Starship Commander เป็นโปรเจคเกม VR แนว Sci-fi ตัวล่าสุดจาก Microsoft พัฒนาโดย Human Interact ที่เล่นโดยใช้เพียงแค่คำสั่งเสียงจากผู้เล่นเท่านั้น ลงเครื่อง SteamVR และ Oculus
ภายในเกมเราจะได้รับบทเป็นกัปตันยานอวกาศ ออกทำภารกิจต่าง ๆ ทั่วกาแล็กซี การควบคุมของยานทั้งหมดจะทำผ่านการออกคำสั่งโต้ตอบกับ AI ของยานเรา นอกจาก AI แล้ว เราจะสามารถพูดคุยโต้ตอบกับตัวละครอื่น ๆ ได้ด้วย ทั้งพวกพ้องและศัตรูของเรา โดยคำพูดของเราจะส่งผลต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ ภายในเกม
เราเห็นแว่น VR แบบสวมหัวกันมาเยอะแล้ว แต่ VR แบบเป็นเครื่องที่เข้าไปนั่งได้ทั้งตัว ยังมีแต่ในการ์ตูนหรือนิยายเท่านั้น ล่าสุด Koei Tecmo ประกาศสร้างเจ้าเครื่องที่ว่านี้จริงๆ แล้ว
เครื่องของ Koei Tecmo เรียกว่า VR Sense ที่นอกจากให้ประสบการณ์ VR จากการมองแล้ว ยังเข้าถึงประสาทสัมผัสด้านอื่นๆ เช่น กลิ่น ลม ความร้อน สัมผัส ไอหมอก และการเคลื่อนไหวอีกด้วย
ตอนนี้ยังมีข้อมูลของเครื่อง VR Sense ค่อนข้างน้อย บอกเพียงว่าจะเปิดตัวช่วงกลางปีนี้ และน่าจะเปิดให้เล่นตามอาเขตของญี่ปุ่นก่อน มีเกมเปิดตัว 3 เกมคือเกมแข่งม้า GI Jockey, เกมสยองขวัญ Horror Sense และเกมเด่นของค่ายเองอย่าง Dynasty Warriors ส่วนราคาค่าเล่นต่อเกมยังไม่ระบุ
เมื่อปี 2014 บริษัท ZeniMax (บริษัทแม่ของ Bethesda SoftWorks และ id Software) ยื่นฟ้อง Oculus ในข้อหานำเทคโนโลยีและงานวิจัยไปใช้พัฒนาแว่น Rift โดยไม่ได้รับอนุญาตจากบริษัท ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีนี้แล้ว
คดีนี้ค่อนข้างซับซ้อน เพราะมีตัวละครสำคัญคือ John Carmack ผู้สร้างเกม Doom และผู้ก่อตั้ง id Software มาเกี่ยวข้องด้วย
Hugo Barra อดีตผู้บริหารระดับสูงฝั่ง Android ของ Google ที่ย้ายไปดำรงตำแหน่งรองประธานของ Xiaomi Global ตั้งแต่ปี 2013 ไม่กี่วันมานี้เองมีข่าวลาออกและจะกลับมาอยู่ซิลิคอนวัลเล่ย์ช่วงกุมภาพันธ์นี้
Mark Zuckerberg โพสต์ Facebook วันนี้ว่า Hugo Barra จะเข้ามาร่วมทีม Facebook ดูแลงานด้าน VR ทั้งหมด เขายังบอกด้วยว่ารู้จัก Barra มานานแล้ว โดย Barra เสนอไอเดียกับเขาว่า VR และ AR จะเป็นแพลตฟอร์มหลักในไม่ช้า เขารอไม่ไหวแล้วที่จะได้ร่วมงานกัน ใต้ข้อความยังมีรูปเซลฟี่เขากับ Barra ในรูปแบบ VR ด้วย
Hugo Barra ยังมาคอมเมนท์ใต้โพสต์ของ Mark Zuckerberg ด้วยว่า ขอบคุณและรอไม่ไหวที่จะได้ทำงานด้วยเช่นกัน เขาฝันอยากจะทำ VR/AR มานานตั้งแต่สิ่งเหล่านี้ยังอยู่ในเรื่องไซไฟ เขายังได้เรียนรู้จาก Lei Jun ซีอีโอ Xiaomi ว่า ไม่มีอะไรยอดเยี่ยมไปกว่าเทคโนโลยีก้าวหน้า และสามารถทำมันออกมาให้ใช้ได้กับคนจำนวนมาก
