HootSuite บริการสำหรับโพสต์ขึ้นโซเชียลเน็ตเวิร์คหลายแห่ง เริ่มแผนบุกประเทศจีนแล้ว หลังจากอัพเดตแอพให้รองรับโซเชียลเน็ตเวิร์ครายใหญ่ของประเทศจีน Sina Weibo และภาษาจีนตัวเต็ม (Traditional Chinese) ในตัวแอพแล้ว

นอกจากนี้ยังเปิดบัญชีทางการของ HootSuite ใน Sina Weibo และเปิดบัญชี @HootSuite_CN บน Twitter อีกด้วย

แผนต่อไปของ HootSuite คือเพิ่มภาษาจีนตัวย่อ (Simplified Chinese) และบริการอื่นๆ ของจีนเข้าไปในตัวแอพในอนาคต

ที่มา - The Next Web

Mark Zuckerberg ประกาศความสำเร็จของ Facebook ที่มีผู้ใช้ต่อเดือน (active user) ครบ 1,000 ล้านรายไปเมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา

สถิติอื่นที่น่าสนใจมีดังนี้

• จำนวนการกดไลค์ 1.13 ล้านล้านครั้ง นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2009
• ภาพถ่ายถูกอัพโหลด 219 พันล้านภาพ, โพสต์และเช็คอินเกี่ยวข้องกับสถานที่ 17 พันล้านครั้ง
• จำนวนความเป็นเพื่อน (friend connection ระหว่างบุคคลสองคน) 140.3 พันล้านความสัมพันธ์
• อายุเฉลี่ยของผู้ใช้ 22 ปี

• จำนวนผู้ใช้ผ่านมือถือ 600 ล้านราย

  เส้นทางเดินของ Facebook ในโอกาสต่างๆ

• 25 ล้านคน - มกราคม 2006

Tapbots ผู้พัฒนาแอพเล่น Twitter ชื่อดังอย่าง Tweetbot ประกาศเปิดตัว Netbot แอพสำหรับใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์คหน้าใหม่ไฟแรงอย่าง App.net เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

Netbot จะมาในธีมหุ่นยนต์เหมือนกับ Tweetbot โดยรองรับฟีเจอร์การใช้งาน App.net อย่างการ reply, mention, repost, star และดู conversation ได้เหมือนกับบนหน้าเว็บ รวมถึงดูฟีดแบบเรียลไทม์ได้เช่นกัน

แอพ Netbot มีทั้งบน iPhone และ iPad ราคาเท่ากันที่ 4.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ตอนนี้ยังไม่เข้า App Store ครับ โหลดกันได้แล้วครับ

Facebook เพิ่มความโปร่งใสของกระบวนการตรวจสอบ report เวลาเราแจ้งปัญหาของ page/timeline หรือภาพบางอย่าง

จากเดิมเวลาเรากด report และเลือกหมวดหมู่ของปัญหา เราจะไม่รู้อีกเลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับรายงานที่เราแจ้งไป แต่ในระบบใหม่จะมีหน้า Support Dashboard เพิ่มเข้ามาใน Account Settings เพื่อบอกสถานะของรายงานแต่ละอันที่เราแจ้งไปยัง Facebook ครับ

สถานะที่ Facebook บอกเราก็เป็นข้อความสั้นๆ เช่น ได้รับแล้ว (received), ลบเนื้อหานั้นออกแล้ว (removed), ทีมงานตัดสินใจไม่ลบเนื้อหาที่แจ้ง (not removed) และนำเนื้อหาเดิมกลับคืนมา (restored) เป็นต้น

นอกจากนี้ Facebook ยังปรับปรุงหน้าจอ Help Center ให้เข้าใจง่ายขึ้น หาข้อมูลได้ง่ายขึ้นด้วย

App.net โซเชียลเน็ตเวิร์คหน้าใหม่ที่อธิบายแบบง่ายได้ว่าเป็น "Twitter แบบจ่ายเงิน" ประกาศลดราคาค่าสมัครแล้ว หลังจากเปิดให้บริการมาได้ 12 สัปดาห์

ราคาดั้งเดิมของบริการ App.net แบบรายปีอยู่ที่ 50 ดอลลาร์สหรัฐฯ วันนี้ปรับลดลงเหลือ 36 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ส่วนของนักพัฒนายังเท่าเดิม) และเพิ่มเรตใหม่แบบหนึ่งเดือน จ่ายเพียง 5 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่านั้น

