Wall Street Journal อ้างสถิติจาก Strategy Analytics ว่าตอนนี้ Oppo และ Vivo (ซึ่งมีเจ้าของเดียวกันคือ BBK Electronics) สามารถขึ้นมายึดอันดับ 2 และ 3 ในตลาดสมาร์ทโฟนจีนได้แล้ว เป็นรองแค่ Huawei เพียงรายเดียวเท่านั้น
ส่วนแบ่งตลาดจีนตอนนี้ 5 อันดับแรกคือ Huawei 18%, Oppo 14%, Vivo 12%, Xiaomi 12%, Apple 6.7% โดยสามอันดับแรกมีส่วนแบ่งตลาดเเพิ่มขึ้น ส่วน Xiaomi ปีที่แล้วมีส่วนแบ่งสูงถึง 19% แต่กลับลดลงมาเหลือแค่ 12% ในปีนี้ และ Apple ก็มีส่วนแบ่งตลาดลดลงเช่นกัน
วันนี้ Oppo เปิดตัว Oppo F1s สมาร์ทโฟนรุ่นที่เน้นการเซลฟี่ มาพร้อมกล้องหน้า 16 ล้านพิกเซลพร้อมโหมด Beautify 4.0 ในราคาเพียง 9,990 บาท
Oppo F1s มาในหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว IPS ความละเอียด HD ใช้ชิปเซ็ต MediaTek MT6750 แรม 3GB กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล f/2.2 พร้อม PDAF กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล f/2.0 ความจุ 32GB รองรับ microSD สูงสุด 128GB แบตเตอรี่ขนาด 3,075 mAh พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่รองรับการเปิดใช้งานฟังก์ชันที่แตกต่างกันไปตามนิ้วมือ รันบน Color OS 3.0 ที่ครอบอยู่บนแอนดรอยด์ 5.1
Oppo F1s จะเปิดให้จองวันที่ 10-15 สิงหาคม และส่งมอบเครื่องในวันจำหน่ายจริงวันที่ 17 สิงหาคมนี้
บริษัทวิจัยตลาด IDC ออกรายงานยอดขายสมาร์ทโฟนโลกประจำไตรมาส 1/2016 โดยรวมแล้วตลาดสมาร์ทโฟนแทบไม่โตขึ้นจากปีก่อน ยอดขายรวม 334.9 ล้านเครื่อง โตเพียง 0.2% ถือเป็นอัตราการเติบโตต่ำสุดตั้งแต่เก็บสถิติยอดขายสมาร์ทโฟนมาเลย
อันดับหนึ่งยังเป็นซัมซุง ยอดขายและส่วนแบ่งตลาด 24.5% เกือบเท่าปีก่อน, แอปเปิลอันดับสอง ยอดขายหายไปสิบล้านเครื่อง (จาก 61.2 ล้านเครื่องเหลือ 51.2 ล้านเครื่อง ตกลงถึง 16.3%) ส่วนแบ่งตลาด 15.3%, อันดับสาม Huawei ยอดขาย 27.5 ล้านเครื่อง เติบโต 58.4% ครองส่วนแบ่งตลาด 8.2%
เมื่อปลายปีที่แล้ว Oppo เปิดตัว Project Spectrum ออกรอม AOSP โดยยังรองรับเฉพาะ Oppo Find 7 และ Find 7a เท่านั้น
ล่าสุด Oppo ขยายมือถือที่ Project Spectrum รองรับ เพิ่ม R5, R5s และ R7g มาด้วย ตัวรอมส่วนใหญ่ยังอิงกับ Android 5.1.1 Lollipop แต่ก็มี Oppo R7g ที่ได้ Android 6.0 Marshmallow ด้วย
ผู้ใช้ Oppo ที่อยากใช้งาน Project Spectrum ยังต้องลงรอมด้วยตัวเองครับ รอมของ Project Spectrum ใกล้เคียงกับรอม AOSP มาก โดยเพิ่มมาแค่แอพกล้องจาก ColorOS, ฟีเจอร์เสียง MaxxAudio และฟีเจอร์เคาะหน้าจอเพื่อปลุกเครื่องเท่านั้น
ยังคงเน้นเซลฟี่ทุกระดับราคาสำหรับ Oppo ที่วันนี้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นกลางเน้นกล้องในซีรีส์ R ออกมาสองรุ่นรวดได้แก่ Oppo R9 และ R9 Plus
