ปัญหาการถูกก๊อปปี้บัตรเครดิต (credit card skimming) ตามปั๊มน้ำมันไม่ได้มีปัญหาแค่ในไทย ทว่าปั๊มน้ำมันในสหรัฐจะเป็นแบบช่วยเหลือเหลือตัวเอง เติมเองและคิดเงินเอง โดยหัวจ่ายจะมีช่องเสียบบัตรเครดิตอยู่ ซึ่งมักจะถูกติดเครื่อง skimmer คล้ายตู้เอทีเอ็มบ้านเรา
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย California San Diego และ มหาวิทยาลัย Illinois Urbana-Champaign เลยร่วมมือกันพัฒนาแอปชื่อ Bluetana โดยอาศัยข้อมูลจากหน่วยสืบราชการลับ (US Secret Service) สามารถตรวจจับเครื่อง skimmer ได้โดยอาศัยบลูทูธ ซึ่งนักพัฒนบอกว่า Bluetana ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหา false-positive ที่มักเจอในแอปตรวจจับ skimmer ที่มีอยู่แล้ว
สถานการณ์สงครามการค้าระหว่างจีนสหรัฐยังคงตึงเครียดต่อไป โดยเฉพาะล่าสุดที่รัฐบาลจีนสั่งระงับการสั่งซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐ ซึ่งรัฐบาลทรัมป์อ้างว่าจีนผิดคำพูดที่สัญญาเอาไว้จากการประชุมทวิภาคีรอบล่าสุด
หนึ่งในมาตรการตอบโต้ นอกจากเรื่องกำแพงภาษีแล้วยังคงเกี่ยวข้องกับ Huawei ที่เป็นหนึ่งในหมากบนกระดานสงครามครั้งนี้ โดย Wilbur Ross รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ออกมาเปิดเผยว่าว่าสัปดาห์ที่ผ่านมามีบริษัทสหรัฐยื่นคำขอเข้ามาเพื่อดำเนินธุรกิจกับ Huawei กว่า 50 คำร้อง ทว่ากระบวนการตัดสินใจให้ใบอนุญาตตอนนี้ถูกระงับเอาไว้ก่อน จากความตึงเครียดที่กลับมาเพิ่มขึ้นครั้งนี้
Joseph Tartaro ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์จากบริษัท IOActive โดนใบสั่งมูลค่ารวม 12,049 ดอลลาร์หรือ 370,000 บาท หลังเขาใช้ป้ายทะเบียนรถเป็น NULL และพบว่าระบบออกใบสั่งแคลิฟอร์เนียผิดพลาด ทำให้ใบสั่งที่ไม่มีข้อมูลทะเบียนส่งมาที่เขาทั้งหมด
Tartaro เลือกป้ายทะเบียนเป็น NULL มาตั้งแต่ปี 2016 (เขาเลือกป้ายทะเบียน VOID ให้ภรรยา) และใช้งานได้ดีไม่มีปัญหาอะไรอยู่ประมาณหนึ่งปี จนกระทั่งต่อภาษี เขาสังเกตว่าเว็บของขนส่งแคลิฟอร์เนียไม่อนุญาตให้ใช้คำว่า "NULL" ในช่องข้อมูลทะเบียนอีกต่อไป อย่างไรก็ดีเขายังต่อทะเบียนเดิมที่ไว้ได้ ด้วยการใส่หมายเลขประจำตัวรถแทน
พนักงานกูเกิลราว 500 ราย ลงนามไม่เห็นด้วยถ้าบริษัทจะไปประมูลงานจากหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ หรือ US Customs and Border Protection (CBP) และต้องการให้กูเกิลประกาศคำสัญญาอย่างเป็นทางการว่าจะไม่ร่วมงานกับ CBP
CBP คือหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องการตรวจคนเข้าเขตประเทศสหรัฐฯ และในรัฐบาล โดนัลด์ ทรัมป์ ก็มีการกักตัวผู้อพยพตามชายแดน จนมีเด็กผู้ลี้ภัยเสียชีวิต 7 คนขณะที่อยู่ในความดูแลของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นอะไรที่ยอมรับไม่ได้ ในคำร้องของกลุ่มพนักงานยังเรียกร้องให้กูเกิลไม่ร่วมงานกับ สำนักงานผู้ลี้ภัย (ORR) และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ICE) ด้วย
