นินเทนโดรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2020 ยอดขาย 6.35 แสนล้านเยน และมีกำไรสุทธิ 1.64 แสนล้านเยน Nintendo Switch ขายได้อีก 8.40 ล้านเครื่อง และ Nintendo Switch Lite 3.16 ล้านเครื่อง ทำให้ยอดขายสุทธิของ Switch นับตั้งแต่เปิดตัวรวมทั้งหมดเป็น 79.87 ล้านเครื่อง สูงกว่ายอดขายสุทธิของเครื่องเล่นตระกูล 3DS เป็นที่เรียบร้อยแล้ว (75.94 ล้านเครื่อง)
ดีแทครายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2563 รายได้ในไตรมาสรวม 20,531 ล้านบาท ลดลง 4.2% เทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 7.8% หากเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2563 มีกำไรสุทธิ 281 ล้านบาท
จำนวนลูกค้าสิ้นสุดไตรมาส 4 มีจำนวน 18.856 ล้านเลขหมาย เพิ่มขึ้น 0.173 ล้านเลขหมาย จากไตรมาสก่อนหน้านี้ เป็นการเพิ่มขึ้นทั้งลูกค้าในระบบเติมเงินและระบบรายเดือน มีรายได้เฉลี่ยต่อเลขหมาย ไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย IC (ARPU) 250 บาทต่อเดือน อัตราการใช้งานข้อมูลต่อเลขหมายเพิ่มเป็น 19.9GB ต่อเดือน
Tim Cook ซีอีโอแอปเปิล เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มเติมในช่วงแถลงผลประกอบการประจำไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งทำสถิติยอดขายสูงสุดอีกครั้ง โดยตอนนี้มีอุปกรณ์ของแอปเปิลทุกประเภทที่เปิดและใช้งานอยู่รวมกันมากกว่า 1,650 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งมีจำนวน 1,500 ล้านเครื่อง เฉพาะ iPhone ตอนนี้มีมากกว่า 1,000 ล้านเครื่อง เพิ่มจากปีก่อนที่ 900 ล้านเครื่อง
ไม่ใช่แค่ยอดขายฮาร์ดแวร์ แต่จำนวนผู้จ่ายเงินผ่านระบบ subscription ก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นเช่นกันเป็น 620 ล้านคน
เขายังเปิดเผยสถิติการใช้งาน FaceTime ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่ผ่านมา โดยบอกมีการสนทนาทั้งภาพและเสียงเป็นจำนวนสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา แต่ไม่ได้บอกตัวเลข
ซัมซุงรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2020 ยอดขายรวมเพิ่มขึ้น 3% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 61.55 ล้านล้านวอน มีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเป็น 9.05 ล้านล้านวอน และกำไรสุทธิ 6.61 ล้านล้านวอน
ซัมซุงระบุว่ากำไรที่เพิ่มขึ้นปัจจัยหลักมาจากธุรกิจชิ้นส่วนจอภาพ และธุรกิจชิปหน่วยความจำ ซึ่งแนวโน้มในไตรมาสปัจจุบัน ยังมีความต้องการชิปหน่วยความจำในตลาดที่แข็งแกร่ง ส่วนธุรกิจจอภาพมีคำสั่งซื้อ OLED ที่มากขึ้น เนื่องจากสมาร์ทโฟน 5G นิยมใช้จอแบบนี้
ส่วนธุรกิจโทรศัพท์มือถือรายได้ลดลง จากการแข่งขันในตลาดที่สูงช่วงปลายปี รวมทั้งกำไรจากการดำเนินงานก็ลดลงด้วยค่าใช้จ่ายการตลาดที่เพิ่มขึ้น
Tesla รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2020 มีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP 270 ล้านดอลลาร์ รายได้รวมเพิ่มขึ้น 46% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 10,744 ล้านดอลลาร์ ผลการดำเนินงานนี้ทำให้ตลอดปี 2020 Tesla มีกำไรตลอดทั้งปีเป็นครั้งแรก กระแสเงินสดอิสระยังเพิ่มขึ้นเป็น 1,868 ล้านดอลลาร์
