Elon Musk ซีอีโอ Tesla เขียนบล็อกอัพเดตถึงแผนการซื้อคืนหุ้น Tesla เพื่อนำบริษัทออกจากตลาดหุ้น โดยบอกว่าบล็อกนี้เน้นการตอบคำถามหลายอย่างที่มีนักลงทุนและสื่อตั้งคำถาม
เขาเริ่มต้นอธิบายว่าแผนซื้อหุ้นคืนนั้นมีการเสนอต่อบอร์ดตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม ที่ผ่านมา (Musk ประกาศทาง Twitter 7 สิงหาคม) และบอร์ดก็เห็นด้วยในแผนดังกล่าว จากนั้นเขาจึงได้ติดต่อผู้ถือหุ้น Tesla รายใหญ่บางราย เพื่อสอบถามความสนใจร่วมลงทุนซื้อหุ้นคืนครั้งนี้ และได้ผลตอบรับที่ดี มีนักลงทุนยินดีให้เงินทุนช่วยเหลือ
จากข่าว Elon Musk ประกาศแผน เตรียมซื้อหุ้น Tesla คืน เพื่อนำออกนอกตลาดหลักทรัพย์ ส่งผลให้หุ้นของ Tesla ราคาพุ่งทันที
ล่าสุดมีข่าวว่า ก.ล.ต. สหรัฐหรือ SEC กำลังรวบรวมข้อมูลในเรื่องนี้ เพื่อพิจารณาว่าข้อความทวีตของ Musk เข้าข่ายการปั่นราคาหุ้นหรือไม่
ประเด็นที่เป็นปัญหาคือ Musk ระบุว่าเขาหาเงินได้พอสำหรับการซื้อหุ้นคืนแล้ว (funding secured) แต่ไม่ให้รายละเอียดไปมากกว่านั้นว่าแหล่งที่มาของเงินมาจากไหน (มีข่าวลือกันว่าเป็นกลุ่มทุนจากซาอุดิอาระเบีย ซึ่งมีหุ้นใน Tesla อยู่แล้วประมาณ 3-5%)
มีรายงานว่า Doug Field อดีตรองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมของ Tesla ที่ถือเป็นวิศวกรอาวุโสเบอร์ 3 ของบริษัท (รองจากซีอีโอ Elon Musk และซีทีโอ JB Straubel) ซึ่งลาออกจาก Tesla เมื่อเดือนก่อน ได้ย้ายกลับมาทำงานที่แอปเปิลอีกครั้ง
บล็อกเกอร์สายแอปเปิลอย่าง John Gruber ได้ยืนยันข้อมูลดังกล่าว และบอกว่า Field จะเข้ามาดูแลโครงการ Titan ซึ่งเป็นโครงการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับของแอปเปิล
Elon Musk ประกาศผ่านทวิตเตอร์ว่าเขาเตรียมนำ Tesla ออกจากตลาดหลักทรัพย์ด้วยการซื้อหุ้นคืน
เขาอธิบายเรื่องนี้ผ่านบล็อกของบริษัทในเวลาต่อมา ว่าเขายังไม่ตัดสินใจเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด แต่เหตุผลคือพนักงานของ Tesla (ซึ่งทุกคนมีหุ้น) จะได้โฟกัสกับงานอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องสนใจราคาหุ้นที่สวิงไปมา ซึ่งเป็นข้อเสียของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ที่ต้องมีวัฏจักรรายงานผลประกอบการทุกไตรมาส (Dell เคยประกาศแผนแบบนี้ด้วยเหตุผลเดียวกันในปี 2013)
Elon Musk นายใหญ่แห่ง Tesla ได้เปิดเผยว่าบริษัทรถยนต์ของเขาได้ซุ่มพัฒนาชิปสำหรับปัญญาประดิษฐ์เพื่อติดตั้งใช้งานในรถยนต์มา 2 - 3 ปีแล้ว โดยชิปนี้เป็นส่วนหนึ่งของระบบคอมพิวเตอร์สำหรับรถยนต์ที่ Tesla เรียกว่า "Hardware 3"
