มีรายงานล่าสุดของว่าที่ข้อพิพาทแห่งปีนี้ระหว่างแอปเปิลและซัมซุงครับ แต่เนื่องจากมีหลายประเด็นมากจึงขอแยกย่อยทีละเรื่องดังนี้
สงครามยังไม่จบ เกมกลยุทธ์ระหว่างซัมซุงกับแอปเปิลก็ดำเนินต่อไป โดยรอบล่าสุดนี้ซัมซุงได้ทำหนังสือต่อคณะกรรมการการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐ หรือ ITC ขอให้ระงับการนำเข้าสินค้าแอปเปิลเพื่อการจำหน่ายในอเมริกาได้แก่ iPhone, iPad และ iPod เพราะมีปัญหาละเมิดสิทธิบัตรของซัมซุงที่ได้ฟ้องร้องไว้ก่อนหน้านี้ก่อน
เหตุผลที่ซัมซุงต้องตัดสินใจยกระดับการฟ้องร้องนั้นเนื่องจากคดีความที่แอปเปิลฟ้องว่าสินค้าตระกูล Galaxy ของซัมซุงลอกเลียนแอปเปิลในศาลอเมริกา ถ้าตัดสินแล้วมีความผิดจริง สินค้ากลุ่ม Galaxy อาจถูก ITC สั่งระงับการขายในอเมริกาได้ ซัมซุงจึงต้องถ่วงเวลาอีกครั้งเพราะการยื่นฟ้องนี้ทำให้เกิดขั้นตอนการไต่สวนที่ยืดเยื้อออกไปอีก
ข่าวนี้ต่อเนื่องจากข่าวเก่า HP เตรียมเปิด webOS ให้คู่ค้าบางรายนำไปใช้งาน ซึ่งซีอีโอ Leo Apotheker ก็ยืนยันอีกรอบว่ากำลังคุยกับหลายบริษัทในเรื่องนี้ แต่ยังไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดใดๆ มากกว่านี้
จังหวะเดียวกันก็มีข่าวออกมาว่าซัมซุงเป็นหนึ่งในพาร์ทเนอร์ที่เจรจากับ HP อยู่เช่นกัน ซึ่ง Apotheker ก็ปฏิเสธที่จะตอบคำถามใดๆ
ถ้าข่าวนี้เป็นจริง นี่อาจเป็นยุทธศาสตร์ของซัมซุงที่เลือกใช้ระบบปฏิบัติการหลายตัว เช่น bada, Android, webOS โดยมีจุดประสงค์เพื่อลดการพึ่งพิงกูเกิล และแก้ปัญหากูเกิลไม่ยอมให้ปรับแต่ง Android ในหลายๆ จุดด้วย
เมื่อปลายปีก่อนเราได้เห็นกูเกิลได้ส่ง Nexus S ขึ้นไปยังขอบอวกาศมาแล้ว และดูท่าทางเทรนด์นี้จะฮิตน่าดู เพราะล่าสุดซัมซุงมีแผนจะโปรโมตโทรศัพท์รุ่นใหม่ Galaxy S II ที่จะเปิดตัวในญี่ปุ่นเร็วๆ นี้ด้วยการพาเจ้า Galaxy S II ไปทัวร์อวกาศบนความสูงจากพื้นดินกว่า 98,000 ฟุต ด้วยการบินไปกับบอลลูน
บินแล้วไม่บินเปล่า เพราะงานนี้มีถ่ายทอดสดผ่าน Ustream ด้วยในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ พร้อมทั้งสามารถร่วมส่งข้อความ และทวีตขึ้นไปบนหน้าจอ Galaxy S II ระหว่างการเดินทางอีกด้วย ส่วนใครที่สนใจโครงการนี้ สามารถดูคลิปโปรโมตได้ที่ท้ายข่าว ส่วนเว็บหลักของโครงการคลิกที่นี่เลย มีให้ลองเลื่อนดูความสูงด้วย
เว็บไซต์ BGR รายงานข่าวของมือถือ Android ที่จะใช้ Ice Cream Sandwich ว่ารอบนี้กูเกิลอาจจะเปิดตัวมือถือพร้อมกันหลายตัว โดยไม่เลือกมือถือจากผู้ผลิต-เครือข่ายเจ้าใดเจ้าหนึ่งเปิดตัวเพียงรุ่นเดียวแบบที่ผ่านๆ มา
อย่างไรก็ตาม กูเกิลจะยังออกมือถือตระกูล Nexus เช่นเดิม และรอบนี้ยังน่าจะให้ซัมซุงผลิตให้อีกครั้ง โดยชื่อที่น่าจะเป็นไปได้คือ "Nexus Prime" สเปกดังนี้
แม้จะฟ้องร้องกันนุงนังแต่แอปเปิลกับซัมซุงนั้นก็ยังมีฐานนะเป็นคู่ค้ารายใหญ่ต่อกันมายาวนาน โดยเฉพาะหัวใจหลักอย่างซีพียู Apple A4, และ A5 นั้นก็ล้วนผลิตจากโรงงานของซัมซุงทั้งสิ้น แต่พอคดีมาถึงจุดแตกหักเช่นนี้ Dan Heyler นักวิเคราะห์จากบริษัท Merrill Lynch ก็ออกมาคาดการณ์ว่าแอปเปิลน่าจะเปลี่ยนโรงงานผลิตชิปรุ่นต่อไปอย่าง Apple A6 เป็นโรงงานของ TSMC แทน