Tesla ให้ข้อมูลการดำเนินงานเพิ่มเติม โดยโรงงานที่เซี่ยงไฮ้ มีกำลังการผลิต Model 3 มากกว่า 5,000 คันต่อสัปดาห์ และเริ่มการผลิต Model Y แล้ว ส่วนโรงงานที่เบอร์ลินและออสตินยังคงดำเนินงานได้ตามแผน โดยจะเริ่มการผลิตได้ในปีนี้ ส่วนรถบรรทุกไฟฟ้า Tesla Semi จะเริ่มส่งมอบในปีนี้
Facebook รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ปี 2020 รายได้รวม 28,072 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 33% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 11,219 ล้านดอลลาร์
จำนวนผู้ใช้งานในแพลตฟอร์มยังคงเพิ่มขึ้น โดยมีตัวเลข DAUs (ใช้งานประจำทุกวัน) เพิ่มขึ้น 11% เป็น 1,845 ล้านราย, MAUs (ใช้งานประจำทุกเดือน) 2,797 ล้านราย และมีจำนวนผู้ใช้งานรวมทุกบริการในเครือเป็นประจำทุกเดือน 3.30 พันล้านคน
แอปเปิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงินบริษัท 2021 สิ้นสุดวันที่ 26 ธันวาคม 2020 รายได้รวมทำสถิติใหม่สูงสุดอีกครั้ง เพิ่มขึ้น 21% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนเป็น 111,439 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่แอปเปิลมีรายได้ไตรมาสเดียวมากกว่าแสนล้านดอลลาร์ โดยมีกำไรสุทธิ 44,328 ล้านดอลลาร์ และรายได้จากนอกอเมริกาคิดเป็น 64% ของรายได้ทั้งหมด
Luca Maestri ซีเอฟโอแอปเปิลกล่าวว่ายอดขายแต่ละกลุ่มสินค้าเติบโตระดับเลขสองหลัก ทำให้เป็นสถิติใหม่ในทุกยอดขายแยกตามภูมิภาค และจำนวนอุปกรณ์ที่เปิดใช้งานก็ทำสถิติใหม่เช่นกัน ส่วนซีอีโอ Tim Cook กล่าวว่าความสำเร็จของแอปเปิลในไตรมาสนี้จะเป็นไปไม่ได้เลย ถ้าขาดผลงานที่เต็มเปี่ยมไปด้วยนวัตกรรมต่อเนื่องจากทีมงานของแอปเปิลทุกคนทั่วโลก
ไฮไลท์ของผลประกอบการไมโครซอฟท์ไตรมาส 4/2020 คือรายได้จากฝั่งคลาวด์ที่เติบโตถึง 23% และรายได้ฝั่งไคลเอนต์ (more personal computing) ที่เติบโตรวม 14%
ประเด็นที่น่าสนใจในฝั่ง more personal computing คือ รายได้จากธุรกิจเกมทั้งหมดเติบโตขึ้น 51% จากปัจจัยการวางขาย Xbox Series X|S
AMD รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ปี 2020 รายได้เพิ่มขึ้น 53% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 3,244 ล้านดอลลาร์ มีกำไรสุทธิแบบ GAAP 1,781 ล้านดอลลาร์
ซีอีโอ Lisa Su กล่าวว่าตลอดปีที่ผ่านมา AMD มีการเติบโตอย่างชัดเจน รายได้รวมตลอดปีทำสถิติใหม่สูงสุด อัตรากำไรที่เพิ่มขึ้น และกำไรสุทธิเพิ่มมากกว่าเท่าตัวจากปี 2019 ในปีปัจจุบันบริษัทยังคงสร้างความแข็งแกร่งในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้ง พีซี, เกมมิ่ง และศูนย์ข้อมูล
กลุ่มธุรกิจ Computing and Graphics รายได้เพิ่มขึ้น 18% จากยอดขายของ Ryzen โดยเฉพาะกลุ่มเดสก์ท็อป เช่นเดียวกับ Radeon ที่เติบโตสูง ขณะที่กลุ่ม Enterprise รายได้เพิ่มถึง 176% จากยอดขายของ Semi-Custom และ EPYC
ไมโครซอฟท์รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ตามปีการเงินบริษัท 2021 (ตุลาคม-ธันวาคม) รายได้รวม 43,076 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 17% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 15,463 ล้านดอลลาร์
ซีอีโอ Satya Nadella กล่าวว่าการเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัลขององค์กรกำลังเข้าสู่ระลอกใหม่ ที่ทุกองค์กรต้องสร้างสิ่งต่าง ๆ ของตนเองขึ้นมารองรับการเติบโต และไมโครซอฟท์ก็พร้อมเป็นผู้สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านนี้
