หลังจากซัมซุงเปิดตัว Samsung Z1 มือถือ Tizen เครื่องแรกในอินเดียไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผลตอบรับของ Z1 ก็เป็นไปตามที่ทุกคน (ยกเว้นซัมซุง) คาดคือไม่ดีเท่าที่ควร
นักวิเคราะห์จาก IDC ระบุว่าถึงแม้ Samsung Z1 จะตั้งราคาถูกเน้นเจาะตลาดล่าง แต่ถ้าเปรียบเทียบสเปกกับราคาแล้วก็ยังมีมือถือ Android หลายตัวที่ทำได้ดีกว่า แถม Tizen ยังมีจุดอ่อนที่จำนวนแอพน้อยกว่า Android มาก แม้ซัมซุงจะโฆษณาว่ามีแอพให้เลือกมากกว่า 1,000 ตัวแล้วก็ตาม
สำหรับใครที่หวังความสามารถด้านการกันน้ำบน Galaxy S6 คงต้องทำใจกันเล็กน้อยนะครับ เมื่อเว็บไซต์ DDaily ของเกาหลีใต้ได้รับรายงานใหม่ว่า ซัมซุงได้ตัดสินใจที่จะถอดความสามารถด้านการกันน้ำ (ที่มีอยู่ใน Galaxy S5) ออกแล้ว โดยซัมซุงให้เหตุผลในเบื้องต้นว่าต้องการให้ตัวเครื่อง Galaxy S6 มีลุคที่พรีเมี่ยมมากกว่านี้ ซึ่งเป็นอันแน่นอนแล้วว่า Galaxy S6 จะขึ้นรูปตัวเครื่องด้วยกระจกและเหล็กทั้งหมด
สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าวลือ (อีกรอบ) ว่าซัมซุงจะไม่ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 810 ด้วยเหตุผลด้านความร้อนตามข่าวลือก่อนหน้านี้ โดย Galaxy S6 จะใช้ชิป Exynos เพียงอย่างเดียวแทน
ปัญหาเรื่องความร้อนของ Snapdragon 810 อาจส่งผลสะเทือนต่อมือถือเรือธงหลายยี่ห้อต้องเลื่อนวันวางขายออกไป ซึ่งกรณีของซัมซุงถือว่าได้เปรียบกว่าตรงที่ยังมีชิป Exynos ของตัวเองให้เลือกใช้ได้ และอาจเป็นปัจจัยช่วยให้ซัมซุงเปิดตัว Galaxy S6 ได้ในเดือนมีนาคม
จากข่าวลือซัมซุงกำลังเจรจาซื้อกิจการ BlackBerry ที่โฆษกของทั้งสองบริษัทออกมาบอกว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
ล่าสุด J.K.Shin ประธานฝ่ายธุรกิจโทรศัพท์ของซัมซุงออกมาแถลงกับ Wall Street Journal โดยให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่าซัมซุงไม่สนใจซื้อ BlackBerry และสนใจจะทำงานร่วมกับ BlackBerry เท่านั้น ซึ่งซัมซุงเจรจากับ BlackBerry จริงแต่เป็นเรื่องการนำเทคโนโลยีมาใช้กับมือถือของซัมซุงต่างหาก
J.K.Shin ยังบอกว่าการซื้อ BlackBerry เป็นไปได้ยากเพราะขัดกับยุทธศาสตร์ Knox ของซัมซุงที่ลงทุนไปเยอะแล้ว โดยเขาระบุว่าบริษัทพอใจกับผลงานของ Knox และยืนยันว่าจะผลักดันมันต่อไปในระยะยาว
ขอรวบสองข่าวลือใหม่ของ Galaxy S6 นะครับ