Dalton Caldwell ผู้สร้างและซีอีโอของ App.net บอกว่าการลดราคาค่าสมัครอยู่ในแผนที่วางไว้ว่าหากมีสมาชิกเพิ่มขึ้น ค่าสมัครก็จะลดลงเรื่อยๆ ปัจจุบันมีผู้ใช้ App.net เกิน 20,000 คนเรียบร้อยแล้ว

ที่มา - App.net

แท็บ Discover ถือเป็นฟีเจอร์ที่ Twitter หมายมั่นปั้นมือไว้มากว่าจะสามารถนำข้อความทวีตจำนวนมหาศาล มาสกัดออกเป็นข่าวที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ได้ (แม้ที่ผ่านมาจะยังทำได้ไม่ดีเท่าที่คาด)

ล่าสุด Twitter ออกมาประกาศว่าข้อความที่แสดงในแท็บ Discover จะถูกแสดงแบบ expanded mode คือขยายทวีตแสดงพรีวิวของภาพ-บทความ-วิดีโอ เพื่อให้เตะตาผู้ใช้มากขึ้นครับ

(ส่วนตัวแล้วผมว่าจะแสดงแบบไหนคงไม่ใช่ปัญหา แต่ต้องไปปรับปรุงอัลกอริทึมการเลือกข้อความให้มันตรงกับที่เราต้องการมากกว่านี้อีกเยอะ)

ที่มา - Twitter Blog

Facebook รุกเข้าสู่ตลาดค้าปลีก เปิดตัว Facebook Gifts ขายสินค้าจริงๆ บนหน้าวอลล์ ให้ผู้ใช้สามารถซื้อของขวัญแล้วมอบให้เพื่อนและคนรู้จักได้

การทำงานของ Facebook Gifts คือเราเข้าไปซื้อของขวัญให้เพื่อน (ซึ่งเป็นระบบอีคอมเมิร์ซธรรมดา) เมื่อจ่ายเงินเสร็จเรียบร้อย เพื่อนของเราจะได้รับแจ้งว่าเราส่งของขวัญให้เขา ซึ่งผู้รับของขวัญสามารถระบุที่อยู่สำหรับจัดส่งที่ตัวเองสะดวก

Facebook Gifts ถือเป็นการต่อยอดความสัมพันธ์บนโลกออนไลน์ที่น่าสนใจ แทนที่จะอวยพรกันในโอกาสสำคัญต่างๆ Facebook ก็เตรียมรายการของขวัญไว้รอให้เราเลือกซื้อไปพร้อมกัน เบื้องต้นจะยังเปิดให้เฉพาะผู้ใช้ในสหรัฐเท่านั้น

ไมโครซอฟท์ประกาศลงทุนใน Klout บริษัทที่คำนวณอิทธิพลของผู้ใช้สื่อออนไลน์ โดยไม่เปิดเผยมูลค่าว่าลงทุนเป็นจำนวนเงินเท่าไร

นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังเซ็นสัญญากับ Klout นำคะแนนอิทธิพลหรือ Klout Score และหัวข้อที่ผู้ใช้เครือข่ายสังคมคนนั้นๆ เชี่ยวชาญ (ที่คำนวณโดย Klout อีกเช่นกัน) ไปแสดงในแถบ People Who Know ของ Bing ด้วย (Bing ช่วงหลังรุกตลาดสังคมออนไลน์ โดยจับมือกับ Twitter/Facebook, Foursquare นำข้อมูลพวกนี้มาแสดงในผลการค้นหา)

ในยุคที่โซเชียลเน็ตเวิร์คกลายเป็นเครื่องมือแจ้งเตือนภัยชั้นเยี่ยม และยังคงพัฒนาให้ดีขึ้นได้อีก โดย Twitter เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่สำหรับประเทศญี่ปุ่น เพื่อรับมือกับภัยพิบัติโดยเฉพาะ

ฟีเจอร์ใหม่นี้มีชื่อว่า Lifeline ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับภัยพิบัติได้ง่ายขึ้น โดยสามารถหาว่าอยู่ในเขตประสบภัยหรือไม่ง่ายๆ ด้วยการค้นหาด้วยรหัสไปรษณีย์ และยังใช้หาข้อมูลสถานการณ์ต่างๆ แบ่งตามเวลาได้ละเอียดขึ้น และยังตั้งให้ส่งข้อความเตือนมายังอุปกรณ์ของเราได้อีกด้วย โดยข้อมูลเหล่านี้ Twitter ระบุว่าได้มาจากการร่วมมือกับรัฐบาล และการปกครองส่วนภูมิภาคของญี่ปุ่น

