Samsung วางแผนขยายสำนักงานใหม่ใน Silicon Valley มูลค่ากว่า 300 ล้านดอลลาร์

Samsung นั้นมีสำนักงานอยู่ในบริเวณ Silicon Valley อยู่ก่อนแล้ว โดยแต่เดิมมีพนักงานทำงานอยู่ราว 350 คน แต่เพราะการเติบโตของธุรกิจและองค์กรทำให้ Samsung ต้องการพื้นที่ทำงานให้กับพนักงานที่เพิ่มมากขึ้น จึงเป็นที่มาของโครงการสร้างสำนักงานใหม่ซึ่งว่าจ้างบริษัทสถาปนิก NBBJ ให้ออกแบบอาคารสำนักงานในรูปแบบล้ำสมัย มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 1.1 ล้านตารางฟุต พร้อมรองรับพนักงานมากกว่า 2,000 คน เน้นการใช้งานเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาบริการและผลิตภัณฑ์

รวมข่าวของ Galaxy Note III ซึ่งเป็นมือถือระดับเรือธงอีกตัวของซัมซุงที่รอเปิดตัวอยู่ครับ

หลังจากบล็อกเกอร์รัสเซีย Eldar Murtazin ออกมาสร้างกระแสข่าวว่า Tizen ตายแล้ว สร้างความหวั่นกลัวให้แฟนๆ ผู้เฝ้ามอง Tizen อยู่ห่างๆ

ล่าสุดทั้งอินเทลและซัมซุงออกมาแก้ข่าวแล้ว โดยต่างฝ่ายต่างออกแถลงการณ์สั้นๆ ว่ายังมุ่งมั่นพัฒนา Tizen อยู่เช่นเดิม แต่ก็ไม่ยอมบอกเหมือนเดิมว่าเราจะได้เห็นมือถือ Tizen ตัวเป็นๆ กันเมื่อไรครับ

ในแถลงการณ์ของฝั่งอินเทลยังคุยด้วยว่าเพิ่งออกซอร์สโค้ดของ Tizen 2.1, Tizen IVI 2.0, Tizen 2.2 Beta SDK มาสดๆ ร้อนๆ เมื่อวันก่อนนี้เอง

เป็นข่าวต่อเนื่องจากแผนการตลาดของซัมซุง ที่ให้ผู้ใช้ Samsung Galaxy ดาวน์โหลดแอพ Magna Carta บน Google Play เพื่อฟังเพลงของศิลปิน Jay-Z อัลบั้ม Magna Carta Holy Grail ได้ก่อนใคร 72 ชั่วโมงครับ โดยนักวิจารณ์เพลง Jon Pareles แห่ง The New York Times ติงว่าแอพตัวนี้รุกล้ำความเป็นส่วนตัวผู้ใช้งานมากเกินไป มีรายละเอียดคือ

ซัมซุงเผยยอดคาดการณ์ผลประกอบการประจำไตรมาสที่สองของปี 2013 มีกำไรจากการประกอบกิจการ (operating profit) 9.5 ล้านล้านวอน (8.3 พันล้านดอลลาร์) ถือเป็นสถิติใหม่ของบริษัท และเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 47% (รายรับ 57 ล้านล้านวอน โตขึ้นจากปีก่อนที่ได้ 47.6 ล้านล้านวอน)

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์สายการเงินประเมินไว้ว่าควรจะทำได้ 10 ล้านล้านวอน ซึ่งเหตุผลหลักมาจากยอดขายมือถือรวมของซัมซุง 74 ล้านเครื่องนั้นน้อยกว่าที่คาดไป 2 ล้านเครื่อง แถม Galaxy S4 ยังขายได้น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ (แม้จะขายได้ 20 ล้านเครื่องแต่ยังไม่พอ)

เพิ่งมีข่าวลือว่า Tizen เลื่อนกำหนดเป็นไตรมาสสี่ของปี ไม่ทันไร ล่าสุดมีข่าวลือมาจาก Eldar Murtazin บล็อกเกอร์มือถือชื่อดังชาวรัสเซีย (ที่ได้มือถือรุ่นใหม่มาเล่นก่อนใครเพื่อนอยู่เรื่อยๆ) ว่า Tizen ไปไกลอาจถึงขั้น "เจ้าตายแล้ว"

Eldar ทวีตข้อความว่า Tizen เกือบตาย (almost dead) และโครงการถูกยกเลิกแล้ว เขายังตั้งข้อสังเกตว่าซัมซุงอาจปล่อยมือถือ Tizen แค่เพียงรุ่นเดียวในปี 2014 (แนวเดียวกับ MeeGo/N9?)