TSMC นั้นมีเทคโนโลยีการผลิตที่ 28 นาโนเมตรนับว่าก้าวหน้ามากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก การใช้ชิปที่กระบวนการผลิตที่เล็กลงนี้จะทำให้ชิปรุ่นต่อไปของแอปเปิลประหยัดพลังงานกว่าคู่แข่งไปอีกก้าว โดย TSMC นั้นมีข่าวว่าทำงานร่วมกับแอปเปิลมาระยะหนึ่งแล้วแม้จะยังไม่มีรายละเอียดออกมา
ถ้าเป็นละครหลังข่าวเมืองไทยงานนี้ก็เรียกว่ายืดแล้วยืดอีก ล่าสุดแอปเปิลตัดสินใจฟ้องซัมซุงข้อหาลอกเลียนแบบ iPhone และ iPad ในสินค้ากลุ่ม Galaxy เพิ่มอีก โดยคราวนี้ฟ้องต่อศาลประเทศเกาหลีใต้บ้านเกิดของซัมซุงกันเลย
สรุปคดีที่ค้างคาอีกครั้ง รอบแรกสุดแอปเปิลฟ้องซัมซุงในอเมริกาประเทศเดียว ส่วนซัมซุงก็ฟ้องกลับใน 3 ประเทศรวมทั้งเกาหลีใต้ ขอดู iPhone 5 จะได้ไม่ทำสินค้าซ้ำ แต่ศาลตัดสินยกคำร้องไป
จากข้อมูลไตรมาสล่าสุดแอปเปิลถือเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของซัมซุงในขณะนี้ (เดิมคือโซนี่)
คดีการฟ้องร้องไปมาของแอปเปิลกับซัมซุงมีความคืบหน้าแล้ว โดยศาลมีคำตัดสินปฏิเสธในส่วนข้อเรียกร้องของซัมซุงที่ขอดูสินค้าแอปเปิลก่อน อาทิ iPhone 5 หรือ iPad 3 เพื่อจะได้ไม่ผลิตสินค้าหน้าตาเหมือนกัน
ผู้พิพากษา Lucy Koh คนเดิมชี้แจงเหตุผลในคำตัดสินว่า พิจารณาแล้วพบว่าการฟ้องร้องนี้เป็นเรื่องของการลอกเลียนสินค้าที่วางจำหน่ายแล้วของแอปเปิลเท่านั้น ไม่มีประเด็นข้อกล่าวหาเกี่ยวกับสินค้าในอนาคต จึงไม่มีความจำเป็นที่ซัมซุงจะต้องดูสินค้าตัวใหม่ของแอปเปิลแต่อย่างใด
แอปเปิลเคยให้ความเห็นในข้อเรียกร้องนี้ว่าเป็นการจงใจก่อกวนของซัมซุง
ความคืบหน้าล่าสุดของการฟ้องร้องไปมาระหว่างซัมซุงกับแอปเปิล ซึ่งศาลนัดฟังคำตัดสินเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ผู้พิพากษา Lucy Koh แถลงว่ายังไม่มีคำตัดสิน แต่เสนอให้สองฝ่ายไปเจรจาหาข้อตกลงร่วมกัน โดยศาลมองว่าทั้งสองฝ่ายต่างมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจต่อกันอยู่แล้ว การเจรจานอกศาลอาจให้ข้อสรุปที่ดีกว่า
ฟีเจอร์สำคัญของแท็บเล็ตรุ่นใหม่ๆ คงเป็นการใส่อุปกรณ์ USB เพิ่มเติมได้อิสระ โดยผู้ผลิตหลายรายเช่นเอซอร์หรือโตชิบาเลือกที่จะใส่พอร์ต USB มาในตัวส่วน iPad นั้นก็มีพอร์ตขายแยก และวันนี้ทางฝั่งซัมซุงก็มีพอร์ต USB แบบเต็มออกมาขายแยกอย่างเงียบๆ ในราคา 19.99 ดอลลาร์
พอร์ตนี้รองรับคีย์บอร์ด, เมาส์, และไดร์ฟเช่นเดียวกับแท็บเล็ตอื่นๆ แต่ที่สำคัญคือซัมซุงระบุว่าจะมีสายเคเบิลพิเศษขายเพื่อให้สามารถชาร์จผ่านทาง USB พร้อมๆ กับใช้แท็บเล็ตเพื่อแชร์อินเทอร์เน็ตได้ด้วย
ที่มา - Samsung
