เมื่อวานนี้ ซัมซุงประกาศความร่วมมือกับอเมซอนที่จะพัฒนาแอพ Kindle for Samsung สำหรับลูกค้าที่ใช้ซัมซุงกาแล็กซี่ โดยช่วงแรกจะเปิดให้สำหรับผู้ใช้ Galaxy S5 ก่อน ผ่านทาง Samsung Apps หลังจากนั้นจะทยอยเปิดให้ดาวน์โหลดสำหรับลูกค้าซัมซุงที่ใช้แอนดรอยด์รุ่น 4.0 ขึ้นไป สำหรับลูกค้าใน 90 ประเทศทั่วโลก
ตัวแอพ Kindle for Samsung จะสามารถเข้าถึง Kindle Store ได้และมีฟีเจอร์ต่างๆ เช่น Whispersync, Time to Read เหมือนแอพปกติ แต่ที่พิเศษคือจะมาพร้อมกับแคมเปญ Samsung Book Deals ที่จะให้ผู้ใช้งานสามารถอ่านอีบุ๊คฟรีได้เดือนละเล่มตลอด 12 เดือน โดยผู้ใช้จะเลือกได้จาก 4 เล่มที่กำหนดให้ โดยที่จะเปลี่ยนเล่มไปแต่ละเดือน โดยหนังสือที่ให้เลือกได้ในเดือนเมษายนนี้ เป็นหนังสือระดับ 4 ดาวขึ้นไปทั้งสิ้น
Yoon Han-kil ผู้บริหารของซัมซุงออกมายืนยันข่าวว่ายอดขาย Galaxy S5 ช่วงเปิดตัวแรงกว่า Galaxy S4 อย่างไรก็ตามเขายังไม่เปิดเผยตัวเลขยอดขาย บอกเพียงว่าน่าจะ "เยอะกว่ามาก" (much better)
เขายอมรับว่าปัญหาของ S4 เกิดจากแนวคิดว่าควรสร้างนวัตกรรมด้านซอฟต์แวร์และบริการเพิ่มจากฮาร์ดแวร์ แต่ผลลัพธ์คือซัมซุงยัดบริการมามากเกินไป พอถึงยุคของ S5 จึงแก้ปัญหาโดยใส่มาเฉพาะซอฟต์แวร์และบริการที่จำเป็นต่อผู้ใช้จริงๆ (S5 มีแอพติดตั้งมาประมาณ 40 ตัว, ในขณะที่ S4 มีประมาณ 50 ตัว)
เดี๋ยวนี้โทรศัพท์มือถือรุ่นเรือธงต่างก็เริ่มจะใส่อุปกรณ์สแกนลายนิ้วมือเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งานในการปลดล็อกหน้าจอ ซึ่งทุกครั้งที่ปล่อยมา บรรดาแฮกเกอร์หรือนักวิจัยก็ได้ลองของกัน และ Galaxy S5 ก็ไม่เว้นที่จะถูกลองของเช่นกัน
นักวิจัยจาก Security Research Labs ได้สร้างลายนิ้วมือเทียมจากลายนิ้วมือที่เคยเก็บไว้เมื่อปีที่แล้ว และใช้ลายนิ้วมือเทียมที่สร้างขึ้นใหม่นี้ปลดล็อกหน้าจอ Galaxy S5 ได้ รวมถึงใช้งานแอพ PayPal ได้สบายๆ ซึ่งไม่ได้ต่างกับอุปกรณ์สแกนลายนิ้วมือสำหรับผู้บริโภคอื่นๆ เช่น แล็ปท็อป หรือ มือถือ
เราเคยมีข่าวของ Galaxy S5 Zoom ตัวต่อของ Galaxy S4 Zoom มาก็พักใหญ่พอสมควร ล่าสุดซัมซุงได้ร่อนบัตรเชิญเข้าร่วมงานเปิดตัวเจ้า Galaxy S5 Zoom ที่พิพิธภัณฑ์ Red Dot Design ในสิงคโปร์วันที่ 29 เมษายนนี้เป็นที่เรียบร้อย โดยจั่วหัวบัตรเชิญมาว่า Kapture The Moment
จากการเล่นคำในบัตรเชิญนี้ (แถมเน้นตัว K เป็นพิเศษ) ก็อาจจะทำให้เดาได้อย่างหนึ่งว่า ท้ายที่สุดซัมซุงจะไม่เรียกรุ่นนี้ว่า Galaxy S5 Zoom ที่เป็นสับเซตของ Galaxy S5 อีกต่อไป แต่จะแตกแบรนด์และไลน์ผลิตภัณฑ์ออกมาใหม่เป็น Galaxy K แทน
ZDNet Korea รายงานข่าวที่ยังไม่ได้รับการยืนยันจากซัมซุงว่า Galaxy S5 ทำยอดขายช่วงเปิดตัวได้ร้อนแรง โดยในบางประเทศมียอดขายเยอะกว่า Galaxy S4 ถึงหนึ่งเท่าตัว ส่วนบางประเทศมียอดขายดีกว่าเดิม 30%