ตอนนี้ Lifeline ยังใช้ได้ในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น และมีแผนจะขยายเพิ่มในอนาคตครับ (เชื่อว่าชั่วโมงนี้คนไทยคงอยากได้กันบ้างแล้ว)

หลังจากมีรายงานว่าเฟซบุ๊กทำข้อความส่วนตัวรั่วออกมาบนหน้า Timeline เมื่อคืนนี้ และทางเฟซบุ๊กออกมาปฎิเสธ แต่ยังมีความตระหนกอยู่ และมีหลายคนออกมายืนยันว่ามีข้อความรั่วออกมาจริงๆ ตอนนี้ทางเฟซบุ๊กออกมายืนยันว่าได้ตรวจสอบทุกรายงานที่เข้าไปยังเฟซบุ๊กแล้ว และพบว่าทั้งหมดเป็นการโพสบนหน้าวอลล์ ไม่ใช่ข้อความส่วนตัวแต่อย่างใด

ปัญหานี้อาจจะเป็นประเด็นที่ Timeline แสดงข้อความเก่าๆ ได้ง่ายกว่าเดิม ทำให้ข้อความที่เคยพูดคุยกันไปมาบนหน้าวอลล์เมื่อหลายปีก่อนและผู้ใช้ลืมไปแล้ว กลับขึ้นมาแสดงบน Timeline ให้คนที่มีสิทธิ์เข้าไปดูกันได้สะดวกกว่าเดิมจากการปรับปรุงหน้าจอ

Justin Timberlake ดารา-นักร้องซึ่งเป็นหนึ่งในนักลงทุนรายใหม่ Myspace ทวีตข้อความโปรโมทวิดีโอ แสดงหน้าตาแบบใหม่เอี่ยมของ Myspace ที่จะเปลี่ยนให้ใช้ในเร็วๆ นี้

Myspace แบบใหม่ยังเน้นการติดต่อกับเพื่อนๆ ผนวกกับการฟังเพลงเหมือนของเดิม แต่รูปแบบการนำเสนอเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ดีไซน์ใหม่คล้ายนิตยสาร และใช้การเลื่อนหน้าจอแนวขวางแทนหน้าจอแนวตั้ง (ดูวิดีโอเข้าใจง่ายกว่าครับ)

คนที่สนใจทดสอบเว็บแบบใหม่ ไปลงชื่อรอกันได้ที่ new.myspace.com

ข่าวข้อความส่วนตัวรั่วไหลกลายเป็นข้อความใน Timeline ปกติทำให้ทางเฟซบุ๊กต้องออกมาแก้ข่าวในทันที โดยทางเฟชบุ๊กระบุว่าวิศวกรได้เข้าไปตรวจสอบข้อความเหล่านั้นแล้ว และพบว่าเป็นข้อความที่เปิดเผยบนหน้าโปรไฟล์เดิม ซึ่งเทียบเท่ากับหน้า Timeline อยู่แล้ว และไม่มีการรั่วไหลของข้อมูลส่วนตัวแต่อย่างใด

อย่างไรก็ดี Colleen Talyor นักเขียนของ TechCrunch ระบุว่าเธอสามารถยืนยันได้ว่าข้อความส่วนตัวของเธอที่พูดคุยกับเพื่อนจริงๆ และเธอเห็นข้อความส่วนตัวของเพื่อนๆ ของเธอบนหน้า Timeline ของเพื่อนๆ ด้วยเช่นกัน และคนเหล่านั้นยืนยันว่าข้อความที่แสดงเป็นข้อความส่วนตัว ไม่ใช่การโพสลงบนหน้าโปรไฟล์

มีรายงานจากผู้ใช้ในประเทศฝรั่งเศสว่าเฟซบุ๊กนำข้อความส่วนตัว (private message) ที่พูดคุยระหว่างกันมาแสดงเป็นการโพสบนหน้าวอลล์ของผู้ใช้ โดยผู้ที่ประสบปัญหานี้จะมีข้อความที่เพื่อนตอบกลับมาในแชตและการส่งข้อความส่วนตัว กลายเป็นการโพสบนหน้า Timeline และใช้ค่าความเป็นส่วนตัวแบบเดียวกับการที่เพื่อนคนอื่นๆ มาโพสบนหน้า Timeline

