ถ้าจำกันได้ เมื่อช่วงเดือนมีนาคมปีก่อน นินเทนโดเพิ่งแพ้คดีความเรื่องสิทธิบัตรเกี่ยวกับหน้าจอสามมิติแบบไร้แว่นตา ซึ่งตอนนั้นศาลตัดสินให้นินเทนโดจ่ายค่าเสียหายเป็นเงินกว่า 30 ล้านเหรียญ

ล่าสุดมีการตัดสินคดีนี้อีกครั้งที่ศาลกลางประจำเมืองนิวยอร์ก เมื่อกลางเดือนธันวาคม ผลปรากฏว่าผู้พิพากษาตัดสินให้นินเทนโดต้องจ่ายค่าเสียหายแก่คู่กรณีอย่าง Tomita ร้อยละ 1.82 ของเครื่อง 3DS ที่ขายได้ (ประมาณ 3 เหรียญ) ไปจนกว่าจะเลิกขายเครื่องเกมดังกล่าว

วันนี้นินเทนโดจัดงาน Nintendo Direct รอบส่งท้ายปีเก่า มีการเปิดตัวเกมใหม่ที่จะมาลงในเครื่องเกมของตัวเองในช่วงต้นปี 2014 อยู่หลายเกม คัดเฉพาะสำคัญๆ มาได้ดังนี้ครับ

เกมแรกสุด Hyrule Warriors เกมแอคชันสามมิติ มุมมองที่สามที่พัฒนากันมาอย่างยาวนาน ตัวเกมจะมาในสไตล์ The Legend of Zelda ผสมกับ Dynasty Warriors ประกาศลงเครื่อง Wii U อย่างเป็นทางการในปี 2014 แต่ยังไม่ระบุวันขายชัดเจนออกมาครับ

สำหรับคนที่ยังหวังว่านินเทนโดจะกลับคำไปทำเกมลงบนแพลตฟอร์มอุปกรณ์พกพา ตอนนี้มีมาให้ลุ้นอีกรอบหลังจาก Reggie Fils-Aime ประธานนินเทนโดสาขาอเมริกาให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ King 5 เผยว่าบริษัทนั้นสนใจจะทดลองกับแพลตฟอร์มอุปกรณ์พกพาอยู่เหมือนกัน

นินเทนโดยังพยายามปรับทัพเข้าสู่ยุคดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆ จากที่สัญญาไว้ว่าจะปล่อยอัพเดตใหม่ให้ผู้ใช้ 3DS ผูกเข้ากับบัญชี Nintendo Network ID เพื่อแชร์เงินในบัญชีร่วมกันกับ Wii U ได้แล้ว

นอกจากเรื่องของการรวมบัญชีแล้ว ในอัพเดต 7.0 ยังมาพร้อมกับ Miiverse โซเชียลเน็ตเวิร์คสำหรับคนเล่นเกมนินเทนโดซึ่งเพิ่มเข้ามาที่แถบบนสุดด้านขวาของจอด้านล่าง ฟังก์ชันพื้นฐานที่สามารถใช้ได้ตอนนี้คือการโพสต์ภาพจากในเกมพร้อมข้อความลงไปได้

ที่เหลือก็ได้แต่รอว่าเมื่อไหร่จะผูกเกมเข้ากับบัญชีซักทีสินะ

ที่มา - The Verge

สถานการณ์ของนินเทนโดยิ่งแย่ลงไปเรื่อยๆ หลัง PS4 และ Xbox One เริ่มวางขาย เพราะทั้งสองเครื่องสามารถทำยอดขายวันแรกเกิน 1 ล้านเครื่องได้อย่างสวยงาม ในขณะที่ยอดขายของ Wii U ระหว่างเดือน ม.ค. ถึง ก.ย. ของปีนี้ทำได้เพียง 850,000 เครื่อง (ในข่าวไม่ได้ระบุชัดแต่เข้าใจว่าเป็นยอดในสหรัฐนะครับ)

Satoru Iwata ประธานของนินเทนโดเคยประกาศเป้าหมายยอดขาย Wii U ตลอดปีที่ 9 ล้านเครื่อง และกำไร 100 พันล้านเยน แต่นักวิเคราะห์ประเมินว่านินเทนโดจะขายได้เพียง 6.2-6.5 ล้านเครื่อง กำไร 57 พันล้านเยนเท่านั้น

