Cisco รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงินบริษัท 2021 สิ้นสุดวันที่ 24 ตุลาคม 2020 รายได้รวม 11,929 ล้านดอลลาร์ ลดลง 9% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน กำไรสุทธิ 2,174 ล้านดอลลาร์

กลุ่มธุรกิจ Infrastructure Platform ซึ่งเป็นรายได้ส่วนใหญ่ของ Cisco มีรายได้ลดลง 16% จากการลดการใช้จ่ายของลูกค้าองค์กร อย่างไรก็ตาม Cisco เห็นการเติบโตต่อเนื่องจากสินค้าตระกูล Catalyst 9K และ WebEx ตลอดจนผลิตภัณฑ์โซลูชันความปลอดภัยเพื่อรองรับการทำงานจากที่บ้าน

Chuck Robbins ซีอีโอ Cisco กล่าวว่าบริษัทเห็นโอกาสอีกมากข้างหน้า เนื่องจากทุกบริษัท ทุกอุตสาหกรรม ต่างเร่งปรับยุทธศาสตร์เป็นดิจิทัลนำหน้า (digital-first)

Tencent รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2020 รายได้รวม 18,421 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 29% เทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิตามเกณฑ์ IFRS 5,712 ล้านดอลลาร์

ซีอีโอ Ma Huateng กล่าวว่าไตรมาสนี้ครบรอบสองปีที่ Tencent ปรับยุทธศาสตร์องค์กร ขยายตลาดจากลูกค้าทั่วไปสู่กลุ่มลูกค้าองค์กรมากขึ้น ซึ่งบริษัทก็เห็นประโยชน์จากการรวมกลุ่มธุรกิจโฆษณา, ปรับรูปแบบผลิตภัณฑ์ ตลอดจนการเติบโตในธุรกิจคลาวด์และ SaaS

รายได้จากธุรกิจเกมออนไลน์เพิ่มขึ้น 45% ส่วนจำนวนผู้ใช้งาน WeChat เพิ่มขึ้นเป็น 1,212.8 ล้านบัญชี

ที่มา: Tencent

EA ประกาศงบการเงินไตรมาส 3/2020 ภาพรวมคือรายได้ 1,151 ล้านดอลลาร์ ลดลง 14% จากไตรมาสเดียวกันของปี 2019

ถ้าดูตัวเลขรวมอาจเห็นว่ารายได้ของ EA ตกลง แต่จริงๆ แล้วสาเหตุที่ EA รายได้ลดลง มาจากการเปิดตัวเกมในไตรมาส 3 ค่อนข้างน้อย (Madden NFL 21, UFC 4, Star Wars: Squadron) และเลื่อนเกมฟอร์มยักษ์อย่าง FIFA 21 มาขายในไตรมาส 4 แทน ทำให้รายได้จากการขายเกมแบบ full game ที่ควรจะอยู่ใน Q3 ย้ายมาอยู่ Q4 (ที่น่าจะกวาดรายได้ถล่มทลาย) แทน

Dropbox รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ปี 2020 รายได้เพิ่มขึ้น 14% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 487.4 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิแบบ GAAP 32.7 ล้านดอลลาร์

Drew Houston ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Dropbox กล่าวว่าบริษัทเห็นทิศทางที่ดีขึ้นทุกทาง ทั้งกำไรจากการดำเนินงาน ความสามารถการทำกำไร และกระแสเงินสดอิสระ สะท้อนความแข็งแกร่งของรูปแบบธุรกิจ ที่สามารถเติบโตต่อไปได้ในระยะยาว ทั้งยังเชื่อว่าการปรับรูปแบบการทำงานของบริษัทที่เป็น Virtual First ให้พนักงานสามารถทำงานจากที่บ้านได้อย่างถาวร จะเป็นโอกาสใหญ่ในการสร้างสิ่งใหม่ ๆ

Uber รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2020 มีปริมาณการจ่ายเงินผ่านแพลตฟอร์ม (Gross Booking) ลดลง 10% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 14,745 ล้านดอลลาร์ แบ่งเป็นส่วนของการเดินทางลดลง 50% และเดลิเวอรีเพิ่มขึ้น 135% คิดเป็นรายได้บริษัทตามบัญชีแบบ GAAP 3,129 ล้านดอลลาร์ ลดลง 18% ขาดทุนสุทธิ 1,089 ล้านดอลลาร์