ข่าวแรก เป็นเรื่องของ Galaxy S6 Edge ที่ล่าสุดมีข่าวลือว่า Galaxy S6 Edge จะมาพร้อมกับจอโค้งข้างถึงสองด้าน (แบบเดียวกับที่ LG เอามาโชว์) ซึ่งเป็นการปรับปรุงหลังจากได้รับเสียงติเตียนใน Galaxy Note Edge โดยที่ตัว Galaxy S6 Edge จะเปิดให้ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะใช้จอ Edge เป็นหลักข้างไหน เพื่อให้เลือกได้เหมาะสมกับข้างที่ถนัดได้ง่ายขึ้น และเมื่อเลือกได้แล้ว อีกจอที่ไม่ได้ใช้งานก็จะถูกปรับเป็นจอแสดงผลสำหรับการแจ้งเตือนเท่านั้น
ผู้ใช้สมาร์ทโฟนซัมซุงรุ่นแรกๆ คงคุ้นเคยกับซอฟต์แวร์ Kies ที่ช่วยบริหารจัดการข้อมูลในมือถือ ถึงแม้ว่าช่วงหลังๆ สมาร์ทโฟนซัมซุงจะไม่ต้องพึ่งพา Kies เยอะอย่างที่แล้วๆ มา แต่ข่าวลือล่าสุดก็บอกว่าซัมซุงยังไม่ทอดทิ้ง Kies และเตรียมออกเวอร์ชันใหม่ (นับเป็นเวอร์ชัน 4 แล้ว) ในเร็วๆ นี้
แหล่งข่าวของเว็บ SamMobile บอกว่า Kies 4 จะใช้แนวทางการออกแบบของ Android Lollipop และน่าจะเป็นแนวทางเดียวกับ Galaxy S6 ด้วย ส่วนในแง่ความเข้ากันได้กับมือถือรุ่นเดิมๆ Kies 4 จะสามารถใช้ร่วมกับ Kies 2/3 ได้ทั้งหมด คาดว่ามันจะเปิดตัวภายในไตรมาสแรกของปีนี้ พร้อมกับ Galaxy S6 นั่นเองครับ
ซัมซุงจ้าง Lee Don-tae นักออกแบบชาวเกาหลีมาเป็นหัวหน้าฝ่ายออกแบบ (Global Design Chief) ของหน่วยงาน Design Management Center ที่ขึ้นตรงกับซีอีโอ โดยหน้าที่ของเขาคือดูภาพรวมของการออกแบบทั้งหมดของซัมซุง แต่ไม่ได้ทำงานออกแบบผลิตภัณฑ์เป็นรายตัว
Lee เคยผ่านงานเป็นซีอีโอร่วมของบริษัทออกแบบระดับโลก Tangerine ซึ่งเป็นบริษัทที่ Jonathan Ive ร่วมก่อตั้ง และรับงานออกแบบให้แอปเปิลอยู่พักหนึ่งก่อน Ive โดนดึงตัวไปอยู่กับแอปเปิล
ผลงานออกแบบของ Lee คือออกแบบห้องผู้โดยสารชั้นธุรกิจของสายการบิน British Airways ช่วยให้มีเก้าอี้ผู้โดยสารเพิ่มมากขึ้น สร้างรายได้ให้สายการบินมากกว่าเดิม
หนังสือพิมพ์ Korea Times รายงานข่าววงในว่า ซัมซุงได้เริ่มโครงการทดสอบเสถียรภาพของ Windows Phone 8.1 บนมือถือหลายโครงการ และบริษัทก็มีความสนใจที่จะทำวินโดวส์โฟน แต่ซัมซุงจะทำวินโดวส์โฟนออกสู่ตลาดก็ต่อเมื่อไมโครซอฟท์เคลียร์เรื่องการฟ้องร้องระหว่างกันก่อน Korea Times เข้าใจว่าคงเป็นเรื่องที่ซัมซุงไม่ยอมจ่ายค่าสิทธิบัตรให้ไมโครซอฟท์ เนื่องจากไมโครซอฟท์กลายเป็นคู่แข่งด้านฮาร์ดแวร์โดยตรงหลังการเข้าซื้อกิจการแผนกอุปกรณ์และบริการของโนเกีย