ชิปที่พัฒนาเองนี้จะเพิ่มพลังประมวลผลให้กับระบบปัญญาประดิษฐ์ของรถยนต์ Tesla โดย Pete Bannon ผู้อำนวยการของ Tesla ระบุว่าตอนนี้อยู่ในช่วงการทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานจริงบนท้องถนน ทั้งนี้ชิปตัวใหม่จะรองรับการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์วิทัศน์ทำให้ประมวลผลภาพได้ราว 2,000 เฟรมต่อวินาที เหนือกว่า GPU บนแพลตฟอร์ม NVIDIA DRIVE ที่ Tesla เคยใช้งานมาตลอดประมาณ 10 เท่า
ปัจจุบันมีเจ้าของรถ Tesla จำนวนหนึ่งขับรถท่องเที่ยวและนอนในรถเลยเพราะพบว่าหากพับเบาะหลังให้ราบลงจะสามารถนำฟูกไปปูนอนได้พอดี นอกจากนี้ยังนอนแบบเปิดแอร์ได้โดยไม่มีอันตรายเพราะรถมีโหมดตั้งแคมป์ (Camper mode)
อย่างไรก็ตามโหมดตั้งแคมป์ยังใช้งานได้ไม่ดีพอ เพราะไฟในรถยังติดอยู่ Tesla จึงต่อยอดฟีเจอร์ดังกล่าวและใช้ชื่อว่า Party & Camper Mode โดย Elon Musk ระบุในทวีตว่าระบบปรับอากาศในรถจะทำงาน พร้อมสั่งเปิดเพลงและเลือกเปิด-ปิดไฟในรถได้ตามชอบ รวมทั้งชาร์จไฟให้อุปกรณ์อื่นๆ ได้นานถึง 48 ชั่วโมงหรือมากกว่า
รถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model S, 3 และ X จะได้รับอัพเดตดังกล่าวเร็วๆ นี้
ที่มา – Electrek
ขณะนี้อัตราการผลิต Tesla Model 3 เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ แต่กลับเกิดปัญหาใหม่ที่ฟังดูไม่น่าจะเป็นไปได้ คือลานจอดรถหน้าโรงงานเต็มเพราะส่งมอบรถไม่ทัน ซึ่ง Tesla ได้แก้ปัญหานี้โดยการส่งรถจากโรงงานไปถึงบ้านลูกค้าเลย
การส่งมอบรถแบบใหม่นี้มีชื่อเรียกว่า factory-to-customer delivery system โดยโรงงานจะเอารถยนต์ที่ผลิตเสร็จขึ้นรถเทรลเลอร์และขับไปส่งให้ลูกค้าถึงบ้านโดยตรง ซึ่งในการทดสอบครั้งแรกมี Elon Musk ไปส่งมอบรถให้ด้วยตนเอง
กระบวนการส่งมอบรถแบบปกตินั้นมีขั้นตอนอยู่จำนวนหนึ่ง คือจากลานจอดหน้าโรงงานต้องขนไปยังโชว์รูม หรือศูนย์ส่งมอบรถ และรอให้ลูกค้ามารับอีกที แต่หากผลิตเสร็จแล้วขนไปหาลูกค้าเลยก็อาจระบายของได้เร็วขึ้น
หลังยืนยันการสร้าง Gigafactory 3ในนครเซี่ยงไฮ้ไปเมื่อเดือนที่แล้ว ล่าสุดดูเหมือน Tesla กำลังเตรียมแผนจะสร้าง Gigafactory 4 อีกแห่งและคราวนี้จะอยู่ในยุโรป
