ศาลเยอรมนีที่เขต Dusseldorf รับคำร้องของแอปเปิล มีคำสั่งคุ้มครองให้ Samsung Galaxy Tab 10.1 หยุดวางขายในยุโรปเป็นการชั่วคราว (ยกเว้นประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่แอปเปิลยื่นฟ้องเป็นอีกคดีแยกกัน) เนื่องจากแอปเปิลยื่นฟ้องว่าซัมซุงละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และก็อปปี้บางส่วนของ iPad 2

ซัมซุงสามารถอุทธรณ์คำสั่งนี้ได้ แต่กระบวนการยื่นอุทธรณ์ต้องใช้เวลาอีกประมาณ 4 สัปดาห์ต่อจากนี้

โฆษกของแอปเปิลระบุว่า ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ผลิตภัณฑ์ช่วงหลังของซัมซุงหน้าตาคล้ายกับ iPhone/iPad และแอปเปิลต้องคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของตัวเอง

เหตุผลหนึ่งที่ทีวี 3 มิติไม่ได้รับความนิยม ก็คือต้องใช้แว่น 3 มิติที่มีราคาแพง และใช้ร่วมกันระหว่างค่ายไม่ได้

ผู้ผลิตทีวีรายใหญ่ 3 รายคือ Panasonic, Samsung, Sony และบริษัทด้าน 3 มิติอีกรายคือ XpanD ได้ประกาศจับมือสร้างมาตรฐานแว่น 3 มิติ (แบบ active glasses) ทั้งที่สื่อสารผ่านคลื่นวิทยุและคลื่นอินฟราเรด

โครงการนี้ชื่อว่า Full HD 3D Glasses Initiative ซึ่งมี XpanD เป็นผู้ผลักดันคนสำคัญ ผู้บริหารของ XpanD บอกว่ามาตรฐานนี้จะช่วยให้ร้านขายทีวีทำงานง่ายขึ้น จากเดิมที่ต้องมีแว่น 3 มิตินับ 15 รุ่นในสต๊อกเพื่อขายกับทีวีแต่ละยี่ห้อ

Galaxy Tab 10.1 เริ่มวางขายแล้วในหลายประเทศ แต่แฝดน้องอย่าง Galaxy Tab 8.9 กลับเงียบหายไปเฉยๆ และยังไม่มีข่าวอย่างเป็นทางการว่ามันจะออกเมื่อไรกันแน่

ความเคลื่อนไหวมาจากฝั่งอังกฤษ โดย Amazon UK ได้โพสต์ข้อมูลของ Galaxy Tab 8.9 แล้วว่าจะขายวันที่ 11 สิงหาคมนี้ (ต้นฉบับบอก 11 แต่ผมกดเข้าไปดูเห็นเป็น 12) รุ่น 3G ตั้งราคาที่ 605 ปอนด์

ในอดีตเรามีข่าว "วันวางขาย" ที่ปรากฎบน Amazon และเอาเข้าจริงแล้วไม่เป็นอย่างนั้นอยู่ไม่น้อย ข้อมูลนี้อาจเชื่อถือไม่ได้มากนัก อย่างไรก็ตามถือเป็นสัญญาณอันดีสำหรับคนที่เห็นว่า 10.1 ใหญ่เกินไป และรอ 8.9 ที่เล็กลงมาอีกหน่อย

ศาลเกาหลีใต้มีคำสั่งวันนี้ให้แอปเปิลจ่ายค่าปรับแก่คณะกรรมการสื่อสารแห่งเกาหลีเป็นจำนวนเงิน 3 ล้านวอน (ราว 84,000 บาท) จากการที่แอปเปิลทำการเก็บข้อมูลพิกัดของผู้ใช้งานโดยไม่ได้ขอผู้ใช้งานล่วงหน้า ซึ่งเป็นข่าวที่ทำให้รัฐบาลหลายประเทศตามฟ้องแอปเปิลไปก่อนหน้านี้ โดยศาลยังมีคำสั่งให้ทั้งแอปเปิลและกูเกิลต้องทำการเข้ารหัสข้อมูลพิกัดของผู้ใช้งานอีกด้วย