กองทัพเรือสหรัฐฯ เตรียมเปลี่ยนระบบควบคุมเรือ โดยลดการใช้หน้าจอสัมผัสเป็นการใช้คันบังคับสำหรับการควบคุมกำลังเครื่อง (throttle) หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุ เรือ USS John S. McCain ชนเข้ากับเรือ Alnic MC เมื่อเดือนมีนาคม 2017 โดยการสอบสวนพบว่าสาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากความสับสนในการควบคุมเรือด้วยหน้าจอ GUI บนจอสัมผัสระหว่างการควบคุมในโหมดฉุกเฉิน
ตัวสถานีควบคุมเรือ (Ship’s Control Console - SCC) มีสองสถานีในเรือที่สามารถโอนสิทธิ์การควบคุมเรือไปมาได้ และเมื่อเรือเข้าสู่โหมดฉุกเฉินก็จะตัดกระบวนการขอสิทธิ์ควบคุมเรือออกไป ทำให้เข้าควบคุมเรือได้โดยตรงทันที แต่ความสับสนเกิดขึ้นเมื่อผู้ควบคุม SCC หลายสถานีพยายามแย่งกันควบคุม
นอกจากโดนัลด์ ทรัมป์ ปธน.สหรัฐฯ จะชี้ว่าเกมเป็นส่วนหนึ่งที่ก่อให้เกิดความรุนแรงกราดยิงแล้ว เขายังบอกด้วยว่าโซเชียลมีเดีย ควรจะตรวจจับเบาะแสได้ล่วงหน้าก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง ด้าน บารัก โอบามา อดีต ปธน. บอกว่า ควรมีกฎหมายปืนที่เข้มงวดกว่านี้ และโซเชียลมีเดียควรลดการแพร่กระจายของเนื้อหานิยมความรุนแรง
Cloudflare ผู้ให้บริการ CDN และเครื่องมือด้านความปลอดภัยสำหรับเว็บไซต์ ประกาศยกเลิกการให้บริการกับเว็บบอร์ด 8Chan โดยให้เหตุผลว่าเป็นเว็บที่ปล่อยให้เกิดการรวมกลุ่มของคนหัวรุนแรงและก่อเหตุกราดยิงหลายต่อหลายกรณี
จากเหตุกราดยิงที่เท็กซัสและโอไฮโอ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตร่วม 30 ราย โดนัลด์ ทรัมป์ ปธน.สหรัฐฯ ก็ออกมาโทษวิดีโอเกมอีกครั้งว่าเป็นสาเหตุของพฤติกรรมความรุนแรง โดยเขาบอกว่า เราต้องหยุดความรุนแรงที่เกิดขึ้น รวมถึงวิดีโอเกมที่น่าสยดสยองต่างๆ จนกลายเป็นเรื่องปกติในสังคมไปแล้ว
เมื่อวันอังคารที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา Josh Hawley สมาชิกวุฒิสภาได้เสนอการออกกฎหมายใหม่ที่จำชื่อกันง่ายๆ ว่ากฎ SMART (Social Media Addiction Reduction Technology Act) ซึ่งมีเป้าหมายหลักคือบีบให้ผู้ให้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ทั้งหลาย รวมทั้งสารพัดเว็บต้องปรับเปลี่ยนตนเองเพื่อให้ผู้ใช้ลดอาการ "เสพติดสังคมออนไลน์" ลง
เนื้อความของร่างกฎ SMART นั้นมีการอ้างชื่อ Facebook, Instagram, YouTube และ Twitter แต่เป้าหมายนั้นคือการบังคับใช้กฎกติกาเดียวกันกับผู้ให้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ทุกราย ให้ปรับเปลี่ยนไปในทางที่จะลดเวลาการใช้งานของผู้ใช้ (ซึ่งแน่นอนว่าขัดกับเป้าหมายขั้นพื้นฐานของการพัมนาแพลตฟอร์มเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่างจัง) โดยเนื้อหาของร่างกฎ SMART นี้จะให้อำนาจแก่ FTC (คณะกรรมาธิการการค้าแห่งชาติของสหรัฐ) ในการลงโทษผู้ให้บริการที่ไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับของกฎนี้
เกิดเหตุกราดยิงขึ้นในสหรัฐฯถึง 2 ครั้งภายใน 24 ชั่วโมง ที่รัฐเท็กซัส เมือง El Paso ผู้ต้องสงสัยคือมือปืนชาย อายุ 21 ปี ใช้ปืนไรเฟิล บุกเข้าไปกราดยิงผู้คนในห้างส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 20 ราย บาดเจ็บ 26 ราย อีกเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ โอไฮโอ ใจกลางเมืองเดย์ตัน มีผู้เสียชีวิตเบื้องต้น 9 ราย บาดเจ็บ 27 ราย ผู้ก่อเหตุปกปิดใบหน้า และทั้งสองเหตุการณ์ใช้ปืนไรเฟิลก่อเหตุเหมือนกัน
หนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งสหรัฐฯ ปี 2020 ที่มีนโยบายลดอิทธิพลบริษัทเทคโนโลยีคือ Elizabeth Warren วุฒิสมาชิกสหรัฐอเมริกาจากพรรคเดโมแครต เธอบอกว่า บริษัทไอทียักษ์ใหญ่อย่าง Google, Facebook, Amazon ควรถูกจับแยกเป็นบริษัทย่อยๆ
ล่าสุดมีสถิติน่าสนใจจากเว็บไซต์ Recode เผยว่า กลุ่มพนักงานบริษัทกูเกิลบริจาคเงินสนับสนุนแคมเปญของ Warren กันไม่น้อยเลย (ตัวเลขเงินนับเฉพาะสองไตรมาสแรกของปีนี้)
John Bel Edwards ผู้ว่าการรัฐลุยเซียนา (Louisiana) ของสหรัฐอเมริกา ใช้อำนาจผู้ว่าการรัฐประกาศภาวะฉุกเฉิน (Emergency Declaration) หลังพบว่าโรงเรียนในสังกัดรัฐบาลจำนวนมาก ติดมัลแวร์จนไม่สามารถดำเนินการเรียนการสอนตามปกติได้
ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่ามัลแวร์ตัวนี้คืออะไร และมีรูปแบบการโจมตีอย่างไร แต่ในแถลงการณ์ของ Edwards ระบุว่าต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน เพื่อให้มีผลทางกฎหมาย สามารถสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจ หน่วยงานด้านบริการไอทีภาครัฐ และผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยจากหลายส่วน เข้ามาช่วยกันแก้ปัญหาได้โดยเร็ว
สรรพากรสหรัฐฯ (Internal Revenue Service - IRS) เริ่มส่งจดหมายถึงผู้ถือเงินคริปโตกว่าหมื่นราย เตือนการละเมิดกฎหมายรัฐบาลกลางหากยื่นภาษีไม่ครบถ้วน โดยไม่เปิดเผยว่าได้รายชื่อผู้ถือเงินคริปโตมาได้อย่างไร
IRS ระบุว่าจดหมายที่ส่งออกไปมี 3 รูปแบบ รูปแบบเตือน 2 แบบ แจ้งว่าผู้ถือเงินคริปโตอาจจะไม่ทราบถึงข้อบังคับการยื่นภาษีเงินได้จากเงินคริปโต ส่วแบบที่สามขอให้ผู้รับจดหมายเซ็นเอกสารยืนยันว่าได้ยื่นแบบถูกต้องแล้ว พร้อมกับระบุว่าทาง IRS อาจจะติดต่อผู้เสียภาษีในอนาคต
กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐ (Department of Justice) อนุมัติการควบรวมกิจการระหว่าง T-Mobile กับ Sprint เรียบร้อยแล้ว
การควบกิจการลักษณะนี้จำเป็นต้องได้รับอนุมัติจากหน่วยงานด้านการแข่งขันของประเทศนั้นๆ ซึ่งกรณีของ T-Mobile กับ Sprint ที่เป็นโอเปอเรเตอร์ด้วยกันเอง ก็มีข้อกังวลเรื่องการผูกขาดและผลกระทบต่อสภาพการแข่งขันในตลาดโทรคมนาคมเช่นกัน
ล่าสุด กระทรวงยุติธรรมบรรลุการเจรจากับ T-Mobile และ Sprint ว่าจะอนุมัติการควบรวม โดยมีเงื่อนไขดังนี้
เป็นประเด็นขัดแย้งมานาน กับโปรเจ็ค Dragonfly เสิร์ชเอนจินที่ Google จะทำในจีนโดยมีรัฐบาลควบคุม ล่าสุดในการให้การกับรัฐสภาเรื่องการผูกขาดของบริษัทไอที ผู้บริหารระดับสูงของ Google ยืนยันแล้วว่าโปรเจ็คดังกล่าวถูกยกเลิกไปแล้ว
หลังจากนั้นไม่นาน Donald Trump ปธน. ทวีตอ้างอิงคำพูดของ Peter Thiel ผู้ร่วมก่อตั้ง PayPal ที่บอกว่า Google ควรถูกสอบสวนฐานกบฏ จากการไปทำงานร่วมกับรัฐบาลจีนแทนที่จะเป็นกองทัพสหรัฐ โดยรัฐบาลจะเข้ามาดูเรื่องนี้ด้วย
