หลังจากอาการดีขึ้นเรื่อยๆ MySpace ภายใต้เจ้าของใหม่อย่าง Specific Media ก็เตรียมแผนปรับปรุงครั้งใหญ่ในบริการโซเชียลเน็ตเวิร์คของตัวเองให้เน้นจุดแข็งด้านบริการเพลงให้มากขึ้น
MySpace โฉมใหม่เกิดขึ้นหลังจากที่จับมือกับ Justin Timberlake เพื่อปรับให้เป็นโซเชียลเน็ตเวิร์คที่สนับสนุนศิลปินให้ออกเพลงของตัวเองได้บนแพลตฟอร์ม ซึ่งขณะนี้กำลังทดสอบภายในรุ่น beta แล้ว คาดว่าจะเปิดให้ใช้ได้อย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีนี้ โดยสองพี่น้อง Vanderhook เจ้าของ MySpace คนปัจจุบันเชื่อว่าการปรับปรุงครั้งนี้จะทำให้ MySpace กลับมาได้อีกครั้ง
คิดจะจัดโอลิมปิกในยุค social network ก็ต้องก้าวตามให้ทันผู้ชม ทางผู้จัดโอลิมปิก 2012 ที่กำลังจะเริ่มในอีกไม่กี่วันนี้จึงเปิดหน้าเว็บพิเศษ The Olympic Athletes' Hub รวบรวมข้อมูล social network ของนักกีฬา ทีมชาติที่เข้าแข่งขัน และการแข่งขันย่อยๆ แต่ละอย่างเข้ามาไว้ที่เดียวกัน
เว็บไซต์นี้มีข้อมูลของนักกีฬากว่า 2,000 คน มีบทความพิเศษเจาะลึกนักกีฬาแต่ละคน มี live chat ระหว่างนักกีฬากับแฟนๆ และมีเกมให้แฟนกีฬาร่วมเล่นในช่วงที่การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นแล้วด้วย
บริษัท Betaworks เจ้าของรายใหม่ของ Digg ออกมาเผยแผนแล้วว่าจะเปิดตัว Digg โฉมใหม่ตั้งแต่หัวจรดเท้าในวันที่ 1 สิงหาคมนี้
Digg โฉมใหม่จะถูกพัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมดโดยทีม News.me จำนวน 10 คน เป้าหมายสำคัญของการซื้อกิจการครั้งนี้คือต้องการสร้าง social news ที่เข้ากับยุคสมัย
Digg เวอร์ชันใหม่จะแยกเว็บกับ News.me ไปก่อน แต่ในระยะยาวแล้วสองเว็บนี้จะรวมกันภายใต้แบรนด์ Digg
ที่มา - RethinkDigg
จุดอ่อนที่ Google+ โดนติติงมาตลอดคือการไม่ยอมเปิด API ให้โปรแกรมภายนอกอย่างเต็มรูปแบบสักที เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งาน Google+ ผ่านโปรแกรมอื่นๆ ได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงแล้ว Google+ เปิดให้โปรแกรมภายนอกบางรายมาสักระยะหนึ่งแล้ว โดยจำกัดเฉพาะส่วนของ Pages สำหรับแบรนด์และองค์กร และจำกัดเฉพาะคู่ค้าของกูเกิลบางรายเช่น Buddy Media, HootSuite, Involver และ Vitrue เป็นต้น
ล่าสุด Eduardo Thuler วิศวกรของกูเกิลประกาศว่ากำลังปรับปรุง Pages API ให้มีความสามารถมากขึ้น และเตรียมเปิด API ให้กับคู่ค้ารายอื่นๆ มากขึ้นเป็น "หลักร้อย" (hundreds more tool providers) ซึ่งองค์กรที่ทำธุรกิจด้านบริหารจัดการ social network ก็สามารถติดต่อกับกูเกิลเพื่อเข้าร่วมโครงการได้แล้ว
ฟีเจอร์นี้คนไทยอาจยังไม่ได้ใช้แต่ก็รู้ไว้ใช่ว่านะครับ เมื่อเดือนพฤษภาคม Bing ประกาศปรับโฉมครั้งใหญ่ โดยเพิ่มแถบ sidebar ด้านขวาสุดของหน้าจอผลการค้นหา เพื่อแสดงข้อมูลจากเครือข่ายสังคมต่างๆ บอกว่าเพื่อนๆ ของเราแชร์ลิงก์เกี่ยวกับคีย์เวิร์ดที่ค้นหรือไม่ (ออกมาแข่งกับ Search Plus Your World ของกูเกิล) รายละเอียดอ่านกันเองในข่าวเก่า