Wall Street Journal รายงานว่า Tesla กำลังพูดคุยอยู่กับรัฐบาลท้องถิ่น 2 แห่งในเยอรมนี รวมถึงในเนเธอร์แลนด์ เพื่อหาสถานที่สร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่และรถยนต์ไฟฟ้าแห่งใหม่ในยุโรป โดยการพูดคุยยังเป็นเพียงการพูดคุยขั้นต้นเท่านั้น ยังไม่มีการบรรลุข้อตกลงใดๆ ทั้งสิ้น โดยก่อนหน้านี้ Musk เคยพูดคุยการสร้างโรงงานในยุโรปด้วยว่า เยอรมนีเป็นตัวเลือกแรกๆ ของบริษัท โดยพื้นที่ชายแดนของเยอรมนีที่ติดกับฝรั่งเศสและกลุ่มประเทศ Benelux นั้นดูดีที่สุด
หลังเป็นข่าวลือมาพักใหญ่ๆ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Tesla ได้เซ็นหนังสือความร่วมมือกับเมืองเซี่ยงไฮ้ว่าจะสร้างโรงงานแห่งใหม่ในชื่อ Gigafactory 3 แล้ว
Tesla ระบุว่าจะเริ่มสร้างโรงงานแห่งใหม่ในอนาคตอันใกล้ หลังการขออนุญาตต่างๆ เสร็จสิ้น โดยการก่อสร้างจะกินเวลาราว 2 ปีก่อนจะเริ่มผลิตรถยนต์ได้ และใช้เวลาอีก 2-3 ปีก็จะผลิตได้เต็มพิกัดที่ 500,000 คันต่อปี โดยโรงงานนี้จะเป็นของ Tesla เอง ไม่ได้ร่วมกับใคร (wholly owned) ซึ่งก่อนหน้านี้มีความกังวลว่าหากต้องตั้งโรงงานแบบ joint venture จะทำให้เทคโนโลยีต่างๆ รั่วไหลไปถึงจีน
ราคาหุ้น Tesla เพิ่มขึ้นเกือบ 2% หลังข่าวนี้ออกมา
ช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเราคงเห็นสำนักข่าวและเว็บไซต์ในไทยหลายเจ้าแชร์ภาพ “ยานชูชีพ” หรือ escape pod สีส้มๆ ที่รีบออกแบบและผลิตเพื่อส่งมาช่วยนำตัวเด็กๆ ออกจากถ้ำหลวง ผลิตจากโพลียูริเทน ซึ่งข่าวต้นทางระบุว่าทีมงาน SpaceX โทรหาบริษัท Wing Inflatables เพื่อขอความช่วยเหลือในการผลิตยานดังกล่าว
อย่างไรก็ตามในฝั่ง Elon Musk ไม่เคยพูดถึงยานแบบนี้บนทวิตเตอร์ของเขาเลย มีเพียงไอเดียท่ออุโมงค์ลมที่จะทำเป็นทางเดินใต้น้ำ และ escape pod หรือ mini-sub ที่ผลิตจากชิ้นส่วนของจรวดเท่านั้น และหลังจากรูปยานชูชีพสีส้มถูกแชร์ในไทยเป็นจำนวนมาก ฝั่ง Elon ก็ปล่อยรูป mini-sub ออกมา ซึ่งไม่ใช่ยานสีส้มแบบที่กำลังฮือฮากัน
Business Insider อ้างข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตรถ Model 3 ของ Tesla ซึ่งเผยให้เห็นว่ามาตรการทดสอบคุณภาพรถถูกผ่อนปรนลงจากที่เคยทำมาก่อน โดยกระบวนการทดสอบระบบเบรกซึ่งเป็นหนึ่งในขั้นตอนทดสอบที่สำคัญอาจไม่ได้ถูกนำมาใช้เพื่อทดสอบรถบางคันที่ออกจากสายการผลิต
Business Insider อ้างว่าการเปลี่ยนแปลงนี้มาจากคำสั่งของ Elon Musk ที่สั่งให้วิศวกรในโรงงานที่ Fremont ถอนขั้นตอนการทดสอบเบรกตามมาตรฐานการควบคุมคุณภาพงานออกไป โดยการทดสอบเบรกนี้เรียกว่า "brake and roll test" ซึ่งแต่เดิมการทดสอบนี้ถือเป็นขั้นตอนบังคับที่รถทุกคันจะต้องผ่านการทดสอบเสียก่อนจึงจะออกจากสายการผลิตได้ แต่ตอนนี้ข้อมูลในระบบควบคุมกระบวนการผลิตและทดสอบ ได้กำหนดให้ขั้นตอน brake and roll test นี้เป็นขั้นตอนที่จะทำหรือไม่ก็ได้
