Logitech รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท 2019 (ตุลาคม-ธันวาคม) มียอดขาย 864 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 113 ล้านดอลลาร์
ที่น่าสนใจคือ Logitech บอกว่ากลุ่มสินค้าเกมมิ่ง ซึ่งเป็นรายได้สำคัญของบริษัท ยังมีการเติบโตที่สูงมากในปีที่ผ่านมา เฉพาะไตรมาสนี้รายได้เพิ่มถึง 23% โดยสินค้ากลุ่มดังกล่าวรวมทั้งคีย์บอร์ด, หูฟัง และเมาส์ ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับการเล่นเกม
Logitech ประเมินว่าสินค้ากลุ่มเกมมิ่งจะยังรักษาระดับการเติบโตได้สูง โดยคาดว่าภาพรวมตลอดปีจะมีรายได้เติบโตราว 9-11%
ไอบีเอ็มรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ปี 2018 มีรายได้รวม 21,760 ล้านดอลลาร์ ลดลง 3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 1,951 ล้านดอลลาร์
ถึงแม้ภาพรวมรายได้จะลดลง แต่กลุ่มธุรกิจใหม่ที่ไอบีเอ็มโฟกัสก็ยังมีการเติบโต โดยเฉพาะกลุ่ม Cognitive Software ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์ด้าน AI (Watson), Analytics และความปลอดภัยทางไซเบอร์ มีรายได้ 5,460 ล้านดอลลาร์ เติบโต 4% ส่วนกลุ่ม Global Business Services รายได้เพิ่มขึ้น 4% เป็น 4,320 ล้านดอลลาร์
Andrew Hou ประธาน Acer ส่วนเอเชียแปซิฟิกเปิดเผยว่า บริษัทคาดรายได้ในปี 2019 นี้ จะเติบโตในระดับที่สูงเมื่อเทียบกับปี 2018 โดยวางแผนโฟกัสที่พีซีเกมมิ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนรายได้ ซึ่งคาดว่าเฉพาะพีซีเกมมิ่งจะเติบโตราว 50%
เขายังบอกว่าในปี 2018 ที่ผ่านมา สินค้าด้านพีซี 2 อย่างที่ทำให้รายได้ Acer เติบโตสูงคือพีซีเกมมิ่ง และโน้ตบุ๊กบางพิเศษ (Ultra-Thin) ซึ่งช่วงปลายปีตัวเลขยอดขายทำได้ต่ำกว่าที่ประเมิน เนื่องจากปัญหาซีพียูของอินเทลขาดตลาด
ในปีที่ผ่านมา พีซีเกมมิ่ง เป็นส่วนที่ทำเงิน 12% ของรายได้รวมธุรกิจพีซีของ Acer ขณะที่โน้ตบุ๊กบางพิเศษคิดเป็น 35% ซึ่ง Acer วางแผนเพิ่มรายได้ให้เป็น 20% และ 40% ตามลำดับ
TSMC บริษัทผู้ผลิตชิป รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ปี 2018 โดยรายได้รวม 289,771 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน เพิ่มขึ้น 4.4% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 99,984 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน
ประเด็นที่น่าสนใจในช่วงแถลงผลประกอบการณ์ คือรายได้จากกลุ่มชิปประมวลผลประสิทธิภาพสูง (HPC) นั้นลดลงมาก ซึ่งซีอีโอ C. C. Wei บอกว่าเป็นเพราะรายได้ที่ลดลงของกลุ่มชิปที่ใช้สำหรับเหมืองเงินคริปโต หากตัดส่วนนี้ออกไป ภาพรวมกลุ่ม HPC ก็จะมีรายได้เติบโตเล็กน้อย
Netflix รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ปี 2018 รายได้รวม 4,187 ล้านดอลลาร์ เติบโต 27.4% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 134 ล้านดอลลาร์
จำนวนสมาชิกทั่วโลกเพิ่มขึ้น 8.84 ล้านบัญชี แบ่งเป็นอเมริกา 1.5 ล้านบัญชี และต่างประเทศ 7.3 ล้านบัญชี ทำให้มีจำนวนสมาชิกรวมเป็น 139.26 ล้านบัญชี และเพิ่มขึ้นสุทธิ 29 ล้านคน ตลอดปี 2018
เว็บไซต์ TechCrunch รวบรวมสถิติรายได้ของ HTC ประจำปี 2018 (เปิดเผยบนเว็บไซต์ของ HTC) พบว่ารายได้ลดลงจากปี 2017 ถึงเกือบ 62%
HTC มีรายได้ในปี 2017 ที่ 6.2 หมื่นล้านดอลลาร์ไต้หวัน ส่วนปี 2018 ตกลงอย่างหนักเหลือเพียง 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์ไต้หวัน (หายไป 61.78%) หรือราว 770 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นครั้งแรกที่บริษัทมีรายได้ทั้งปีน้อยกว่า 1 พันล้านดอลลาร์
