกันเพิ่งรายงานผลขาดทุนประจำไตรมาส 4/2017
Tesla ระบุว่าในไตรมาสที่ 4 ของปี 2017 บริษัทขาดทุนถึง 675.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์บริษัท โดยในไตรมาสเดียวกันของปี 2016 ขาดทุนอยู่ที่ 121 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
Snap Inc. เจ้าของแอพ Snapchat รายงานตัวเลขผลการดำเนินงานของไตรมาสที่ 4/2017 รายได้รวม 285.7 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 72% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน แต่สุทธิแล้วขาดทุนมากขึ้นเป็น 350 ล้านดอลลาร์
จำนวนผู้ใช้งานงานแอพเป็นประจำทุกวัน (DAUs) มี 187 ล้านคน เพิ่มขึ้น 18% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาสก่อนหน้านี้
เอไอเอสรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ประจำปี 2560 รายได้รวม 41,205 ล้านบาท ลดลง 0.3% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 7,701 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากการลดลงของต้นทุนค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ที่มีการเปลี่ยนอัตราค่าธรรมเนียมใหม่ตามที่ กสทช. กำหนด
โซนี่รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท 2017 (ตุลาคม-ธันวาคม) ซึ่งออกมาหลังจากประกาศปรับเปลี่ยนตำแหน่งซีอีโอ มีรายได้รวม 2.67 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น 11% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 3.43 แสนล้านเยน เพิ่มขึ้น 418%
กลุ่ม Game & Network Services ยังคงเป็นรายได้ส่วนใหญ่ของบริษัท มีรายได้เพิ่มขึ้น 16% เป็น 1.0 แสนล้านเยน โดย PlayStation 4 ขายไปได้อีก 9 ล้านเครื่อง ทำให้โซนี่ขาย PlayStation 4 ไปได้แล้วรวม 73.6 ล้านเครื่อง เมื่อเทียบกับ PlayStation 3 ที่ขายได้ทั้งหมด 80 ล้านเครื่อง ก็น่าจะเห็น PlayStation 4 แซงได้ในอีกไม่นาน
แอปเปิลรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงิน 2018 ของบริษัท (ตุลาคม-ธันวาคม 2017) โดยรายได้รวมทำสถิติใหม่สูงสุดในประวัติศาสตร์บริษัทอีกครั้ง 88,293 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 20,065 ล้านดอลลาร์ ซึ่งก็เป็นสถิติใหม่บริษัทเช่นกัน ส่วนรายได้จากต่างประเทศนอกอเมริกาคิดเป็น 65% ของรายได้รวม
ไตรมาสที่ผ่านมาแอปเปิลเริ่มขาย iPhone X ซึ่งคาดหมายกันว่าจะเป็นสินค้าหลักที่ทำเงิน แม้จะมีข่าวลือออกมาไม่ดีนัก โดยในรายงานผลประกอบการนั้นแอปเปิลบอกตัวเลขรวมของ iPhone ทั้งหมดว่า
Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิล รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2017 รายได้รวม 32,323 เพิ่มขึ้น 24% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน แต่จากผลกระทบของการปรับโครงสร้างภาษีสหรัฐทำให้ต้องบันทึกค่าใช้จ่ายพิเศษ ขาดทุน 3,020 ล้านดอลลาร์ ซึ่งหากไม่มีรายการดังกล่าว จะมีกำไร 6,837 ล้านดอลลาร์
รายได้จากธุรกิจโฆษณาของกูเกิลซึ่งยังเป็นธุรกิจหลักอยู่ที่ 27,227 ล้านดอลลาร์, ธุรกิจกูเกิลอื่นๆ (รวมฮาร์ดแวร์, Google Play) 4,687 ล้านดอลลาร์ ส่วนกลุ่ม Other Bets รายได้ 409 ล้านดอลลาร์ แต่เฉพาะกลุ่มนี้ยังคงขาดทุน 916 ล้านดอลลาร์
Amazon รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ปี 2017 มีรายได้เพิ่มขึ้น 38% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 60,453 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 1,856 ล้านดอลลาร์
ซีอีโอ Jeff Bezos กล่าวว่าแผนงานของ Alexa ในปี 2017 นั้นมองไว้ค่อนข้างดี แต่เราก็ทำได้ดีมากกว่านั้นมาก ซึ่งไม่บ่อยนักที่จะเห็นผลลัพธ์ระดับนี้ ตอนนี้เรามาถึงจุดที่บริษัทภายนอกและนักพัฒนาต่างเร่งนำ Alexa มาใช้ในการพัฒนาเสริมบริการ มีนักพัฒนาภายนอกกว่า 30,000 คน, อุปกรณ์ในบ้าน 4,000 รายการ จากกว่า 1,200 แบรนด์ที่ทำงานร่วมกับ Alexa ได้ ซึ่งต้องขอบคุณลูกค้าและพาร์ทเนอร์ทุกคน
AWS มีรายได้เพิ่มขึ้น 45% เป็น 5,113 ล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะส่วนธุรกิจนี้มีกำไร 1,354 ล้านดอลลาร์
Alibaba รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2017 มีรายได้รวม 12,761 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 56% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 3,586 ล้านดอลลาร์