Amazon คงจะเป็นบริษัทหนึ่งที่ค่อนข้างเงียบเกี่ยวกับเทคโนโลยี VR เพราะแทบไม่ได้ออกมาแสดงเทคโนโลยีหรือพูดถึงมากสักเท่าไร ต่างกับ Facebook หรือ Google ที่โหมโปรโมตและวิจัยเทคโนโลยีนี้อย่างมาก
อย่างไรก็ตาม Amazon ก็ไม่ได้นิ่งเฉย เพราะทางบริษัทได้เริ่มจ้างพนักงานมาทำงานด้าน VR แล้ว คือ Amazon ประกาศรับสมัครงานในตำแหน่งฝ่าย creative director ของ VR โดยมีเป้าหมายเพื่อ “คิดโซลูชั่นด้าน VR ของ Amazon ในอนาคต”
การรับสมัครงานครั้งนี้อยู่ในส่วนของ A9 ของบริษัท ซึ่งเป็นส่วนที่ควบคุมเทคโนโลยีการค้นหาและโฆษณา โดยจากประกาศกล่าวว่า Amazon กำลังพัฒนา VR สำหรับเพิ่มประสบการณ์ซื้อสินค้าที่ลูกค้านับล้านคนจะใช้บนอุปกรณ์ VR ที่หลากหลาย
หลังจากที่ได้มีภาพต้นแบบแว่น VR/AR แพลตฟอร์ม Windows Holographic ออกมาในช่วงงาน CES 2017 ล่าสุด Vlad Kolesnikov จากไมโครซอฟท์ ได้ออกมาเผยผ่านวิดีโอบน Channel 9 ว่า จะมีชุดต้นแบบสำหรับนักพัฒนา (developer kit) ออกมา ในงาน Game Developer Conference ที่จะมีขึ้นในช่วงต้นเดือนมีนาคม
คาดว่ากลุ่มผู้ใช้งานทั่วไป จะได้ใช้งานในช่วงหลังจากการมาของ Windows 10 Creators Update ที่จะออกในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
ที่มา - MSPoweruser
คงเป็นความฝันของใครหลายๆ คนที่อยากจะลองสัมผัสประสบการณ์ชมหนังโป๊ผ่านแว่น VR ดูซักครั้ง หลังจากที่ในระยะหลังเริ่มมีข่าวการสร้างหนังประเภทนี้สำหรับแพลตฟอร์ม VR โดยเฉพาะ ล่าสุดญี่ปุ่นมีเปิดบริการห้องชมหนังโป๊ผ่านระบบ VR แล้ว
ร้านนี้ชื่อว่า Soft on Demand ตั้งอยู่ในย่านอากิฮาบาระ กลางกรุงโตเกียว โดยตอนนี้ทางร้านกำลังจัดแคมเปญ ให้ผู้ที่สนใจทดลองในระยะเวลาจำกัดด้วย โดยคิดค่าบริการชั่วโมงละ 550 เยน (ประมาณ 165 บาท) และแบบเหมาวันวันละ 3,150 เยน (ประมาณ 945 บาท) ภายในห้องนอกจากภาพยนตร์สำหรับผู้ใหญ่ยังมีมังงะและอินเทอร์เน็ตให้ใช้ด้วย และที่สำคัญคือตัวห้องบุด้วยที่เก็บเสียงอย่างดี หมดกังวลว่าเสียงจะเล็ดลอดออกไปแน่นอน
กูเกิลประกาศรายชื่อมือถือที่รองรับ Daydream ระบบ VR ของ Android เพิ่มเติม (จากเดิมที่มีแค่ Google Pixel และ Moto Z) ได้แก่
นอกจาก Lenovo ที่ได้โชว์ต้นแบบแว่น VR ที่ใช้เทคโนโลยีจาก HoloLens แล้ว ในงาน CES 2017 ยังได้มีแบรนด์อื่นที่ได้นำตัวต้นแบบมาโชว์เหมือนกัน น่าเสียดายที่ยังไม่มีภาพการใช้งานจริงออกมา และอุปกรณ์ทั้งหมดได้ถูกกั้นไว้ด้วยกระจก ทำให้ไม่สามารถถ่ายภาพได้อย่างใกล้ชิด