เหตุการณ์แบบนี้ทำให้ข้อความที่ควรจะคุยกันในกลุ่มหรือคุยกันสองต่อสอง กลายเป็นข้อความที่เห็นไปยังเพื่อนทุกคน หรือเห็นสู่สาธารณะในกรณีที่เปิดให้คนอื่นสามารถโพสบน Timeline แบบสาธารณะได้

ผู้ใช้ Twitter บางรายอาจพอรู้ว่าอวาตาร์ของบัญชี Twitter นั้นรองรับภาพสกุล GIF ซึ่งสามารถทำภาพเคลื่อนไหวได้

ล่าสุด Twitter อัพเดตเว็บไซต์เงียบๆ และมีผู้ใช้บางรายสังเกตว่าเมื่ออัพภาพเคลื่อนไหวเข้าไป ภาพกลับไม่เคลื่อนไหวดังเคย จนมีคนไปค้นเจอในหน้า Help Center จึงกระจ่างว่า Twitter ไม่รองรับภาพ GIF แบบเคลื่อนไหวได้แล้วนั่นเอง

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มีผลกับผู้ใช้ในปัจจุบันเท่านั้น ใครที่ใช้อวาตาร์เคลื่อนไหวได้อยู่แล้ว จะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงครับ

ที่มา - TechCrunch

ช่วงนี้ GitHub ปล่อยของเล่นใหม่ๆ บนหน้าเว็บ ได้แก่

• หน้า profile ใหม่แสดง avatar/repository ใหญ่ขึ้น ส่วนหน้า activity ก็เพิ่มความสำคัญให้กับ commit/issue จากเดิมที่สำคัญเท่ากับ follow user/star repository - New User Profile Pages
• เพิ่มความสามารถให้ search box (ทาง GitHub เรียกมันว่า Command Bar) โดยสามารถทำ tab completion พร้อมคำสั่งพื้นฐานเช่น follow หรือหา issue ได้ - Introducing the Command Bar

Facebook เริ่มทดสอบฟีเจอร์ใหม่ "Photo Sync" สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟน แท็บเล็ตแอนดรอยด์สามารถซิงก์ภาพบนเครื่องกับบัญชี Facebook ได้

การทำงานของ Photo Sync ค่อนข้างคล้ายกับ Instant Upload ของ Google+ ตรงที่ภาพจากเครื่อง และภาพใหม่เพิ่งถ่าย จะถูกอัพโหลดขึ้นไปยังบัญชีผู้ใช้ แต่จะอยู่ในสถานะภาพส่วนตัวในแท็บ "Synced from Phone" ซึ่งผู้ใช้ต้องเลือกแชร์ภาพเองอีกครั้ง

ข้อมูลจากหน้า Help ของ Photo Sync ระบุว่าพื้นที่ความจุอยู่ที่ 2GB สามารถซิงก์ได้ผ่านเครือข่ายมือถือ และ Wi-Fi โดยตัวแอพจะเลือกซิงก์ภาพเล็ก (ไม่เกิน 100KB) ผ่านเครือข่ายมือถือ ส่วนภาพขนาดใหญ่จะซิงก์ผ่าน Wi-Fi

Twitter ออกแอพบนแอนดรอยด์รุ่นใหม่ รหัส 3.4 ปรับฟีเจอร์ให้เท่ากับเว็บไซต์ และแพลตฟอร์ม iOS ที่อัพเดตไปก่อนหน้าแล้ว โดยฟีเจอร์ที่เพิ่มขึ้นมามีดังนี้

• หน้าโปรไฟล์ใหม่พร้อมภาพขนาดใหญ่ (header pic)
• แสดงรายการภาพ (photostream) ในหน้าโปรไฟล์ และอีเวนท์ได้แล้ว
• ซูมรูปภาพด้วยสองนิ้วขยาย (pinch-to-zoom)
• เพิ่มคำแนะนำเวลาค้นหา

สำหรับผู้ที่อัพเดตเวอร์ชันนี้จะถูกตัดการอัพโหลดภาพจาก third-party ไป และจะสามารถใช้ได้เฉพาะ pic.twitter (ซึ่งทำร่วมกับ Photobucket) เท่านั้นครับ