ก่อนหน้านี้แถบโซเชียลของ Bing ยังรองรับเฉพาะข้อมูลจาก Facebook และ Twitter เท่านั้น ล่าสุดไมโครซอฟท์ประกาศจับมือกับ Foursquare เพื่อเป็นเครือข่ายสังคมรายที่สาม
กูเกิลยังเดินหน้าเชื่อมจิ๊กซอทุกอย่างเข้ากับ Google+ ต่อไปเรื่อยๆ ล่าสุดบริษัทประกาศเพิ่มลิงก์ Share ในหน้าผลการค้นหาของกูเกิลเองแล้ว ซึ่งทุกคนก็คงคาดเดากันได้ไม่ยากว่ากดแล้วมันจะแชร์ลิงก์นั้นไปยัง Google+ นั่นเอง
เรื่องนี้ไม่ได้เหนือความคาดหมายเท่าไรนัก เพราะก่อนหน้านี้ กูเกิลเคยเพิ่มปุ่ม +1 ให้กับผลการค้นหา มาแล้ว (เท่าที่ลองดูเหมือนว่าปุ่ม +1 จะหายไปแล้ว และกลายเป็นลิงก์ Share แทน)
เดือนที่ผ่านมาหลังการเปิดตัวแอพพลิเคชั่นรุ่นใหม่บน iOS และแอนดรอยด์ ดูเหมือน Google+ จะได้รับเสียงตอบรับที่ดีขึ้นมาก โดยรายงานจากบริษัทสำรวจผู้ใช้ที่ชื่อว่า Compete พบว่าเดือนที่ผ่านมาเดือนเดียว ผู้ใช้ Google+ เพิ่มเป็น 31.9 ล้านคนเพิ่มขึ้น 43.1% แซงหน้า LinkedIn ที่มีผู้ใช้ 24.6 ล้านคน และไล่หลังทวิตเตอร์ 42.6 ล้านคน ส่วนอันดับหนึ่งคือเฟชบุ๊กนั้นรายงานระบุว่ามีผู้ใช้ 158.6 ล้านคน
รายงานฉบับนี้ระบุว่าสำรวจเฉพาะการใช้งานผ่านเดสก์ทอป และเป็นผู้ใช้ในสหรัฐฯ เท่านั้น ในภาพรวมจริงๆ เราอาจจะเดาได้ว่าการใช้งานฝั่งโทรศัพท์มือถือนั้นน่าจะค่อนข้างดี เพราะการใส่ Google+ ไปกับแอนดรอยด์และการอัพเกรดที่ได้รับคำชมค่อนข้างมาก
รวบสองข่าวด้านยุทธศาสตร์เกมของ Amazon เข้าด้วยกันนะครับ
อย่างแรก Amazon เปิดตัวเครือข่ายคนเล่นเกม GameCircle สำหรับเกมบน Kindle Fire ถ้าอธิบายง่ายๆ มันเหมือนกับ GameCenter บน iOS (หรือจะเทียบกับพวก OpenFeint ก็ได้) นั่นคือเป็นแพลตฟอร์มที่เตรียมฟีเจอร์เครือข่ายสังคมอย่าง leaderboard, achievements และการซิงก์เซฟเกมมาให้บริษัทเกมเรียกใช้งาน
เป้าหมายหลักของ Amazon คือเกมที่จะลง Kindle Fire และวางขายบน Amazon Appstore โดยเบื้องต้นมีเกมดังอย่าง Temple Run, Doodle Jump และ Triple Town เข้าร่วมใช้แพลตฟอร์มนี้แล้ว (รายชื่อทั้งหมด)
Kevin Rose ผู้ก่อตั้ง Digg ออกมาให้สัมภาษณ์กับ Wall Street Journal หลังข่าว Digg ขายกิจการแล้วด้วยมูลค่า $500,000
Kevin บอกว่าความผิดพลาดของ Digg มาจากการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดเอง ผนวกกับสภาพแวดล้อมในการแข่งขันที่เปลี่ยนไป เพราะ Facebook/Twitter กลายมาเป็นสถานที่ที่คนเข้ามาแชร์ลิงก์และติดตามข่าวแบบเรียลไทม์กันมากขึ้น ทับซ้อนกับตลาดหลักของ Digg นั่นเอง
ส่วนการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดคือการเปิดตัว Digg v4 ในปี 2010 ซึ่งมีปัญหาเรื่องการย้ายโค้ดฐานข้อมูลจาก MySQL เป็น Apache Cassandra ที่ไม่สมบูรณ์ และ Digg เองก็ไม่สามารถตอบสนองความโกรธของผู้ใช้ได้รวดเร็วพอ
กูเกิลเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ Google+ สามารถย้ายข้อมูลเพื่อนๆ ใน "แวดวง" หรือ circles จากบัญชีหนึ่งไปยังอีกบัญชีหนึ่งได้ โดยผ่าน Google Takeout ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับดาวน์โหลดข้อมูลของเราที่เก็บอยู่บนเซิร์ฟเวอร์ของกูเกิล
ระบบการย้ายข้อมูล circles ของกูเกิลไม่เป็นไปอย่างอัตโนมัติ โดยผู้ใช้ต้องเป็นฝ่าย "ร้องขอ" การย้ายข้อมูล และใช้เวลารอ 7 วัน (waiting period) ก่อนที่จะสามารถย้ายข้อมูลได้ ส่วนกระบวนการย้ายข้อมูลใช้เวลาประมาณ 48 ชั่วโมง ซึ่งระหว่างนี้บัญชีทั้งสองฝั่งไม่สามารถโพสต์ข้อมูลใน Google+ หรือเปลี่ยนข้อมูลในแวดวงได้
หลังจากกูเกิลเปิดตัว Google+ Event ได้ไม่นาน ตอนนี้เฟซบุ๊กออกมาเคลื่อนไหวด้วยการปรับอินเทอร์เฟซหน้า Event ใหม่แล้ว
หน้า Event แบบใหม่จะมีให้เลือกแสดงผลสองแบบคือ List และ Calendar โดยแบบแรกจะใกล้เคียงกับของเก่า แต่เพิ่มปฏิทินแบบย่อตรงด้านซ้ายเข้ามา วันที่มีอีเวนท์จะแสดงผลเป็นตัวหนา และมีแนะนำอีเวนท์โดยอิงจากเพื่อน สถานที่ และเพจที่มีอยู่อีกด้วย
ส่วนแบบ Calendar จะแสดงผลเป็นบล็อกๆ แบบปฏิทินรายเดือน ซึ่งจะมีวันเกิด และนัดหมายอยู่ตามบล็อกของแต่ละวัน
เฟซบุ๊กบอกว่า Event ใหม่เริ่มทยอยอัพเดตให้ผู้ใช้แล้ว (ผมลองไปดูก็มีแล้ว) ใครยังไม่ได้อัพเดตลองดูภาพได้จากที่มาครับ
หลังจากปล่อยให้ผู้ใช้ iPad ต้องทนใช้แอพ Google+ แบบจอเล็กกันมานาน ล่าสุดกูเกิลก็ปล่อยแอพ Google+ for iPad ตามหลังเวอร์ชัน Android Tablet เป็นที่เรียบร้อย
ของใหม่นอกจากเรื่องดีไซน์ที่ออกแบบมาให้เหมาะกับหน้าจอขนาดใหญ่ ยังรองรับ gesture แบบสองนิ้ว และเริ่มการสนทนา Hangout จาก iPad ได้เลย
ส่วนเวอร์ชัน iPhone ก็ได้รับอัพเดตให้ใช้ Google+ Events ได้เช่นกัน (เข้าใจว่าเวอร์ชัน iPad ยังไม่รองรับ Events นะครับ)
ที่มา - Official Google Blog
การสำรวจจากมหาวิทยาลัยซัลฟอร์ดในประเทศอังกฤษ ที่สำรวจผู้ใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์คกลุ่มเล็กๆ จำนวน 298 คน ได้ผลน่าตกใจว่าโซเชียลเน็ตเวิร์คทำให้ความมั่นใจในตัวเองลดลง และยังพักผ่อนยากขึ้นอีกด้วย
กว่าครึ่งของการสำรวจที่ใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์คอย่างทวิตเตอร์ หรือเฟซบุ๊กบอกว่าทำให้ชีวิตของเขาแย่ลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความมั่นใจในตัวเอง เมื่อไปเปรียบเทียบกับความสำเร็จของบรรดาเพื่อนๆ ในโลกออนไลน์
นอกจากนี้ สองในสามยังบอกว่าไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ เนื่องจากใช้เวลากับโซเชียลเน็ตเวิร์คมากไป และกังวลกับมันมากจนทำให้นอนไม่หลับ และกว่าครึ่งยังบอกว่ารู้สึกไม่สบายใจถ้าหากเข้าเฟซบุ๊ก หรืออีเมลไม่ได้อีกด้วย
แถวนี้มีใครเข้าข่ายแบบนี้บ้างไหมครับ ?
