Stories ใน Instagram มีฟีเจอร์ใหม่คูลๆ คือเมื่อเราอยากใช้เพลงใน Stories จะสามารถแสดงเนื้อเพลงๆ นั้นขึ้นมาให้อัตโนมัติ สามารถปรับแต่งฟอนต์ได้ และเลือกท่อนเพลงและเนื้อเพลงที่เราอยากแสดงได้
ผู้ใช้งานสามารถใช้ฟีเจอร์นี้ได้ด้วยการกดเข้าไปในสติกเกอร์ Music (เข้าใจว่ายังมีแค่ผู้ใช้บางส่วนที่ใช้งานได้) เลือกเพลงที่จะใช้ และกดให้มีเพลงและเนื้อเพลงคลอไปกับรูปที่เราอยากโชว์ใน Stories ได้
Netflix กำลัง Feed บนมือถือ โชว์รูปและคลิปคอนเทนต์ในแบบ Instagram คือสามารถเลื่อนดูแต่ละเนื้อหาได้แบบแนวตั้ง และสามารถปัดขวาเพื่อดูรูปอื่นในเรื่องนั้นเพิ่มเติมได้เหมือนเวลาเราลงรูปหลายรูปใน Instagram วิดีโอจะเล่นอัตโนมัติเหมือนเดิม แต่ตั้งค่าให้ไม่มีเสียงได้
แต่ Feed แบบเดิมจะยังคงอยู่ ส่วน Feed แบบใหม่นี้ ผู้ใช้ต้องกดปุ่ม Extra ที่อยู่ตรงกลางล่างหน้าจอมือถือ ถึงจะสามารถดู Feed แบบใหม่ได้ ตัววิดีโอใน Feed ใหม่จะเป็นแนวตั้ง และเป็นเทรลเล่อร์แบบย่อๆ ไม่ใช่เทรลเล่อร์แบบเต็ม ส่วนปุ่มดาวน์โหลด ปุ่มแชร์ ยังอยู่ครบ
ผู้ใช้สามารถดูรูปหน้าจอเพิ่มเติมที่แหล่งข่าวต้นทางได้
เราได้ยินข่าวเรื่อง Facebook มีความสนใจในเทคโนโลยี Blockchain มาก และยังมีข่าวว่าอาจออกสกุลเงินดิจิทัลขึ้นมาเองระยะหนึ่งแล้ว ล่าสุด BBC รายงานว่า Facebook มีแผนเปิดตัวระบบเงินดิจิทัลของตนเองภายในช่วงไตรมาสแรกของปี 2020 หรือปีหน้า โดยช่วงแรกจะเปิดให้บริการราว 10 ประเทศ ซึ่งจะมีการทดสอบระบบช่วงปลายปี ตอนนี้มีชื่อเรียกกันภายในว่า GlobalCoin
IGTV แพลตฟอร์มสำหรับการโพสต์วิดีโอขนาดยาว ที่ Instagram หมายมั่นปั้นให้ติดตลาด โดยชูจุดขายโฟกัสไปที่วิดีโอแบบแนวตั้งซึ่งเหมาะกับหน้าจอสมาร์ทโฟนเป็นหลัก ล่าสุด Instagram ประกาศเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ซึ่งดูเป็นการยอมถอยบ้าง
โดย Instagram บอกว่า หลังจากปรับปรุง IGTV และรับฟังความเห็นจากผู้ผลิตคอนเทนต์มาพอสมควร จึงตัดสินให้ IGTV รองรับการโพสต์วิดีโอแบบแนวนอนได้แล้ว (จากเดิมก็โพสต์ได้ แต่แสดงผลแบบแนวตั้ง คนดูต้องตะแคงโทรศัพท์เอา) ทำให้ผู้ผลิตคอนเทนต์สามารถอัพโหลดเนื้อหาที่หลากหลายมากขึ้น จากที่ก่อนหน้านี้พยายามผลักดันวิดีโอขนาดยาวแนวตั้ง แต่ผู้ผลิตคอนเทนต์ยังไม่ตอบรับเท่าที่ควร
Instagram เตรียมหยุดให้บริการแอป Direct ซึ่งเป็นแอปแยกที่มีฟังก์ชันเพื่อการส่งข้อความแบบ direct message บน Instagram โดยเฉพาะ ทั้งบนแพลตฟอร์ม iOS และ Android โดยทีมพัฒนาจะนำทุกอย่างรวมเข้ากับฟีเจอร์ direct message บนแอป Instagram
ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @MattNavara ได้โพสต์ภาพ Instagram ได้ประกาศข้อความหยุดให้บริการในแอป Direct จริง โดยระบุว่า “ในเดือนหน้า เราจะไม่ซัพพอร์ตแอป Direct อีกแล้ว” พร้อมแจ้งว่าการสนทนาทั้งหมดจะถูกย้ายเข้าไปใน Instagram โดยอัตโนมัติ ดังนั้นผู้ใช้ไม่ต้องทำอะไร
Instagram ประกาศเตรียมซ่อมผลการค้นหาแฮชแท็กที่ใช้สำหรับกระจายข้อมูลข่าวปลอมเกี่ยวกับวัคซีน โดย Instagram ระบุว่าหากแฮชแท็ก เช่น #vaccines1234 มีสัดส่วนข้อมูลเท็จเกี่ยวกับวัคซีนเยอะ ก็จะบล็อคแฮชแท็กนั้นไปเลย
สำหรับข้อมูลเท็จนี้ ผู้ที่จะระบุว่าปลอมจะเป็นองค์กรการแพทย์อย่างเช่น World Health Organization หรือ the Centers for Disease Control ส่วนโพสต์ที่เกี่ยวกับมุมมองของวัคซีนแต่ไม่ยืนยันว่าเป็นข้อมูลเท็จจะยังคงอยู่ต่อไป
ในงาน F8 Instagram ได้เผยให้เห็นฟีเจอร์ที่ช่วยส่งเสริม digital well being และลดการคุกคามออนไลน์เพิ่มเติมจากฟีเจอร์ซ่อนยอดไลค์ ดังนี้
จากที่มีคนพบ Instagram ทดสอบฟีเจอร์ซ่อนจำนวนไลค์ใต้โพสต์ ล่าสุด Instagram ประกาศว่าได้ทดลองฟีเจอร์นี้โดยเริ่มที่แคนาดาก่อน ซึ่งไม่ใช่แค่ไลค์ใต้โพสต์เท่านั้นที่สามารถซ่อนได้ แต่ยังรวมถึงยอดรับชมโพสต์ที่เป็นวิดีโอด้วย
Instagram ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ในแอป ในงานสัมมนาประจำปี F8 ของ Facebook มีรายละเอียดดังนี้
ฟีเจอร์ที่มีใน Stories โดยสามารถเลือกใส่สติกเกอร์ขององค์กรการกุศลต่าง ๆ จากนั้นกรอกเงินที่ต้องการเพื่อบริจาค โดย Instagram จะนำเงินทั้งหมดส่งต่อให้องค์กรนั้นไม่มีการหักค่าใช้จ่าย
สติกเกอร์บริจาคเงินจะเริ่มต้นที่ผู้ใช้งานในอเมริกาก่อนแห่งแรก
Facebook รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2019 รายได้รวม 15,077 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,429 ล้านดอลลาร์ ลดลงจากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 4,988 ล้านดอลลาร์ สาเหตุจาก Facebook ตั้งสำรองเตรียมจ่ายค่าปรับให้คณะกรรมการการค้า (FTC) โดยประเมินไว้ที่ 3,000-5,000 ล้านดอลลาร์
Facebook มีจำนวนผู้ใช้งานเป็นประจำทุกวัน (DAUs) 1,562 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้น 8% แต่หากรวม 4 แพลตฟอร์มหลักของ Facebook (Facebook, Instagram, WhatsApp และ Messenger) จะคิดเป็นจำนวนกว่า 2,100 ล้านคน ส่วนตัวเลขผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน (MAUs) เฉพาะ Facebook อยู่ที่ 2,375 ล้านบัญชี