Oppo R9 และ R9 Plus ใช้ตัวเครื่องโลหะทั้งชิ้น แต่จุดเด่นอยู่ที่กล้องความละเอียดสูง 16 เมกะพิกเซลทั้งด้านหน้า และหลัง (เฉพาะ R9 Plus) สเปคภายในของทั้งคู่ให้มาใกล้เคียงกันต่างที่หน้าจอ และสเปคยิบย่อยอื่นๆ ดังนี้
Oppo R9
นอกจากจะโชว์ของใหม่อย่าง Super VOOC ฟีเจอร์ชาร์จเต็ม 100% ใน 15 นาที ในงาน MWC 2016 ยังมีของเล่นใหม่จาก Oppo มาโชว์ตัวอีกอย่างคือ SmartSensor ระบบกันสั่นโฉมใหม่ที่นอกจากจะเล็กกว่าของเดิม และยังเร็วกว่าอีกด้วย
SmartSensor เป็นระบบกันสั่นที่ใช้เซ็นเซอร์จับการเคลื่อนไหวของวัตถุ และขยับเซ็นเซอร์เพื่อหักลบการเคลื่อนไหวดังกล่าว ต่างกับระบบเดิมที่ใช้มอเตอร์ขยับเลนส์ โดยข้อดีของการใช้เซ็นเซอร์จะทำให้สามารถผลิตระบบกันสั่นที่ขนาดเล็กลง และยังมีจำนวนแกนตรวจจับการเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้นเป็นสามแกนอีกด้วย
ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจากจีนที่กำลังมาแรงอย่าง Oppo มาร่วมงาน MWC 2016 ด้วย และแม้ว่าจะยังไม่มีสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่มาเปิดตัว แต่ก็โชว์ฟีเจอร์ใหม่ที่จะได้เห็นกันในนอนาคตอย่าง Super VOOC มาแทน
Super VOOC เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่อัพเกรดมาจาก VOOC ของเดิม โดยความเปลี่ยนแปลงที่เพิ่มเข้ามาคือการจ่ายไฟที่ 5 โวลต์โดยไม่มีปัญหาความร้อน ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่ความจุ 2,500 mAh ให้ได้เกือบครึ่งภายในเวลาเพียง 5 นาที และใช้เวลาเพียง 15 นาทีเท่านั้นในการชาร์จให้เต็ม
อุปกรณ์ที่ใช้กับ Super VOOC ถูกออกแบบใหม่ โดยใช้วัสดุที่คงทนระดับ military grade รวมถึงจะรองรับอินเทอร์เฟซใหม่อย่าง USB Type-C ด้วย
Oppo ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจีน สร้างผลงานยอดขายปี 2015 ที่ 50 ล้านเครื่อง เติบโต 67% จากปี 2014
ผลจากยอดขายนี้ทำให้ Oppo เข้ามาติด Top 10 ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนโลกแล้ว (ที่อันดับ 8 ด้วยส่วนแบ่งตลาด 3.8%)
ปี 2015 ที่ผ่านมา บริษัทฝั่งจีนทำผลงานดีกันหลายราย เช่น Huawei แตะหลัก 100 ล้านเครื่อง และ Xiaomi ที่พลาดเป้า 80 ล้านเครื่องแต่ก็ยังทำได้มากกว่า 70 ล้านเครื่อง
เงียบหายจากการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่มานาน วันนี้ Oppo จัดการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ซีรีส์ใหม่อย่าง Oppo F1 แบบไม่มีข่าวลือใดๆ มาก่อน
F1 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นกลางตัวเครื่องโลหะทั้งชิ้น ใช้กระจกโค้ง 2.5D ด้านหน้า สำหรับจุดเด่นของรุ่นนี้ Oppo ตั้งชื่อเล่นว่าเป็นตัวจริงด้านเซลฟี่ด้วยกล้องหน้าความละเอียด 8 เมกะพิกเซลที่ใช้เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ถึง 1/4" รูรับแสงกว้างสุด f/2 ในขณะที่กล้องหลังก็ไม่แพ้กันด้วยเซ็นเซอร์ ISOCELL ความละเอียด 13 เมกะพิกเซล รูรับแสดงกว้างสุด f/2.2 ส่วนสเปคอื่นๆ มีดังนี้