เว็บไซต์ SamMobile อ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดซัมซุง ระบุว่าใน Galaxy S6 ซัมซุงจะเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ตัวอ่านลายนิ้วมือ จากของเดิมที่เป็นแบบรูดนิ้ว (swipe-based) มาเป็นแบบแตะสัมผัส (touch-based) เหมือนกับของฝั่งแอปเปิล ด้วยเหตุผลว่าใช้งานง่ายกว่ากันมาก เพราะสามารถแตะนิ้วได้จากทุกมุมเลย
ตามข่าวบอกว่าซัมซุงจะทำปุ่มโฮมให้ใหญ่ขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้แตะนิ้วโดนง่ายขึ้น ส่วนในแง่ซอฟต์แวร์จะยังเหมือนเดิม ทั้งการปลดล็อคเครื่อง ล็อกอินเว็บไซต์ ล็อกอินบัญชีซัมซุง เข้า Private Mode และจ่ายเงินด้วย PayPal
ที่มา - SamMobile
ปีนี้ดูจะเป็นปีที่ซัมซุงต้องปรับตัวอย่างหนักเพื่อให้กลับมาทำกำไรได้มากเท่าแต่ก่อน นอกจากการออกแบบตัวเครื่องที่ได้เห็นไปแล้วจาก Galaxy Alpha และ A-series ฝั่งซอฟต์แวร์ก็มีแผนจะปรับเช่นกัน ในปีนี้เอง TouchWiz อาจถูกปรับปรุงครั้งใหญ่แล้ว
รายงานชิ้นนี้ออกมาจากสำนักข่าว Business Korea ที่อ้างว่าซัมซุงมีแผนจะปรับลดฟีเจอร์ของ TouchWiz รุ่นใหม่ที่จะใช้บน Galaxy S6 แล้ว หลังจากมีผู้ใช้จำนวนมากบ่นถึงเรื่องนี้มาหลายปี โดยแผนที่ออกมา ซัมซุงตั้งใจจะตัดฟีเจอร์ที่ไม่จำเป็นออกไป และปรับอินเทอร์เฟซให้เรียบง่ายในระดับซีรีส์ Nexus ของกูเกิล ซึ่งจะทำให้ลดการบริโภคทรัพยากรตัวเครื่องลง ทำให้ทำงานได้ลื่นขึ้นอีกด้วย
ย้ำอีกทีว่านี่ยังเป็นข่าวลือครับ แต่หลายคนคงคิดว่าน่าจะดีถ้าเป็นเรื่องจริง
ซังซุงประกาศเริ่มผลิตชิปหน่วยความจำ GDDR5 ความจุ 8Gb เป็นจำนวนมากแล้ว โดยเคลมว่าเป็นเจ้าแรกที่สามารถพัฒนาหน่วยความจำที่มีความหนาแน่นสูงระดับนี้ได้ก่อนใคร
หน่วยความจำ GDDR5 ของซัมซุงชุดนี้ผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 20 นาโนเมตร ซึ่งนอกจากจะสามารถลดจำนวนชิปลงเพื่อให้ได้จำนวนหน่วยความจำเท่าเดิมได้แล้ว ในชิปรุ่นใหม่ยังส่งข้อมูลได้สูงขึ้นเป็น 8Gbps ต่อพิน (เร็วขึ้น 1Gbps) เร็วกว่า DDR3 ที่ใช้ในโน้ตบุ๊กทั่วไปประมาณ 4 เท่าตัว
ความสำเร็จในครั้งนี้ของซัมซุงจะช่วยเหลือวงการบันเทิงทั้งฝั่งเกม และภาพยนตร์ให้อุปกรณ์มีบัฟเฟอร์ขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับยุค 4K ที่ใกล้เข้าไปทุกขณะ โดยชิปตัวใหม่นี้จะเริ่มส่งของให้ได้ภายในปีนี้ครับ
ซัมซุงออกมาอธิบายแนวคิดใต้ยุทธศาสตร์ Tizen ที่จะใช้กับอุปกรณ์เชื่อมต่อเน็ต (IoT) เกือบทั้งหมดของบริษัท
เหตุผลของซัมซุงคือ Tizen เป็นระบบปฏิบัติการที่ "เบากว่า" (lighter) ระบบปฏิบัติการอื่นๆ โดย Tizen ต้องการพลังประมวลผลและหน่วยความจำน้อยกว่า แถมยังกินไฟน้อยกว่า ช่วยให้สินค้าบูตเร็วขึ้น ใช้งานเร็วขึ้น อินเทอร์เฟซลื่นขึ้น แบตเตอรี่ยาวนานกว่าเดิม