ซัมซุงประกาศวานนี้ว่าบริษัทได้เข้าซื้อบริษัท Grandis ซึ่งเป็นผู้ผลิตหน่วยความจำแบบถ่ายโอนแรงบิด (STT-Spin Transfer Torque RAM หรือ STT-RAM) โดยบริษัท Grandis จะเข้าไปรวมอยู่กับฝ่ายวิจัยและพัฒนาของซัมซุงด้านหน่วยความจำต่อไป

Grandis เป็นบริษัทที่มีสิทธิบัตรด้านหน่วยความจำแบบ STT-RAM อยู่ในมือหลายตัว และเทคโนโลยี STT นี้ก็น่าจะเป็นอนาคตในการพัฒนาขีดความสามารถของหน่วยความจำให้สูงขึ้นไปได้ ทำให้ซัมซุงซึ่งเป็นผู้ผลิตหน่วยความจำรายใหญ่ต้องการสิทธิบัตรดังกล่าวเพื่อสร้างโอกาสในธุรกิจต่อไป

ที่มา: BGR

ซัมซุงเปิดตัวโฆษณา Galaxy Tab ชุดใหม่ในประเทศอังกฤษ โดยมีเนื้อหานำเสนอ 3 คุณสมบัติที่เหนือกว่าคู่แข่ง ซึ่งผู้อ่านในนี้ก็คงรู้อยู่แล้วว่าซัมซุงจะหมายถึงคู่แข่งรายใด

โฆษณาตอนเบากว่า (Lighter) นำเสนอเพื่อให้เห็นว่า Galaxy Tab นั้นน้ำหนักน้อยกว่ากาแฟหนึ่งแก้วด้วยซ้ำ ส่วนตอนบางกว่า (Thinner) นำเสนอคุณพ่อที่แอบเล่นเกมไม่ให้ลูกเห็นได้ด้วยการเอาดินสอแท่งเดียวบังไว้ และตอนที่มีการเหน็บคู่แข่งคือตอนเร็วกว่า (Faster) โดยนำเสนอเปรียบเทียบเด็กสองคนในร้านอาหาร ที่คนหนึ่งใช้แท็บเล็ตไม่ระบุยี่ห้อแต่ดูก็รู้ว่าหมายถึง iPad กำลังหัวเสียกับความช้าของมันเมื่อเทียบกับโต๊ะข้างๆ ที่ใช้ Galaxy Tab ซึ่งเร็วกว่า

รับชมโฆษณาทั้ง 3 ตอนได้ที่ท้ายข่าวครับ

DigiTimes อ้างแหล่งข่าวว่า ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอย่างเอชทีซี ซัมซุง และแอลจี จะเปิดตัวสมาร์ทโฟนรัน Windows Phone 7.5 (Mango) เพื่อแข่งกับ iPhone รุ่นใหม่ราวเดือนกันยายนนี้ ส่วนโนเกียนั้นจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนรัน Windows Phone 7.5 เป็นลำดับสุดท้าย โดยจะเปิดตัวในงาน Nokia World 2011 ซึ่งจะจัดขึ้นในราวเดือนตุลาคม

ข่าวนี้อาจเป็นจริงหรือไม่ก็ได้ เนื่องจากในเวลานี้ผู้ผลิตเหล่านั้นไม่มีความจำเป็นต้องเปิดตัวสมาร์ทโฟนมาชนกับ iPhone แต่ควรเร่งส่งฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาดให้เร็วที่สุดเท่าที่จำเป็นไปได้เสียมากกว่า

ที่มา: DigiTimes

บริษัทวิจัย IDC เผยตัวเลขยอดขายและส่วนแบ่งตลาดมือถือโลกประจำไตรมาสที่สองของปี 2011