Instagram มีฟีเจอร์ทำโพลและถามคำถามใน Stories มานานแล้ว และถือเป็นลูกเล่นที่ได้รับความนิยมตอบรับกระแสเล่น Stories ที่มากขึ้นเรื่อยๆ โดยฟีเจอร์ถามเป็นการให้โพสต์สติกเกอร์ว่า ask me something ล่าสุดมีการเพิ่มฟีเจอร์ Quiz Sticker หรือสติกเกอร์ถามคำถาม โดยคนโพสต์สามารถทำตัวเลือกคำตอบได้หลายข้อแบบข้อสอบ เช่น สีที่ฉันชอบ อีโมจิใดบ่งบอกความเป็นตัวฉันได้ดีที่สุด
วิธีใช้งานคือ แตะที่เมนูสติกเกอร์ตรงขวาบน เลือกตัวเลือก Quiz สร้างคำถามและสร้างตัวเลือกคำตอบ ระบุคำตอบที่ถูกต้องเป็นเฉลยไว้ คนโพสต์ยังสามารถเห็นได้ด้วยว่าใครตอบถูกตอบผิด
ข่าวฉาวของ Facebook ยังออกมาเรื่อยๆ ตามปกติ เมื่อปลายเดือนมีนาคม บริษัทยอมรับว่าเก็บรหัสผ่านของผู้ใช้ Facebook แบบ plaintext และกระทบผู้ใช้ "หลักร้อยล้านคน" (hundreds of millions) ถึงแม้ไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่ารหัสผ่านเหล่านี้ถูกเข้าถึงได้จากคนภายนอกบริษัท แต่ Facebook ก็แจ้งเตือนให้ผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบให้เปลี่ยนรหัสผ่านแล้ว
ล่าสุดเมื่อวานนี้ Facebook อัพเดตข้อมูลเพิ่มเติมว่า ค้นพบกรณีเดียวกันแต่เป็นรหัสผ่านของ Instagram ที่ถูกเก็บแบบ plaintext อีกชุดหนึ่ง มีผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบ "หลักล้านคน" (millions of Instagram users) และบริษัทก็จะแจ้งเตือนผู้ใช้กลุ่มนี้เช่นกัน
มีคนไปเจอ Instagram กำลังทดสอบฟีเจอร์ซ่อนจำนวนไลค์ใต้โพสต์แก่คนอื่นที่ไม่ใช่คนโพสต์ โดยคนโพสต์จะยังคงเห็นจำนวนที่แท้จริงอยู่
อย่างไรก็ตามทาง Instagram บอกว่ายังไม่ได้ทำการทดสอบฟีเจอร์ในขณะนี้ แต่กำลังมองหาวิธีลดความกดดันจากการใช้งาน Instagram (ตีความว่าเป็นการเสพติด Instagram มากเกินไป)
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน สำนักงานข้อมูลอังกฤษหรือ ICO ได้ทำข้อเสนอให้บริษัทโซเชียลหยุดใช้ Nudge Technique และการกระตุ้นให้ผู้ใช้กลับมาใช้งานอีกบ่อยๆ เช่นปุ่มไลค์แก่ผู้ใช้ที่เป็นเยาวชน จึงไม่แน่ใจว่าการที่มีคนไปเจอ Instagram ทดสอบฟีเจอร์นี้เกี่ยวข้องกันหรือไม่
มีรายงานจากผู้ใช้งานจำนวนหนึ่งว่าไม่สามารถใช้งาน Facebook, Instagram และ WhatsApp ได้ในตอนนี้ ซึ่งพบในผู้ใช้หลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งในไทย
ข้อมูลจากเว็บ downdetector พบว่ามีการรายงานปัญหาตั้งแต่เวลา 17:33น. ตามเวลาในไทย รายงานปัญหาพบมากในผู้ใช้งานที่อังกฤษ และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนอเมริกาก็มีรายงานเช่นกันแต่ไม่มาก (อาจเพราะยังเป็นเวลาเช้า)
ตอนนี้ยังไม่มีการรายงานสถานะผ่านบัญชี Twitter ของ Facebook และ Instagram
อัพเดต: บริการทั้งหมดกลับมาใช้งานได้ตามปกติตั้งแต่เวลาประมาณ 20:00น.