ไมโครซอฟท์ยังคงเติบโตระดับตัวเลขสองหลักในทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจ โดย กลุ่มธุรกิจ Productivity and Business Processes รายได้เพิ่มขึ้น 13%, Intelligent Cloud เพิ่มขึ้น 23% และ More Personal Computing เพิ่มขึ้น 14%
ไฮไลท์ของรายได้ตามผลิตภัณฑ์มีดังนี้
ไอบีเอ็มรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ปี 2020 รายได้รวมลดลง 6% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 20,367 ล้านดอลลาร์ มีกำไรสุทธิ 1,356 ล้านดอลลาร์
กลุ่มธุรกิจคลาวด์ที่เป็นธุรกิจใหม่ตามกลยุทธ์ของไอบีเอ็มยังคงเติบโต รายได้เพิ่มขึ้น 10% ขณะที่ Red Hat รายได้เพิ่มขึ้น 19%
Arvind Krishna ซีอีโอไอบีเอ็ม กล่าวว่าในปี 2020 บริษัทได้ทำให้แพลตฟอร์มไฮบริดคลาวด์มาเป็นพื้นฐานสำคัญ สำหรับลูกค้าบริษัทที่กำลังเปลี่ยนไปสู่องค์กรดิจิทัล ท่ามกลางความท้าทายต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวม เขายังมั่นใจว่าไฮบริดคลาวด์ และ AI จะช่วยให้บริษัทเติบโตต่อในปี 2021 นี้
ที่มา: ไอบีเอ็ม (pdf)
อินเทลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2020 รายได้รวม 19,978 ล้านดอลลาร์ ลดลง 1% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 5,857 ล้านดอลลาร์
กลุ่มธุรกิจ Data Center รายได้ลดลง 16% เป็น 6,088 ล้านดอลลาร์ จากภาวะการแข่งขันในตลาดและภาพรวมเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวข้องกับ 5G ยังคงเติบโต ขณะที่กลุ่มธุรกิจ Client Computing รายได้เพิ่มขึ้น 9% เป็น 10,939 ล้านดอลลาร์
Bob Swan ซีอีโออินเทลกล่าวว่าอินเทลยังส่งมอบสินค้าเกี่ยวข้องกับการประมวลผลให้กับลูกค้าได้ต่อเนื่อง ทั้งยืนยันว่าอินเทลวางกลยุทธ์ไว้ดี มีฐานทางการเงินที่ดี และพร้อมส่งต่อตำแหน่งซีอีโอให้กับ Pat Gelsinger
Netflix รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2020 รายได้เพิ่มขึ้น 21.5% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 6,644 ล้านดอลลาร์ มีกำไรสุทธิ 542 ล้านดอลลาร์ จำนวนสมาชิกแบบจ่ายเงินเพิ่มขึ้นในไตรมาส 8.51 ล้านคน ทำให้จำนวนสมาชิกรวมเป็น 203.66 ล้านคน
คอนเทนต์เด่นที่ Netflix ระบุถึง ในไตรมาสที่ผ่านมาได้แก่ The Crown, Bridgerton, The Midnight Sky นอกจากนี้คอนเทนต์ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษก็ได้รับความนิยมสูง อาทิ Barbarians, Sweet Home (ผู้ชม 22 ล้านคน), Alice in Borderland (ผู้ชม 18 ล้านคน)
Tesla รายงานตัวเลขการผลิตและส่งมอบรถยนต์ ประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2020 ผลิตรถยนต์ไปได้รวม 179,757 คัน และส่งมอบรถยนต์ให้ลูกค้าได้ 180,570 คัน ซึ่งส่วนนี้แบ่งเป็น Model S และ X 18,920 คัน ส่วน Model 3 และ Y ส่งมอบไป 161,650 คัน
ผลการดำเนินงานรวมตลอดปี 2020 ทำให้ Tesla ส่งมอบรถยนต์ให้ลูกค้าได้รวม 499,550 คัน ขาดไปเพียงเล็กน้อยจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ Tesla ประกาศไว้เมื่อต้นปี 2020 ที่ 5 แสนคัน