ยังคงเป็นปีแห่งฝันร้ายของนินเทนโด เมื่อเกมที่คาดหวังว่าจะมาฟื้นชีวิตให้กับ Wii U ซีรีส์ใหม่ของ Super Mario อย่าง Super Mario 3D World กลับทำผลงานในสัปดาห์แรกในญี่ปุ่นได้ไม่สวยนัก หนำซ้ำยังไม่ได้ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งอีกด้วย

โดยยอดขายของ Super Mario 3D World ในสัปดาห์แรกอยู่ที่ 99,588 ชุด พ่ายแพ้ให้กับเกมจากคู่แข่งที่ขายในสัปดาห์เดียวกันอย่าง Lightning Returns: Final Fantasy XIII ไปอย่างราบคาบ (ตัวเลขจาก VGChartz บอกว่าขายได้ 285,679 ชุด)

เมื่อเทียบกับผลงานของภาคก่อนๆ ในเครื่อง Wii แล้ว Super Mario Galaxy ขายได้ 256,000 ชุด ในขณะที่ Super Mario Galaxy 2 ขายได้มากขึ้นเป็น 337,000 ชุดในสัปดาห์แรกที่วางขาย

ในขณะที่ผู้พัฒนาเครื่องเกมคอนโซลรายอื่นอย่างโซนี่ และไมโครซอฟท์ต่างก็เตรียมความพร้อมไปสู่ยุคที่เปิดให้ผู้เล่นสามารถอวดการเล่นเกมของตัวเองได้โดยง่ายผ่านระบบแชร์วิดีโอในตัว นินเทนโดที่ออกเครื่องเกมมาก่อนจึงตกเป็นฝ่ายตามในทันที และตอนนี้ก็ถึงทีของนินเทนโดที่เริ่มขยับในด้านนี้บ้างแล้วด้วยการเข้าซื้อหุ้นของ Dwango ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มวิดีโอรายใหญ่ของญี่ปุ่นอย่าง Nico Nico Douga

นินเทนโดเป็นอีกเจ้าหนึ่งที่มีแท็บเล็ตเป็นของตัวเองอย่าง Gamepad ที่แม้การใช้งานหลักๆ จะเป็นจอยเกมก็ตาม แต่ด้วยรูปทรงแล้วคงปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือแท็บเล็ตจริงๆ และตอนนี้นินเทนโดก็มีแผนจะทำแท็บเล็ตอีกชิ้นแล้ว

รายงานของแท็บเล็ตตัวใหม่จากนินเทนโดออกมาจาก Nando Montezaro แห่งเว็บไซต์แฟนคลับของนินเทนโดอย่าง Nintendo Everything ที่ทวีตเกี่ยวกับเจ้าแท็บเล็ตดังกล่าวพร้อมระบุว่าจะรันแอนดรอยด์อีกด้วย

สิ่งหนึ่งที่เป็นอุปสรรคไม่ให้ยอดขายดิจิทัลดาวน์โหลดของนินเทนโดไม่โตเท่าที่ควรคือการผูกคอนเทนต์ดิจิทัลดาวน์โหลดเข้ากับตัวเครื่อง แทนที่จะผูกไว้กับบัญชีผู้ใช้ ซึ่งล้าสมัยไปแล้ว เมื่อไม่นานมานี้นินเทนโดเองก็ออกมายอมรับ และกำลังปรับปรุงระบบเร็วๆ นี้

ล่าสุดนินเทนโดออกมาระบุวันคร่าวๆ ของอัพเดตใหม่ที่จะมาพร้อมกับการผูกคอนเทนต์ดิจิทัลที่ดาวน์โหลดมาจาก eShop ให้สามารถผูกกับบัญชี Nintendo Network ID ได้แล้ว ซึ่งแต่เดิมบัญชีดังกล่าวก็สามารถผูกอยู่กับตัวเครื่องได้อยู่แล้ว เพียงแค่ไม่ได้ใช้สำหรับการเก็บคอนเทนต์ไว้ที่บัญชีเท่านั้นเอง