ภาพทั้งหมดสามารถดูได้ในที่มา
ที่มา - Windows Central
Tim Baxter ประธานบริษัทซัมซุงประจำสหรัฐฯ ประกาศในงาน CES 2017 ว่า ทางบริษัทขายแว่น Gear VR ไป 5 ล้านชิ้นแล้ว ลูกค้าได้ใช้เวลาเล่น Gear VR แล้ว 10 ล้านชั่วโมง
นี่อาจจะเป็นข่าวดีของนักพัฒนาและนักทำซอฟต์แวร์ทั้งหลาย ที่จะสร้างคอนเทนต์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ต่อไป แม้จะมีข้อสังเกตว่าเทคโนโลยี VR เกิดช้าไปหรือเปล่า แต่ดูแล้วน่าจะยังไปได้อีกไกลในตลาดเทคโนโลยีตอนนี้
HTC ประกาศเปิดตัวอุปกรณ์เสริมสำหรับ HTC Vive 2 ชิ้น ได้แก่ Vive Tracker โมดูลสำหรับติดเข้ากับอุปกรณ์หรือเครื่องมือ อาทิ ไม้เบสบอลหรือปืนของเล่น สำหรับนำไปใช้งานหรือเชื่อมต่อเข้ากับระบบ VR ของ Vive ได้โดยตรง ซึ่งทาง HTC ยังไม่เปิดเผยราคาออกมา ระบุแต่ว่าจะวางขายในช่วงไตรมาสสองของปี และมีพาร์ทเนอร์สำหรับผลิตอุปกรณ์เสริมตัวนี้อยู่ถึง 8 ราย
ASUS ประกาศเปิดตัว Zenfone AR สมาร์ทโฟนที่รองรับเทคโนโลยีของกูเกิลพร้อมกันถึง 2 ตัวคือ Tango (AR) และ Daydream (VR) ภายในเครื่องเดียว
Zenfone AR ได้ Snapdragon 821 เป็นตัวขับเคลื่อน พร้อมตัวเลือกแรม 6GB/8GB หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560x1440) กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล กล้องหลัง 23 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ TriCam สำหรับ AR ที่มีกล้องเพิ่มมาอีก 2 ตัวสำหรับตรวจจับการเคลื่อนไหว (Motion Tracking Camera) และกล้องวัดความลึกพร้อมอินฟาเรด (Depth Sensing Camera)
ถ้ายังจำกันได้ เมื่อกลางปีที่แล้ว ไมโครซอฟท์ประกาศเปิดแพลตฟอร์ม Windows Holographic ให้บริษัทอื่นสร้างแว่น VR/AR แบบ HoloLens แต่มีราคาถูกกว่ามาก สัปดาห์นี้ Lenovo ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรของไมโครซอฟท์ก็นำแว่นต้นแบบมาโชว์แล้ว
แว่นของ Lenovo ยังไม่มีชื่อรุ่น ใช้หน้าจอ OLED ความละเอียด 1440x1440 สำหรับตาแต่ละข้าง (ละเอียดกว่าทั้ง Oculur Rift/HTC Vive) และมีน้ำหนักเบากว่าคือประมาณ 350 กรัม (Vive หนัก 555 กรัม) น่าเสียดายว่าต้นแบบที่ Lenovo นำมาโชว์ยังไม่สามารถใช้งานได้จริง เลยยังตัดสินยากว่าคุณภาพของภาพจะดีกว่าแว่นคู่แข่งรายอื่นๆ หรือไม่
ส่วนราคาจะอยู่ราว 300-400 ดอลลาร์ โดย Lenovo ระบุว่าจะพยายามให้ถูกที่สุดเท่าที่ทำได้ กำหนดวางขายบอกคร่าวๆ เพียงแค่ภายในปีนี้