อย่างไรก็ตาม ZDNet Korea ไม่ได้ให้ข้อมูลลงรายละเอียดว่ามีประเทศอะไรบ้าง และซัมซุงเองก็ยังไม่ออกมาให้ข้อมูลใดๆ ของยอดขาย Galaxy S5 ครับ (สถิติเก่าของ S4 คือ 10 ล้านเครื่องใน 1 เดือนแรก)
ที่มา - ZDNet Korea (ภาษาเกาหลี) via Mashable
Hiroshi Lockheimer หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรม Android ขึ้นให้การเป็นพยานแก่ซัมซุง ในคดีสิทธิบัตรกับแอปเปิล โดยเขาให้การยืนยันว่าฟีเจอร์หลายอย่างของ Android (ที่แอปเปิลฟ้องว่าลอก) นั้นกูเกิลคิดเองมาตั้งแต่แรก
Lockheimer บอกว่าเขามาอยู่กับกูเกิลตั้งแต่ปี 2006 โดยตอนนั้นทีม Android มีคนประมาณ 20-30 คน (ปัจจุบันมีประมาณ 600-700 คนที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของเขา) วิธีการทำงานของ Android เป็นเหมือน startup ที่แยกตัวเป็นอิสระจากกูเกิล
เขาเล่าประวัติการกำเนิด Android ให้คณะลูกขุนฟังว่ากูเกิลพยายามทำซอฟต์แวร์ให้แตกต่างจาก iOS อยู่แล้ว กูเกิลอยากมีอัตลักษณ์ของตัวเอง มีไอเดียของตัวเอง มีความภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองทำอยู่
ทวิตเตอร์ @evleaks เจ้าเก่าทวีตเกี่ยวกับข้อมูลหลุดล่าสุดของไฟล์ APK ที่อยู่ใน Samsung Galaxy S5 Active โดยจำนวนไฟล์ APK ที่หลุดมาดังกล่าวนั้นมีจำนวน 277 ไฟล์ด้วยกัน โดยตัวอย่างไฟล์แปลก ๆ ที่โผล่มาเช่นไฟล์ AirWakeUp.apk ซึ่งส่วนตัวคาดว่าอาจจะเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ใช้มือโบกไปมาเพื่อเปิดหน้าจอ
ทั้งนี้ยังไม่ได้ยืนยันว่าไฟล์ทั้งหมดกว่า 200 ไฟล์นั้นหลุดมาจากเครื่องจริงหรือไม่ แต่จากรายชื่อไฟล์ดังกล่าวนั้น กลับไม่พบชื่อไฟล์ที่เกี่ยวข้องกับการสแกนลายนิ้วมือเลยแม้แต่น้อย
ที่มา: @evleaks
คดีความรอบใหม่ระหว่างแอปเปิลกับซัมซุง ทำให้เราได้เห็นเอกสารภายในของแอปเปิลถูกเปิดเผยออกมาหลายชุด คราวนี้มาดูเอกสารฝั่งของซัมซุงบ้างครับ
เว็บไซต์ AppleInsider รวบรวมเอกสารของซัมซุงที่ถูกแอปเปิลใช้เป็นหลักฐานในชั้นศาล ช่วยให้เราได้เห็นข้อมูลที่น่าสนใจของซัมซุงในช่วงปี 2011-2012 ว่าคิดและวางแผนอย่างไร
ฟีเจอร์เด่นอย่างหนึ่งของ Galaxy S5 คือ Download Booster หรือการใช้เครือข่าย LTE แบ่งเบาภาระการดาวน์โหลดไฟล์ร่วมกับ Wi-Fi เพื่อเร่งความเร็วการดาวน์โหลด อย่างไรก็ตาม โอกาสที่ลูกค้า Galaxy S5 ในสหรัฐอเมริกาจะได้ใช้ฟีเจอร์นี้มีน้อยมาก เพราะโอเปอเรเตอร์ใหญ่ของสหรัฐ 3 จาก 4 รายบล็อคไม่ให้ S5 ใช้งานฟีเจอร์นี้
โอเปอเรเตอร์ที่บล็อคคือ AT&T, Verizon, Sprint (มีเพียง T-Mobile ที่ใจดีเปิดให้ใช้งาน) ส่วนเหตุผลนั้นบริษัทเหล่านี้ไม่ได้ประกาศชัด แต่ก็คงหนีไม่พ้นการไม่อยากให้เครือข่าย LTE ของตัวเองต้องรองรับโหลดมากขึ้น
วันนี้ซัมซุงประกาศวางขาย Galaxy S5 และอุปกรณ์แบบสวมใส่ได้ที่เปิดตัวช่วงเดียวกันคือ Gear 2/Gear 2 Neo และ Gear Fit ใน 125 ประเทศทั่วโลก