Google Maps ทดสอบฟีเจอร์หาบริการแชร์จักรยานว่ามีจอดที่ไหนบ้างในนิวยอร์ก ล่าสุด ขยายฟีเจอร์ครอบคลุมไปอีก 23 เมือง และมีเมืองที่อยู่นอกสหรัฐฯด้วย โดยฟีเจอร์ใหม่นี้สามารถมองเห็นได้เลยว่ามีจักรยานเหลืออยู่กี่คัน
ในการทำฟีเจอร์นี้ใช้ข้อมูลจาก Ito World บริษัททำข้อมูลการเดินทาง ที่ทำข้อมูลจุดจอดแชร์จักรยานบน Apple Maps ด้วยเช่นกัน โดยมีผู้ให้บริการแชร์จักรยานที่อยู่บนแพลตฟอร์มเช่น Lime, Citi Bike
สร้างความเดือดดาลให้ชาวเน็ตเมื่อ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โพสต์ทวิตเตอร์ ให้ สมาชิกสภาคองเกรสหญิง กลับประเทศของตัวเองไป ชาวเน็ตรวมถึงดาราดังก็ออกมาโพสต์ว่านี่คือถ้อยคำเหยียดเกลียดชังอย่างชัดเจน แต่ทวิตเตอร์บอกว่า โพสต์ของทรัมป์ ไม่ผิดกฎแพลตฟอร์ม แต่ก็ไม่ได้บอกว่าทำไมถึงไม่ผิด
ถัดจากความเห็นของประธานาธิบดี Donald Trump ต่อ Libra มาเป็นคิวของ Steven Mnuchin รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐ ที่ให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน
Mnuchin บอกว่า Libra อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด เช่น ฟอกเงิน หรือเป็นช่องทางสนับสนุนผู้ก่อการร้าย ซึ่งเป็นปัญหาเรื่องความมั่นคงของชาติ (national security) ที่เกิดขึ้นมาแล้วกับเงินคริปโตอย่าง Bitcoin และเขารู้สึก "ไม่สบายใจ" (not comfortable) กับการเปิดตัว Libra
หลังการเจรจาทวิภาคีที่การประชุม G20 จะเป็นไปในทางบวก ซึ่งเบื้องต้นรัฐบาลสหรัฐระบุว่าบริษัทสหรัฐสามารถทำธุรกิจกับ Huawei เฉพาะสินค้าที่วางขายทั่วโลกและ Huawei จะยังคงอยู่ใน Entity List ของกระทรวงพาณิชย์ที่บริษัทสหรัฐจะต้องขออนุมัติก่อนทำธุรกิจทุกครั้ง
ล่าสุด Wilbur Ross รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ออกมายืนยันอีกครั้งว่า Huawei จะยังคงอยู่ใน Entity List เช่นเดิม พร้อมชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมสืบเนื่องจากการประชุม G20 ว่ากระทรวงพาณิชย์จะอนุมัติให้บริษัทสหรัฐทำการค้ากับ Huawei เฉพาะกรณีที่ไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศเท่านั้น (ซึ่งก็น่าจะหนีไม่พ้นเรื่อง 5G)
สงครามเย็นด้านเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐและจีนตอนนี้มีศูนย์กลางอยู่ที่เรื่องของ 5G เนื่องด้วยเป็นเทคโนโลยีที่กำลังจะเป็นแกนกลางการติดต่อสื่อสารในอนาคต รวมถึงตัว Huawei เองสามารถพัฒนาโซลูชันออกมาได้ครบวงจรและราคาถูกกว่าคู่แข่ง
Ren Zhengfei ผู้ก่อตั้ง Huawei แสดงความเห็นว่าประเด็นถัดจาก 5G ที่รัฐบาลสหรัฐจะมีปัญหากับจีนจะเป็นเรื่องของ Internet of Things และระบบ Smart Factories เพราะ Huawei เองก็มีโซลูชันด้านนี้อยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะสำหรับ Smart Factories และเมื่อไหร่ที่ Huawei ขึ้นมาเป็นผู้นำด้านนี้ รัฐบาลสหรัฐจะพุ่งเป้ามาแน่ๆ