นินเทนโดมีปัญหากับ Wii U ที่ยอดขายไม่ดีนัก แต่เครื่อง Wii ก็ยังได้รับความนิยมอยู่มาก ตอนนี้นินเทนโดก็หันมาออกเครื่อง Wii Mini ที่เป็นเครื่อง Wii เดิมแต่มีขนาดเล็กลง และราคาเหลือ 99 ดอลลาร์เทียบกับราคาเครื่อง Wii ที่อยู่ที่ 129 ดอลลาร์ในตอนนี้

Wii Mini จะมีน้ำหนักเหลือ 700 กรัม (ของเดิม 1,127 กรัม) ส่วนปริมาตรเครื่องลดลงเล็กน้อย ส่วนภายในจะเปลี่ยนจากชิป POWER และกราฟิกจาก AMD/ATI กลายเป็นชิปที่รวมไว้ในชิปตัวเดียวกันแต่ยังไม่ระบุยี่ห้อว่าจะผลิตโดยใคร ในส่วนของฟีเจอร์ที่ขาดไป คือ Wii Mini จะไม่รองรับการ์ด SD อีกแล้ว

เริ่มขาย 17 พฤศจิกายนนี้

ที่มา - Nintendo

หลังจากเริ่มต้นปี 2013 อย่างยากลำบาก ตอนนี้นินเทนโดประกาศผลประกอบการครึ่งปีแรกตามปีงบประมาณ (นับตั้งแต่เดือนเมษายน-กันยายน) ทำรายได้รวม 196.5 พันล้านเยน ยังขาดทุนจากการดำเนินงานอยู่ราว 23.2 พันล้านเยน แต่ยังปิดครึ่งปีแรกได้โดยไม่ตัวแดง ทำกำไรไปได้เล็กน้อยที่ 600 ล้านเยน

ส่วนตัวเลขยอดขายของแต่ละเครื่องเกม ครึ่งปีแรก Wii U ขายเพิ่มได้อีก 460,000 เครื่อง ยอดรวมตอนนี้อยู่ที่ 3.9 ล้านเครื่องแล้ว ฝั่งเกม Wii U ขายเพิ่มได้อีก 6.3 ล้านก็อปปี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นมาค่อนข้างมาก ส่วนหนึ่งมาจากเกมเด่นๆ อย่าง Pikmin 3 และ Zelda ภาคใหม่นั่นเอง

ดูเหมือนราคาของ 2DS เครื่องเกมพกพารุ่นล่าสุดของนินเทนโดที่ตัดหน้าจอสามมิติออก แล้วลดราคาลงจะยังถูกไม่พอสำหรับบรรดาห้างร้านต่างๆ หลังจากบรรดาร้านค้าออนไลน์ในสหราชอาณาจักรเริ่มลดราคาเครื่องเกมรุ่นนี้แบบไม่เป็นทางการแล้ว

ห้างร้านที่อยู่ในข่ายดังกล่าวได้แก่ Amazon, Tesco Direct และ Sainsbury ซึ่งลดราคา 2DS จากเดิม 109 ปอนด์ ลงมาอยู่ที่ 99 ปอนด์ (ประมาณ 5,000 บาท) หนำซ้ำบางร้านยังมีโปรโมชันแถมเกม DS ให้อีกด้วย

ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่มีรายงานว่าเหตุใดห้างร้านดังกล่าวถึงปรับราคาลงเองโดยไม่ผ่านนินเทนโด ซึ่งก่อนหน้านี้เองห้างร้านในสหราชอาณาจักรรายหนึ่งอย่าง Asda ก็เคยลดราคา Wii U เองมาก่อน เนื่องจากขายไม่ออกนั่นเอง

เว็บไซต์ Engadget รายงานว่าในหน้าเว็บเพจ Wii ของ Nintendo ประเทศญี่ปุ่น ระบุว่า Nintendo ประกาศยกเลิกการจำหน่าย Wii ผ่านหน้าเว็บไซต์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว (ต้นฉบับของข่าวระบุว่า discontinued) ซึ่งนี่อาจจะเป็นวิธีที่ใช้ในการผลักผู้ใช้ให้หันมาใช้ Wii U แทน