สำหรับกรณีของประเทศไทย ซัมซุงก็เริ่มขายวันนี้เช่นกันโดยจัดงานร่วมกับ AIS ที่ร้าน Samsung Shop สยามพารากอน และมีการแสดงความยินดีกับผู้ซื้อ S5 เป็นรายแรกของประเทศไทยด้วยครับ (ใครจะซื้อ ควรอ่านรีวิว Galaxy S5 ฉบับ Blognone ประกอบด้วยนะ)
อัพเดตเพิ่มเติมจากข่าวเมื่อไม่กี่วันก่อนที่ว่า ซัมซุงจะอัพเดตให้ Gear Fit สามารถอ่านแนวตั้งได้ รายงานจาก CNET ระบุว่าซัมซุงได้อัพเดตฟีเจอร์เพิ่มเติมให้ Gear Fit ดังนี้
บริษัทที่ปรึกษาโฆษณา Kantar Media รายงานยอดประเมินของงบโฆษณาบริษัทมือถือในสหรัฐประจำปี 2013
อันดับหนึ่งยังเป็นซัมซุง ที่จ่ายค่าโฆษณามือถือในตลาดสหรัฐไปทั้งหมด 363 ล้านดอลลาร์ แต่ตัวเลขนี้ลดลงจากปี 2012 ราว 10% และซัมซุงถือเป็นบริษัทเดียวที่ลดงบโฆษณาลงในปี 2013
ส่วนแอปเปิลตามมาเป็นอันดับสอง จ่ายไปทั้งหมด 351 ล้านดอลลาร์ (ห่างจากซัมซุงเพียง 12 ล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5% จุดที่น่าสนใจคืองบเกือบทั้งหมดของแอปเปิลคือ 339 ล้านดอลลาร์เป็นโฆษณาทางทีวี
อันดับสามโนเกีย 221 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปี 2012 ถึง 15 เท่าตัว (เดิมทีโนเกียไม่เน้นตลาดสหรัฐมากนัก), อันดับสี่โมโตโรลา 189 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว
ยังไม่ทันได้วางขายจริงสำหรับอุปกรณ์สวมใส่ตัวใหม่ของซัมซุงอย่าง Gear Fit แต่ทางซัมซุงก็พบปัญหาในการใช้งานแล้ว ด้วยความที่หน้าจอแสดงผลในแนวนอน ทำให้การใช้งานบนข้อมือนั้นค่อนข้างไม่สะดวก ซัมซุงจึงออกแพตช์อัพเดตให้ Gear Fit สามารถเลือกแสดงผลในแนวตั้งได้แล้ว อย่างไรก็ดี ณ ตอนนี้มีการอัพเดตเฉพาะในเกาหลีใต้เท่านั้น ยังไม่มีรายงานว่าจะอัพเดตให้ภูมิภาคอื่นๆ เมื่อใด แต่คาดว่าไม่น่าจะนานหลังการวางขายในวันที่ 11 นี้
ซัมซุงเปิดตัวสมาร์ทโฟนเพิ่มอีกตัวแล้ว คราวนี้เป็นรุ่นเล็กใช้ชื่อว่า Galaxy ACE Style สเปคมีดังนี้ครับ
มีสองสีคือสีขาวและสีดำ สำหรับราคาไม่มีการระบุไว้แต่จะวางจำหน่ายช่วงเดือนเมษายนนี้เลยครับ
ตามรายงานของ MediaToday (สื่อเกาหลี) รายงานว่าซัมซุงได้ยื่นฟ้อง Electronics Times (สื่อเกาหลี) เป็นเงินจำนวน 9.2 ล้านบาท ฐานเผยแพร่ข้อมูลในแง่ลบเกี่ยวกับเรื่อง yield ของกล้อง Galaxy S5 ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ที่จะตัดสินใจซื้อ Galaxy S5 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไตรมาสที่ผ่านมาเกิดความลังเลใจ
ทางด้านของ Electronics Times ก็ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาโดยบอกว่า "ข้อมูลที่รายงานไปมันเป็นความจริงล้วนๆ"
ที่มา : AppleInsider