ณ จุดสูงสุด HTC เคยมีรายได้เกินกว่า 4 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวันในปี 2011 จากนั้นรายได้ก็ลดลงต่อเนื่องทุกปี จนต่ำเป็นประวัติการณ์ในปี 2018 ที่ผ่านมา
Tim Cook ซีอีโอแอปเปิล ออกรายงานต่อนักลงทุนวันนี้ โดยปรับลดตัวเลขคาดการณ์ผลการดำเนินงานประจำไตรมาสเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2018 จากที่ประเมินว่าจะมียอดราว 89,000-93,000 ล้านดอลลาร์ เป็น 84,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนรายการอื่นเช่น อัตรากำไร และค่าใช้จ่าย ตัวเลขยังคงใกล้เคียงกับข้อมูลเดิม
แอปเปิลระบุว่ามีหลายปัจจัยที่กระทบต่อรายได้ซึ่งทำให้น้อยกว่าที่เคยคาดไว้ เช่น จังหวะเวลาการออกสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่ต่างจากปีก่อน (XS เริ่มขายกันยายน ขณะที่ปีก่อน iPhone X เริ่มขายธันวาคม), เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น, ปัญหาซัพพลายในการผลิตทำให้ Apple Watch Series 4 และ iPad Pro มีจำหน่ายไม่ทันความต้องการ
ออราเคิลรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ตามปีการเงินบริษัท 2019 (กันยายน-พฤศจิกายน 2018) มีรายได้ใกล้เคียงกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนที่ 9,562 ล้านดอลลาร์ แต่หากตัดปัจจัยค่าเงินต่างประเทศ รายได้ก็เพิ่มขึ้น 2% และมีกำไรสุทธิ 2,333 ล้านดอลลาร์
กลุ่มธุรกิจหลักของออราเคิลคือบริการคลาวด์และสนับสนุนไลเซนส์ มีรายได้เพิ่มขึ้น 3% เป็น 6,637 ล้านดอลลาร์ ขณะที่รายได้จากไลเซนส์คลาวด์และไลเซนส์แบบ on-premiseลดลง 9% เป็น 1,217 ล้านดอลลาร์ ธุรกิจฮาร์ดแวร์ รายได้ลดลง 5% เป็น 891 ล้านดอลลาร์ และธุรกิจบริการรายได้ 817 ล้านดอลลาร์ ลดลง 5%
อโดบีรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท (เดือนกันยายน-พฤศจิกายน) รายได้รวมทำสถิติใหม่อีกครั้งที่ 2,464.6 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 678.2 ล้านดอลลาร์
ส่วนหนึ่งของรายได้อโดบีไตรมาสนี้เพิ่มขึ้นมาจาก Marketo ที่ซื้อกิจการไปเมื่อเดือนกันยายน โดย Marketo ทำรายได้ให้อโดบีแบบไม่เต็มไตรมาส 21 ล้านดอลลาร์ ซึ่งอโดบีบอกว่าจะเป็นรายได้สำคัญอีกแหล่งในอนาคต
กลุ่มธุรกิจสื่อดิจิทัล ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์หลักอย่าง Creative Cloud มีรายได้เพิ่มขึ้น 23% ขณะที่กลุ่ม Digital Experience มีรายได้เพิ่มขึ้น 25%
HPE หรือ Hewlett Packard Enterprise รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท 2018 (สิงหาคม-ตุลาคม) มีรายได้รวม 7,946 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 4% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และขาดทุนสุทธิ 757 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากการปรับโครงสร้างภาษี หากไม่มีรายการดังกล่าวก็จะมีกำไรราว 600 ล้านดอลลาร์
รายได้แยกตามส่วนธุรกิจ กลุ่มหลักคือ Hybrid IT (เซิร์ฟเวอร์, สตอเรจ และอุปกรณ์เครือข่าย) รายได้เพิ่มขึ้น 5% เป็น 6,436 ล้านดอลลาร์ แบ่งเป็น Compute เพิ่มขึ้น 9%, หน่วยความจำ เพิ่มขึ้น 6% กลุ่มธุรกิจ Intelligent Edge (HPE Aruba) รายได้รวมเพิ่มขึ้น 17% กลุ่ม Financial Services ลดลง 7%
Meituan Dianping แพลตฟอร์ม O2O รายใหญ่ของจีน ที่เพิ่งไอพีโอเข้าตลาดหุ้นไปเมื่อเดือนกันยายน รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ปี 2018 รายได้รวมโต 97.2% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 19,076 ล้านหยวน และขาดทุนสุทธิ 2,464 ล้านหยวน