เมื่อวันเสาร์ที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา รัฐ Virginia ได้ตัวนางงามประจำรัฐคนใหม่ ผู้ที่คว้ามงกุฎ Miss Virginia 2019 ไปครองได้สำเร็จนี้คือนักศึกษาปริญญาโทจาก Virginia Commonwealth University และหนึ่งในสิ่งที่ทำให้เธอสร้างความติดตรึงประทับใจแก่กรรมการจนช่วยส่งให้เธอชนะการประกวด ก็คือการแสดงบนเวทีที่เธอเลือกเอาการทดลองทางวิทยาศาสตร์มานำเสนอ
เมื่อ 4 ปีก่อน Camille Schrier สาวน้อยวัย 18 ปีในขณะนั้นตระหนักดีว่าตัวเธอนั้นขาดซึ่งทักษะการแสดงบนเวทีทั้งการร้องการเต้น ที่เรียกได้ว่าเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้เธอประสบความสำเร็จกับวงการนางงามได้ ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจพับความฝันเรื่องการขึ้นสู่เวทีนางงามหลังจากที่ได้รับการตอบตกลงให้เข้าศึกษาที่ Virginia Tech
หลังจาก Donald Trump ประกาศในที่ประชุม G20 ว่าจะอนุญาตให้บริษัทสหรัฐฯ กลับมาทำธุรกิจกับหัวเว่ย แต่กลับไม่ชี้แจงเพิ่มเติมว่าจะถอดออกจาก Entity List ที่เป็นรายการบริษัทต้องห้ามหรือไม่ วันนี้ทางหัวเว่ยก็ออกมาระบุว่าบริษัทยังรอความชัดเจนจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เช่นกัน
Tim Danks รองประธานบริษัทด้านประชาสัมพันธ์ระบุว่าบริษัทได้ฟังข้อความของ Trump แล้ว และยังรอแนวทางจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ต่อไป
เมื่อวานนี้ Donald Trump แถลงหลังการเจรจาทวิภาคีกับจีนในการประชุม G20 ว่าอนุญาตให้บริษัทสหรัฐกลับมาทำธุรกิจกับ Huawei แล้ว แต่ก็ไม่ได้ให้ความกระจ่างว่าแค่ไหนอย่างไร รวมถึงสถานะของ Huawei ที่อยู่ใน Entity List
ล่าสุด Larry Kudlow ประธานสภาเศรษฐกิจแห่งชาติของสหรัฐให้ความกระจ่างเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากการยืนยันกับ Fox News ว่ากระทรวงพาณิชย์จะอนุญาตให้ทำการค้าเฉพาะสินค้าที่วางขายทั่วโลก (general availability) และไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง อย่างเช่นไมโครชิปหรือบริการด้านเทคโนโลยี ขณะที่อุปกรณ์หรือสินค้าที่มีความอ่อนไหวด้านความมั่นคงจะไม่เข้าเกณฑ์นี้ด้วย
หลังเป็นประเด็นและสร้างผลกระทบเป็นลูกโซ่จากคำสั่งประธานาธิบดี ที่ห้ามบริษัทอเมริกันทำธุรกิจกับบริษัทที่อาจเป็นภัยกับความมั่นคง ซึ่งแน่นอนว่าหวยลงที่ Huawei
ล่าสุดจากการเจรจาทวิภาคีระหว่างสหรัฐและจีนในการประชุม G20 ที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นไปในทางบวก ซึ่งไม่เพียงลดความตึงเครียดของสงครามการค้าเท่านั้น Trump ยังตอบคำถามสื่อหลังการเจรจาด้วยว่ารัฐบาลสหรัฐจะกลับมาอนุญาตให้บริษัทอเมริกันส่งสินค้าให้กับ Huawei อีกครั้งแล้ว แต่ก็ยังคงกังวลเรื่องประเด็นความปลอดภัยและความมั่นคงอยู่ (Huawei ยังคงอยู่ใน Entity List) ซึ่งรัฐบาลสหรัฐจะพูดคุยหาทางออกประเด็นนี้ต่อไป Trump ก็ไม่ได้บอกชัดเจนว่าจะนำ Huawei ออกจาก Entity List นอกจากเพียงว่าจะกลับไปพูดคุยหาทางออกต่อไป
Amazon จับมือกับเชนร้านขายยาใหญ่ในสหรัฐฯ Rite Aid ให้เคาเตอร์ร้านเป็นอีกหนึ่งจุดรับของจาก Amazon เท่ากับว่าลูกค้า Amazon ในสหรัฐฯ สามารถรับของที่สั่งซื้อ ณ เคาเตอร์ร้านได้ เริ่มจาก 100 สาขาก่อน และจะขยายเป็น 1,500 สาขาก่อนสิ้นปีนี้