จากกรณี ฟีเจอร์ของ Galaxy S4 เยอะเกินไป ทำพื้นที่ใช้งานหายไปเกือบครึ่ง และ ซัมซุงชี้แจง "เราถึงมีช่องใส่ MicroSD ให้"

ปัญหานี้เป็นที่จับตาในต่างประเทศในด้านการคุ้มครองผู้บริโภค (จากพื้นที่ความจุที่โฆษณาเกินจริง) ถึงขนาดว่าสถานีโทรทัศน์ BBC ทำสกู๊ปเรื่องนี้เป็นพิเศษ กระแสความกดดันนี้ทำให้ท่าทีของซัมซุงเปลี่ยนไปจากเดิมบ้างแล้ว

ตัวแทนของซัมซุงให้ข้อมูลกับ CNET UK ว่ารับทราบปัญหา และกำลังหาวิธีลดขนาดของไฟล์ระบบให้มีขนาดเล็กลง เพื่อให้ผู้ใช้มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น

จากผลการประเมินกำไรของฮาร์ดแวร์ Android ทั้งหมดในไตรมาสแรกของปีนี้ (ตามเวลาปฏิทินปรกติ) โดย Strategy Analytics พบว่าซัมซุง มีส่วนแบ่งกำไรอยู่ที่ 94.7% เป็นมูลค่า 5.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนบริษัทที่มีส่วนแบ่งกำไรอันดับสองอยู่ที่ LG มีส่วนแบ่งอยู่ที่ 2.5% เป็นมูลค่า 119 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ในส่วนของ HTC, Sony, ZTE และผู้ผลิตรายอื่น ๆ ทำกำไรได้น้อยมาก เลยถูกรวมอยู่ในกลุ่ม "ผู้ผลิตอื่น ๆ" ที่มีส่วนแบ่งรวมกันทั้งหมดต่ำกว่า 2.7%

หากใครต้องการข้อมูลเปรียบเทียบ แอปเปิลทำกำไรได้ 7.1 พันล้านดอลลาร์ นับเป็น 57% ของกำไรอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนทั้งหมด ส่วนซัมซุงอยู่ที่ 40.8%

ตัวแทนของซัมซุงให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้ The Chosun Ilbo ถึงยอดขายอันร้อนแรงของ Galaxy S4 ที่ทำลายสถิติของรุ่นพี่ๆ ลงอย่างราบคาบ

• นับตั้งแต่เริ่มขาย 26 เมษายน ใช้เวลา 5 วันขายได้ 4 ล้านเครื่อง (S1 ใช้เวลา 85 วันขายได้ 3 ล้านเครื่อง, S2 ใช้ 55 วัน, S3 ใช้ 21 วัน)
• ยอดขายปัจจุบันนับถึงวันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม ขายได้ 6 ล้านเครื่องแล้ว
• ตั้งเป้าขายได้ 10 ล้านเครื่องในช่วงสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้

ที่มา - The Chosun Ilbo via Android Central

Samsung ได้ออกมาแถลงเมื่อวันจันทร์ว่าจะลงทุนตั้งมูลนิธิด้วยเงินประมาณ 1.34 พันล้านดอลลาร์ โดยมูลนิธิดังกล่าวจะมุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมต่างๆ ด้วยเทคโนโลยีแห่งโลกยุคใหม่

ชื่อของมูลนิธิดังกล่าวคือ Samsung Future Technology Foundation ซึ่งจะมีภารกิจหลักสนับสนุนนักวิจัย, ธุรกิจสตาร์ทอัพ หรือผู้ประกอบการรายย่อยทั้งหลายในการปรับปรุงเทคโนโลยีสำหรับวงการไอทีในทุกด้าน ทั้งฮาร์ดแวร์, ซอฟต์แวร์, เทคโนโลยีด้านวัสดุ และกระบวนการผลิตอุปกรณ์ต่างๆ

ทางอเมซอนยอมรับเมื่อวันจันทร์ว่าได้ซื้อกิจการบริษัท Liquavista จากซัมซุง ด้วยวงเงินที่ไม่เปิดเผย (ลือกันว่าน้อยกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งน้อยกว่าที่ซัมซุงซื้อบริษัทนี้มาจาก Philips เมื่อต้นปี 2011)