ที่มา: Engadget

ประสบกับยอดขายตกต่ำมาได้พักใหญ่ ก็ถึงโอกาสลืมตาอ้าปากของ Wii U บ้างแล้ว ภายหลังจากการเปิดตัว The Legend of Zelda ภาคใหม่อย่าง The Wind Waker HD ที่ช่วยกระตุ้นแรงซื้อมาได้มากโข

ผลจากการเปิดตัว Zelda ภาคล่าสุดทำให้ยอดขายของ Wii U ในอังกฤษ (ที่เดียวกับที่มีร้านค้าเลิกขายไปก่อนหน้า) ทำยอดเพิ่มขึ้นถึง 685% แม้จะไม่มีการประกาศตัวเลขอย่างละเอียดออกมาก็ตาม

ช่วงปลายปียังมีเกมดังอีกหลายเกมของนินเทนโดต่อคิวกันลง Wii U อีก ถ้ายังรักษาโมเมนตัมนี้ไว้ได้ นินเทนโดน่าจะเอาตัวรอดจากสงครามเครื่องคอนโซลได้อีกครั้งครับ

นินเทนโดปล่อยอัพเดตใหญ่ของ Wii U ในรหัส 4.0.0 ขนาดถึง 700MB ให้ผู้ใช้แล้ว โดยในอัพเดตนี้ได้เพิ่มฟีเจอร์เข้ามาหลายอย่าง โดยมีไฮไลท์อยู่ที่การส่งภาพและเสียงจากหน้าจอทีวีมาบน GamePad (จอยที่มีหน้าจอของ Wii U) ได้ด้วย

โดยการส่งภาพและเสียงจากทีวีมาบน GamePad นั้นสามารถเลือกได้ว่าจะให้แสดงผลทั้งคู่ หรือเฉพาะ GamePad เท่านั้น แต่ตัวเกมที่สตรีมมาบนหน้าจอของ GamePad จะไม่สามารถเล่นกับปุ่มบนจอย GamePad ได้ ต้องใช้ Wiimote มาควบคุมแทน

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ เพิ่มเข้ามาอีกพอสมควร คัดเฉพาะเด่นๆ มีดังนี้ครับ

Hiroshi Yamauchi หนึ่งในผู้ก่อตั้ง และอดีตประธานบริษัทนินเทนโดรุ่นที่สามในปี 1949 เสียชีวิตลงด้วยวัย 85 ปี โดยเขาเป็นคนที่ทำพวกการ์ดเกมต่าง ๆ รวมถึงไพ่ "ฮานะฟูดะ" ในเวลาต่อมาเขาได้นำเครื่องเกมสไตล์ตะวันตกเข้ามา (หรือที่เรารู้จักกันในนามเกมคอนโซล) และเขาเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนา GameCube ของนินเทนโดจนมีชื่อเสียงมากมาย

สุดท้ายนี้ขอให้ Hiroshi Yamauchi หลับให้สบายครับ

ที่มา: @hirokotabuchi ผ่าน Engadget

หนึ่งในปัญหาคาใจผู้ใช้ Wii U และ 3DS ที่บอกไปกับนินเทนโดอยู่เรื่อยมาคือแอคเคาท์กลางสำหรับดิจิทัลดาวน์โหลดบน eShop ที่ยังผูกกับตัวเครื่องอยู่ ตอนนี้มีข่าวดีมาบ้างแล้วจากปากคำของ Dan Adelman หัวหน้าฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ฝั่งนินเทนโดอเมริกา

Adelman บอกว่านินเทนโดนั้นรับฟังความเห็นจากผู้ใช้อยู่เรื่อยมา โดยเฉพาะในเรื่องของแอคเคาท์กลางสำหรับ eShop ที่ยอมรับว่าตอนนี้ยังอยู่ในระหว่างพัฒนาในส่วนของ infrastructure อยู่