ตลาดรวมโต 11.3% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ขายมือถือได้ทั้งหมด 365.4 ล้านเครื่อง (น้อยกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย และน้อยกว่าอัตราการเติบโตของไตรมาสแรก) ที่น่าสนใจคือสัดส่วนของฟีเจอร์โฟนต่อสมาร์ทโฟนเริ่มเปลี่ยนแปลง โดยยอดขายฟีเจอร์โฟนลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2009 (ไตรมาสนี้ลดลง 4%) ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่าฟีเจอร์โฟนเริ่มลดความสำคัญลง

สำหรับส่วนแบ่งตลาดมือถือ รอบนี้ IDC เปิดเผยเฉพาะยอดขายมือถือรวมทุกประเภท (ไม่ได้แยกเป็นสมาร์ทโฟน) โดย 5 อันดับแรกยังคงเดิมคือ โนเกีย ซัมซุง แอลจี แอปเปิล และ ZTE แต่สัดส่วนเริ่มเปลี่ยนแปลง

ซัมซุงเผยผลประกอบการประจำไตรมาสที่สองของปี ปรากฏว่ากำไร 3.75 ล้านล้านวอน (ประมาณ 1 แสนล้านบาท) ลดลงจากปีที่แล้ว 12% แต่ก็ยังดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดเอาไว้

ธุรกิจจอภาพของซัมซุงขาดทุน 210 ล้านวอน ถือเป็นการขาดทุนไตรมาสที่สองติดต่อกัน ธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ยังกำไรแต่ตกลง 11% จากปีก่อน สาเหตุก็เพราะยอดขายทีวีและพีซีตกต่ำ จากภาวะเศรษฐกิจโลกตะวันตกที่ย่ำแย่นั่นเอง

แต่ธุรกิจมือถือของซัมซุงกลับสดใสมาก กำไรเพิ่มมาเกือบสามเท่าตัวจากปีที่แล้ว อยู่ที่ 1.67 ล้านล้านวอน ซึ่งเป็นผลมาจาก Galaxy S II ที่ขายดีถล่มทลาย

ตอนนี้ซัมซุงยังไม่ยอมบอกว่าไตรมาสนี้ขายมือถือได้ทั้งหมดกี่เครื่องกันแน่ครับ (นักวิเคราะห์คาดว่า 74 ล้านเครื่อง)

สำนักข่าว Semiconductor Industry News จากญี่ปุ่นรายงานว่า Samsung จะเป็นผู้ผลิต CPU เทคโนโลยีการผลิตขนาด 45 นาโนเมตร ที่จะใช้ใน PlayStation Vita

Semiconductor Industry News ไม่ได้ให้ข้อมูลนอกเหนือจากนี้

ที่มา - kotaku

คงไม่มีใครไม่รู้จักแท็บเล็ตฝั่ง Android ที่มีโอกาสมากที่สุดในการท้าชิงบัลลังก์จาก iPad ตัวนี้

เมื่อปีที่แล้วซัมซุงออก Galaxy Tab ตัวแรกขนาดหน้าจอ 7" ระบบปฏิบัติการ Android 2.2 Froyo ถึงแม้ว่ามันจะเปรียบเสมือนมือถือขยายขนาด (โทรออกได้ด้วยนะ อ่านรีวิวของคุณ winggundamth) แต่ก็ขายดีไม่น้อย

การกลับมาในปีนี้ขยายหน้าจอเป็น 10.1" และรัน Android 3.1 Honeycomb ท้าชนกับเจ้าตลาดอย่าง iPad ตรงๆ

ถ้าวัดยอดขายของสมาร์ทโฟนที่ขายออกไปในแต่ละปี แชมป์เก่าอันยาวนานคือโนเกียกับระบบปฏิบัติการ Symbian ที่เป็นแชมป์แบบทิ้งห่าง แต่ก็อย่างที่เรารู้กันดีว่า โนเกียอ่อนแอลงมากในปีหลังๆ และคู่แข่งอย่างแอปเปิลกับซัมซุงก็แรงขึ้นมาเรื่อยๆ

ปี 2011 น่าจะเป็นจุดตัดของกราฟระหว่างโนเกีย vs แอปเปิล/ซัมซุง และจากการประเมินเมื่อเดือนมิถุนายน ซัมซุงเตรียมขึ้นเป็นเบอร์ 1 สมาร์ทโฟนของโลกแซงโนเกีย ในไตรมาสที่สองที่ผ่านมา