ในเอกสารที่ Tesla ยื่นต่อ SEC นอกจากจะกล่าวถึงเรื่องจำนวนการผลิตรถยนต์แล้ว ยังเปิดเผยว่า Doug Field รองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมของ Tesla ที่มีข่าวว่าหยุดพักงาน มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมได้ลาออกจากบริษัทแล้ว
Tesla ระบุว่า “หลังจากเวลาเกือบ 5 ปีกับบริษัท Field ก็กำลังก้าวต่อไป โดยพวกเราต้องการขอบคุณเขาสำหรับการทำงานหนักและทุกอย่างที่เขาได้ทำให้ Tesla”
เว็บไซต์ The Verge รายงานว่า Field เป็นวิศวกรอาวุโสอันดับ 3 ใน Tesla รองจาก Elon Musk ที่เป็นซีอีโอและ JB Straubel ที่เป็นซีทีโอเท่านั้น โดยก่อนหน้าที่จะเข้าทำงานกับ Tesla เขาดำรงตำแหน่งรองประธานฝ่ายวิศวกรรมฮาร์ดแวร์แมคที่แอปเปิล
ขณะนี้ก็จบเดือนมิถุนายนไปแล้ว และเป้าหมายที่ Tesla ได้ตั้งไว้ว่าจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 ให้ได้ 5,000 คันต่อสัปดาห์ก็ทำได้ตามที่ตั้งไว้ โดยบริษัทได้ระบุในการยื่นแบบให้หน่วยงานกำกับว่าได้ผลิตรถ Model 3 ได้ 5,031 คันในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมิถุนายน
บริษัทระบุในเอกสารว่า 12 เดือนที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในประวัติศาสตร์บริษัท และพวกเขาภูมิใจในทีมงาน Tesla มาก
เมื่อวาน Elon Musk ก็ได้ทวีตว่า “7000 คัน, 7 วัน” พร้อมอีโมจิรูปหัวใจให้ทีมงาน Tesla ซึ่งตามเอกสารที่ยื่นก็ระบุว่านอกจาก Tesla Model 3 จำนวน 5,031 คันแล้ว Tesla ยังผลิต Model S และ X ได้รวมกัน 1,913 คัน ฉะนั้นรวมกันแล้วได้ 6,944 คัน (Elon น่าจะตีเป็น 7,000 คัน)
ระหว่างที่ Tesla เร่งปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อให้ส่ง Model 3 ออกสู่มือลูกค้าได้ทันความต้องการ กลับทำให้แบตเตอรี่ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้านั้นมีไม่เพียงพอ
Yoshio Ito ประธานฝ่ายยานยนต์ของ Panasonic ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์กับ Tesla ที่ผลิตเซลล์แบตเตอรี่ให้รถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่น เปิดเผยในงานประชุมผู้ถือหุ้นว่าการที่ Tesla เร่งการผลิตอย่างมาก ส่งผลให้ Panasonic ผลิตเซลล์แบตเตอรี่ส่งให้ไม่เพียงพอเป็นระยะๆ และ Panasonic กำลังร่วมมือกับ Tesla อย่างใกล้ชิดเพื่อปรับปรุงการผลิต