ในยามที่ตลาดเกมยุคใหม่เริ่มแข่งขันกันหนัก บรรดาผู้ผลิตเกม รวมถึงบริษัทพัฒนาเครื่องเกมต่างก็พาเหรดกันยัดฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้ามา ฟีเจอร์ที่ถูกพูดถึงบ่อยสุดคงหนีไม่พ้นระบบออนไลน์ ซึ่งดูแล้วเจ้าที่ล้าหลังในตอนนี้คงหนีไม่พ้นนินเทนโด ด้วยความที่มักจะเปิดตัวเครื่องเกมมาก่อนใครเสมอๆ

แต่ดูเหมือนในอนาคตอันใกล้นี้นินเทนโดคงหันมาเน้นกับระบบออนไลน์มากขึ้นแล้ว หลังจากนาย Reggie Fils-Aime ประธานนินเทนโดสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับ IGN เกี่ยวกับทิศทางระบบเชื่อมต่อของเครื่องเกมในเครืออย่าง Wii U และ 3DS ซึ่งครอบคลุมไปถึงระบบการเล่นออนไลน์ และการซื้อเกมผ่านระบบออนไลน์ด้วย

ต่อเนื่องจากการเปิดตัวเครื่องเกม 2DS ในงานเดียวกันนินเทนโดยังประกาศลดราคาเครื่องคอนโซล Wii U รุ่น Deluxe ลง 50 เหรียญ โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 20 กันยายนเป็นต้นไป

จากการประกาศดังกล่าว ราคาของ Wii U รุ่น Deluxe จะเหลือเพียง 299 เหรียญ และถูกกว่าคู่แข่งทั้ง PS4 และ Xbox One ถึง 100 เหรียญ และ 200 เหรียญตามลำดับ ทำให้ Wii U กำลังจะเข้าไปเล่นในเกมเดิมสมัย Wii ด้วยการทำราคาถูกกว่าคู่แข่งอย่างมากอีกครั้ง

เมื่อรวมกับความคืบหน้าของ Wii U ที่กำลังจะมีเกมใหม่เฮลงมาช่วงปลายปีแล้ว การลดราคาครั้งนี้น่าจะช่วยดึงความสนใจกลับมาได้บ้างครับ

หลังจากที่นินเท็นโดประสบความสำเร็จ

วันนี้ (28 สิงหาคม) นินเท็นโดประกาศวางขายเครื่องเล่นเกมแบบพกพา หรือ Handheld game console รุ่นใหม่ ในชื่อ "Nintendo 2DS" ซึ่งทำออกมาวางขายเจาะตลาดในกลุ่ม new entry-level หรือผู้เล่นระดับเริ่มต้นที่ยังไม่รู้ว่าจะเล่นเกมอะไรของนินเท็นโด

ช็อกวงการกันอีกรอบสำหรับนินเทนโดที่เปิดตัวเครื่องเกมรุ่นใหม่แบบสายฟ้าแล่บอย่าง 2DS พร้อมตัดฟังก์ชันหากินไร้คนเหลียวแลอย่างการแสดงผลสามมิติแบบไร้แว่นตาออกไปแล้ว

นอกจากตัดสามมิติออกไป ทรงตัวเครื่องยังต่างกับเครื่องเกมในซีรีส์ 3DS อย่างมาก ตัวเครื่องทำเป็นชิ้นเดียวพับไม่ได้ แต่คงขนาดหน้าจอไว้เท่ากับ 3DS รุ่นแรกที่จอบน 3.5" จอล่าง 3" ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ อย่าง Wi-Fi, Spot Pass, Street Pass และการเล่นเกมของ DS ก็ยังใช้ได้เหมือนรุ่นก่อนหน้าทุกประการ กล้องด้านหลังก็ยังเป็นกล้องคู่สำหรับถ่ายภาพสามมิติแต่ต้องเอาไปดูใน 3DS แทน รวมถึงเพิ่มปุ่มสำหรับ Sleep เข้ามาแทนที่การปิดจออันเป็นเอกลักษณ์ไปเสียแล้ว

จากสถานการณ์ Wii U ที่กำลังย่ำแย่ นอกจากจะทำยอดไม่ได้ถึงเป้าแล้ว ในไตรมาสล่าสุดยังขายได้เพียง 160,000 เครื่องเท่านั้น ด้วยตัวเลขที่ออกมาหลายคนคงคิดว่าด้วยราคาที่ตั้งไว้สูงเกินไปน่าจะเป็นปัญหา แต่ Satoru Iwata ประธานของนินเทนโดบอกในระหว่างสัมภาษณ์กับ CVG ปัญหาที่แท้จริงของ Wii U หาใช่เรื่องราคาไม่