ซีอีโอ Daniel Zhang กล่าวว่าถือเป็นอีกไตรมาสที่ยอดเยี่ยมของบริษัท และ Alibaba ยังมีโมเมนตัมต่อเนื่องตามยุทธศาสตร์ New Retail ดังเห็นได้จากสถิติใหม่ของเทศกาลช้อปปิ้งวันที่ 11.11 นอกจากนี้บริษัทยังขยายไปสู่การหลอมรวมออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้า
Alibaba มีผู้ใช้งานผ่านมือถือ 580 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้านี้ 31 ล้านคน และบริการคลาวด์ Aliyun เป็นกลุ่มธุรกิจนอกค้าปลีกที่มีรายได้เพิ่มขึ้นสูงถึง 104%
Lenovo รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2017 รายได้รวม 12,939 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และขาดทุนสุทธิ 275 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมีสาเหตุจากการปรับโครงสร้างภาษีสหรัฐ 425 ล้านดอลลาร์ ถ้าหากไม่มีรายการดังกล่าวก็จะมีกำไร
Lenovo ยังคงเดินหน้าตามกลยุทธ์ 3 Waves คือรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจเดิม, เติบโตในธุรกิจ Mobile กับ Data Center และลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งสะท้อนผลออกมาจากรายได้รวมที่เพิ่มขึ้น
ไตรมาสที่ผ่านมา Lenovo ส่งมอบพีซีไป 15.7 ล้านเครื่อง ซึ่งใกล้เคียงกับปีก่อน แต่มีรายได้เพิ่มขึ้น 7.6% สะท้อนว่าบริษัทยังสามารถรักษาอัตรากำไรในธุรกิจนี้ไว้ได้ ส่วนธุรกิจ Data Center มีรายได้เพิ่มขึ้น 16.7% ขณะที่ธุรกิจโทรศัพท์มือถือรายได้ลดลง 5%
Facebook รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2017 มีรายได้รวม 12,779 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 49% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 4,268 ล้านดอลลาร์ โดยตัวเลขนี้รวมรายการพิเศษจากการปรับโครงสร้างภาษีสหรัฐที่ทำให้ต้องบันทึกค่าใช้จ่าย 2,270 ล้านดอลลาร์ แล้ว
PayPal รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4/2017 มีรายได้รวม 3,744 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 26% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 670 ล้านดอลลาร์
ตัวเลขอื่นที่น่าสนใจ มียอดการใช้จ่ายเงินผ่านแพลตฟอร์มรวม (Total Payment Volume) 131,449 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 32%, บัญชีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น 8.7 ล้านบัญชี รวม 227 ล้านบัญชี โดยเป็นบัญชีร้านค้า 18 ล้านบัญชี ส่วนจำนวนการใช้จ่าย (Transaction) มี 2.2 พันล้านครั้ง
ถึงแม้ PayPal ตอนนี้จะเป็นบริษัทที่แยกออกมาจาก eBay แล้ว แต่บริษัทก็ประกาศว่าได้มีการเซ็นข้อตกลง ให้ PayPal ยังเป็นช่องทางการจ่ายเงินบน eBay ต่อไปจนถึงกลางปี 2023
ที่มา: PayPal
eBay รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2017 รายได้เพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 2,613 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 618 ล้านดอลลาร์
Devin Wenig ซีอีโอ eBay กล่าวว่าถือเป็นไตรมาสที่ 5 ติดต่อกันแล้วที่ eBay มีตัวเลขยอดขายรวมเติบโตติดต่อกันในตลาดอเมริกา ซึ่งอยู่ที่ 24,425 ล้านดอลลาร์
ปัจจุบัน eBay มีผู้ใช้งานที่เป็นผู้ซื้อ 170 ล้านคนทั่วโลก ภาพรวมยอดขายสุทธิของ Marketplace เติบโต 9%, StubHub โต 16% และ Classifieds เติบโต 21%
จะเห็นว่าการเติบโตของ eBay นั้นไม่หวือหวามาก เมื่อเทียบกับอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon และ Alibaba ซึ่งจะรายงานผลประกอบการในวันพรุ่งนี้
ไมโครซอฟท์รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่สอง ตามปีการเงินบริษัท 2018 (ตุลาคม-ธันวาคม) มีรายได้รวม 28,918 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 7,498 ล้านดอลลาร์ แต่หากรวมรายการพิเศษจากการปรับโครงสร้างภาษีสหรัฐ 13,800 ล้านดอลลาร์ ก็จะมีค่าใช้จ่ายครั้งเดียวซึ่งทำให้ตัวเลขสุทธิขาดทุน
ซีอีโอ Satya Nadella กล่าวว่าผลงานในไตรมาสที่ผ่านมา เป็นตัวบอกได้ดีถึงคุณค่าบริษัทส่งมอบให้กับลูกค้าในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้การลงทุนใน IoT, Data และ AI ทั้งในคลาวด์และ Edge จะทำให้ไมโครซอฟท์เติบโตอย่างก้าวกระโดดอีกในอนาคต
นินเทนโดประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 4/2017 และรวมตัวเลข 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ (นับ เม.ย.-ธ.ค. 2017) ออกมาชนิดพุ่งทะยาน