ซีอีโอ Wang Xing กล่าวในช่วงแถลงผลประกอบการว่าจากนี้เขาจะโฟกัสที่พื้นฐานของธุรกิจมากขึ้น และปรับโครงสร้างองค์กรให้เหมาะสมมากขึ้น ทั้งยืนยันว่าบริษัทยังมีโอกาสใหม่ทางธุรกิจอีกมากให้ได้เติบโตมากขึ้น
คู่แข่งสำคัญของ Meituan Dianping ก็คือกลุ่ม Alibaba ที่มีธุรกิจบริการส่งอาหาร Ele.me และไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์ม Koubei ทำให้นักลงทุนกังวลว่าทั้งสองรายใหญ่นี้จะมีการใช้เงินการตลาดให้ส่วนลดเพื่อแย่งลูกค้าแข่งกัน
Sea Limited กลุ่มบริษัทของ Garena และ Shopee รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2018 มีรายได้รวมทั้งกลุ่ม 242.8 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 60.1% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และเพิ่มขึ้น 10.6% จากไตรมาสที่ 2/2018 ขาดทุนสุทธิ 218.0 ล้านดอลลาร์
Shopee ยังคงเติบโตสูงต่อเนื่อง ไตรมาสนี้มียอดขายสุทธิ (GMV) 2,690.9 ล้านดอลลาร์ โต 153% คิดเป็นจำนวนคำสั่งซื้อ 158.5 ล้านคำสั่ง และ Shopee ยังทำสถิติใหม่อีกครั้งในเทศกาลลดราคา 11.11 ที่ผ่านมา ทั้งนี้อินโดนีเซียถือเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของ Shopee โดยมีคำสั่งซื้อเฉพาะประเทศนี้ 63.7 ล้านคำสั่ง เฉลี่ย 7 แสนคำสั่งซื้อต่อวัน โดย Shopee บอกว่าจากฐานส่วนแบ่งการตลาดที่ใหญ่ ทำให้ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการของ Shopee อินโดนีเซียต่ำกว่าค่าเฉลี่ยรวม
JD.com อีคอมเมิร์ซรายใหญ่เบอร์สองของจีน รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2018 มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 25.1% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน เป็น 15,254 ล้านดอลลาร์ เฉพาะรายได้จากบริการเป็น 1,583 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 49.4% และมีกำไรสุทธิ 437 ล้านดอลลาร์
ซีอีโอ Richard Liu กล่าวว่าบริษัทยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งในไตรมาสนี้ และยังคงยึดกลยุทธ์ความสะดวกของลูกค้า, ขายสินค้าของแท้มีคุณภาพ และร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในรูปแบบ Retail as a Service เพื่อให้พาร์ทเนอร์มาใช้โครงสร้างพื้นฐานของ JD นั่นเอง
LINE รายงานผลการดำเนินงานของไตรมาส 3 ปี 2018 เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา รายได้รวม 51,943 ล้านเยน และขาดทุน 9,597 ล้านเยน จากค่าใช้จ่ายในการขายและการตลาดที่เพิ่มขึ้น
ภาพรวมของผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน (MAU) มี 165 ล้านบัญชี อัตราส่วนผู้ใช้ทุกวันต่อทุกเดือน (DAU/MAU) คงที่อยู่ 77% ซึ่งใกล้เคียงกับไตรมาส 2/2018 ส่วนจำนวนผู้ใช้ในไทยมี 44 ล้านบัญชี ซึ่งเพิ่มขึ้นมา 1 ล้าน เทียบจากไตรมาส 2/2018
โฆษณาที่เป็นธุรกิจหลักของ LINE มีรายได้ 26,946 ล้านเยน เพิ่มขึ้น 22.2% จากปีก่อน แต่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2018
NVIDIA รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ปี 2018 มีรายได้รวม 3,181 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 1,230 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 47%
ซีอีโอ Jensen Huan กล่าวว่าเทคโนโลยี AI มีความรุดหน้าและขยายไปทั่วโลก ส่งผลให้รายได้ส่วนธุรกิจแพลตฟอร์มศูนย์ข้อมูลทำสถิติใหม่อีกครั้ง และ GPU สถาปัตยกรรม Turing ก็ถือเป็นก้าวกระโดดที่สำคัญสำหรับวงการคอมพิวเตอร์กราฟิกและ AI