สำนักข่าว Yonhap จากประเทศเกาหลีใต้รายงานว่า ซัมซุงกำลังทดสอบการใช้งานเครือข่ายมือถือ 5G อยู่ และตอนนี้บริษัทสามารถทำให้เครื่องลูกข่ายสามารถดึงข้อมูลได้ที่ความเร็ว 1Gbps แล้ว โดยตัวเครื่องลูกข่าย จะต้องมีเสาอากาศ (antenna element) มากถึง 64 เสาด้วยกัน ถึงจะทำความเร็วนี้ได้

ซัมซุงบอกว่าเทคโนโลยีดังกล่าว จะพร้อมที่จะนำมาใช้ทำตลาดได้จริง ภายในปี 2020 ซึ่งตรงกับเป้าหมายที่คณะกรรมการบริหารสหภาพยุโรป (European Commission) ตั้งเป้าไว้พอดี

ที่มา - Engadget

หลังจากรอคอยกันมายาวนาน ซัมซุงก็ออกอัพเดต Android 4.1 Jelly Bean ให้กับแท็บเล็ตพรีเมียม Galaxy Tab 7.7 GT-P6800 แล้ว ข้อมูลเฟิร์มแวร์มีดังนี้

• Android 4.1.2
• Date: 04 – 22 – 2013
• PDA: P6800DXMD3
• CSC: P6800OLBMD3

ภูมิภาคแรกที่ได้อัพคือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (รวมประเทศไทย) ใครใช้ Tab 7.7 อยู่ก็สามารถอัพได้ผ่าน OTA หรือ Kies ครับ

ที่มา - SamMobile

รายงานล่าสุดจาก iSuppli บอกว่าต้นทุนชิ้นส่วน Galaxy S4 ของซัมซุงอยู่ที่เครื่องละ 237 ดอลลาร์ หรือประมาณ 6,970 บาทต่อเครื่อง โดยข้อมูลนี้มาจากการวิเคราะห์ชิ้นส่วนทีละชิ้น และไม่รวมต้นทุนเรื่องการวิจัยและพัฒนา

ราคาต้นทุนนี้ เป็นราคาของเครื่อง Galaxy S4 รุ่นที่ 32GB ที่วางขายในสหรัฐอเมริกา ในขณะที่รุ่นที่วางขายนอกสหรัฐฯ มีต้นทุนสูงกว่าเล็กน้อยที่เครื่องละ 245 ดอลลาร์เพราะชิปที่ซัมซุงทำเองมีต้นทุนสูงกว่าชิปจาก Qualcomm

เพื่อเป็นการเปรียบเทียบ ต้นทุน iPhone 5 รุ่น 32GB อยู่ที่ 209 ดอลลาร์สหรัฐ (อ่านข่าวเก่า) แม้ว่าตัวเครื่องจะไม่ได้ทำจากพลาสติกก็ตาม

เว็บไซต์ SamMobile ให้ข้อมูลหลุดของมือถือพี่น้องตระกูล Galaxy S4 รุ่นข้างเคียงอีก 3 รุ่นครับ

มีรายงานว่า ซัมซุงจะส่งอัพเดตแรกให้ Galaxy S4 ในเร็วๆ นี้ โดยเป็นอัพเดตเรื่องความปลอดภัยของตัวเครื่อง แต่ประเด็นสำคัญคือในอัพเดตนี้ซัมซุงจะเปลี่ยนเคอร์เนลของตัวเครื่อง Galaxy S4 ใหม่ และจะทำให้การรูทตัวเครื่องไม่สามารถทำได้อีกต่อไปครับ

หลังจากผู้บริหารของ Samsung เคยให้สัมภาษณ์ว่าจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Tizen ภายในปีนี้ราวเดือนสิงหาคม-กันยายน ล่าสุดมีผู้ไปพบเลขรหัสอุปกรณ์ที่อาจจะเป็นสมาร์ทโฟนตัวที่ว่า คือ GT-I8800 และ GT-I8805