หลังจากปล่อยโฆษณาบนมือถือมาได้พักหนึ่งแล้ว ก็มีแหล่งข่าวแจ้งว่าเฟซบุ๊กเตรียมแผนเพิ่มวิธีโฆษณาแบบใหม่ที่จะเลือกแสดงผลโฆษณาโดยใช้ข้อมูลจากแอพที่ใช้ในเครื่อง
แน่นอนว่าวิธีการแสดงผลโฆษณาด้วยข้อมูลดังกล่าวหากเฟซบุ๊กเลือกใช้จริง จะต้องถูกตั้งคำถามในแง่ของความเป็นส่วนตัวอีกครั้งอย่างแน่นอน แม้ว่าก่อนหน้านี้วิธีการดังกล่าวจะถูกใช้โดยแอปเปิลแล้ว (ส่วนกูเกิลปฏิเสธว่าไม่ได้ใช้ข้อมูลดังกล่าว)
แหล่งข่าวยังบอกอีกว่าระบบดังกล่าวจะเปิดตัวในวันที่ 16 กรกฎาคมนี้ ส่วนอีกคนก็บอกว่าจะพูดถึงในงานแถลงประกาศผลประกอบการวันที่ 26 กรกฎาคม และเปิดตัวตามมาในวันที่ 30 กรกฎาคม
กูเกิลเดินหน้าผนวก Google+ เข้ากับบริการอื่นของตัวเองอยู่เรื่อยๆ ล่าสุดเป็นคิวของ Chrome Web Store ที่ได้ปุ่ม +1 เพิ่มเข้ามาที่แอพแต่ละตัวแล้ว
ก่อนหน้านี้ Android Market/Play Store เองก็ได้ปุ่ม +1 มาก่อนนานแล้ว ซึ่งเปิดให้ผู้ใช้สามารถแชร์แอพของ Android ไปยังแวดวงของตัวเองได้ แต่กรณีของ Chrome Web Store เพิ่มขึ้นมาจากเดิมตรงที่ เราสามารถกดอ่านรีวิว-ดูรายชื่อแอพที่เพื่อนเราแนะนำได้โดยตรง เพราะหน้าเว็บของ Chrome Web Store จะมีหมวด "From your circles" เพิ่มเข้ามาจากหมวดแอพแนะนำทั่วไปอย่าง Popular หรือ Trending ครับ
ที่มา - Google Chrome Blog
NHN Japan Corporation ต้นสังกัดของแอพสนทนาสามัญประจำสมาร์ทโฟนนาทีนี้อย่าง LINE ได้จัดงานแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกเพื่อเปิดตัวบริการใหม่ในเครือ LINE ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยมีทั้งหมดสามบริการใหม่ดังนี้ครับ
วันนี้ Facebook ได้เพิ่มคุณสมบัติสำหรับ Timeline ใหม่ทำให้คู่รักร่วมเพศสามารถที่จะแสดงสถานภาพสมรสของตนเองได้อย่างเต็มตัวด้วยการเพิ่มไอคอนใหม่ที่ตรงไปตรงมามากกว่าเดิม โดยไอคอนใหม่นี้จะเป็นรูปผู้ชายสองคนอยู่ข้างกัน แทนที่จะเป็นคู่สมรสชายหญิงตามปกติ
โดยครั้งแรกที่คุณสมบัตินี้ถูกเผยแพร่แก่สาธารณชนก็เมื่อหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Facebook นาย Chris Hughes ได้แต่งงานกับคู่สมรสของเขา นาย Sean Eldridge โดยในอัพเดตบน Timeline ของเขามีการใช้ไอคอนนี้เป็นครั้งแรก และ Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Facebook เองก็ได้มากด Like อัพเดตนี้ด้วย (กดอ่านต่อเข้ามาดูภาพ)