สำนักข่าว Korea Herald ระบุว่าซัมซุงเตรียมเปิดตัวนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นที่ 4 ที่สามารถใส่ USIM (Universal SIM) ได้ และคาดว่าจะใช้ชื่อว่า Gear Solo หมายความว่านาฬิกาอัจฉริยะรุ่นนี้ไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อหรือซิงก์กับโทรศัพท์ สามารถรับโทรศัพท์และข้อความได้ในตัวเอง โดยคาดว่าจะวางขายก่อนเฉพาะแค่ในประเทศเกาหลีเท่านั้นครับ
หากซัมซุงเปิดตัวจริง เราจะได้เห็นคนเดินคุยกับข้อมือตัวเองเหมือนในหนังสายลับก็คราวนี้แหละครับ
ที่มา - Korea Herald
ซัมซุงเผยตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ของปี 2014 โดยประเมินว่าจะมีกำไรจากการดำเนินงาน 8.4 ล้านล้านวอน ลดลง 4.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ขณะที่ยอดขายรวมอยู่ราว 53 ล้านล้านวอน ซึ่งใกล้เคียงกับปีก่อน
ซัมซุงจะรายงานผลประกอบการไตรมาสอย่างเป็นทางการภายในเดือนนี้ อย่างไรก็ตามกำไรจากการดำเนินงานที่ลดลงนั้นไม่ผิดไปจากที่นักวิเคราะห์ประเมินมากนัก โดยอยู่ราว 8.3 - 8.5 ล้านล้านวอน เนื่องจากไตรมาสที่ผ่านมายังไม่มีการจำหน่าย Galaxy S5 นั่นเอง
ที่มา: CNET
หลังจากมีสเปก Galaxy S5 Zoom หลุดไปเมื่อกลางเดือนที่แล้ว ล่าสุดมีภาพด้านหลังของมือถือดังกล่าวหลุดออกมาแล้ว (ดูภาพที่ท้ายข่าว)
จากภาพ จะเห็นได้ว่าเลนส์ของกล้องหลักยังเป็นของซัมซุงเหมือนเดิมแต่ไม่นูนเหมือน Galaxy S4 Zoom
คาดว่าบริษัทจะเปิดตัว Galaxy S5 Zoom ในเดือนพฤษภาคมนี้
เอกสารภายในอีกฉบับของแอปเปิลที่ถูกเปิดเผยเพื่อเป็นหลักฐานในคดีฟ้องร้องกับซัมซุง (เอกสาร 1, เอกสาร 2) รอบนี้เป็นเอกสารใหม่เมื่อปี 2013 จากฝ่ายขายของแอปเปิล ที่ประเมินสถานการณ์แล้วพบว่าส่วนแบ่งตลาดของ iPhone ลดลง สวนทางกับ Android ที่เติบโตมากขึ้น
เอกสารนี้ระบุว่าคู่แข่งของแอปเปิลพัฒนาขึ้นมากทั้งในแง่ฮาร์ดแวร์และแง่ ecosystem และการเติบโตในตลาดมือถือมาจาก 2 ส่วนหลักๆ คือ มือถือจอใหญ่ราคาแพงกว่า 300 ดอลลาร์ และมือถือราคาต่ำกว่า 300 ดอลลาร์ ซึ่งแอปเปิลไม่มีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ทั้งคู่ จนเป็นผลให้ส่วนแบ่งตลาดของแอปเปิลลดลง
เว็บไซต์ CNET รายงานข่าวว่าผู้บริหารระดับสูงอย่างน้อย 5 คนของบริษัท Samsung Telecommunications America (STA) ซึ่งเป็นบริษัทด้านมือถือของซัมซุงในสหรัฐอเมริกา ลาออกหรือได้รับแจ้งให้พ้นจากตำแหน่งในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา
ผู้บริหารเหล่านี้ดำรงตำแหน่งสำคัญ เช่น ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์โทรศัพท์ ผู้อำนวยการฝ่ายค้าปลีกและตัวแทนจำหน่าย
ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าทำไมผู้บริหารเหล่านี้ถึงออกจากบริษัทไป แต่เหตุผลที่ CNET ประเมินคือ Gregory Lee ซีอีโอของ STA เพิ่งมารับตำแหน่งได้ไม่ถึงหนึ่งปี และนี่อาจเป็นการ "ล้างไพ่" ครั้งใหญ่เพื่อปรับตัวให้แข่งขันกับแอปเปิลในสหรัฐอเมริกาได้ดีขึ้น