HTC ประสบความสำเร็จไม่น้อยกับแว่นสามมิติ HTC Vive และหลายคนก็คงอยากให้บริษัทออกแว่น HTC Vive รุ่นที่สองที่ปรับปรุงคุณสมบัติให้ดีขึ้น
ก่อนหน้านี้ มีการคาดการณ์ว่า HTC จะใช้เวทีงาน CES 2017 เปิดตัวแว่นรุ่นใหม่ เหมือนกับที่ใช้เวที CES 2016 เปิดตัวแว่นรุ่นแรก อย่างไรก็ตาม HTC กลับให้ข้อมูลแล้วว่าปีนี้จะไม่เปิดตัว HTC Vive 2 ที่ CES 2017 แต่อย่างใด บริษัทบอกว่าตอนนี้ต้องการโฟกัสไปกับ ecosystem ของ Vive มากกว่าออกฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่
แว่น HTC Vive ใช้เทคโนโลยีจับการเคลื่อนไหว SteamVR Tracking ของบริษัท Valve แต่เมื่อกลางปี Valve ก็เปิดเทคโนโลยีตัวนี้ให้บริษัทที่สนใจนำไปใช้งานได้ ไม่ได้จำกัดแค่ HTC เพียงรายเดียว ต้องรอดูกันว่า CES ปีนี้เราจะได้เห็นแว่น VR จากบริษัทอื่นๆ ที่รองรับ SteamVR ด้วยหรือไม่
ที่มา - UploadVR
Samsung ได้อัพเดตแอพ Samsung Internet ที่ใช้สำหรับ Gear VR เวอร์ชัน 4.2 โดยรองรับ WebVR 1.0 มาตรฐานด้าน VR สำหรับการใช้งานบนเว็บที่พัฒนาโดย Google และ Mozilla เพื่อให้ผู้ใช้สามารถดูคอนเทนต์ที่รองรับ VR บนเว็บได้จากตัวอุปกรณ์
ส่วนฟีเจอร์อื่น ๆ เช่น
ในระยะหลัง แพลตฟอร์มเกมที่มาแรงแซงหน้าแพลตฟอร์มอื่นๆ คงหนีไม่พ้นโมบายล์ ที่ปีนี้ครองสัดส่วนของตลาดเกมทั้งหมดไปถึง 37% เป็นมูลค่าเกือบ 3.7 หมื่นล้านเหรียญ จากมูลค่าตลาดเกมทั้งหมด 9.96 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งเติบโตจากปีที่แล้วถึง 30% เทียบกับเจ้าตลาดเดิมอย่างคอนโซล ที่เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วเพียง 4.5% อยู่ที่ 2.9 หมื่นล้านเหรียญ คิดเป็นส่วนแบ่ง 29%
แอพ YouTube บน PlayStation 4 ได้ออกอัพเดตเวอร์ชัน 1.09 โดยมีผู้ใช้และเว็บไซต์หลายแห่งสังเกตเห็นว่ามีการรองรับวิดีโอ PlayStation VR ซึ่งน่าจะกำลังค่อย ๆ ปล่อยให้ผู้ใช้ PlayStation 4 ได้ใช้กัน โดยยังไม่มีการยืนยันจาก YouTube ถึงการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด
ผู้ใช้ที่ใช้งานแอพ สามารถเลือกวิดีโอเป็นเวอร์ชันปกติหรือเวอร์ชัน PlayStation VR ได้ตอนเปิดแอพ ตัวแอพเล่นวิดีโอจาก YouTube ได้ทันที จากเดิมที่การใช้งานวิดีโอผ่าน PlayStation VR จำเป็นต้องใช้แอพเฉพาะ เช่น Within และผู้ใช้จะต้องโหลดวิดีโอ 360 องศาที่ดาวน์โหลดมาเองเข้าไปก่อนด้วย
เมื่อเดือนมิถุนายน Nintendo เปิดเผยสิทธิบัตรของ Nintendo Switch ออกมา โดยได้อธิบายการทำงานของเครื่องเกมทั้งหมด และมีผู้ไปพบว่ามีส่วนหนึ่งของสิทธิบัตรที่อธิบายถึงการทำงานคู่กับอุปกรณ์ VR ด้วย