ปัญหาคำเชิญร่วมงานของ Google+ Events เต็มหน้า Stream แทบจะทันทีหลังเปิดใช้านทำให้ผู้ใช้จำนวนมากต้องพบกับความรำคาญ เพราะมองไม่เห็นอย่างอื่นนอกจากคำเชิญร่วมงานเต็มไปหมด และภายในวันเดียวทางทีมกูเกิลก็ยอมรับว่าเป็นบั๊ก และรีบแก้ปัญหา
งานนี้ +Vic Gundotra ยอมรับว่าเป็นบั๊กจริง และที่ช้าเพราะต้องซิงก์โค้ดระหว่างศูนย์ข้อมูล
ผู้ใช้ประจำในบ้านเรา (ที่ยังมีไม่เยอะ) ก็คงกลับมาสงบสุขกันได้ต่อไปสักที
ที่มา - +Linus Trovalds
หลังจากมุ่งอัพเดตแต่แอพบนมือถือมาตลอด วันนี้ Instagram ปล่อยอัพเดตขนานใหญ่บนเว็บไซต์ เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้ามาหลายอย่าง จากเดิมที่ทำได้เพียงแค่ดูรูปเท่านั้น
อย่างแรกคืออินเทอร์เฟซของเว็บไซต์ที่เปลี่ยนไปจากเดิมที่ใช้โทนสีดำ กลายเป็นสีน้ำเงิน-ขาวเหมือนกับแอพบนมือถือ หน้าแสดงรูปภาพเรียงสองคอลัมน์เหมือนเดิม แต่สามารถกดไลค์ หรือคอมเมนท์จากในหน้าเว็บ และกดตามเจ้าของภาพได้จากอวาตารมุมซ้ายบนได้ด้วย
เข้าไปดูตัวอย่างกันได้จากทวีตของ @miekd นักออกแบบอินเทอร์เฟซของ Instagram ได้เลยครับ
ที่มา - The Verge
ถึงแม้ว่าเมื่อต้นปีที่ผ่านมาบริการเครือข่ายสังคม Path จะมีข่าวที่ไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ยังมีการระดมทุนเพิ่มอีกในเดือนเมษายน จนมาถึง ณ วันนี้ Path ก็รุกตลาดระดับโลกอีกก้าวหนึ่ง ด้วยการรองรับการแสดงผลเมนูภาษาอื่น เพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 7 ภาษา
ภาษา 7 ภาษาที่เพิ่มเข้ามาได้แก่ ดัตช์ นอร์เวย์ จีนดั้งเดิม อินโดนีเซีย มลายู อังกฤษ (UK) และภาษาไทย รวมกับของเดิม 9 ภาษาได้แก่ สเปน อิตาลี เยอรมัน โปรตุเกส ฝรั่งเศส สวีเดน จีนตัวย่อ ญี่ปุ่น และเกาหลี เป็นทั้งหมด 16 ภาษา
ใครอยากช่วยแปลก็เข้าไปได้ที่ http://translate.path.com/
ที่งาน Google I/O กูเกิลเปิดตัวฟีเจอร์ Google+ Events ที่เป็นตั้งแต่การนัดหมาย ไปจนถึงการเชื่อมต่อระหว่างอีเวนต์, และการแสดงภาพและเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับอีเวนต์ที่เกิดขึ้น
หน้า Google+ Events จะเหมือนหน้าโปรไฟล์แยกออกไปต่างหาก ให้เราสามารถเชิญคนเข้ามาร่วมงานได้ และเชื่อมต่อกับ Google Calendar อัตโนมัติ