เว็บไซต์ Blog of Mobile จากญี่ปุ่นเป็นผู้ค้นพบเลขรหัสอุปกรณ์ดังกล่าว ซึ่งเป็นเลขของอุปกรณ์ที่ยังไม่เปิดตัวของ Samsung โดยเฉพาะอุปกรณ์รุ่น GT-I8805 นั้นมีข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจระบุไว้ว่า Mozilla/5.0 (Linux; U; Tizen 2.1; en-us; SAMSUNG GT-I8800) AppleWebKit/537.1 (KHTML, like Gecko) Version/2.1.0 Mobile

comScore ได้เผยตัวเลขส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนของสหรัฐอเมริกาในไตรมาสแรกของปีนี้ พบว่ามีเพียงแค่แอปเปิลและซัมซุงเท่านั้นที่มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่ม โดยแอปเปิลยังเป็นอันดับหนึ่ง มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มจากไตรมาสก่อนหน้า 36.3% มาอยู่ที่ 39.0% ส่วนซัมซุงเพิ่มจาก 21.0% มาอยู่ที่ 21.7% โดยสำหรับแอปเปิลแล้วนี่ถือว่าเป็นส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนที่สูงที่สุดในประวัติของบริษัท

ขณะที่ผู้ผลิตรายอื่น ๆ อย่าง HTC, Motorola และ LG ต่างก็มีส่วนแบ่งตลาดที่ลดลง โดยเฉพาะ HTC ที่เสียส่วนแบ่งไปมากที่สุดที่ 1.2% จากเดิม 10.2% เหลือ 9.0%

ซัมซุงเปิดตัวโฆษณา Galaxy S4 ใหม่ โดยเน้นไปที่ซอฟต์แวร์เพิ่มเติมที่นำมาเป็นจุดขาย สำหรับครั้งนี้เนื้อเรื่องว่าด้วยงานเลี้ยงฉลองจบการศึกษา แต่ก็ยังแอบพาดพิงถึง iPhone อยู่เล็กน้อยเหมือนโฆษณา ตัวที่หนึ่ง

จากปัญหาสมาร์ทโฟนเรือธงของซัมซุง Galaxy S4 มีกระแสบางส่วนบ่นว่ารุ่นความจุเล็กที่สุด 16GB นั้นมีเนื้อที่ว่างเหลือมาน้อยเกินไป เพื่อใช้เก็บระบบปฏิบัติการและแอพพื้นฐานตัวอื่น ทางซัมซุงได้ทำจดหมายชี้แจง CNET ถึงปัญหาดังกล่าวแล้ว

ซัมซุงระบุว่า ใน Galaxy S4 รุ่นความจุ 16GB นั้น มีการใช้หน่วยความจำภายในสำหรับระบบไป 6.85GB ซึ่งเยอะกว่า Galaxy S3 ไป 1GB ทั้งนี้เพื่อให้สามารถแสดงผลภาพได้ละเอียดมากขึ้น รวมถึงรองรับแอพเสริมอื่นๆ และเพื่อให้ลูกค้าสามารถเพิ่มการใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น ซัมซุงก็ได้เพิ่มช่องใส่ MicroSD ให้สำหรับเป็นหน่วยความจำเสริม

กระทรวงกลาโหมสหรัฐ ประกาศอนุญาตให้อุปกรณ์พกพา 2 แพลตฟอร์มคือ BlackBerry 10 (รวม PlayBook) และ Samsung Knox (เริ่มใช้ใน Galaxy S4) สามารถใช้งานกับเครือข่ายภายในกระทรวงฯ แล้ว

กระทรวงฯ ต้องการเพิ่มความหลากหลายของอุปกรณ์พกพาที่มีระบบปฏิบัติการ-ผู้ผลิตที่แตกต่างกัน แต่ก็ยังต้องการความปลอดภัยในระดับสูงสำหรับข้อมูลความลับของกระทรวงฯ

คาดว่ากระทรวงฯ จะประกาศรองรับแพลตฟอร์ม iOS 6 ของแอปเปิลตามมาอีกรายหนึ่งภายในเดือนนี้

ที่มา - Reuters

เมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา Samsung ได้เปิดตัว Galaxy S4 ทั่วโลกที่นครนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา (คุณ mk ได้ไปร่วมในงานครั้งนั้นด้วย) ผ่านมาเป็นเวลาเดือนเศษ วันนี้ (3 พฤษภาคม) ก็ได้เวลาเปิดตัวในเมืองไทยอย่างเป็นทางการ โดยงานแถลงข่าวจัดขึ้นที่โรงแรม W Hotel Bangkok ตรงถนนสาทร โดยใช้ชื่องานอย่างเป็นทางการว่า "Samsung Unpacked 2013 Bangkok" ซึ่งผมมีโอกาสได้ไปเก็บบรรยากาศและรายละเอียดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องครับ