นอกจากนี้เขายังให้ข้อมูลเพิ่มว่าอินเทลจะย้ายทรัพยากรไปพัฒนาโครงการ connected device ตัวอื่นที่อิงจาก Android แทน

หนึ่งในบริการสำคัญสำหรับคนที่ใช้กล่อง set-top box ของ Boxee นั่นคือ Boxee Cloud DVR ซึ่งมีไว้สำหรับการสตรีมมิ่งรายการผ่านกล่องและระบบของ Boxee แต่เมื่อซัมซุงซื้อกิจการไปเรียบร้อยแล้ว ทาง Boxee ประกาศว่าจะปิดบริการดังกล่าวลงในวันที่ 10 กรกฎาคมนี้

ทั้งนี้ใครที่ดาวน์โหลดแอพในระบบ Boxee, กล่อง Boxee Box และส่วนเสริมสำหรับการดูรายการสดยังคงสามารถใช้บริการได้ครับ

ที่มา: Engadget

มีรายงานว่าซัมซุงเข้าซื้อ Boxee บริษัททำ set-top box ที่ทำทั้งซอฟต์แวร์ แล้วขยายมาทำฮาร์ดแวร์ภายหลังในชื่อ Boxee Box

ตัวเลขการเข้าซื้อครั้งนี้มีมูลค่าประมาณ 30 ล้านเหรียญ โดยพนักงานจำนวน 45 คนของ Boxee ทั้งออฟฟิซในนิวยอร์ก และอิสราเอลจะเข้ามาร่วมงานกับซัมซุง ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการเข้าซื้อครั้งนี้

แทบไม่ต้องเดาว่าซัมซุงคงใช้เทคโนโลยีของ Boxee มาเสริมไลน์ Smart TV ของซัมซุง รวมถึงส่วนอุปกรณ์เชื่อมต่อในบ้านด้วย แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะลงมาถึงไลน์ทีวีทั่วไปด้วยหรือไม่

ที่มา - AllThingsD

สำนักข่าว inews24 ของเกาหลีใต้รายงานข้อมูลวงในว่า ซัมซุงจำเป็นต้องเลื่อนเปิดตัวมือถือ Tizen ออกไปเป็นช่วงไตรมาสที่สี่ของปีนี้ เนื่องจากปัญหาในการพัฒนาระบบ App Store ร่วมกันพันธมิตร ที่ต้องใช้เวลานานเกินคาด

ก่อนหน้านี้ซัมซุงเคยประกาศว่าจะขาย Tizen ช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายนนี้ แต่ถ้าข่าวเรื่องการเลื่อนเป็นจริง เราอาจได้เห็นแค่การเปิดตัว Tizen ในงาน IFA ช่วงเดือนกันยายน และได้เห็นเครื่องจริงวางขายช่วงไตรมาสที่สี่แทนครับ

ที่มา - inews24 via SamMobile

สำนักข่าว iNews และ Yonhab ของเกาหลีรายงานว่าซัมซุงสามารถขาย Galaxy S4 ได้ทั้งสิ้น 20 ล้านเครื่องทั่วโลก หลังจากเมื่อประมาณ 1 เดือนก่อนหน้านี้ทางซัมซุงก็ประกาศความสำเร็จที่ Galaxy S4 สามารถขายได้ 10 ล้านเครื่องอย่างเป็นทางการ

เคราะห์ซ้ำกรรมซัดไม่หยุดจริงๆ ล่าสุดหลังจากกรณีการแอบไปหาซัมซุงมาไม่กี่อาทิตย์ Digitimes มีรายงานเข้ามาเพิ่มเติมว่า ผู้ผลิตรายอื่นๆ ทั้งโซนี่, หัวเว่ย, ZTE และเลอโนโว ตัดสินใจที่จะไม่ทำสมาร์ทโฟนพรีโหลด Facebook Home แล้ว หลังกระแสตอบรับของ Facebook Home ที่เปิดให้ดาวน์โหลดอยู่ใน Google Play ยังไม่ดีขึ้นและได้เสียงข้างลบมาตลอด