FOSS Patents รายงานว่าแอปเปิลได้ตอบโต้ซัมซุงกรณีที่ซัมซุงได้ขออนุญาตศาลในการขอดูสินค้าที่ยังไม่ถูกเปิดตัวของแอปเปิล iPhone 5 และ iPad 3 ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการจงใจที่จะก่อกวนและไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง และการร้องขอดูสินค้าที่ยังไม่เปิดตัวแอปเปิลนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการที่แอปเปิลฟ้องซัมซุงในตอนแรกแต่อย่างใด
ส่วนเรื่องความคืบหน้าของการต่อสู้ระหว่างซัมซุงกับแอปเปิลในครั้งนี้ ทางศาลได้ให้เวลาซัมซุงถึงวันศุกร์นี้ในการผลิตอุปกรณ์ตัวอย่างที่ซัมซุงยังไม่ได้เปิดเผยให้กับแอปเปิล (สินค้าตระกูล Galaxy รุ่นต่อไปนั่นเอง) โดยหลังจากนั้นแอปเปิลสามารถที่จะตัดสินใจว่าจะดำเนินคดีต่อไปกับซัมซุงอีกหรือไม่ หากแอปเปิลชนะคดีดังกล่าว ซัมซุงอาจจะไม่สามารถขายอุปกรณ์ดังกล่าวได้อีก
ฝ่ายวิเคราะห์ของ Nomura ประเมินว่าในไตรมาสนี้ซัมซุงจะกลายเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับ 1 ของโลกวัดด้วยจำนวนเครื่อง แซงหน้าอันดับ 1 โนเกียสำเร็จในที่สุด (สถิติไตรมาสที่ผ่านมา)
Nomura ยังประเมินว่าภายในไตรมาสที่ 3 นี้หากโนเกียไม่มีสมาร์ทโฟนที่สร้างยอดขายสูงๆ ได้อีก (ซึ่งก็คงเป็นเช่นนั้น) โนเกียก็จะตกไปอยู่ในอันดับที่ 3 โดยมีแอปเปิลขึ้นมาอยู่อันดับที่ 2 แทน และในกรณีที่แย่ที่สุด HTC จะขึ้นมาเป็นอันดับ 3 คู่กับโนเกียได้อีกด้วย
ข่าวนี้สั้นๆ ครับ ทาง Samsung Mobile USA บน YouTube ได้ปล่อยโฆษณา Samsung Galaxy Tab 10.1 ภายใต้ชื่อ "It's Time To Tab!" ถ้าใครสนใจคลิกเข้าไปดูวิดีโอได้ที่ท้ายข่าว ซึ่งมีกัด iPad เล็กน้อยด้วยครับ ในแง่ของการใช้งาน Flash ไม่ได้
ที่มา: Samsung Mobile USA
ดูเหมือนใครๆ ก็อยากจะซื้อโนเกียเหลือเกิน ก่อนหน้านี้ก็เป็นข่าวกับไมโครซอฟท์จนซีอีโอต้องออกมาปฏิเสธว่าไม่มีมูล ล่าสุดมีข่าวลือว่าผู้สนใจซื้อโนเกียรายล่าสุดก็คือซัมซุงนี่เอง
สาเหตุของข่าวลือนี้น่าจะมาจากการที่ราคาหุ้นโนเกียปรับตัวลดลง 46% ซึ่งด้วยราคาที่ลดต่ำลงมากทำให้เป็นที่สนใจของบริษัทที่จะเข้าซื้อกิจการนั่นเอง อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จาก Canalys มองว่าข่าวนี้ไม่ค่อยสมเหตุสมผล เพราะซัมซุงไม่น่าจะได้ประโยชน์อะไรนักจากการซื้อโนเกียที่เสียส่วนแบ่งการตลาดอยู่อย่างต่อเนื่อง
ทั้งโฆษกของโนเกียและซัมซุงต่างปฏิเสธที่จะให้ความเห็นสำหรับข่าวลือนี้
ข่าวดีแน่นอนสำหรับเจ้าของ Galaxy S II ที่จะลงรอมภายนอกอื่นๆ เอง เพราะมีรายงานว่านักพัฒนาในทีม CyanogenMod จำนวน 4 คนที่เคยช่วยกันพอร์ตรอมไปลง Galaxy S รุ่นแรก ได้รับมือถือ Galaxy S II ฟรีจากซัมซุง
Kolja Dummann หนึ่งในนักพัฒนากลุ่มนี้ให้สัมภาษณ์ว่า หลัง Galaxy S II วางขายในยุโรป ทีมของเขาก็ขอให้ซัมซุงส่งมือถือมาให้ ซึ่งซัมซุงก็ส่งมาให้จริงๆ โดยส่งเป็นพัสดุไปยังนักพัฒนาแต่ละคน Dummann บอกว่าครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งแรกที่บริษัทมือถือส่งมือถือมาให้นักพัฒนาในชุมชน CyanogenMod ใช้ฟรี
ตอนนี้อุปกรณ์พร้อมแล้ว ที่เหลือก็แค่รออีกไม่นานเท่านั้น!