ตัวเลขที่น่าสนใจคือ Adjusted EBITDA หรือกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายแบบปรับปรุง ซึ่งสะท้อนไปที่การดำเนินงาน โดยส่วนการเดินทางมี EBITDA เป็นบวก 245 ล้านดอลลาร์ ส่วนเดลิเวอรีติดลบ 183 ล้านดอลลาร์ ซึ่งซีเอฟโอ Nelson Chai กล่าวว่า Uber น่าจะมี Adjusted EBITDA รวมเป็นบวกภายในปี 2021

Alibaba รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2020 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 30% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 22,838 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 4,237 ล้านดอลลาร์ โดยมีจำนวนผู้ใช้งานผ่านมือถือแบบ MAU 881 ล้านคน

ซีอีโอ Daniel Zhang ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่ายอดขายสุทธิ (GMV) บน Tmall เพิ่มขึ้น 21% โดยสินค้า FMCG มีการเติบโตเร็วที่สุด ส่วนสินค้าอิเล็กทรอนิกส์มีการเติบโตลดลงเนื่องจากลูกค้ารอ iPhone รุ่นใหม่ ขณะที่เทศกาลลดราคาประจำปี 11.11 ปีนี้มีการปรับรูปแบบ เพิ่มการขายเป็นสองช่วงคือ 1-3 พฤศจิกายน และ 11 พฤศจิกายน เพื่อให้ลูกค้ามีเวลาในการตัดสินใจซื้อมากขึ้น รวมทั้งลดความกดดันที่บริษัทจัดส่งสินค้าต้องรับมือกับพัสดุจำนวนมาก

AIS เผยผลประกอบการไตรมาส 3/2020 ที่สภาพเศรษฐกิจโดยรวมเริ่มฟื้นฟูขึ้นมาบ้างจากวิกฤต COVID-19

• รายได้รวม 41,715 ล้านบาท ลดลง 1.3% จากไตรมาสก่อน (QoQ) และลดลง 6.7% จากปีก่อน (YoY)
• กำไรสุทธิ 6,764 ล้านบาท ลดลง 6.5% จากไตรมาสก่อน และลดลง 23% จากปีก่อน
• ภาพรวมของ AIS ยังคาดการณ์ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังเปราะบาง กำลังซื้อของผู้บริโภคอ่อนตัว ทำให้รายได้จากโทรศัพท์เคลื่อนที่ลดลง แต่ธุรกิจเน็ตบ้านและลูกค้าองค์กรยังเติบโตได้
• แนวทางของ AIS คือบริหารต้นทุนเพื่อรักษากำไร EBITDA แต่ก็ยังลงทุนเรื่องโครงข่าย 5G ต่อไป โดยตั้งเป้าครอบคลุม 16% ของประชากรไทยภายในปีนี้

นินเทนโดรายงานผลประกอบการในรอบ 6 เดือนแรก (เมษายน-กันยายน 2020) ยอดขาย 7.70 แสนล้านเยน เพิ่มขึ้น 73% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว และมีกำไรสุทธิ 2.13 แสนล้านเยน

ไตรมาสที่ผ่านมา Nintendo Switch ขายได้ 6.86 ล้านเครื่อง แบ่งเป็น Switch 5.31 ล้านเครื่อง และ Switch Lite 1.55 ล้านเครื่อง ทำให้ยอดขายสุทธินับตั้งแต่เปิดตัวเป็น 68.30 ล้านเครื่อง สูงกว่าเครื่องเล่นแฟมิคอม (NES) ที่ขายไปได้ 61.91 ล้านเครื่อง แล้ว

Qualcomm รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท 2020 สิ้นเดือนเดือนกันยายน มีรายได้แบบ Non-GAAP 6,502 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 35% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 1,669 ล้านดอลลาร์

Steve Mollenkopf ซีอีโอ Qualcomm กล่าวว่าผลประกอบการที่ออกมาแสดงให้เห็นว่าการลงทุนใน 5G ของบริษัท เห็นผลตอบแทนแล้วจากกลุ่มธุรกิจขายไลเซนส์ และบริษัทจะยังเติบโตต่อจากกลุ่มสินค้า RF front-end, ยานยนต์ และ IoT

PayPal รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2020 มีปริมาณการใช้จ่ายเงินผ่านแพลตฟอร์ม (Total Payment Volume - TPV) เพิ่มขึ้นถึง 38% เทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนเป็น 246,691 ล้านดอลลาร์ และบันทึกเป็นรายได้ 5,459 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 25% ซึ่งเป็นสถิติใหม่สูงสุดในประวัติศาสตร์บริษัท กำไรสุทธิ 1,021 ล้านดอลลาร์