เมื่ออยู่ในงานแล้วยังสามารถเปิดแอพพลิเคชั่นเข้า Party Mode ที่ตัวแอพพลิเคชั่น Google+ จะเตือนเราทุกเหตุอย่างที่มีคนโพสในหน้าอีเวนต์ ตัวหน้าเว็บสามารถทำ slideshow สำหรับงานเพื่อแสดงภาพในงานไปเรื่อยๆ
Friendthem เตรียมฟ้อง Facebook หลังจากที่เพิ่งปล่อยฟีเจอร์ Find Friends Nearby ได้ไม่นาน โดยอ้างว่าขโมยแนวคิดของตนเอง
Friendthem เป็นแอพสำหรับการขอเป็นเพื่อนบน Facebook โดยใช้ Location Service เข้ามาช่วยในการหาบุคคลที่อยู่ใกล้ตัวเรา แก้ปัญหาความสับสนจากการที่ผู้ใช้งานมีชื่อซ้ำกันหลายคน มีทั้งบน iOS และ Android
จากที่มีข่าวลือนำร่องมาก่อนแล้ว วันนี้ไมโครซอฟท์ประกาศการเข้าซื้อบริษัท Yammer เป็นที่เรียบร้อยด้วยมูลค่าถึง 1.2 พันล้านดอลลาร์ จ่ายเป็นเงินสดทั้งหมด
Yammer ทำธุรกิจเครือข่ายสังคมสำหรับองค์กร ก่อตั้งเมื่อปี 2008 ปัจจุบันมีลูกค้าองค์กรกว่า 5 ล้านคน ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ หลังการซื้อกิจการแล้ว ทีม Yammer จะถูกผนวกเป็นส่วนหนึ่งของฝ่าย Microsoft Office โดยซีอีโอของ Yammer จะยังเป็นหัวหน้าทีมต่อไป
ไมโครซอฟท์บอกว่าบริการของ Yammer จะยังพัฒนาอย่างเป็นอิสระ แยกจากบริการอื่นๆ ของบริษัท แต่ก็จะถูกผนวกเข้าเป็นผลิตภัณฑ์สื่อสารสำหรับองค์กร เช่นเดียวกับ SharePoint, Office 365, Skype และ Microsoft Dynamics
Facebook แอบอัพเดตฟีเจอร์เงียบๆ ด้วยการปรับให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถแก้ไขความเห็นได้แล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้จะสามารถแก้ไขได้แค่สามสิบวินาทีแรกหลังจากโพสต์เท่านั้น
ใครที่ได้ฟีเจอร์ใหม่แล้ว ตรงท้ายของความเห็นจะเปลี่ยนจากปุ่มกากบาท เป็นปุ่มดินสอ แล้วเปลี่ยนข้อความเป็น Edit or Delete ที่พอคลิกแล้วจะมีเมนูแบบ dropdown ลงมาให้เลือกอีกที
จริงๆ มันน่าจะมีตั้งนานแล้วนะ ...
ที่มา - The Next Web
ที่ผ่านมา ผู้ใช้ Facebook ที่เขียนคอมเมนต์ผิด (ไม่ว่าจะเป็นสะกดผิด ลิงก์ผิด พิมพ์ตก ฯลฯ) ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากลบคอมเมนต์แล้วพิมพ์ใหม่เท่านั้น แต่ล่าสุดตัวแทนของ Facebook ให้ข้อมูลกับเว็บไซต์ The Next Web ว่ากำลังทยอยปล่อยอัพเดตที่ผู้ใช้สามารถแก้คอมเมนต์ตัวเองได้แล้ว
และเช่นเคย อัพเดตของ Facebook จะค่อยๆ ปล่อยให้ผู้ใช้ทีละกลุ่ม โดยผู้ใช้ทุกคนจะใช้งานได้ในอีก 2-3 วันข้างหน้า ใครใช้ได้แล้วก็ช่วยแจ้งด้วยนะครับ
ที่มา - The Next Web