สมาร์ทโฟนรุ่นหลังๆ ของซัมซุงนั้นถูกผูกไว้กับซอฟต์แวร์บริหารจัดการ Kies ซึ่งเทียบได้กับ iTunes ของไอโฟน ทำได้ทั้งแบ็คอัพข้อมูล จัดการไฟล์ ลงแอพ และที่สำคัญคืออัพเกรดเฟิร์มแวร์
ปัญหาอย่างหนึ่งของผู้ใช้มือถือซัมซุงกับแมคก็คือ Kies ไม่มีรุ่นบนแมค ทำให้การอัพเฟิร์มแวร์มือถืออาจจะทำได้ยากสักหน่อย
แต่วันนี้ Kies for Mac ออกรุ่นเบต้ามาแล้ว อย่างไรก็ตามมันยังรองรับเฉพาะมือถือรุ่นใหม่ๆ อย่าง Galaxy S II และ Galaxy Tab รุ่นแรกเท่านั้น ใครที่ใช้มือถือเก่ากว่านั้นคงต้องรอกันอีกหน่อย
ถึงแม้ในเมืองไทยจะเพิ่งเปิดตัว แต่ Galaxy S II เริ่มขายในเกาหลีใต้ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน วันนี้ครบ 1 เดือนพอดี และซัมซุงออกมาประกาศความสำเร็จที่ 1 ล้านเครื่องแล้ว
สถิติของ Galaxy S II คือ
หลังจากที่ศาลได้อนุญาตให้แอปเปิลดูสินค้าในอนาคตของซัมซุงที่ยังไม่เปิดตัวในกรณีที่แอปเปิลได้ยื่นฟ้องว่าซัมซุงทำการลอกเลียนแบบและละเมิดสิทธิบัตรของสินค้าตระกูล iOS ล่าสุด ซัมซุงได้ยื่นขอต่อศาลเพื่อขอดูสินค้าในอนาคตของแอปเปิล เช่น iPhone 4S หรือ iPhone 5, iPad 3 และกล่องบรรจุ
สำหรับสาเหตุของซัมซุง การได้เห็นสินค้าเหล่านี้ของแอปเปิลล่วงหน้าจะทำให้ซัมซุงสามารถที่จะเลี่ยงการฟ้องร้องด้วยการทำสินค้าที่หน้าตาไม่เหมือนกัน
ที่น่าตลกคือฝ่าย Manufacturing ของซัมซุงก็คงจะรู้ดีอยู่แล้วว่าแอปเปิลกำลังคิดจะผลิตอะไรออกมา เพราะว่าแอปเปิลเองก็สั่งซื้อชิ้นส่วนภายในของสินค้าตระกูล iOS จากซัมซุงมาเสมอ
Samsung Galaxy S II เป็นหนึ่งในมือถือที่กำลังมาแรงที่สุดในเมืองไทยตอนนี้ (ทั้งสเปคและราคา) หลังจากมีข่าวเปิดให้จับจองในงาน Thailand Mobile Expo ที่จะถึงนี้ (ข่าวเก่า) เราลองมาดูรายละเอียดแบบเจาะลึกกันดีกว่าครับว่ามือถือรุ่นนี้มันน่าใช้จริงเหมือนข่าวลือหรือไม่
ข่าวสั้นครับ ทางซัมซุงประเทศไทยประกาศราคาเครื่อง Samsung Galaxy S II อย่างเป็นทางการแล้ว สรุปราคาอยู่ที่ 18,900 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว) โดยจะเปิดให้จองที่บูธซัมซุงในงาน Thailand Mobile Expo วันที่ 2 - 5 มิ.ย. 2554 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
บริษัทวิจัยตลาด Strategy Analytics รายงานส่วนแบ่งตลาดมือถือญี่ปุ่นประจำไตรมาสแรกของปี 2011 ระบุว่า Samsung Galaxy S รุ่นแรกสามารถเอาชนะ iPhone ได้ (ไม่บอกว่าชนะที่เท่าไร รายงานฉบับเต็มต้องเสียเงินครับ)