PayPal มีจำนวนบัญชีเปิดใหม่ 15.2 ล้านบัญชี ทำให้จำนวนบัญชีรวมเมื่อสิ้นสุดไตรมาสเพิ่มขึ้นเป็น 361 ล้านบัญชี มีจำนวนธุรกรรมรวม 4 พันล้านครั้ง

Facebook รายงานผลประกอบไตรมาสที่ 3 ปี 2020 รายได้รวม 21,470 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 22% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 7,846 ล้านดอลลาร์

จำนวนผู้ใช้งานเป็นประจำทุกวัน (DAUs) เพิ่มขึ้นเป็น 1,820 ล้านราย เพิ่มขึ้น 12%, ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน (MAUs) 2,740 ล้านราย เพิ่มขึ้น 12%, จำนวนผู้ใช้งานรวมทุกบริการในเครือทุกเดือน (Family monthly active people) 3.21 พันล้านคน

Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิล รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ปี 2020 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนเป็น 46,173 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 11,247 ล้านดอลลาร์

ซีอีโอ Sundar Pichai กล่าวว่าผลการดำเนินงานที่ออกมาแข็งแกร่ง เป็นไปตามทิศทางที่ทุกอย่างออนไลน์มากขึ้น

ตัวเลขรายได้ตามกลุ่มธุรกิจที่น่าสนใจ รายได้โฆษณา YouTube เพิ่มขึ้นเป็น 5,037 ล้านดอลลาร์, รายได้ Google Cloud เพิ่มเป็น 3,444 ล้านดอลลาร์, รายได้กูเกิลอื่น ๆ (ฮาร์ดแวร์, Play Store, ค่าสมัครใช้บริการ YouTube) 5,478 ล้านดอลลาร์ และธุรกิจใหม่ Other Bets รายได้ 178 ล้านดอลลาร์ ขาดทุนจากการดำเนินงานเฉพาะส่วนนี้ 1,103 ล้านดอลลาร์

แอปเปิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ผ่านมา ไตรมาส 4 ตามปีการเงินบริษัท 2020 สิ้นสุดวันที่ 26 กันยายน 2020 รายได้ 64,698 ล้านดอลลาร์ ใกล้เคียงกับไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว และมีกำไรสุทธิ 12,673 ล้านดอลลาร์ ยอดขายจากนอกอเมริกาคิดเป็น 59% ของรายได้รวม

Amazon รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2020 มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานย้อนหลัง 12 เดือน เพิ่มขึ้น 56% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 55,292 ล้านดอลลาร์ เฉพาะในไตรมาสเพิ่มขึ้นเป็น 11,964 ล้านดอลลาร์ ยอดขายรวม 96,145 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 37% และมีกำไรสุทธิ 6,331 ล้านดอลลาร์

ผลการดำเนินงานในไตรมาสนี้สะท้อนการเติบโตสูงของ Amazon แม้ไม่มีการจัดเทศกาลลดราคา Prime Day แบบทุกปี เนื่องจากเลื่อนไปเป็นเดือนตุลาคม

รายได้เฉพาะธุรกิจ AWS เพิ่มขึ้น 29% เป็น 11,601 ล้านดอลลาร์ มีกำไรจากการดำเนินงานส่วนนี้ 3,535 ล้านดอลลาร์

Twitter รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2020 รายได้รวม 936 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน เฉพาะรายได้จากโฆษณาเพิ่มขึ้น 15% เป็น 808 ล้านดอลลาร์ รายได้จากนอกอเมริกาคิดเป็น 424 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 29 ล้านดอลลาร์

Twitter รายงานจำนวนผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มโดยวัดที่ ผู้ใช้งานประจำทุกวันซึ่งสร้างรายได้ (mDAU - monetizable daily active users) ตัวเลขไตรมาสนี้เป็น 187 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2020 ซึ่งอยู่ที่ 186 ล้านบัญชี แบ่งเป็นในอเมริกา 36 ล้านบัญชี และต่างประเทศ 152 ล้านบัญชี

ซัมซุงรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2020 ซึ่งเป็นข้อมูลเพิ่มเติมจากตัวเลขเบื้องต้นที่รายงานไปเมื่อต้นเดือน ยอดขาย 66.96 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 8% จากไตรมาสที่ 3 ปี 2019 กำไรจากการดำเนินงาน 12.35 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 58.9% และมีกำไรสุทธิ 9.36 ล้านล้านวอน