ที่มา - Android Central

วันนี้นอกจาก Twitter จะอัพเดตแอพ iPad แล้ว ยังปรับตัวหน้าโปรไฟล์ของผู้ใช้บนเว็บอีกด้วย

หน้าโปรไฟล์แบบใหม่จะคล้ายกับภาพ cover ที่เราคุ้นตากันบน Facebook และมีอวาตาร์เป็นกรอบอยู่ตรงกลางของภาพ รวมถึงย้ายจำนวนทวีต ตัวเลขตามคน/คนตาม มาไว้ใต้ภาพ (แต่เดิมไว้ทางขวา)

สำหรับวิธีการใส่ภาพบนหน้าโปรไฟล์สามารถทำได้โดยเข้าไปที่หน้า Settings > Design และเลือก Change Header เพื่อเปลี่ยนภาพได้ โดยขนาดของภาพเล็กสุดอยู่ที่ 1252x626 พิกเซล เมื่อใส่ภาพแล้วจะได้ใช้หน้าโปรไฟล์ใหม่โดยอัตโนมัติครับ

หลังจากนี้ Twitter จะทยอยเปลี่ยนแอพหลักของแต่ละแฟลตฟอร์มให้ใช้การออกแบบนี้ทั้งหมด ตามหลัง iPad ที่ออกมาก่อนแล้ว ดูภาพตัวอย่างได้ท้ายข่าวครับ

หลังจากห่างหายไปนาน MOLOME แอพถ่ายแล้วแชร์ ประกาศอัพเดตครั้งใหญ่เวอร์ชัน v3 โค้ดเนม "Phoenix" ที่ยกเครื่องใหม่หมดตั้งแต่อินเทอร์เฟซ ไปจนถึงฟีเจอร์ภายในที่เพิ่มขึ้นมามากมาย

อินเทอร์เฟซใหม่ของ v3 เท่าที่เห็นดูคล้ายกับของเวอร์ชัน BlackBerry ที่ปรับเพิ่มฟีเจอร์เข้ามา มีความเป็นโซเชียลเน็ตเวิร์คมากขึ้น ส่วนฟีเจอร์ใหม่ๆ คงต้องรอ MOLOME ประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง (ซึ่งหลุดมาก่อนแล้วหนึ่งฟีเจอร์คือรองรับภาพเคลื่อนไหวสกุล GIF ได้แล้ว)

Vic Gundotra ผู้บริหารของกูเกิลออกมาเผยสถิติล่าสุดของ Google+ ในโอกาสครบรอบ 1 ปีที่เปิดให้คนทั่วไปใช้งาน

• ยอดลงทะเบียนใช้งาน Google+ รวม 400 ล้านบัญชี
• ยอดการใช้งานจริงต่อเดือน (monthly active users) 100 ล้านบัญชี (นับรวมเว็บและแอพ)

ในโอกาสเดียวกัน กูเกิลยังประกาศการซื้อบริษัท Nik Software ผู้สร้างแอพภาพถ่าย Snapseed บน iOS และซอฟต์แวร์ด้านการภาพถ่ายบน Mac OS X อีกด้วย (ยังไม่บอกว่าจะทำอะไรบ้างกับ Nik Software)

ข่าวลือจากเว็บไซต์ Buzzfeed อ้างแหล่งข่าววงในว่า Twitter เตรียมกระชับพื้นที่ไปอีกขั้น ขอพื้นที่ฝากรูปภาพคืนจากบรรดาเว็บฝากรูปยอดนิยมอย่าง yFrog, TwitPic, img.ly เป็นต้น

ทุกวันนี้แอพอย่างเป็นทางการของ Twitter สามารถเลือกบริการฝากรูปภาพจากบริษัทอื่นๆ นอกเหนือจากที่ฝากรูปของ Twitter เองได้ แต่ถ้าข่าวลือเป็นความจริง เราไม่เห็นบริการอื่นๆ ในอนาคตอันใกล้นี้

ผู้ก่อตั้ง TwitPic (ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับ Twitter ให้ความเห็นต่อข่าวลือนี้ว่า Twitter ต้องการควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างในแอพของตัวเอง เนื่องจากพวกเขาต้องการทำเงินจากโฆษณาภายในแอพนั่นเอง เขาบอกว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่คาดเดาได้ล่วงหน้า แต่มันก็ส่งผลสะเทือนต่อบริษัทเล็กๆ ที่รายล้อมบริการหลักของ Twitter อยู่