ตัวเลขอย่างเป็นทางการของไตรมาสที่สองยังไม่ออก แต่การประเมินจากบริษัทวิเคราะห์ Strategy Analytics ระบุยอดขายของ 3 รายแรกที่บี้กันสุดๆ ดังนี้

บริษัทที่เริ่มเข้าภาวะวิกฤตอย่าง RIM ก็เจอปัญหาสมองไหลอยู่เรื่อยๆ คราวก่อนมีผู้บริหารฝ่ายการตลาดย้ายไปอยู่กับซัมซุงมาคนหนึ่งแล้ว คราวนี้ผู้จัดการผลิตภัณฑ์จากทีม PlayBook คือ Ryan Bidan ประกาศว่าเขาย้ายไปซัมซุงด้วยเช่นกัน

ตำแหน่งใหม่ของ Ryan Bidan คือ Director of Product Marketing ของ Samsung Telecommunications USA เขาค่อนข้างมีชื่อเสียงในโลกของ BlackBerry เพราะติดต่อกับสื่ออยู่เสมอ รวมถึงเคยออกรายการของ Engadget ด้วย

ที่มา - Crackberry

ล่าสุด Eric Schmidt ประธานบอร์ดของกูเกิลได้ออกมาบอกว่าสำหรับเขา สาเหตุของการที่แอปเปิลได้เริ่มเดินหน้าฟ้องบริษัทผู้ผลิตมือถือ Android แนวหน้าอย่าง HTC และซัมซุงก็เพราะว่าความอิจฉาและขาดการพัฒนานวัตกรรมของตัวเอง โดยได้กล่าวอีกว่าแอปเปิลได้เลือกที่จะเดินทางเส้นนี้ แทนการตอบสนองด้วยการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ

Schmidt ยังได้พูดถึงตัวเลขต่าง ๆ ของ Android ที่ทำให้แอปเปิลต้องกลัว เช่น จำนวน activation ที่ไม่รวมแท็บเล็ตและอุปกรณ์ที่ไม่ใช่โทรศัพท์มือถือ ที่มีมากถึง 550,000 ครั้งต่อวัน เพิ่มจากเมื่อเดือนพฤษภาคมที่มีการ activate กว่า 400,000 ครั้งต่อวัน

หลังจากที่ซัมซุงเปิดตัว Galaxy Tab 10.1 ไปได้ซักพัก แต่ก็ยังไม่มีเคสที่ซัมซุงรับรองอย่างเป็นทางการ

มาวันนี้บริษัท Anymode ได้ทำการออกแบบและผลิต Smart Case ให้กับบริษัทซัมซุงแล้ว ซึ่งบริษัทนี้มี Sang-yong Kim เป็นซีอีโอและยังเป็นหลานของประธานบริหารบริษัทแม่ซัมซุงอีกด้วย (ตามแหล่งข่าว) และเคสนี้ก็ยังได้รับรองจากซัมซุงอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อย

Smart Case นี้มีมาให้ทั้งหมด 5 สี มีหน้าตาและวิธีใช้ที่คล้ายคลึงกับ Smart Cover ของแอปเปิล สามารถพับเป็นสามเหลี่ยมเพื่อตั้งหรือเป็นฐานรองให้ Galaxy Tab 10.1 ได้ด้วย แต่ที่ต่างกันคือมันไม่มีแถบแม่เหล็ก จึงต้องหุ้มด้านหลังเครื่องเป็นเคสแทน หากสงสัยว่าหน้าตาเป็นอย่างไร ดูได้ที่ท้ายข่าวครับ

สำนักข่าว Reuters รายงานว่าบริษัท TSMC จากไต้หวันได้ถูกรับเลือกเป็นผู้ทดลองผลิตชิป A6 ของแอปเปิลแล้ว โดยแหล่งข่าวบอกว่าแอปเปิลกำลังจะทยอยย้ายฐานผลิตชิป จากเดิมที่ผลิตโดยซัมซุง มาเป็นผู้ผลิตรายอื่นแทน