Cisco รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงินบริษัท 2019 (สิงหาคม-ตุลาคม) มีรายได้รวม 13,072 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 3,549 ล้านดอลลาร์
ซีอีโอ Chuck Robbins กล่าวว่าลูกค้ายังคงไว้วางใจเลือก Cisco ในการเปลี่ยนผ่านการทำงานไปสู่โลกของมัลติคลาวด์ และการเปลี่ยนผ่านธุรกิจยุคดิจิทัล ซึ่ง Cisco ก็พร้อมรองรับลูกค้าทั้งแง่ความปลอดภัยที่มากขึ้น, ระบบจัดการอัตโนมัติ และออกแบบโครงสร้างไอทีให้เรียบง่ายมากขึ้น
ธุรกิจกลุ่มแพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานที่ถือเป็นรายได้ส่วนใหญ่ของ Cisco (อุปกรณ์เครือข่ายในศูนย์ข้อมูล) มีรายได้เพิ่มขึ้น 9% เป็น 7,642 ล้านดอลลาร์ ส่วนกลุ่มแอพพลิเคชันเติบโตมากที่สุด 18% เป็น 1,419 ล้านดอลลาร์
Uber รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ของปี 2018 ให้กับนักลงทุน รายได้รวม 2,950 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 38% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน อย่างไรก็ตามระดับการเติบโตนั้นลดลงมาก เมื่อเทียบไตรมาส 2/2018 ที่เติบโต 51% และยังขาดทุนสุทธิเพิ่มมากขึ้นเป็น 939 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากมีการลงทุนทางเทคโนโลยีใหม่เพิ่มมากขึ้น
Tencent รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2018 มีรายได้รวม 11,716 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 24% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว และมีกำไรสุทธิ 3,402 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 30%
ซีอีโอ Ma Huateng กล่าวว่าในฐานะบริษัทเกมเบอร์หนึ่งของจีน และถูกทางการจีนลงมาควบคุมปัญหาเด็กติดเกม ซึ่งบริษัทก็ได้เพิ่มมาตรการหลายอย่างในการตรวจสอบผู้เล่นเกม และเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้อุตสาหกรรมเกมของจีนมีความยั่งยืนมากขึ้น
กลุ่มทรู รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2561 มีกำไรสุทธิ 385 ล้านบาท และมีรายได้รวม 34,539 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว
ทรูมูฟ เอช ยังคงมีการเติบโตที่สูง รายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้น 10.1% เป็น 18,867 ล้านบาท มีส่วนแบ่งตลาดด้านรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 28.9% โดยทรูระบุว่ามาจากการเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่าย และการทำแผนการตลาดเจาะในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นอีก 6.778 แสนราย มีลูกค้ารวม 28.8 ล้านราย ซึ่งเป็นการเพิ่มจำนวนทั้งในระบบเติมเงินและรายเดือน
Dropbox รายงานผลการดำเนินงานของไตรมาสที่ 3 ปี 2018 รายได้รวม 360.3 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 26% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีขาดทุนสุทธิ 5.8 ล้านดอลลาร์ ลดลงจากปีก่อนที่ 14.1 ล้านดอลลาร์
จำนวนผู้ใช้ Dropbox แบบเสียเงินมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 12.3 ล้านคน ซึ่งสูงกว่าปีก่อนที่ 10.4 ล้านคน
กลยุทธ์หนึ่งที่ Dropbox พยายามเปลี่ยนมา คือการเน้นกลุ่มลูกค้าระดับองค์กรให้มากขึ้นเหมือน Box ทำให้นอกจากจะมีลูกค้าเสียเงินเพิ่มขึ้นแล้ว รายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้ (ARPU) ก็เพิ่มขึ้นมาเป็น 118.60 ดอลลาร์ต่อปีต่อคนด้วย