ในสิทธิบัตรได้อธิบายว่าใช้ส่วนจอของ Nintendo Switch เสียบเข้าไปที่ช่องของอุปกรณ์ VR ด้านหน้า ซึ่งในภาพมีหน้าตาคล้ายๆ กับ Google Daydream หรือ Samsung Gear VR ส่วนการควบคุมเกมให้ถอดจอยของเครื่องออกมาใช้งาน ทำให้สันนิษฐานว่าตัวจอยเกมเองอาจจะมีเซนเซอร์ที่เหมือนกับ Wiimote
เว็บบล็อก WordPress.com ได้รองรับการเพิ่มเนื้อหาประเภท VR (ภาพหรือคลิปแบบ 360 องศา) ลงในบทความแล้ว เพื่อให้การเพิ่มเนื้อหาประเภทนี้ง่ายเหมือนเพิ่มเนื้อหาประเภทข้อความหรือภาพ
วิธีเพิ่มเนื้อหา VR ลงในบทความ สามารถทำได้ง่ายๆ โดยอัพโหลดลงไปใน WordPress เหมือนกับการอัพโหลดภาพทั่วๆ ไปก่อน จากนั้นใช้ shortcode vr แทรกลงในบทความ เช่น [vr url="sample.jpg" view=360] ก็เป็นอันเสร็จสิ้น ส่วนวิธีการรับชมภาพ หากเปิดบล็อกบนเดสก์ทอปก็ใช้เม้าส์ลากดูได้เลย และหากเปิดบนมือถือหรือบราวเซอร์ที่รองรับ webVR สามารถใช้ Google Cardboard, Gear VR หรือ Oculus Rift รับชมผ่านโหมด VR ได้ (ดูตัวอย่างที่นี่)
ขณะนี้ฟีเจอร์ยังอยู่ในช่วงทดสอบบางส่วนเท่านั้น โดยปล่อยให้ผู้ใช้กลุ่มพรีเมียมหรือกลุ่ม business ใช้งานกันก่อน และหากพร้อมเปิดใช้งาน ในอนาคตจะเริ่มเปิดให้ใช้งานได้ทุกคน
ที่มา : TechCrunch
หลังเคยปล่อย WebVR API สำหรับคนทำเว็บไปแล้ว ล่าสุดกูเกิลอัพเดต Chrome Beta เวอร์ชัน 56 บนแอนดรอยด์ให้รองรับ WebVR API สำหรับการเข้าชมเว็บแบบ VR แล้ว
นอกจาก WebVR API ยังมี GamePad API Extension ที่ทำให้นักพัฒนาเว็บสามารถเรนเดอร์การแสดงผลเว็บในแบบ VR ซึ่งรองรับอินพุทจากคอนโทรลเลอร์ของแว่น VR ด้วย โดยทางกูเกิลระบุมีแผนจะขยาย WebVR ไปบนเดสก์ท็อปและ Google Cardboard ในอนาคตด้วย
ที่มา - Chromium Blog
Canalys บริษัทวิจัยตลาดอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์เปิดเผยว่ายอดส่งมอบอุปกรณ์แว่น VR (ไม่นับแบบที่ต้องใช้สมาร์ทโฟนแบบ DayDream หรือ Gear VR) ในปีนี้อยู่ที่ราว 2 ล้านชิ้น โดยคาดว่าโซนีจะครองส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดจากการส่งมอบ PlayStation VR ราว 8 แสนชิ้นภายในสิ้นปีนี้ ตามมาด้วย HTC Vive ที่ 5 แสนชิ้น และ Oculus Rift ที่ 4 แสนชิ้น
Canalys คาดว่าด้วยปีหน้าแว่น VR จะได้รับความนิยมมากกว่าและยอดส่งมอบอาจถึง 5 ล้านชิ้น ก่อนจะเพิ่มเป็น 10 ล้านและ 15 ล้านชิ้นในปี 2018 และ 2019 ตามลำดับ เนื่องจากผู้ผลิตพีซีแนวหน้าอย่าง HP, Dell, Acer, Lenovo และ ASUS จะหันมาจับตลาดนี้ด้วยจากแพลตฟอร์ม Windows Holographic ของไมโครซอฟท์