ส่วนสาเหตุที่ TSMC ยังเป็นเพียงแค่ผู้ "ทดลองผลิต" เนื่องจาก yield rate ที่ยังค่อนข้างต่ำอยู่ในขณะนี้ เมื่อ TSMC สามารถที่จะเดินสายผลิตเต็มที่ได้ตามที่แอปเปิลต้องการแล้ว บริษัทจึงจะได้รับคำสั่งจากแอปเปิลให้เป็นผู้ผลิตอย่างเต็มตัวในภายหลัง

เพึ่งจะมีข่าวการเปิดให้สั่งจองเน็ตบุ๊กพลังแสงอาทิตย์ล่วงหน้าบนเว็บไซต์อเมซอนไปไม่นาน แต่ล่าสุดก็มีข่าวว่าซัมซุงจะเลื่อนการวางจำหน่ายออกไปถึงราวกลางหรือปลายเดือนสิงหาคม อันเนื่องมาจากความล่าช้าของแผงโซลาร์เซลล์ที่ทำขึ้นโดยเฉพาะนั่นเอง

ที่มา: Liliputing ผ่าน Engadget

ที่งาน Worldwide Partner Conference 2011 วันที่สอง ไมโครซอฟท์ได้เผยสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่ใช้ Windows Phone "Mango" จากเอเซอร์ (อาจเป็นตัวเดียวกับที่เอเซอร์โชว์ที่งาน Computex) ฟูจิตสึ ซัมซุง และ ZTE โดยไฮไลท์ของการโชว์นี้เป็นสมาร์ทโฟนจากซัมซุงที่ตัวเครื่องบางและหน้าตาเครื่องออกมาแนวเดียวกับ Galaxy S II

หน้าตาสมาร์ทโฟนทั้งหมดจะเป็นอย่างไรเชิญชมได้ที่ท้ายข่าวครับ

ที่มา: PocketNow, WinRumors

เว็บไซต์อเมซอนได้เปิดให้สั่งจองเน็ตบุ๊กพลังแสงอาทิตย์รุ่น NC215s จากซัมซุงแล้ว สนนราคาอยู่ที่ 399 ดอลลาร์ (ราว 12,300 บาท) มาพร้อมกับสเปคดังนี้

The Globe and Mail รายงานว่าแอปเปิลอาจจะเลิกจ้างซัมซุงในการผลิตชิ้นส่วนให้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ของแอปเปิลแล้ว โดยทั้งหมดนี้เกิดจากปัญหาความสัมพันธ์ที่แย่ลงระหว่างสองบริษัทนี้ หลังจากการต่อสู้คดีละเมิดสิทธิบัตรกันและกัน

ในรายงาน ความสัมพันธ์ระหว่างแอปเปิลกับซัมซุงทางด้านสายการผลิตมีมูลค่าสูงถึง 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ทั้งหมดนี้สามารถดูได้จากรายงานผลประกอบการของซัมซุงครั้งล่าสุด โดยกำไรของส่วนผลิตชิ้นส่วน semiconductor และจอภาพของซัมซุงนั้นลดลงถึง 3.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจจะเป็นผลของการที่แอปเปิลได้เลิกจ้างซัมซุงในการผลิตชิป A5 และจอภาพสำหรับไอโฟนและไอแพ็ด

ท่ามกลางกระแสความนิยมสมาร์ทโฟนที่พวยพุ่งอย่างไม่หยุดยั้ง วันนี้ผมก็จะมาขอแชร์ประสบการณ์
การใช้งานสมาร์ทโฟน "สองหัว" จากสองค่ายใหญ่ ได้แก่ Motorola Atrix และ Samsung Galaxy SII เผื่อจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆ บ้างนะครับ ^^

อนึ่ง เนื่องด้วยทั้งสองตัวก็มีรีวิวออกมาพอสมควร ดังนั้นบทความนี้ผมจะพูดถึงความต่างระหว่างทั้งสองตัวเป็นหลัก และแทรกเรื่องอื่นๆ ที่บทความอื่นอาจไม่มีเป็นรองนะครับ ส่วนรูปผมไม่เน้นครับ