ต้องถือว่าจำนวนผู้มาร่วมงานเปิดตัวในครั้งนี้หนาแน่นอย่างมาก มีทั้งผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของบริษัท ไทยซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ จำกัด เอง ตัวแทนจำหน่าย ตัวแทนจากผู้ให้บริการโทรศัพท์ทั้งสามค่าย และสื่อมวลชน (เดินแทบจะไหล่ชนกัน)

รวมข่าวลือฝั่งซัมซุง 2 ข่าวนะครับ

หลังจากซัมซุงเริ่มผลิตหน่วยความจำ LPDDR3 2GB ไปเมื่อปลายปีก่อน จนตอนนี้อุปกรณ์พกพารุ่นท็อปพากันใช้แรม 2GB กันหมดแล้ว เมื่อเร็วๆ นี้ซัมซุงก็ประกาศความสำเร็จในการพัฒนา LPDDR3 4GB เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นอกจากความจุสูงสุดจะเพิ่มเป็น 4GB หน่วยความจำรุ่นใหม่นี้ยังขยับไปผลิตในสถาปัตยกรรมขนาด 20 นาโนเมตร (จากรุ่นก่อนหน้า 30 นาโนเมตร) ตามสเปคที่ออกมาสามารถส่งข้อมูลด้วยความเร็ว 2,133 Mbps แม้ไม่ได้บอกแบนวิดท์มา แต่ก็ให้ตัวเลขประสิทธิภาพมาคร่าวๆ ว่าจะเหนือกว่า LPDDR2 30% ในขณะที่กินไฟน้อยราวๆ 20%

ซัมซุงบอกว่าหน่วยความจำรุ่นนี้จะเริ่มใช้ในอุปกรณ์ของตัวเองในอีกเดือนสองเดือนข้างหน้า ไม่แน่ว่าเราอาจจะเห็น Galaxy Note 3 ใช้ก็ได้ครับ

ช่วงปีที่ผ่านมาเทคโนโลยีที่ช่วยเดาความต้องการของผู้ใช้เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย อย่างที่เห็นในคีย์บอร์ดเดาคำล่วงหน้าใน SwiftKey หรือตัวช่วยที่บอกคำตอบโดยอิงจากข้อมูลรอบตัวเราอย่าง Google Now เป็นต้น

เรื่อง Bloatware หรือโปรแกรมที่ทางผู้ผลิตได้ใส่มาให้นั้น คงเป็นเรื่องที่หลายๆ คนคงปฏิเสธไม่ได้ และกับเรือธงตัวล่าสุดของซัมซุงอย่าง Galaxy S4 ก็เช่นกัน หลังจากที่เริ่มวางขายในสหรัฐอเมริกาไปเมื่อไม่นานมานี้ ทาง Geek.com ได้ลองซื้อรุ่นที่ถูกที่สุด (16 GB) มาทดลองใช้งานดู และก็พบว่าซัมซุงได้ใส่ Bloatware มาให้ เยอะเกินความจำเป็น ไปจริงๆ

โดย Geek.com เปิดเผยว่าในรุ่น 16 GB ซึ่งเป็นรุ่นที่ถูกที่สุดนั้น พื้นที่เก็บข้อมูลจะถูก Bloatware เช่น S Health, S Travel และ ChatOn รวมถึงตัวระบบแอนดรอยด์ดึงไปถึง 45% ของพื้นที่ทั้งหมด หรือก็คือพื้นที่ๆ เหลือให้ใช้งานจะเหลือเพียงแค่ 8.82 GB เท่านั้น ซึ่งมันดูไม่แฟร์สำหรับคนที่ซื้อรุ่นถูกสุดมาใช้งานมาก

ช่วงที่ Galaxy S4 กำลังทยอยวางขายตามประเทศต่างๆ ทั่วโลก ซัมซุงก็ตามโฆษณาด้วยคลิป Galaxy S4 Design Story เล่าเบื้องหลังการออกแบบว่าเกิดจากแนวคิดอย่างไรบ้าง