Iwata บอกว่าถ้าหากราคาของ Wii U นั้นเป็นปัญหาจริงๆ Wii U รุ่น Basic ที่ราคาถูกกว่าควรจะขายดีกว่ามาก แต่ในตอนนี้รุ่นที่แพงกว่าอย่าง Wii U Deluxe นั้นเริ่มขายได้มากขึ้นเพราะคุ้มค่ากว่า ดังนั้นปัญหาเรื่องราคาจึงตกไป

ในยุคของเครื่อง DS นินเทนโดเจอกับตอท่อนใหญ่อย่างตลับแฟลชที่ช่วยให้เล่นเกมก็อปปี้ได้อย่างง่ายดาย พอมาถึงยุคของ 3DS นินเทนโดจึงแก้เกมด้วยการอัพเดตเฟิร์มแวร์ป้องกันเป็นระยะๆ และในที่สุดก็เริ่มใช้ขั้นเด็ดขาดด้วยการฟ้องร้องกันบ้างแล้ว

เป้าหมายของนินเทนโดครั้งนี้เป็นเว็บไซต์ขายตลับแฟลช HackYourConsole.com ที่ขายตลับแฟลชชื่อดังทั้ง R4 และ DSTwo ที่อยู่ยืนยาวมาตั้งแต่สมัย DS ไล่มาจนถึง 3DS ในปัจจุบัน

นอกเหนือจากนี้ เว็บไซต์ดังกล่าวยังเป็นตัวแทนจำหน่ายของตลับแฟลชใหม่แกะกล่องที่เคลมว่าใช้เล่นเกมก็อปปี้ของ 3DS ได้แล้วอย่าง Gateway 3DS อีกด้วย ถึงแม้ตอนนี้จะโดนนินเทนโดอัพเดตเฟิร์มแวร์บล็อคไปแล้วก็ตามที

สถานการณ์ของ Wii U ยังคงแย่ต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า Asda ร้านค้ารายใหญ่ในอังกฤษได้ตัดราคา Wii U ลง 100 ปอนด์ไปเมื่อเดือนพฤษภาคม แต่ดูเหมือนว่าแค่ลดราคาจะยังไม่พอสำหรับการกระตุ้นยอดขายเสียแล้ว

หลังการลดราคาครั้งใหญ่ต่อเนื่องมากว่าสามเดือน ในที่สุด Asda ก็ยอมแพ้ด้วยการเอา Wii U ออกจากร้านค้า และให้สั่งจากหน้าร้านออนไลน์อย่างเดียว (แต่ผมลองไปค้นในเว็บ ASDA direct ก็เจอแค่เกมของ Wii U ไม่เจอเครื่อง) ในขณะที่ลูกค้าส่วนมากก็รอการขายของคู่แข่งทั้งสองอย่าง PS4 และ Xbox One กันแทน

นินเทนโดประกาศผลประกอบการประจำไตรมาสแรกตามปีงบประมาณ (เริ่มนับเดือนเมษายนจนถึงมิถุนายน) ทำรายได้รวม 81.5 พันล้านเยน ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อย แต่พลิกกลับมากำไรได้ที่ 8.6 พันล้านเยน

ผลงานในไตรมาสนี้มาจากยอดขายทางฝั่ง 3DS ทั้งตัวเครื่อง และเกมที่กำลังดีวันดีคืน ขายได้เพิ่มอีก 2.39 ล้านเครื่อง (เป็น 3DS 1.4 ล้านเครื่อง และ 3DS LL/XL อีก 990,000 เครื่อง) กับอีก 11 ล้านก็อปปี้ ในขณะที่ฝั่งคอนโซลยังย่ำแย่ Wii U ขายเครื่องได้เพิ่มเพียง 160,000 เครื่อง กับเกมอีก 1 ล้านก็อปปี้เท่านั้น ส่วนอีกสองเครื่องรุ่นเก่าก็มีตัวเลขออกมาเช่นกัน ดังนี้