การประกาศถอนตัวของผู้ผลิตในครั้งนี้สาเหตุส่วนหนึ่งก็มาจากการที่ซัมซุงไม่สนใจที่จะพัฒนา Facebook Phone ให้ และผู้พัฒนารายอื่นๆ ก็ยังหาความแน่นอนเรื่องการเปิดให้ดาวน์โหลด Facebook Home บน Android รุ่นอื่นๆ จาก Facebook ยังไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

แอปเปิลได้เซ็นสัญญากับ TSMC ให้เป็นผู้ผลิตชิปตระกูล A-series สำหรับอุปกรณ์ iOS ของแอปเปิลเริ่มต้นปีหน้า โดย TSMC จะเริ่มใช้เทคโนโลยีสถาปัตยกรรมขนาด 20 นาโนเมตรในการผลิตชิปให้แก่แอปเปิล

ในรายงานระบุว่าทั้งสองบริษัทเริ่มเจรจากันตั้งแต่ปี 2010 แล้ว แต่เพราะข้อจำกัดทางเทคนิค ทำให้ TSMC ไม่สามารถผลิตชิปได้มากพอที่แอปเปิลต้องการ อีกทั้ง yield rate ที่ไม่ดีพอ ทำให้แอปเปิลไม่ได้เซ็นสัญญากับ TSMC อย่างเป็นทางการ

ซัมซุงประกาศถอนตัวจากธุรกิจพีซีเดสก์ท็อปด้วยเหตุผลว่าความต้องการพีซีแบบเดสก์ท็อปลดลง โดยจะหันไปเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์พีซีโน้ตบุ๊กแบบออลอินวัน ไฮบริด และแท็บเล็ตแทน

ตอนนี้ซัมซุงกำลังปรับโครงสร้างองค์กรฝ่ายพีซีใหม่ให้ไปในทิศทางนี้ เพื่อให้สายธุรกิจพีซีมีกำไรมากขึ้น

ถึงแม้ซัมซุงอาจไม่ใช่ผู้ผลิตพีซีระดับท็อปๆ แต่ก็ถือเป็นรายใหญ่ของตลาดอีกรายหนึ่ง และการถอนตัวของซัมซุงจากตลาดเดสก์ท็อปคงเป็นสัญญาณหนึ่งว่าพีซีเดสก์ท็อปเริ่มจะ "ตกยุค" แล้ว

ที่มา - The Korea Times

รายงานส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนล่าสุดของ comScore ในสหรัฐอเมริกา พบว่าซัมซุงเป็นแบรนด์ที่มีส่วนแบ่งตลาดเติบโตเร็วกว่าแอปเปิล แต่ยังคงเป็นผู้ผลิตอันดับสองรองจากแอปเปิลอยู่ ส่วนผู้ผลิต Android รายอื่นต่างก็เสียส่วนแบ่งตลาดให้แก่แอปเปิล ไม่ก็ซัมซุง

รายละเอียดส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนตามยี่ห้อ สรุปได้ตามนี้ครับ (ข้อมูลชุดนี้มาจากเดือน มี.ค. ถึง พ.ค. ปี 2013)

IDC ได้เผยตัวเลขส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนของยุโรปในไตรมาสแรกของปี 2013 แล้ว โดยภาพรวมของตลาดสมาร์ทโฟนยุโรปยังคงเติบโตอยู่ แต่โตช้าลงที่ 4.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2012 นับว่าเป็นยอดเติบโตที่ช้าที่สุดตั้งแต่ IDC เก็บตัวเลขมา

เมื่อมาดูส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนยุโรปตามยี่ห้อมือถือแล้ว พอสรุปได้ตามนี้ครับ (ตัวเลขทั้งหมดเป็นยอดเฉพาะไตรมาสแรกของปี 2013 เทียบกับปี 2012)

ซัมซุงรีบเปิดโต๊ะเจรจากับคณะกรรมการบริหารยุโรป (European Commission) หลังจากที่การต่อสู้คดีกันระหว่างแอปเปิลกับซัมซุงในชั้นศาลเผยว่าซัมซุงใช้ข้อตกลง FRAND​ ในทางที่ผิด เพื่อบีบให้ผู้ประกอบการรายอื่นบางราย ต้องจ่ายค่าส่วยในราคาที่สูงกว่ารายอื่น