แนะนำผู้แข่งขัน

ฝ่ายซ้าย: Motorola Atrix
โทรศัพท์มือถือ dual-core ที่วางขายตัวแรกของโลก (LG 2X เปิดตัวรุ่นแรกของโลก)

ซัมซุงเผยว่าเตรียมที่จะปล่อยอัพเดตให้กับ Galaxy Tab 10.1 เร็วๆ นี้ อัพเดตประกอบด้วย

ประเด็นเรื่องสิทธิบัตร Android ที่ไมโครซอฟท์ "ขู่-ฟ้อง-คิดเงิน" บริษัทฮาร์ดแวร์หลายแห่งเริ่มขยายขนาดไปเรื่อยๆ ล่าสุดมันมาถึงซัมซุงแล้ว (ซึ่งซัมซุงก็เผชิญศึกสิทธิบัตรกับแอปเปิลอยู่อีกทาง)

ข่าวนี้ยังไม่เป็นทางการ ต้นทางมาจากหนังสือพิมพ์ Maeil Business ของเกาหลีใต้ ระบุว่าไมโครซอฟท์ได้เรียกร้องให้ซัมซุงยอมจ่ายค่าสิทธิบัตรเป็นเงิน 15 ดอลลาร์ต่อมือถือ Android หนึ่งเครื่องที่ขายออกไป ส่วนซัมซุงเองก็พยายามต่อรองมาเหลือ 10 ดอลลาร์ต่อเครื่อง แลกกับแรงสนับสนุน Windows Phone ให้ไมโครซอฟท์

ถ้าข่าวนี้เป็นจริง ถือว่าตัวเลข 15 ดอลลาร์ค่อนข้างแพงทีเดียว เพราะกรณีของ HTC มีข่าวออกมาว่าเครื่องละ 5 ดอลลาร์

WebCL เป็นมาตรฐาน API สำหรับการเข้าใช้ GPU ประมวลผลผ่านทางจาวาสคริปต์ หลังจากที่ Khronos ได้ประกาศมาตรฐานไปตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา วันนี้เราก็เริ่มเห็นตัวอย่างที่สามารถใช้งานจริงได้แล้ว โดยฝั่ง WebKit นั้นซัมซุงเป็นผู้พัฒนา ส่วนทาง Firefox 4 นั้นทางโนเกียเป็นผู้พัฒนา

มาตรฐาน WebCL ยังถูกตั้งคำถามในเรื่องของความปลอดภัยอยู่อีกมาก เพราะมันเป็นเพียงการพอร์ต API ของ OpenCL ซึ่งเป็น API ระดับล่างขึ้นมาอยู่บนเว็บโดยตรง จึงน่าสงสัยว่ามันจะปลอดภัยจากการโจมตีเพียงไร อย่างไรก็ดี มาตรฐาน WebCL นั้นยังไม่นิ่งเหมือน WebGL ที่ล้อมาจาก OpenGL

เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม Galaxy S II สามารถทำยอดขายแตะ 1 ล้านเครื่อง มาวันนี้ตัวเลขขึ้นไปที่ 3 ล้านเครื่องแล้ว โดยใช้เวลารวม 55 วันหลังวางขาย

ตัวเลข 55 วันถือว่าน่าสนใจมาก เพราะ Galaxy S รุ่นแรกใช้เวลา 85 วันในการขายให้แตะหลัก 3 ล้านเครื่อง นั่นแปลว่า Galaxy S II ขายได้เร็วกว่าเดิมถึง 30 วัน และในช่วงที่ขายดีที่สุด อัตราการขายสูงถึง 1 เครื่องทุกๆ 1.5 วินาที

ตอนนี้ซัมซุงตั้งเป้า 10 ล้านเครื่อง ซึ่งก็เป็นไปได้สูงเพราะ Galaxy S II ยังไม่ได้วางขายในสหรัฐ ยังมีตลาดเหลืออีกมาก

ที่มา - Electronista