เหลืออีกไม่กี่เดือนแล้วก็จะถึงวันสิ้นสุดระยะซัพพอร์ตของ Windows Phone/Mobile จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะได้เห็นผู้พัฒนาแอพประกาศถอนตัวจากแพลตฟอร์ม Windows Phone โดยไม่เว้นแม้แต่เจ้าของบริการโซเชียลยักษ์ใหญ่อย่างเฟซบุ๊ก ที่จะหยุดให้บริการแอพบน Windows 10 Mobile ถึงสามบริการหลังสิ้นเดือนเมษายนนี้
โดยมี Instagram เป็นบริการแรก (และยังคงเป็นบริการเดียว ณ เวลาที่เขียนข่าว) ที่ขึ้นข้อความประกาศแจ้งเตือนบนตัวแอพอย่างเป็นทางการ ส่วนอีกสองบริการนั้นเป็นรายงานจากสำนักข่าว Engadget ที่ได้รับการติดต่อจากโฆษกของไมโครซอฟท์ยืนยันการหยุดให้บริการของเฟซบุ๊กเพิ่มเติมอีกสองแอพคือ Facebook และ Messenger
ผู้ใช้เฟซบุ๊กและอินสตาแกรมจำนวนมากไม่มสามารถใช้งานได้ โดยบางส่วนอาจเข้าใช้งานไม่ได้เลย ขณะคนที่เหลืออาจจะเข้าชมได้ตามปกติแต่กลับไม่สามารถโพสได้ โดยขึ้นข้อความขออภัย และกำลังแก้ไข
ที่มา - Bleeping Computer
หลังจากที่จู่ๆ ผู้บริหารและผู้ก่อตั้ง Instagram ลาออกเมื่อช่วงปลายปีที่แล้วอย่างกะทันหัน ก็ไม่ค่อยมีข่าวคราวออกมา ล่าสุดที่งาน SXSW 2019 ที่เมือง Austin มลรัฐ Texas สองผู้ก่อตั้ง Instagram คือ Kevin Systrom และ Mike Krieger ขึ้นพูดถึงกรณีที่ Facebook เข้าซื้อ Instagram
เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า ราชวงศ์อังกฤษ โดยสำนักพระราชวังอังกฤษ มีช่องทางในการติดต่อสื่อสารบนโลกออนไลน์อยู่จำนวนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นทวิตเตอร์ (@RoyalFamily) หรือเพจบน Facebook ซึ่งมีบางครั้งที่สมาชิกของราชวงศ์ทรงลงมาใช้งานด้วยพระองค์เองเป็นครั้งคราว
Paul Grewal รองประธานของ Facebook ที่ดูแลด้านคดีความการฟ้องร้อง เปิดเผยว่าทั้ง Facebook และ Instagram ได้ยื่นฟ้องต่อศาลอเมริกาวันนี้ กับ 4 บริษัท และ 3 บุคคล ในประเทศจีน เนื่องจากมีการประกาศขายบัญชีปลอม, ขายยอด Like และยอด Follower ซึ่งการประกาศขายนี้เกิดขึ้นทั้งบน Facebook กับ Instagram เอง ตลอดจนบนแพลตฟอร์มอื่นทั้งของ Amazon, Apple, Google, LinkedIn และ Twitter นอกจากนี้การฟ้องร้องยังรวมถึงการนำเครื่องหมายการค้าไปใช้อย่างไม่ถูกต้องด้วย
Grewal ย้ำว่ากิจกรรมดังกล่าวไม่ถูกต้อง และต้องไม่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มของ Facebook ซึ่งทุกวันนี้ Facebook ยังคงเดินหน้าปิดบัญชีปลอมเป็นจำนวนหลายล้านบัญชีในแต่ละวัน การดำเนินคดีความครั้งนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของการหยุดกิจกรรมดังกล่าวเช่นกัน
Jane Manchun Wong นักวิจัยสายแกะหลังบ้านแอป เปิดเผยการค้นพบล่าสุดว่า Instagram กำลังเตรียมเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ สำหรับให้องค์กรไม่แสวงหากำไรเปิดรับบริจาคเงิน โดยผู้ใช้งานค้นหาองค์กรเหล่านั้น แชร์ลง Stories แล้วผู้ติดตามก็สามารถกดร่วมบริจาคเงินได้