ก่อนหน้านี้ ซัมซุงได้ใช้วิธีนี้ในการบีบให้แอปเปิลต้องจ่ายค่าส่วยที่สูง หากแอปเปิลปฏิเสธที่จะจ่ายค่าส่วยที่ราคานี้ แอปเปิลจะถูกซัมซุงฟ้องแบนการขายสินค้า เนื่องจากละเมิดสิทธิบัตร แต่ตามข้อตกลง FRAND สิทธิบัตรที่ถือว่าเป็นสิทธิบัตรมาตรฐานสำหรับอุตสาหกรรม (กรณีนี้ เทคโนโลยี 3G UMTS) เจ้าของสิทธิบัตรจะต้องเก็บค่าส่วยในราคาที่เหมาะสม ยุติธรรม และไม่เลือกปฏิบัติ

เมื่อวานนี้ทางซัมซุงประเทศไทยเปิดตัวสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ตชุดใหม่ที่เตรียมวางขายในเดือนกรกฎาคมรวดเดียวสิบรุ่น ไล่ตั้งแต่รุ่นถูกสุดไปจนถึงรุ่นแพงสุดดังนี้ครับ

ซัมซุงชี้แจงวันนี้ว่าบริษัทได้ตัดสินใจปิดแผนกธุรกิจพีซีตั้งโต๊ะแบบดั้งเดิม เนื่องจากยอดขายที่ถดถอยลงอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทจะย้ายทีมงานมาช่วยส่วนธุรกิจอย่างแท็บเล็ต, โน้ตบุ๊ก และออลอินวันพีซี ที่ยังมีกำไรเติบโตได้ดี

เรื่องนี้สอดคล้องกับการเปิดสินค้าของซัมซุงเมื่อสัปดาห์ก่อน ทั้งแท็บเล็ต, โน้ตบุ๊ก และออลอินวันพีซี นั่นเองครับ

ที่มา: The Korea Times

เมื่อต้นปีซัมซุงเปิดตัว HomeSync กล่องสำหรับเก็บข้อมูล-เครื่องเล่นมัลติมีเดียในบ้านไป วันนี้ซัมซุงเปิดตัว HomeSync Lite ซอฟต์แวร์สำหรับทำให้พีซีซัมซุงกลายเป็นกลุ่มเมฆส่วนตัวโดยไม่มีค่าใช้จ่ายรายเดือน

ฟีเจอร์หลักของ HomeSync Lite คือการแบ็กอัพ ซิงก์ และเข้าถึงข้อมูลจากอุปกรณ์อื่นอย่าง สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต กล้อง ได้ตลอดเวลา โดยรองรับการเชื่อมต่อกับหน่วยความจำภายนอกด้วย

เครื่องที่ใช้เป็นแม่ข่าย HomeSync Lite หนึ่งเครื่องจะรองรับบัญชีผู้ใช้ของซัมซุงได้สูงสุด 5 บัญชี และแต่ละบัญชีสามารถใช้กับอุปกรณ์ได้ไม่เกิน 6 ชิ้น

ในที่สุดก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในงาน Galaxy Premier 2013 สำหรับ Galaxy NX ที่มีรูปหลุดมาก่อนหลายวัน

ซัมซุงเคลมว่า Galaxy NX เป็นกล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ตัวแรกของโลกที่สามารถเชื่อมต่อ LTE ส่วนสเปคก็ออกมาเหลือกินสมเป็นตัวต่อของ Galaxy Camera ดังนี้ครับ

สเปคฝั่งกล้องใช้เซนเซอร์ขนาด APS-C ความละเอียด 20.3 เมกะพิกเซล ถ่ายรัวสูงสุด 8.6 ภาพต่อวินาที เร่ง ISO ได้ตั้งแต่ 100-25600 ถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 1080p 50 เฟรมต่อวินาที ช่องมองภาพไฟฟ้าความละเอียด 800x600 พิกเซล พร้อมทั้งโหมดช่วยถ่ายอีกกว่า 30 รูปแบบ รองรับเลนส์เมาท์ NX ทั้งแบบปกติ และเลนส์สามมิติ

ทางฝั่งมือถือเรียกได้ว่าเป็นระดับท็อปของซัมซุงก็ว่าได้ ดังนี้ครับ

ที่งาน Galaxy & ATIV ที่กรุงลอนดอน นอกจากแล็ปท็อปแปลงร่างเป็นแท็บเล็ตได้ ATIV Q กับแท็บเล็ต ATIV Tab 3 แล้ว ซัมซุงยังเปิดตัวฮาร์ดแวร์รัน Windows 8 กลุ่มอัลตร้าบุ๊กและออลอินวัน ดังนี้