นอกจาก Tesla Model Y ที่ลือกันว่าจะเป็นรถครอสโอเวอร์ไซส์เล็กกว่า Model X แล้ว Tesla ยังมีรถอีกรุ่นที่ Elon Musk เคยยืนยันว่าอยากทำมานาน นั่นก็คือรถกระบะ ล่าสุดเขาได้ทวีตเปิดรับความเห็นว่าเราอยากเห็นอะไรในรถกระบะ Tesla
Elon ทวีตเมื่อคืนว่าอยากเห็นอะไรในรถกระบะ Tesla โดยเขามีฟีเจอร์บางอย่างอยู่ในใจแล้วแต่ยังอยากเปิดรับความเห็นเพิ่มเติม จากนั้นเขาได้ทวีตต่อว่ามันจะมาพร้อมมอเตอร์คู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ และจะมีแรงบิดสูงมาก รวมถึงจะใช้ระบบช่วงล่างแบบปรับความแข็ง/นุ่มตามน้ำหนักบรรทุกด้วยระบบถุงลม นอกจากนี้ยังบอกอีกว่าจะมีปลั๊กไฟแบบ 240 โวลต์ที่รองรับการใช้งานหนัก เพื่อใช้กับเครื่องมือช่าง (power tools) ต่างๆ ได้ทั้งวันขณะปฏิบัติงานนอกสถานที่โดยไม่ต้องมีเครื่องปั่นไฟอีก
Tesla ประกาศปิดศูนย์ติดตั้งแผงโซลาเซลล์ของ SolarCity ราว 13 หรือ 14 แห่ง ตามแผนปรับผังองค์กร โดยศูนย์เหล่านี้ถูกสร้างตั้งแต่สมัย SolarCity ยังไม่ถูก Tesla ควบรวมบริษัท
Tesla แถลงว่าต้องการย้ายการขายสินค้าพลังงานแสงอาทิตย์ไปยัง Tesla Store ที่มีลูกค้าเดินเข้ามาในร้านมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ในกลุ่มร้านค้าปลีกในสหรัฐ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสนำเสนอสินค้าเหล่านี้ให้กับกลุ่มลูกค้าที่ใช้ Tesla มากยิ่งขึ้น
ต้องดักก่อนว่าที่ให้คนทั่วไปมาประกอบรถนี่ไม่ได้หมายถึง Tesla อยากหาแรงงานมาเพิ่มอัตราการผลิตรถ Tesla Model 3 ให้ได้ตามเป้านะครับ แต่เป็นการประกอบเพื่อประสบการณ์เฉยๆ โดยเรื่องมีอยู่ว่าทวิตเตอร์ของเว็บไซต์ Model 3 Owners Club ได้ทวีตว่ามีซีอีโอบริษัทรถยนต์คนไหนที่ทำแบบนี้อีกบ้าง พร้อมอ้างถึงกระทู้ที่มีคนมาเล่าประสบการณ์จากในโรงงาน Tesla ว่าเจอ Elon Musk ขันน็อตอยู่ในสายการผลิต
หลังจากนั้น Elon ก็ได้มาตอบทวีตว่าเขาคิดอยากเปิดทัวร์โรงงานเต็มรูปแบบพร้อมให้ลูกทัวร์มาลองประกอบรถยนต์บางส่วน เพื่อจะได้เข้าใจว่าแต่ละชิ้นส่วนมารวมกันอย่างไร ซึ่งเขาคิดว่ามันจะสนุกมากสำหรับตัวเขาเอง ต่อมา Fred Lambert บรรณาธิการใหญ่เว็บไซต์ Electrek ได้ทวีตหยอดกลับไปหา Elon ว่าถ้าให้เจ้าของได้ประกอบรถตัวเองคงจะเจ๋งกว่ามาก ซึ่ง Elon ก็ตอบว่ามันคงจะจัดการยาก แต่ก็อาจเป็นไปได้ (ไม่รู้ว่าตอบแบบขอไปทีหรือเปล่า เพราะ Elon ก็ไม่ค่อยปฏิเสธอะไรอยู่แล้ว)