Instagram ยืนยันการทดสอบดังกล่าว โดยบอกว่ายังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ซึ่งฟีเจอร์ดังกล่าวจะออกมาภายในปีนี้ ผู้ใช้สามารถเปิดระดมทุนบริจาคเงินให้องค์กรไม่แสวงหากำไรได้ ด้วยการซื้อสติกเกอร์ใน Stories
ขั้นตอนนั้นน่าจะคล้ายกับเครื่องมือบริจาคเงินของ Facebook ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2015
ที่มา: 9to5Mac
John Rankin Waddell ช่างภาพรายหนึ่งที่มีอีกชื่อในวงการว่า Rankin ทำโปรเจกต์ร่วมกับเอเจนซี่ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Visual Diet ได้ให้เด็กวัยรุ่นอายุ 13-19 ปี นำรูปภาพที่เขาถ่ายไปแต่งตามที่ตัวเองต้องการ โดยใช้แอพเซลฟี่ที่มีอยู่ในท้องตลาด
ผลที่ปรากฏออกมาคือ เด็กวัยรุ่นนิยมแต่งใบหน้าตัวเองให้เรียวเล็ก ตาโต จมูกแหลม (ซึ่งไม่เพียงเด็กสาววัยรุ่นแต่หลายคนในช่วงอายุต่างๆ ก็น่าจะนิยมแต่งรูปในทำนองนี้) ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อให้ตัวเองดูดีตามสมัยนิยม ซึ่งเป็นปรากฏการณืที่หาพบได้ทั่วไปในยุคโซเชียลมีเดีย
มีรายงานตั้งแต่เมื่อวานว่าบัญชี Instagram จำนวนมาก พบว่าจำนวนผู้ติดตามหรือ Follower มีจำนวนลดลง โดยเฉพาะในบัญชีของบุคคลมีชื่อเสียงที่มีผู้ติดตามสูง จะเห็นตัวเลขที่ลดลงระดับหลายหมื่นหรือหลายแสน ส่วน Ariana Grande กับ Selena Gomez นั้นพบว่าลดลงเป็นหลักล้านเลย
Instagram ทวีตชี้แจงว่ารับทราบปัญหาดังกล่าวแล้ว และกำลังตรวจสอบแก้ไขโดยเร็วที่สุด
รัฐบาลอินโดนีเซียยื่นจดหมายขอให้ Instagram ลบภาพการ์ตูนที่เนื้อหามีกิจกรรมทางเพศของเกย์เรื่อง #alpantuni และ Instagram ก็ยอมนำรูปภาพออกตามคำร้องขอ
การรักร่วมเพศ ไม่ได้เป็นอาชญากรรมในประเทศอินโดนีเซีย ยกเว้นในจังหวัดอาเจะห์ที่มีการบังคับใช้กฎหมายชาริอะฮ์ แต่การเป็นเกย์ในอินโดนีเซียนั้นไม่ได้ราบรื่น เราะสังคมก็ยังไม่เปิดรับเต็มที่ ในระยะหลังมานี้ ตำรวจอินโดนีเซียก็มีการบุกจับคนรักร่วมเพศและกักตัวพวกเขาไว้เป็นระยะเวลาสั้นๆ โดยใช้ข้อหากระทำการลามกอนาจาร บางจังหวัดในอินโดนีเซียก็เล็งออกกฎหมายให้กิจกรรมรักร่วมเพศนั้นผิด ต้องจ่ายค่าปรับหนักถึง 70 ดอลลาร์
Bundeskartellamt หน่วยงานต่อต้านการผูกขาดของเยอรมนี ออกคำสั่งห้าม Facebook เชื่อมข้อมูลผู้ใช้ระหว่าง Facebook, WhatsApp, Instagram เข้าด้วยกัน ก่อนได้รับความยินยอมจากผู้ใช้รายนั้น
Bundeskartellamt ให้เหตุผลว่าปัจจุบัน Facebook เป็นผู้ให้บริการ social network รายใหญ่ของโลก และไม่มีบริษัทอื่นมาเป็นคู่แข่งขันตรงๆ ถือว่ามีสถานะเกือบผูกขาดแล้ว จึงเข้าข่ายเงื่อนไขของกฎหมายต่อต้านการผูกขาด อีกทั้งธุรกิจ social network มีโมเดลหารายได้จากโฆษณา ซึ่งอิงกับข้อมูลของผู้ใช้งานเป็นหลัก
Adam Mosseiri หัวหน้า Instagram เขียนบทความลงใน Telegraph ระบุว่า Instagram ยังต้องลงมือทำอีกมากในการป้องกันผู้ใช้จากคอนเทนต์อันตราย และยังทำได้ไม่ดีพอในการตรวจจับรูปภาพวัยรุ่นที่ทำร้ายตัวเองและรูปภาพที่ส่อถึงพฤติกรรมฆ่าตัวตาย