Tesla จะรายงานตัวเลขทางการเงินประจำไตรมาสในช่วงปลายเดือน นอกจากนี้มีข้อมูลเพิ่มเติมว่า Model Y ได้เริ่มผลิตแล้วที่โรงงานในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งจะเริ่มส่งมอบเร็ว ๆ นี้
HPE (Hewlett Packard Enterprise) รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท 2020 สิ้นสุด 31 ตุลาคม 2020 รายได้รวม 7,208 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ บริษัทระบุว่ารายได้ในไตรมาสที่ผ่านมากลับไปเท่ากับช่วงก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 แล้ว ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 157 ล้านดอลลาร์
Slack รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท 2021 สิ้นสุดวันที่ 31 ตุลาคม 2020 ซึ่งออกมาพร้อมกับข่าว Salesforce ประกาศเข้าซื้อกิจการ รายได้รวมเพิ่มขึ้น 39% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 234.5 ล้านดอลลาร์ และขาดทุนสุทธิแบบ GAAP 63.6 ล้านดอลลาร์
ในไตรมาสที่ผ่านมา Slack มีลูกค้าที่ใช้งานแบบจ่ายเงินมากกว่า 142,000 ราย เพิ่มขึ้น 35% และมีลูกค้า 1,080 ราย ที่จ่ายเงินมากกว่า 1 แสนดอลลาร์ต่อปี
Slack ยังอัพเดตตัวเลขของ Slack Connect ฟีเจอร์สำหรับลูกค้าแบบจ่ายเงิน ที่สามารถคุยข้ามหน่วยงานได้อย่างปลอดภัย ว่ามีลูกค้าที่ใช้งานแล้วกว่า 64,000 ราย และมีการเชื่อมต่อแล้วกว่า 520,000 endpoint
Zoom รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท 2021 สิ้นสุดวันที่ 31 ตุลาคม 2020 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 367% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 777.7 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิแบบ GAPP 198.4 ล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ Zoom ไม่ได้รายงานจำนวนผู้ใช้งานรวมทั้งหมด แต่เน้นที่ลูกค้าเสียเงิน โดยจำนวนลูกค้าแบบองค์กรมีประมาณ 433,700 ราย ที่มีพนักงานมากกว่า 10 คน เพิ่มขึ้น 485% จากปีก่อน และมีลูกค้า 1,289 ราย ที่จ่ายเงินมากกว่า 100,000 ดอลลาร์ ในช่วง 12 เดือน
Eric S. Yuan ซีอีโอ Zoom กล่าวว่าบริษัทยังคงโฟกัสในการพัฒนาวิธีการติดต่อสื่อสาร ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ที่คนสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ในโลกผ่าน Zoom
Dell Technologies รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท 2020 สิ้นสุดวันที่ 30 ตุลาคม 2020 รายได้รวม 23,482 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 881 ล้านดอลลาร์
ซีโอโอ Jeff Clarke กล่าวว่าเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งก็ส่งผลกับ Dell เช่นกัน ความต้องการสินค้าสำหรับการทำงานที่บ้าน และโซลูชันการเรียนออนไลน์ทำให้รายได้รวมบริษัทเพิ่มขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังเร่งพัฒนาเทคโนโลยีตามกลยุทธ์ as-a-Service เพื่อเป็นผู้นำในตลาดที่กำลังเติบโต ทำให้ลูกค้าสามารถจัดการข้อมูลและเวิร์กโหลดได้ในทุกระบบ
เอชพีรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท 2020 สิ้นสุดเดือนตุลาคม รายได้รวม 15,258 ล้านดอลลาร์ ลดลง 1.0% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน กำไรสุทธิ 668 ล้านดอลลาร์
Enrique Lores ซีอีโอ เอชพี กล่าวว่าไตรมาสที่ผ่านมาเอชพีส่งมอบสินค้าเป็นจำนวนเครื่องทำสถิติสูงสุดใหม่ สะท้อนบทบาทที่สำคัญของเอชพีที่มีต่อลูกค้า และทำให้เอชพีมั่นใจในแผนงานระยะยาว