จากข่าวที่ Elon Musk ส่งอีเมลถึงพนักงานของ Tesla ระบุว่ามีคนเป็นหนอนบ่อนไส้ในบริษัท ซึ่งล่าสุด Tesla ได้ไล่พนักงานคนดังกล่าวออกไปและฟ้องร้องอดีตพนักงานผู้นี้ซึ่งมีชื่อว่า Martin Tripp ในข้อหาขโมยข้อมูลของบริษัทไปให้บุคคลภายนอก ล่าสุด Tripp ผู้ถูกฟ้องได้บอกเล่าเรื่องราวในมุมมองของฝั่งตนเองผ่านทางสื่อ The Washington Post บ้าง
Tripp บอกว่าสิ่งที่เขาทำลงไปนั้นหาได้เป็นเพราะความไม่พอใจกับการที่ไม่ได้เลื่อนขั้นอย่างที่บริษัทรถชื่อดังกล่าวหาไม่ หากแต่เขาตัดสินใจกระทำการลงไปเพราะต้องการตีแผ่ให้สังคมได้รับรู้ถึง "สิ่งน่าสะพรึงที่เขาได้เห็น" ในบริษัท Tesla
คล้อยหลังเพียงสองวันหลังมีข่าวว่าอดีตพนักงาน Tesla ได้เขียนโปรแกรมแฮ็กระบบควบคุมการผลิต รวมถึงขโมยข้อมูลลับออกไปให้บุคคลภายนอก ล่าสุด Tesla ได้สั่งฟ้องพนักงานคนนี้แล้ว
ตามข่าวระบุว่าพนักงานคนนี้ชื่อ Martin Tripp เคยเป็นเจ้าหน้าที่เทคนิคในกระบวนการผลิต (Process technician) โดยในเอกสารสั่งฟ้องระบุว่า Tripp ยอมรับว่าได้เขียนโปรแกรมแฮ็กระบบ Manufacturing Operating System (MOS) และได้ถ่ายโอนข้อมูลขนาดหลายกิกะไบต์ของ Tesla ไปให้บุคคลภายนอก ซึ่งข้อมูลดังกล่าวประกอบไปด้วยรูปถ่ายและวิดีโอภายในระบบการผลิตที่เป็นความลับจำนวนมาก นอกจากนี้ Tesla ยังระบุว่า Tripp ใช้วิธีเขียนโปรแกรมให้ถ่ายโอนข้อมูลดังกล่าวออกไปภายนอกเป็นช่วงๆ
ขณะนี้ Tesla มีโรงงานหลักอยู่สองแห่งคือโรงงานที่เมือง Fremont และโรงงาน Gigafactory 1 ที่รัฐเนวาดา ซึ่งหลังๆ ก็มีข่าวลือหนาหูว่า Tesla กำลังจะไปตั้งโรงงานแห่งใหม่ที่เซี่ยงไฮ้ด้วย หลังบริษัทฯ ยืนยันว่าได้คุยกับรัฐบาลเรื่องตั้งโรงงานที่เขตการค้าเสรีเซี่ยงไฮ้แล้ว
ล่าสุดมีผู้ใช้ทวิตเตอร์ได้ทวีตถามไปยัง Elon Musk ว่าเห็นด้วยไหมว่าเยอรมนีเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ดีในการตั้งโรงงาน Gigafactory แห่งแรกในยุโรป ซึ่ง Elon ก็ได้ตอบว่าเยอรมนีเป็นตัวเลือกที่นำอยู่สำหรับยุโรป และอาจจะเป็นแถวๆ ชายแดนเยอรมนี-ฝรั่งเศส ใกล้กับกลุ่มประเทศ Benelux (เบลเยียม, เนเธอร์แลนด์, ลักเซมเบิร์ก)
Elon Musk ส่งอีเมลถึงพนักงานทุกคน เปิดเผยว่าจับตัวพนักงานที่เป็นหนอนบ่อนไส้ทำลายบริษัท แอบเปลี่ยนโค้ดในซอฟต์แวร์ Tesla Manufacturing Operating System ที่ใช้ควบคุมกระบวนการผลิต และนำข้อมูลลับของบริษัทออกไปให้คนนอก