ซัมซุงระบุว่าจะใช้ Tizen กับอุปกรณ์สาย IoT หลากหลายรูปแบบ เช่น อุปกรณ์สวมใส่ได้ เครื่องดูดฝุ่น เครื่องซักผ้า ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ต้องการพลังประมวลผลไม่เยอะนัก ต่างจากสมาร์ทโฟนและทีวีที่เราคุ้นเคยกัน
Reuters รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวภายในเผยว่าซัมซุงกำลังเจรจาขอซื้อกิจการ BlackBerry ทั้งหมดด้วยมูลค่าที่อาจสูงถึง 7,500 ล้านดอลลาร์ โดยผู้บริหารทั้งสองบริษัทได้มีการนัดพบพูดคุยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
แหล่งข่าวยังบอกว่าสิ่งที่ซัมซุงสนใจใน BlackBerry นั้นคือสิทธิบัตรจำนวนมากที่บริษัทถือครองอยู่ ซึ่งซัมซุงเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มศักยภาพให้บริษัทสู้กับคู่แข่งได้ดีมากขึ้น
ราคาหุ้น BlackBerry ปรับเพิ่มขึ้นถึง 30% ทันทีที่มีรายงานข่าวนี้ออกมาครับ
ที่มา: Reuters
หลายๆท่านคงเคยเห็นการโฆษณาของ Samsung ที่แฝงมาในฉากต่างๆ ของซีรีส์หรือภาพยนตร์มาบ้างแล้วนะครับ ตอนนี้ก็มาถึงคิวของภาพยนตร์ที่ทุกคนรอคอยกัน นั่นก็คือ Avengers: Age of Ultron ครับ
ซึ่งเรื่องนี้เราจะได้พบกับมือถือสุดล้ำของ Tony Stark หรือ Iron Man มือถือและแกดเจ็ตต่างๆ ที่ทาง Samsung ได้จัดทำขึ้นในชื่อ "Tony Stark’s Device" ซึ่งประกอบด้วย Smart Phone จอโปร่งแสง, Galaxy Gear, และหูฟัง Bluetooth สุดล้ำ
และแน่นอนว่าอุปกรณ์เหล่านี้ไม่มีวางขายจริงๆ ในท้องตลาดนะครับ เป็นเพียงคอนเซปต์เท่านั้น
ส่วนหน้าตาจะสวยงามขนาดไหนดูใต้ข่าวเลยครับ
ที่มา - SamMobile
เก็บตกข่าว CES 2015 กันต่อครับ เมื่ออยู่ดีๆ ซัมซุงก็หักมุมกับข่าวที่ว่าสมาร์ททีวีปี 2014 ลงไป จะไม่สามารถใช้ Tizen TV ได้ แม้กระทั่งเอา Evolution Kit มาช่วย เพราะล่าสุดซัมซุงได้ยืนยันภายในห้อง tech room (ซึ่งเป็นห้องปิด) แล้วว่า บริษัทจะเริ่มวางจำหน่าย Evolution Kit ตัวใหม่สำหรับสมาร์ททีวีปี 2014 ที่รองรับ Evolution Kit และ One Connector Box ตัวใหม่สำหรับสมาร์ททีวี 4K ตัวท็อป ภายในไตรมาสสองของปีนี้
เมื่อครั้งที่มีข่าวหลุดของ Galaxy A5 สมาร์ทโฟนพรีเมียมราคาไม่แรง ตัวต่อจาก Galaxy Alpha นั้น มีการพูดถึงอีกสองรุ่นต่างขนาดหน้าจออย่าง A3 และ A7 ด้วย หลังจากทิ้งช่วงจากสองรุ่นแรกไปได้พอสมควร ตอนนี้ซัมซุงก็เปิดตัว Galaxy A7 อย่างเป็นทางการแล้ว