จากกรณีที่ Mutiply.com จะปิดส่วนของ social network ของตัวเอง ทาง Mutiply สัญญาว่าจะมีเครื่องมือในการดาวน์โหลดหรือช่องทางในการนำข้อมูลของสมาชิกออกมาให้ ในวันนี้ทาง Multiply ได้ส่งอีเมลแจ้งว่าเครื่องมือนั้นสามารถใช้งานได้แล้ว

โดยให้สมาชิกเข้าไปที่หน้าเว็บของตัวเองใน Multiply (multiplyid.multiply.com) จะมีตัวเลือกด้านซ้ายมือให้เลือกอยู่ 3 ส่วน

Tim Cook เคยให้สัมภาษณ์มาก่อนแล้วว่า iTunes Ping ไม่ได้รับการตอบรับจากลูกค้า และก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลือว่า แอปเปิลจะถอด Ping ออกจาก iTunes รุ่นถัดไป วันนี้มันกลายเป็นข่าวจริงเรียบร้อย

เว็บไซต์ 9to5mac ค้นพบว่าใน iTunes 10.7 ที่เปิดให้ดาวน์โหลดเมื่อคืนนี้ (เป็นรุ่นอัพเดตย่อยเพื่อให้รองรับ iPhone 5 และ iPod รุ่นใหม่) ขึ้นข้อความเตือนแล้วว่า Ping ปิดรับสมาชิกใหม่แล้ว และจะหยุดให้บริการในวันที่ 30 กันยายนนี้

แอปเปิลไม่ได้ออกมาให้เหตุผลว่าทำไมถึงปิด Ping แต่การที่ iTunes รุ่นใหม่ๆ จะทำงานร่วมกับ Twitter/Facebook ได้ดีขึ้น ก็คงทำให้ Ping ไม่จำเป็นต้องมีอยู่อีกต่อไป

Twitter ประกาศแผนปรับ API เวอร์ชันใหม่เมื่อกลางเดือนที่แล้ว ซึ่งเพิ่มเงื่อนไขเรื่องจำนวนผู้ใช้ของแต่ละไคลเอนต์เข้ามา สร้างเสียงวิจารณ์อย่างหนักในแวดวงสื่อออนไลน์

วันนี้ Twitter เปิดตัว API เวอร์ชัน 1.1 อย่างเป็นทางการแล้ว สิ่งสำคัญที่เปลี่ยนไปนอกจากเรื่องจำนวนผู้ใช้งาน คือการตัดฟอร์แมตของข้อมูลออกไปบางส่วน ฟอร์แมตที่โดนตัดคือ RSS/XML/Atom เหลือแต่เพียง JSON เท่านั้น (สำหรับคนที่อาจไม่ทราบ เดิมที Twitter อนุญาตให้นักพัฒนาสามารถดึงข้อมูลในรูป RSS ได้ และมีแอพหลายตัวที่ใช้วิธีนี้ดึงข้อความทวีตไปใช้งาน) บริษัทระบุว่าตัดออกไปเพราะคนใช้น้อยมาก และจะเลิกให้บริการ RSS/XML/Atom อย่างถาวรในวันที่ 5 มีนาคม 2013

อนาคตของไคลเอนต์ทวิตเตอร์อาจเริ่มมืดมนลงเรื่อยๆ ตามที่บริษัทตั้งใจเอาไว้ วันนี้เราเริ่มเห็นข่าวไคลเอนต์ที่แข่งขันไม่ได้อย่าง Seesmic ถูกไคลเอนต์อีกรายอย่าง HootSuite ซื้อกิจการเป็นที่เรียบร้อย

HootSuite เป็นบริการสำหรับโพสต์ไปยังเครือข่ายสังคมหลายยี่ห้อ-หลายบัญชี และเน้นลูกค้ากลุ่มบริษัท-แบรนด์ที่หาตัวช่วยจัดการเครือข่ายสังคม (มีเวอร์ชันจ่ายเงินแลกกับฟีเจอร์เพิ่มเติม) ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน 4.5 ล้านราย ในขณะที่ Seesmic ช่วงหลังมีคนใช้น้อยลงเรื่อยๆ จนเหลือผู้เข้าชมเว็บประมาณวันละ 3-4 หมื่นรายเท่านั้น

HootSuite ให้เหตุผลของการซื้อกิจการครั้งนี้ว่าต้องการฐานลูกค้ากลุ่มองค์กรของ Seesmic เป็นหลัก