Qualcomm รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท 2018 (กรกฎาคม-กันยายน) รายได้รวม 5,833 ล้านดอลลาร์ ลดลง 2% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 1,280 ล้านดอลลาร์
ปัจจัยที่กระทบต่อรายได้ Qualcomm คือการลดลงของกลุ่มธุรกิจ Qualcomm Technology Licensing (QTL) ที่มีรายได้จากค่าไลเซนส์ ซึ่งอดีตมีรายได้หลักจากแอปเปิล แต่ตอนนี้มีคดีความฟ้องร้องจึงไม่สามารถรับรู้รายได้ ทำให้ภาพรวมลดลง 6% ขณะที่รายได้กลุ่มหลัก Qualcomm CDA Technologies (QCT) ยังคงเติบโตสูง รายได้เพิ่ม 14%
Qualcomm ประเมินว่าการมาของเทคโนโลยี 5G ที่จะแพร่หลายขึ้นในช่วงปี 2019 จะทำให้บริษัทมีรายได้จากไลเซนส์ส่วนนี้มากขึ้น และส่งผลดีต่อบริษัทในระยะยาว
Alibaba รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2018 รายได้รวม 12,398 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 54% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 2,917 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13% จำนวนลูกค้าประจำเพิ่มขึ้นอีก 25 ล้านคน รวมเป็น 601 ล้านคน ส่วนจำนวนผู้ใช้งานผ่านมือถือเพิ่มขึ้นเป็น 666 ล้านคน ซึ่ง Alibaba บอกว่าเทียบเท่ากับประชากรจีนครึ่งหนึ่ง
ถ้าดูส่วนรายได้จากธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ที่เป็นธุรกิจหลักเติบโต 56% (10,553 ล้านดอลลาร์), รายได้จากคลาวด์ เติบโต 90% (825 ล้านดอลลาร์) และรายได้จากสื่อดิจิทัลโต 24% (865 ล้านดอลลาร์) ส่วนรายได้จากอีคอมเมิร์ซต่างประเทศโต 55% (650 ล้านดอลลาร์)
แอปเปิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท เดือนกรกฎาคม-กันยายน รายได้รวม 62,900 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 14,125 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 32% โดยรายได้จากตลาดต่างประเทศนอกอเมริกา คิดเป็น 61% ของรายได้ทั้งหมด
ไฮไลท์สำคัญของไตรมาสนี้คือรายได้จากธุรกิจบริการ (Apple Music, iTunes, App Store, Apple Pay ฯลฯ) ที่มีรายได้เพิ่มขึ้นทุกไตรมาส โดยไตรมาสนี้อยู่ที่ 9,981 ล้านดอลลาร์ หากปัดตัวเลขหน่อยก็ถือว่าแตะระดับ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ แล้ว
Spotify เปิดงบไตรมาส 3 ประจำปีนี้ โดยในไตรมาสนี้จำนวนผู้ใช้แบบเสียเงินเพิ่มขึ้นไม่มากนัก แต่ผลประกอบการขาดทุนจากการดำเนินงานของ Spotify ในไตรมาสนี้ลดลงมากเมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว
Spotify รายงานว่า สมาชิกที่ใช้บริการแบบเสียเงินบนแพลตฟอร์มมีจำนวน 87 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 83 ล้านคนในไตรมาสก่อนหน้า ส่วนจำนวนผู้ใช้ประจำทุกเดือน (MAUs) อยู่ที่ 191 ล้านคน
AIS รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2561 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 7.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนที่ 42,110 ล้านบาท ปัจจัยหลักจากการเติบโตของธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และมีการรวมรายได้จาก CSL เข้ามา ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 6,800 ล้านบาท ลดลง 9.0% เนื่องจากค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มสูงขึ้น
จำนวนลูกค้า ณ สิ้นสุดไตรมาส เพิ่มขึ้น 5.5 แสนเลขหมาย รวมเป็น 40.6 ล้านเลขหมาย ที่น่าสนใจคือเป็นการเพิ่มขึ้นทั้งจากระบบรายเดือนและระบบเติมเงิน จากที่ก่อนหน้านี้ทุกค่ายในหลายไตรมาสที่ผ่านมา ลูกค้าจะเพิ่มขึ้นที่กลุ่มรายเดือน และลดลงที่กลุ่มเติมเงิน