Galaxy A7 เป็นสมาร์ทโฟนที่ใช้โลหะทำตัวเครื่องทั้งชิ้น (unibody) แถมยังบางมากเพียง 6.3 มม. เท่านั้น บางกว่า A5 เสียอีก (A5 บาง 6.7 มม.) หน้าจอขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 5.5" ส่วนสเปคอื่นๆ ใกล้เคียงกันดังนี้ครับ
เว็บไซต์ Business Insider อ้างแหล่งข่าววงในของซัมซุงว่าบริษัทมีแผนจะเปิดตัวสินค้าเหล่านี้ในงาน Mobile World Congress ช่วงต้นเดือนมีนาคม
ซัมซุงยังโชว์ความเป็นหนึ่งด้านโซลูชันหน่วยความจำอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดประกาศผลิต SSD รุ่นใหม่เป็นจำนวนมาก ซึ่งนั่นก็คือ SSD ขนาด M.2 รุ่น SM951 ที่รองรับการใช้งานผ่าน PCIe 3.0 x4 ตัวแรกๆ
ความเร็วสูงสุดเมื่อใช้ผ่าน PCIe 3.0 จะอ่านเขียนอยู่ที่ 2,150MB/s และ 1,550MB/s แต่ถ้าใช้กับบอร์ดรุ่นเก่าที่เป็น PCIe 2.x จะตกลงเหลือ 1,600MB/s และ 1,350MB/s ซึ่งก็ยังเร็วมากอยู่ดี
นอกจากจะเร็วแล้ว ตัว SM951 ยังรองรับฟีเจอร์กินพลังงานต่ำมากอย่าง L1.2 ซึ่งสามารถลดอัตราการบริโภคพลังงานเหลือเพียง 2 มิลลิวัตต์เท่านั้น
SM951 จะมีรุ่นตั้งแต่ความจุ 128GB-1TB แต่ยังไม่ระบุว่าจะเริ่มขายเมื่อไร ราคาเท่าไรครับ
ซัมซุงจัดงานแถลงข่าวที่ CES 2015 โดยเจาะจงไปที่วิสัยทัศน์ด้าน Internet of Things (IoT) โดยเฉพาะ ประเด็นสำคัญมีดังนี้
เก็บตกข่าว CES 2015 กันต่อนะครับ ในฝั่งของทีวีที่เป็นสินค้าหลักของงาน CES มาโดยตลอด รอบนี้ซัมซุงประดิษฐ์คำใหม่ SUHD TV มาเรียกทีวีความละเอียดสูงของตัวเอง (แนวเดียวกับที่เรียกจอ Super AMOLED ให้ดูต่างจาก AMOLED ธรรมดา แต่รอบนี้ไม่ระบุว่า S ย่อมาจากอะไร)
SUHD TV ชุดแรกของซัมซุงมีด้วยกัน 3 รุ่นคือ JS9500, JS9000, JS8500 จุดต่างคือขนาดหน้าจอ (ตัวท็อปสุด JS9500 ขนาด 88 นิ้ว) สิ่งที่ทุกรุ่นมีเหมือนกันคือเป็นจอโค้ง LCD (ไม่ใช่ OLED) ความละเอียด UHD 4K แบบ Quantum Dot โดยใช้วัสดุทำเม็ดพิกเซลเป็น nano-crystal ที่ให้สีสันสดใสและแม่นยำกว่าทีวีปกติ 64 เท่า, มีระดับความเข้มของสีดำ-ความสว่างของสีขาวมากกว่าทีวีปกติ 2.5 เท่า
เก็บตกข่าวผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจจากงาน CES 2015 นะครับ งานรอบนี้ซัมซุงเปิดตัวสินค้าฝั่งจอภาพหลายตัว เริ่มจากจอมอนิเตอร์ก่อน พระเอกของซัมซุงปีนี้คือมอนิเตอร์รุ่นท็อป Samsung SE790C มอนิเตอร์จอโค้งตามสมัยนิยม ใช้สัดส่วนหน้าจอ 21:9 ความละเอียด Ultra-WQHD (3440x1440) มีให้เลือกสองขนาดคือ 29" และ 34"