ซัมซุงระบุว่ากำไรจากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นมาก มาจากกลุ่มธุรกิจชิปหน่วยความจำ ที่มีความต้องการสูงทั้งจากลูกค้าโทรศัพท์มือถือและพีซี แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากราคาต่อหน่วยที่ลดลงก็ตาม

Pinterest รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2020 รายได้เพิ่มขึ้น 58% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 442.616 ล้านดอลลาร์ และขาดทุนแบบ GAAP 97 ล้านดอลลาร์ ตัวเลขผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน (MAUs) เพิ่มขึ้นเป็น 442 ล้านบัญชี

ซีอีโอ Ben Silbermann กล่าวว่าผู้คนยังคงเข้ามาที่ Pinterest เพื่อหาแรงบันดาลใจใหม่สำหรับการใช้ชีวิต อย่างช่วงนี้ก็มีทุกอย่างตั้งแต่การจัดงานฮาโลวีนแบบ social distance ไปจนถึงการจัดพื้นที่ให้ลูกเรียนหนังสือจากที่บ้าน

รายได้หลักของ Pinterest มาจากโฆษณา ซึ่งบริษัทเผยว่าพบการใช้จ่ายโฆษณาที่เพิ่มขึ้น โดยมาจากลูกค้าที่ตัดสินใจประท้วงไม่ลงโฆษณาในโซเชียลมีเดียบางแห่ง แต่ไม่ยืนยันว่าแนวโน้มนี้จะเป็นตลอดไปหรือไม่

โซนี่รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ตามปีการเงินบริษัท 2020 (กรกฎาคม-กันยายน) รายได้รวม 2.1135 ล้านล้านเยน ลดลงเล็กน้อย (ประมาณ 0%) เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว และมีกำไรสุทธิ 0.36782 ล้านล้านเยน

ถึงแม้โซนี่ยังไม่เริ่มจำหน่าย PS5 แต่กลุ่มธุรกิจเกมก็เป็นกลุ่มที่ทำเงินให้โซนี่มากที่สุดในไตรมาส รายได้เพิ่มขึ้นถึง 52.2% (5.066 พันล้านเยน) ตามด้วยกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มขึ้น 11.2% (5.047 พันล้านเยน) ขณะที่ธุรกิจภาพยนตร์รายได้ลดลง 68.3% (1.923 พันล้านเยน)

โซนี่ระบุว่ารายได้จากธุรกิจเกมเพิ่มขึ้นสูงมาจากยอดขายเกม และบริการ PS Plus แม้ว่า PS4 จะมียอดขายลดลงก็ตาม ส่วนธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์มาจากยอดขายโทรทัศน์ที่เพิ่มมากขึ้น

LINE รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2020 จำนวนผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือนเฉพาะ 4 ประเทศหลัก (MAUs) เพิ่มขึ้นเป็น 167 ล้านบัญชี โดยเป็นผู้ใช้ในญี่ปุ่น 86 ล้านบัญชี และในไทย 47 ล้านบัญชี มีอัตราส่วน DAU/MAU ที่ 80% สะท้อนพฤติกรรมที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำทุกวันสูง

รายได้รวมเพิ่มขึ้น 12.4% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 62,894 ล้านเยน รายได้จากนอกประเทศญี่ปุ่นคิดเป็น 27% ของรายได้รวม รายได้จากธุรกิจโฆษณาเพิ่มขึ้น 16.3% เป็น 35,551 ล้านเยน คอนเทนต์เพิ่มขึ้น 0.5% เป็น 17,961 ล้านเยน (+5.3%)

ส่วนธุรกิจใหม่ตามกลยุทธ์เพิ่มขึ้น 27.8% เป็น 9,479 ล้านเยน โดย LINE Pay มีผู้ใช้งาน 5.64 ล้านบัญชี เฉพาะญี่ปุ่น 2.63 ล้านบัญชี มูลค่าการใช้จ่ายผ่านระบบ (GMV) 4.59 แสนล้านเยน

เก็บตกรายละเอียดผลประกอบการไมโครซอฟท์ Q3/2020 ฝั่งของ Surface และ Windows

ยอดขาย Surface ในไตรมาสนี้เติบโตถึง 37% จากปีก่อน มีรายได้รวม 1,553 พันล้านดอลลาร์ แม้น้อยกว่าตัวเลขของไตรมาสที่แล้ว 1,724 พันล้านดอลลาร์ จากปัจจัย Work from Home ที่คนเริ่มทำงานอยู่บ้านกันในไตรมาส 2