Oculus ประกาศแยกบริษัทเป็นสองฝั่ง เพื่อพัฒนาสินค้าที่แตกต่างกัน ได้แก่ฝั่งพีซี รับหน้าที่พัฒนาแว่น Rift และฝั่ง Mobile VR
ฝั่งพีซีจะดูแลโดย Brendan Iribe ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของบริษัท ที่จะลงจากตำแหน่งซีอีโอเพื่อกลับมาทำงานด้านวิศวกรรมเหมือนเดิม ส่วนฝั่ง Mobile VR จะนำโดย Jon Thomason อดีตผู้บริหารของ Qualcomm ที่เพิ่งเข้ามาร่วมงานกับ Oculus เมื่อไม่นานนี้
ตำแหน่งซีอีโอที่ว่างลง จะหาผู้บริหารคนอื่นมาทำหน้าที่แทน
สืบเนื่องจากกรณีที่ The Information เขียนบทความแฉ Magic Leap ว่าผลิตภัณฑ์จริงยังไม่สู้ HoloLens ไม่ได้ด้วยซ้ำ แถมวิดีโอที่นำมาโชว์ก็ไม่ใช่ฟุตเทจจริง เป็นเพียง CG ที่ถูกทำขึ้นแต่กลับโกหกว่าเป็นเกมที่เล่นกันในออฟฟิศ
ซึ่งถึงแม้ทาง Magic Leap จะไม่มีการตอบกลับอีเมลขอความเห็นจากสื่อ แต่ Rony Abovitz ซีอีโอของ Magic Leap ได้ทวีตกึ่งโต้ตอบบทความดังกล่าวว่า "Believe" พร้อมรูปที่ระบุว่า Magic Leap is coming และทวีตว่าเทคโนโลยีของ Magic Leap นั้นซับซ้อนพอๆ กับรถยนต์ไฟฟ้า,ดาวเทียมหรือแม้แต่อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ล้ำสมัย (ที่ทำให้การพัฒนาค่อนข้างช้า?)
Zvi Greenstein ผู้บริหารของ NVIDIA ไปพูดที่งานสัมมนา VRX ในซานฟรานซิสโก เขาให้ข้อมูลว่าตอนนี้มีพีซีที่ใช้ GeForce และมีสเปกผ่านการรับรองระดับ VR Ready จำนวน 15 ล้านเครื่องอยู่ในท้องตลาด และตัวเลขนี้น่าจะเพิ่มเป็น 30 ล้านเครื่องภายในช่วงสิ้นปี 2017
อย่างไรก็ตาม NVIDIA ประเมินว่าในกลุ่มพีซี VR Ready เหล่านี้ มีผู้ใช้น้อยกว่า 5% ที่มีแว่น VR แล้ว ดังนั้นถือว่ามีโอกาสตลาดอีกมากสำหรับการขยายฐานผู้ใช้แว่น VR ออกไป
ที่ผ่านมา ผู้ขายแว่น VR ไม่ว่าจะเป็น Oculus หรือ HTC ไม่เคยเผยตัวเลขยอดขายแว่นเลย สถิติของ NVIDIA น่าจะพอให้เรามองเห็นภาพรวมของตลาดได้บ้าง แต่ต้องไม่ลืมว่าตัวเลข 15 ล้านเครื่องนี้เฉพาะค่ายเขียว NVIDIA เท่านั้น ในความเป็นจริงเรายังต้องรวมเครื่องจากฝั่ง AMD ด้วย
HTC ประกาศจัดตั้ง Vive Studios แผนกใหม่ที่จะมาดูแลเรื่องการพัฒนาและเผยแพร่คอนเทนท์ VR บนแพลตฟอร์มโดยเฉพาะ โดยคอนเทนท์จะมีทั้งจาก Bears Studios สตูดิโอภายในเองและพาร์ทเนอร์ภายนอก พร้อมเดบิวท์ Arcade Saga เกมแรกภายใต้ Vive Studios
รูปแบบการจัดจำหน่ายคอนเทนท์ของ Vive Studios จะเป็นโมเดลลักษณะคล้ายกับฝั่งคอนโซล คือทั้งทำเอง และร่วมทุนกับสตูดิโอที่เป็นพาร์ทเนอร์ในการพัฒนา โปรโมทและวางจำหน่าย