ตอนนี้ที่ญี่ปุ่น Android ได้รับความนิยมมาก เหตุผลสำคัญคือ NTT DoCoMo โอเปอเรเตอร์รายใหญ่ของญี่ปุ่นลงมาผลักดันเอง และมือถือที่ได้อานิสงส์ไปเต็มๆ ก็คือ Galaxy S นั่นเอง ตอนนี้ซัมซุงกลายเป็นผู้ขาย Android รายใหญ่ของญี่ปุ่น ตามมาด้วยชาร์ปเป็นอันดับสอง
ผลจาก Galaxy S ทำให้ซัมซุงยังติดอันดับ 4 ผู้ขายมือถือในญี่ปุ่นแล้ว (3 อันดับแรกไม่มีข้อมูลครับ) มากกว่าแบรนด์ท้องถิ่นอย่าง NEC, Casio, Kyocera แล้ว
ซัมซุงยังเดินหน้าใช้นโยบาย Galaxy สารพัดรุ่นต่อไป หลังจากที่ออก Galaxy SL ซึ่งเป็นรุ่นตัดความสามารถของ Galaxy S (พร้อมกับราคาที่ลดลง) มาแล้ว ก็ถึงเวลาของ Galaxy S Plus ที่ปรับความสามารถขึ้นมาบ้าง
Galaxy S Plus ตัวนี้เคยเป็นข่าวเมื่อเดือนมีนาคม ล่าสุดทางซัมซุงส่งมาให้ผมยืมเล่นสองสามวัน เนื่องจากว่ามันไม่ต่างกับ Galaxy S มาก ก็ขอเขียนสั้นๆ เป็นมินิรีวิวนะครับ
Galaxy S Plus มีรหัสรุ่นว่า i9001 ซึ่งจะเพิ่มมาจาก Galaxy S รุ่นแรก i9000 อยู่หนึ่งหน่วย ความต่างที่สำคัญคือ
หลายท่านอาจไม่ทราบว่า Samsung ได้ซื้อกิจการของ Liquavista ไปแล้วเมื่อปีก่อน
บัดนี้ Samsung ได้เปิดเผยจอภาพที่ได้จากการซื้อกิจการครั้งนั้นในงาน SID 2011 ที่จัดขึ้นวันนี้ โดยเปิดตัว 2 รุ่นด้วยกัน รุ่นแรกมีขนาด 10.1 นิ้วความละเอียดระดับ WXGA และขนาด 6.2 นิ้วไม่ทราบความละเอียด
ก่อนควบรวมกิจการ Liquavista บอกว่าสามารถส่งจอให้ผู้ผลิตได้ในปี 2011 แต่ในงานนี้ไม่มีกำหนดการแน่ชัดว่าจะวางตลาดเมื่อใด
ที่มา : The-digital-reader.com
เมื่อปีก่อน Samsung ทำตลาดมือถือรุ่น Galaxy S ด้วยชื่อที่แตกต่างกันไปตามแต่ละค่าย นอกจากชื่อแล้ว ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยในสเปคที่ต่างกันอีกด้วย ปีนี้ Samsung ใกล้ถึงเวลาออกมือถือรุ่นใหม่ที่ได้ยินกันบ่อยในช่วงนี้คือ Galaxy S II ที่มีการคาดการณ์ว่าจะทำตลาดด้วยวิธีเดิมอีกหลังจากที่ Samsung ไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในชื่อ Galaxy Attain, Function และ
หลังจากซัมซุงได้ปล่อยอัพเดต Android 2.3 (Gingerbread) ให้ Galaxy S เมื่อกลางเดือนเมษายนแต่ต่อมาก็ต้องระงับไปเนื่องจากเกิดปัญหาบางประการ ล่าสุดซัมซุงประกาศว่าจะเริ่มปล่อยอัพเดตเป็นรอบที่สอง โดยจะเริ่มจากสหราชอาณาจักรและประเทศในกลุ่มนอร์ดิกตั้งแต่กลางเดือนนี้ สำหรับทวีปอื่นจะขึ้นอยู่กับแผนการณ์ของแต่ละพื้นที่