เก็บตกรายละเอียดผลประกอบการไมโครซอฟท์ Q3/2020 ในฝั่งของธุรกิจเกม ไมโครซอฟท์รายงานว่ารายได้หมวด Gaming ทั้งหมดในไตรมาสนี้เติบโต 22% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

ยอดขายฮาร์ดแวร์ Xbox ลดลง 27% เนื่องจากเป็นไตรมาสสุดท้ายก่อน Xbox Series X|S วางขาย แถมตอนนี้มีฮาร์ดแวร์ขายอยู่รุ่นเดียวคือ Xbox One S (แต่ไตรมาสที่แล้วโตถึง 49% จากปัจจัยคนอยู่บ้านเล่นเกม)

แต่ยอดขายเกมและคอนเทนต์ Xbox สามารถโตได้ถึง 30% จากปัจจัยยอดขายเกมของไมโครซอฟท์เอง, ยอดสมาชิก Game Pass (ตอนนี้ 15 ล้านคนแล้ว) และยอดขายสินค้าในเกมของ third party

AMD รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ปี 2020 รายได้เพิ่มขึ้น 56% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนเป็น 2,801 ล้านดอลลาร์ หากเทียบกับไตรมาส 2/2020 รายได้ก็เพิ่มขึ้น 45% ส่วนกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 390 ล้านดอลลาร์

ซีอีโอ Lisa Su กล่าวว่าความต้องการสินค้าที่แข็งแกร่งทั้งจากพีซี, เกมมิ่ง และศูนย์ข้อมูล ทำให้ AMD ในไตรมาสที่ผ่านมามีรายได้ทำสถิติสูงสุดใหม่ และเป็นไตรมาสที่รายได้เติบโตมากกว่า 25% ติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 4 แล้ว และบริษัทจะยังรักษาการเติบโตด้วยผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ที่เตรียมออกมาทั้ง Ryzen, Radeon และสินค้า EPYC

ไมโครซอฟท์รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงินบริษัท 2021 (กรกฎาคม-กันยายน) รายได้รวมเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 37,154 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 13,893 ล้านดอลลาร์

รายได้แยกตาม 3 กลุ่มธุรกิจของไมโครซอฟท์มีการเติบโตในทุกกลุ่ม โดยกลุ่มธุรกิจ Productivity and Business Processes รายได้เพิ่มขึ้น 11% จาก Office 365 Commercial รายได้เพิ่ม 21%, Microsoft 365 Consumer มีผู้สมัครใช้งาน 45.3 ล้านบัญชี และ LinkedIn รายได้เพิ่มขึ้น 16%

Twilio ผู้ให้บริการ API การติดต่อสื่อสารทางโทรศัพท์และ SMS รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2020 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 52% เทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนเป็น 448.0 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 7.3 ล้านดอลลาร์ ดีกว่าปีก่อนที่ขาดทุน

จำนวนลูกค้าที่ใช้ Twilio ก็เพิ่มขึ้นมาเป็น 208,000 ราย โดยมีจำนวนลูกค้ารายใหญ่ที่สุด 10 อันดับ ทำเงินคิดเป็น 14% ของรายได้รวมทั้งหมด

Jeff Lawson ซีอีโอ Twilio กล่าวว่าการสร้าง engagement ในช่องทางดิจิทัลกลายเป็นสิ่งสำคัญมากขึ้นในแง่ประสบการณ์ของลูกค้า ซึ่งธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรมก็เลือกใช้ Twilio ในการพัฒนาโซลูชันของตนเอง

หัวเหว่ยรายงานผลการดำเนินงานบริษัทในช่วง 9 เดือนของปี 2020 มีรายได้รวม 6.71 แสนล้านหยวน เพิ่มขึ้น 9.9% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว มีอัตรากำไรสุทธิ 8.0% โดยหัวเหว่ยบอกว่าผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นไปตามที่บริษัทคาดการณ์ไว้

ในตัวเลขการรายงานประจำไตรมาสนี้ หัวเหว่ยไม่ได้แยกรายได้ออกมาตาม 3 กลุ่มธุรกิจหลักคือ โทรศัพท์มือถือ, ลูกค้าองค์กร และลูกค้ารายย่อย

หัวเหว่ยกล่าวว่าเทคโนโลยีและการสื่อสารเข้ามามีบทบาทสูงขึ้น ทั้งต่อเศรษฐกิจและสังคม ไม่ว่าจะเป็น AI, คลาวด์ หรือ 5G ซึ่งบริษัทก็ได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าสูงสุด ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่ซับซ้อนมากขึ้น