Xiaomi รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2020 รายได้รวม 72,162.8 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 34.5% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน กำไรสุทธิ 4,128.3 ล้านหยวน ยอดขายเฉพาะธุรกิจสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้น 47.5% เป็น 47,604.1 ล้านหยวน จำนวนส่งมอบ 46.6 ล้านเครื่อง ซึ่งล้วนเป็นสถิติใหม่สูงสุดของบริษัท
ตัวเลขที่น่าสนใจคือรายได้นอกจีนของ Xiaomi รวม 39,800 ล้านหยวน ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งของรายได้รวมบริษัท ซึ่ง Xiaomi บอกว่าการเติบโตสูงมาจากตลาดในยุโรป
NVIDIA รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2021 ตามปีการเงินบริษัทสิ้นสุดวันที่ 25 ตุลาคม 2020 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 57% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 4,726 ล้านดอลลาร์ และเพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ เป็นสถิติใหม่สูงสุดของบริษัท ส่วนกำไรสุทธิ 1,336 ล้านดอลลาร์ เป็นสถิติสูงสุดเช่นกัน
กลุ่มบริษัท Sea ซึ่งมี Garena และ Shopee อยู่ในเครือ รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2020 รายได้รวมทุกธุรกิจเพิ่มขึ้น 98.7% หรือเกือบเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน เป็น 1,212.16 ล้านดอลลาร์ มีกำไรขั้นต้น 407.58 ล้านดอลลาร์ และขาดทุนสุทธิแบบ GAAP 425.3 ล้านดอลลาร์
กลุ่มสื่อบันเทิงดิจิทัล (Garena) มีรายได้ 569.0 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 72.9% จำนวนผู้ใช้งานเพิ่มเป็น 572.4 ล้านบัญชี จำนวนผู้ใช้งานที่เสียเงินมี 65.3 ล้านบัญชี หรือคิดเป็น 11.4% ของผู้ใช้งานทั้งหมด มี Free Fire เป็นเกมเด่นต่อไปอีกไตรมาส
ตามข่าวก่อนหน้านี้ว่า Airbnb ได้ยื่นเอกสารเพื่อเตรียมไอพีโอเข้าตลาดหุ้น ล่าสุดเอกสารได้เผยแพร่ต่อสาธารณะตามกำหนดเวลาแล้ว ซึ่งขั้นตอนถัดไปคือการนำบริษัทซื้อขายในตลาดหุ้น
ตัวเลขทางการเงินของ Airbnb ในไตรมาสที่ 3 ปี 2020 มีรายได้รวม 1,342 ล้านดอลลาร์ ลดลง 19% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 219 ล้านดอลลาร์ ตัวเลขในปี 2019 บริษัทมีรายได้ 3,698 ล้านดอลลาร์ และขาดทุน 322 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ตัวเลขสะสม 9 เดือนแรกของปี 2020 รายได้รวม 2,518 ล้านดอลลาร์ และขาดทุน 696 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลกระทบจากโควิด-19
กลุ่มทรู รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3/2563 มีรายได้รวม 33,008 ล้านบาท ลดลง 10.1% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน มี EBITDA (กำไรก่อนดอกเบี้ย-ภาษี-ค่าเสื่อมราคา-ค่าใช้จ่ายตัดจ่าย) อยู่ที่ 13,351 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 104 ล้านบาท
ผลการดำเนินงานแยกตามกลุ่มธุรกิจเป็นดังนี้
รายงานผลประกอบการดิสนีย์ประจำไตรมาส 4 เผยออกมาแล้ว สวนสนุกและสตูดิโอยังกระทบหนักจาก COVID-19 แต่บริการสตรีมมิ่ง Disney+ ประสบความสำเร็จมากขึ้นเรื่อยๆ มีผู้ใช้งานแบบเสียเงินแล้วกว่า 73 ล้านราย ทั้งที่เปิดตัวมาได้ปีกว่าๆ