สเปกอย่างอื่นคืออัตราคอนทราสต์ 3000:1, ความสว่าง 300 cd/m2, มุมมองกว้าง 178 องศา, รองรับโหมด Picture-by-Picture (PbP) สำหรับแสดงภาพจากอุปกรณ์สองตัวพร้อมกัน, พอร์ต USB 3.0 ในตัว
ส่วนมอนิเตอร์รุ่นอื่นๆ ที่เปิดตัวพร้อมกันคือ SE590C (32"), SE510C (24/27") และ TC590C (27" รับสัญญาณทีวีได้)
ซัมซุงออกมารายงานตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ปี 2014 คาดมีรายได้ 52 ล้านล้านวอน และมีกำไรจากการดำเนินงาน 5.2 ล้านล้านวอน โดยรายได้นั้นลดลง 12% หากเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนหน้า ส่วนกำไรลดลง 37%
ถ้าหากตัวเลขอย่างเป็นทางการที่ซัมซุงจะรายงานช่วงปลายเดือน ออกมาเป็นตามนี้จริง (ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่ผิดพลาดไปนัก) จะถือเป็นกำไรของบริษัทที่ลดลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 5 ถึงแม้บริษัทจะขายสมาร์ทโฟนได้เป็นจำนวนเพิ่มขึ้น แต่ซัมซุงยังต้องเผชิญแรงกดดันสำคัญจากบรรดาสมาร์ทโฟนจีนอยู่นั่นเอง
ซัมซุงเปิดตัวสมาร์ทโฟนใหม่จำนวน 2 รุ่นที่ประเทศอินเดีย ประกอบด้วย Galaxy E7 และ Galaxy E5 โดยชูจุดเด่นที่หน้าจอแบบ Super AMOLED พร้อมเทคโนโลยี Adaptive Display (เทคโนโลยีการประมวลผลแสงเพื่อให้หน้าจอสามารถแสดงผลในทุกสภาวะ), การดีไซน์ที่เพรียวบางและพกพาง่าย รวมไปถึงกล้องหน้าเซลฟี่ 5 ล้านพิกเซล เน้นเจาะไปที่ลูกค้าอายุน้อยโดยเฉพาะ
ด้านการดีไซน์ของตัวเครื่องของทั้ง 2 รุ่นนั้น ถือว่าเป็นลูกผสมระหว่างตระกูล Galaxy A/Alpha และ Galaxy Grand โดยตรงขอบด้านข้างได้มาจากดีไซน์ของ Galaxy Alpha ส่วนฝาหลังและด้านหน้าเครื่องได้มาจากการดีไซน์ของ Galaxy Grand มาอย่างไม่ผิดเพี้ยนเท่าไรนัก
เริ่มต้นที่ Galaxy E7 ที่เน้นไปที่หน้าจอที่มีขนาดใหญ่สะใจถึง 5.5 นิ้ว โดยสเปกของมันประกอบด้วย
Joe Stinziano รองผู้บริหารของซัมซุงประเทศสหรัฐอเมริกาบอกกับทางเว็บไซต์ CNET เกี่ยวกับประเด็นของ สมาร์ททีวีของซัมซุงที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Tizen โดย Stinziano ยืนยันว่า ซัมซุงจะไม่ทำเฟิร์มแวร์อัพเดต Tizen สำหรับสมาร์ททีวีของซัมซุงตั้งแต่ปี 2014 ลงไปอย่างแน่นอน (แน่นอนว่า Evolution Kit ก็ไม่ช่วยอะไรในการอัพเกรดไป Tizen)
อย่างไรก็ดี Stinziano กล่าวว่า ทางซัมซุงจะยังคงออกอัพเดตอื่น ๆ สำหรับสมาร์ททีวีของซัมซุงรุ่นก่อนหน้านี้ รวมถึงยังคงสนับสนุนแอพบนแพลตฟอร์มเดิมต่อไป และยังคงจะวางจำหน่าย Evolution Kit สำหรับสมาร์ททีวีของซัมซุงรุ่นก่อน ๆ ต่อไป