เมื่อวานนี้ทาง Samsung ประเทศไทยจัดงานเปิดตัว Galaxy S5 และ Gear Fit ที่โรงแรม Grand Hyatt Erawan จับมือร่วมกับ AIS จัดแพ็คเก็จสุดพิเศษให้ลูกค้าด้วย AIS Samsung Package
สำหรับรีวิวและสเปคของ Galaxy S5 และ Gear Fit กดลิ้งก์ด้านล่างนี้ได้เลยครับ
ครั้งนี้ Samsung มาในธีม Discover the Glam สะท้อนเสน่ห์และความสวยงามของ Galaxy S5
ช่วงนี้แอปเปิลมีคดีความรอบใหม่กับซัมซุงในศาลสหรัฐ (คนละคดีกับคราวก่อน) ทำให้มีเอกสารภายในถูกเปิดเผยในชั้นศาล
เอกสารภายในของแอปเปิลชิ้นหนึ่งแสดงให้เห็นว่าโฆษณา Next Big Thing ของซัมซุง (ที่ล้อคนต่อคิวซื้อสินค้าใหม่ของแอปเปิล) สร้างผลสะเทือนต่อแอปเปิลไม่น้อย โดย Phil Schiller ถึงกับต้องส่งอีเมลเวียนภายในบริษัท พร้อมแนบลิงก์บทความ Has Apple Lost Its Cool to Samsung? ของ Wall Street Journal ช่วงเดือนมกราคม 2013 ที่พูดถึงโฆษณาชิ้นนี้ และ Phil ก็เขียนกำกับไปในเมลด้วยว่า "พวกเราต้องทำงานกันเยอะทีเดียวเพื่อแก้เกม" ("We have a lot of work to do to turn this around.")
เว็บไซต์ SamMobile รายงานจากแหล่งข่าวแหล่งหนึ่งว่า ซัมซุงมีแผนที่จะเปิดตัวสมาร์ทโฟน Windows Phone 8.1 ระดับกลางอีก 1 รุ่นภายใต้ชื่อ Samsung ATIV Core
โดยจากรายงานระบุว่า สเปกที่เป็นไปได้ของ ATIV Core ประกอบด้วย หน้าจอ 4.5 นิ้วความละเอียด 720p, แรม 1 GB และแบตเตอรี่ 2,100 mAh ซึ่งเมื่อดูแล้วก็ไม่ได้ต่ำมากเท่าไร (ยกเว้นซีพียูที่ยังไม่ทราบว่าจะเป็นตัวไหนกันแน่)
ทั้งนี้เว็บไซต์ Windows Phone Central ให้ระดับความน่าเชื่อถือของข่าวลือนี้ที่ 6 เต็ม 10
เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำเนียบขาวได้จัดงานแสดงความยินดีกับสโมสรเบสบอล Boston Red Sox ที่ได้แชมป์รายการเวิลด์ซีรี่ส์ปี 2013 และในจังหวะหนึ่ง นักเบสบอล David Ortiz ได้ขอถ่ายภาพแบบเซลฟี่ร่วมกับประธานาธิบดีโอบามา แล้ว Ortiz ก็ทำการโพสต์ลง Twitter
ต่อมาบัญชี Twitter ของซัมซุงอเมริกาได้รีทวีตภาพนี้ซ้ำ พร้อมให้ข้อมูลเสริมด้วยว่า Ortiz ใช้ Galaxy Note 3 ในการถ่ายภาพ (Ortiz เป็นพรีเซนเตอร์ให้ซัมซุง) ขณะที่โฆษกซัมซุงก็แถลงว่านี่เป็นภาพบรรยากาศที่ดี ต่อเนื่องจากภาพเซลฟ์ฟี่ของ Ellen ในงานออสการ์
หลังจากที่หลุดมาหลายรอบ ในที่สุดซัมซุงก็ได้ฤกษ์เปิดตัว Samsung ATIV SE สมาร์ทโฟน Windows Phone 8 เรือธงตัวล่าสุดจากซัมซุง โดยตัว ATIV SE นั้นจะมาพร้อมกับสเปกระดับไฮเอนด์ พร้อมกับฟีเจอร์ใหม่อย่าง WatchON ที่สามารถใช้เป็นรีโมตทีวีได้
นอกจากนี้ยังมี ATIV Beam ที่สามารถใช้ส่งข้อมูลระหว่างเครื่องได้ผ่านอุปกรณ์ที่รองรับ NFC รวมไปถึง Samsung Link ที่สามารถดึงข้อมูลมาจากอุปกรณ์อื่น ๆ ที่รองรับได้
ทางด้านสเปกของ ATIV SE นั้นประกอบด้วย