จากการสอบสวนพบว่าแรงจูงใจของพนักงานรายนี้ยังไม่ชัดเจน แต่เจ้าตัวยอมรับผิดและอธิบายว่าทำไปเพราะไม่ได้เลื่อนขั้นอย่างที่หวัง ส่วน Elon บอกว่าต้องสืบสวนต่อว่าเป็นการกระทำของคนคนเดียว หรือเป็นขบวนการที่หวังทำลายบริษัท
เมื่อเดือนที่แล้ว Elon Musk ได้เผยรายละเอียดของ Tesla Model 3 แบบมอเตอร์คู่สองแบบ คือมอเตอร์คู่ธรรมดา (Dual motor) และมอเตอร์คู่แบบประสิทธิภาพสูง (Dual motor performance) แต่ยังไม่ได้ระบุว่าจะขายจริงเมื่อไหร่
ล่าสุดเขาทวีตรูปรถรุ่นดังกล่าวในสีแดง และบอกว่า Tesla Model 3 แบบมอเตอร์คู่ประสิทธิภาพสูงคันแรกกำลังออกมาจากสายการผลิตแล้ว พร้อมกล่าวชมทีมงาน Tesla ว่าสามารถสร้างสายการผลิตใหม่ทั้งเส้นได้ภายใน 3 สัปดาห์ทั้งที่มีจำนวนคนจำกัด
จากปัญหารุมเร้าของ Tesla ที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 ได้ต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ และยัง “เผา” เงินสดที่อัตรานาทีละ 7,430 ดอลลาร์สหรัฐ ทำให้คาดกันว่าหากไม่ระดมทุนเพิ่ม Tesla จะไม่เหลือเงินสดภายในปีนี้ ต่อมาก็มีข่าวว่า Tesla กำลังปรับผังองค์กรเพื่อลดค่าใช้จ่ายและหาทางทำกำไรให้ได้
ล่าสุด Elon Musk ซีอีโอได้ทวีตยืนยันว่า Tesla กำลังปรับผังองค์กรอยู่จริง เพราะที่ผ่านมามีตำแหน่งที่ทับซ้อนกันอยู่จึงต้องปรับลดพนักงานลงราว 9% โดยเขาระบุว่าไม่กระทบพนักงานในสายการผลิต (เพราะตอนนี้ก็ผลิตไม่ทันอยู่แล้ว)
Tesla เริ่มปล่อยอัพเดตเฟิร์มแวร์รถเป็นเวอร์ชั่น 9 ทำให้รถที่รองรับ จะสามารถใช้ฟีเจอร์ Autopilot แบบ "ขับขี่ด้วยตัวเองเต็มรูปแบบ" (full self-driving) ได้
รถที่จะใช้ฟีเจอร์นี้ได้ต้องติดตั้งฮาร์ดแวร์มาแต่ต้น โดย Tesla คิดค่าฟีเจอร์บังคับรถอยู่ในเลน (lane-keeping) และควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (cruise control) เป็นเงิน 5,000 ดอลลาร์ ส่วนฮาร์ดแวร์สำหรับการขับขี่ด้วยตัวเองเต็มรูปแบบนี้คิดเพิ่มไปอีก 3,000 ดอลลาร์ แต่ยังไม่สามารถใช้งานได้ โดย Tesla ระบุว่าขึ้นกับพื้นที่ทางกฎหมายว่าพื้นที่ใดจะอนุญาตให้ใช้งานได้
เหตุการณ์รถ Tesla X ของวิศวกรแอปเปิลชนบนทางหลวงจนคนขับเสียชีวิตเมื่อเดือนมีนาคม นับเป็นเหตุการณ์ที่ระบบ Autopilot ของ Tesla ถูกตั้งคำถามว่าปลอดภัยเพียงใด ตอนนี้ NTSB หน่วยงานดูแลความปลอดภัยทางหลวงที่เข้ามาร่วมสอบสวนแต่ต้นก็ปล่อยรายงานเบื้องต้นออกมา
รายงานเบื้องต้นเป็นการสรุปเหตุการณ์นาทีท้ายๆ ก่อนเกิดการชน โดยระบุว่ารถถูกตั้งความเร็วแบบคำนึงถึงสภาพการจราจรไว้ที่ 75 ไมล์ต่อชั่วโมง แม้ความเร็วบนถนนจะจำกัดที่ 65 ไมล์ต่อชั่วโมง