เนื้อหาส่วนใหญ่ในคลิปเน้นไปที่ความสามารถด้านซอฟต์แวร์ตามสโลแกน Life Companion หรือมือถือเป็นเพื่อนคู่ใจในทุกๆ เรื่อง แต่ก็มีจุดที่พูดเรื่องฮาร์ดแวร์อยู่บ้าง โดยทีมออกแบบของ S4 เล่าว่าตอนออกแบบ S3 ในแนวทางเลียนแบบวัตถุจากธรรมชาติ (ตามสโลแกน designed for humans, inspired by nature) แต่พอเป็นยุคของ S4 ก็หันมาใช้แนวทางที่เป็นเหตุเป็นผล (rational approach) มากขึ้น

ทีมของซัมซุงยังพูดถึงฝาหลังที่เป็นลายระยิบระยับว่าได้ไอเดียมาจากอัญมณีที่เรืองแสงยามค่ำคืน และการส่องแสงของดาวบนท้องฟ้า (รอบนี้ไม่มีหยดน้ำส้มนะครับ :D)

ซัมซุงเปิดตัว Galaxy Tab 3 รุ่นหน้าจอขนาด 7 นิ้วอย่างเป็นทางการแล้ว สเปกสำคัญมีดังนี้

• หน้าจอ 7 นิ้ว TFT 1024x600, 169 PPI
• ซีพียู 1.2GHz ดูอัลคอร์ ไม่ระบุรุ่น, แรม 1GB
• ความจุ 8/16GB + microSD
• กล้อง 1.3/3MP
• Android 4.1, แบตเตอรี่ 4,000 mAh
• รุ่น Wi-Fi หนัก 302 กรัม, รุ่น 3G หนัก 306 กรัม

รุ่น Wi-Fi เริ่มวางขายก่อนในเดือนพฤษภาคม ตามมาด้วยรุ่น 3G ในเดือนมิถุนายน ราคายังไม่ระบุ

ที่มา - Samsung Mobile Press

Samsung ประกาศยกเครื่องชื่อตระกูลสำหรับโน้ตบุ๊กและแท็บเล็ต โดยยกเลิกชื่อตระกูล Series ของกลุ่มโน้ตบุ๊กและพีซีแบบออลอินวันทั้งหมด และรีแบรนด์เป็น ATIV เพื่อให้ ATIV แสดงถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มาบรรจบกันระหว่างพีซีและอุปกรณ์พกพา และทำให้ลูกค้าสามารถเข้าใจกลุ่มผลิตภัณฑ์ (product segment) ได้ง่ายยิ่งขึ้น การรีแบรนด์นี้รวมถึงแท็บเล็ตตระกูล ATIV Smart PC ด้วย ดังนี้

เว็บไซต์ SamMobile รายงานจากแหล่งข่าววงในว่าทาง Samsung กำลังวางแผนการทำแท็บเล็ตรุ่นต่อไปในตระกูล Nexus นามว่า Nexus 11 โดยจะใช้หน้าจอ 11 นิ้ว และใช้ชิป CPU แบบ 8 คอร์เช่นเดียวกับ Samsung Galaxy S4 พร้อมกับหน้าจอแบบ Super PLS TFT (จอ TFT ที่พัฒนาพิเศษโดย Samsung) และสามารถใส่ microSD ได้สูงสุด 64 GB ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นแรกในตระกูล Nexus ที่สามารถใส่ microSD ได้

หลังจากที่รอคอยกันมานาน ในที่สุดผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทั้งเอไอเอสและดีแทคก็ได้เปิดหน้าเว็บให้สั่งซื้อ Galaxy S4 ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยทั้งสองค่ายก็เปิดราคามาที่ 21,900 บาทเท่ากันสำหรับเครื่องเปล่า รายละเอียดแต่ละค่ายติดตามได้หลังเบรคครับ

สำหรับดีแทค หากสั่งซื้อในเว็บ dtac Online Store เป็น 100 คนแรก จะได้ของแถมเป็นเพาเวอร์แบงค์มูลค่า 990 บาท ส่วนเอไอเอสนั้นมีโปรโมชั่นผ่อน 0% นาน 10 เดือนพร้อมโปรโมชั่นเพิ่มเติมจากบัตรเครดิตแต่ละค่ายครับ หากสั่งซื้อตั้งแต่วันนี้ เครื่องจะสามารถทยอยส่งได้ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. นี้ทั้งสองค่ายครับ