ATIV Book 9 Plus

ATIV Book 9 Plus เป็นตัวต่อ ATIV Book 9 ซัมซุงโฆษณาว่าสามารถบูตเข้า Windows ได้ในเวลาเพียง 6 วินาที และสามารถปลุกเครื่องจากโหมด sleep ได้ในเวลาไม่ถึง 1 วินาที ส่วนสเปคเป็นดังนี้

ที่งาน Galaxy & ATIV ที่กรุงลอนดอน ซัมซุงเปิดตัวฮาร์ดแวร์หลากรุ่น เลยขอแบ่งฮาร์ดแวร์กลุ่มไฮบริดและแท็บเล็ตมาเล่าสู่กันฟังก่อน ดังนี้

ATIV Q

ATIV Q แล็ปท็อปที่สามารถแปลงร่างเป็นแท็บเล็ตได้คล้ายเอเซอร์ Aspire R7 มีสองระบบปฏิบัติการในตัว คือ Windows 8 และ Android 4.2.2 (ที่รันเป็น VM บน Windows 8 อีกที) ผู้ใช้สามารถสลับไปใช้ระบบปฏิบัติการ Android ได้ทันทีเสมือนเป็นแอพหนึ่งบน Windows นอกจากนั้นผู้ใช้สามารถปักหมุด (pin) แอพ Android มาบน Windows ได้ และสามารถส่งไฟล์และแบ่งปันโฟลเดอร์กับไฟล์จาก Windows 8 ไป Android ได้ ส่วนสเปคเป็นดังนี้

หลังจากที่เดือนก่อน เราได้เห็น NEC เปิดตัว Medias X ซึ่งเป็นโทรศัพท์รุ่นแรกที่ระบายความร้อนด้วยของเหลว ตอนนี้ดูเหมือนว่าผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายอื่นๆ ก็เริ่มขยับตัวเพื่อไล่ตามเทคโนโลยีนี้กันบ้างแล้ว

มีรายงานจากหนังสือพิมพ์ The Korea Herald ของเกาหลีใต้ว่า Mark Zuckerberg บินตรงไปยังเกาหลีใต้ เพื่อพบกับ Lee Jay-yong ผู้บริหารใหญ่ของซัมซุง และ Shin Jong-kyun ผู้บริหารผลิตภัณฑ์สายโทรศัพท์มือถือของซัมซุง โดยมีจุดประสงค์หลักของการพบกันในครั้งนี้คือ การหาแนวทางและวางแผนความร่วมมือในการการทำ Facebook Phone ตัวใหม่ครับ

ถ้าจำได้ Facebook Phone อย่างเป็นทางการตัวแรกอย่าง HTC First ที่ผลิตโดยเอชทีซีนั้น ล้มเหลวไม่เป็นท่าจน AT&T ต้องประกาศลอยแพ และยกเลิกการขายในเวลาต่อมา และแผนการเปิดตัว HTC First ที่อังกฤษต้องถูกเลื่อนไปอย่างไม่มีกำหนด ซึ่งก็ตามรอยรุ่นพี่อย่าง HTC ChaCha และ HTC Salsa ไปนั่นเอง

เพิ่งมีโน้ตบุ๊กที่ใช้หน่วยความจำ SSD แบบต่อผ่าน PCIe ออกมาเพียงสองรุ่น (VAIO Pro และ MacBook Air ตัวใหม่) เสือปืนไวอย่างซัมซุงก็เริ่มนำ PCIe SSD มาผลิตจำนวนมากเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดย PCIe SSD ซีรีส์ใหม่อย่าง XP941 รุ่นแรกของบริษัทนั้นทำความเร็วเขียนไฟล์ได้ถึง 1.4GB/s ซึ่งเร็วกว่า SSD ที่ต่อผ่าน SATA ที่เร็วสุดในปัจจุบันอย่าง SanDisk Extreme II ถึง 2.5 เท่าตัวเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ซัมซุงยังไม่บอกว่ามีผู้ผลิตรายไหนสั่งเจ้า SSD ที่ว่าไปใช้แล้วบ้าง หรือมีแผนใช้กับโน้ตบุ๊กของตัวเองเมื่อไหร่ (แต่เดากันไม่ยาก รายแรกน่าจะเป็น MacBook Air นี่แหละครับ)