เมื่อเร็วๆ นี้ Oppo ประกาศทำรอม AOSP ให้มือถือบางรุ่น วันนี้รอมเปิดให้ดาวน์โหลดรุ่นทดสอบแล้ว ในชื่อว่า Project Spectrum
Project Spectrum เป็นการสร้างรอมให้ใกล้เคียงกับเวอร์ชัน AOSP ของกูเกิลมากที่สุด แต่ก็เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกบางอย่างของรอม Oppo ColorOS เข้ามาด้วย เช่น แอพกล้องของ Oppo เอง, ฟีเจอร์เสียง MaxxAudio และฟีเจอร์การเคาะหน้าจอเพื่อปลุกเครื่อง การปรับแต่งเฉพาะเท่าที่จำเป็นจะช่วยให้ Oppo สามารถอัพเดตรอมตาม AOSP ได้เร็วขึ้น
Oppo อธิบายเหตุผลที่เลือกชื่อ Spectrum ว่ามาจาก "แถบสีเด่น" ของ ColorOS นั่นเอง
ค่าย Oppo มีรอมของตัวเองชื่อ Color OS อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม บริษัทออกมายอมรับว่ามีผู้ใช้อีกกลุ่มที่ต้องการรอมแบบไม่ปรับแต่ง และใกล้เคียงกับรอม AOSP ของกูเกิลมากที่สุด
ด้วยเหตุนี้ Oppo จึงประกาศทำรอม AOSP ให้กับมือถือของตัวเองบางรุ่น โดยใช้ชื่อตรงไปตรงมาว่า OPPO AOSP ROM
การที่ Oppo ลงมาทำรอมเอง ทำให้รอมเวอร์ชันนี้อิงกับ AOSP ของกูเกิล แต่ยังรองรับฟีเจอร์ด้านฮาร์ดแวร์เฉพาะบางอย่างของ Oppo ด้วย เช่น แอพถ่ายภาพ Pure Image, screen off gestures, ระบบเสียง MaxxAudio
มือถือรุ่นแรกที่จะได้ใช้รอมตัวนี้คือ Find 7 และในอนาคตจะทำ R5/R5s รวมถึง R7 ด้วย ช่วงแรกจะยังเป็นรอมที่อิงกับ Android 5.1 ก่อน แล้วค่อยอัพเดตเป็น Android 6.0 ต่อไป
เมื่อปีก่อน Oppo เคยช็อกตลาดด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นหนึ่งที่เรียกได้ว่าบางที่สุดในโลกอย่าง Oppo R5 ด้วยตัวเครื่องที่บางเพียง 4.85 มม. และดูเหมือนความบางจะยังมีมนต์ขลังพอให้โมเดลนี้ยังได้ไปต่อ หลังจาก Oppo เพิ่งออกมาเปิดตัวรุ่นใหม่อัพสเปคคงหน้าตาดังเดิมในชื่อรุ่น Oppo R5s
Oppo R5s คงหน้าตา และสเปคส่วนใหญ่ไว้เท่าของเดิม ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 615 แปดคอร์ หน้าจอ 5.2" ความละเอียด 1080p กล้องหลัง 13 เมกะพิกเซล โดยส่วนที่ปรับปรุงขึ้นมาคือการเพิ่มหน่วยความจำภายในเป็นเท่าตัวอยู่ที่ 32GB และเพิ่มแรมเป็น 3GB
เมื่อพูดถึงแบรนด์สมาร์ทโฟนจีนอันดับหนึ่ง ทุกคนคงนึกถึง Xiaomi ส่วนบริษัทที่มาแรงเป็นอันดับสองตอนนี้คือ Huawei ที่ฟอร์มกำลังเข้าฝัก
แต่แบรนด์จีนอื่นที่กำลังร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ คือ Vivo และ Oppo (ซึ่งทำตลาดบ้านเราแล้วทั้งคู่) ที่มีส่วนแบ่งตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ โดยส่วนแบ่งตลาดของ Vivo อยู่ที่ 8% ของตลาดจีน (ปีที่แล้วยังแค่ 4%) ส่วน Oppo ก็อยู่ระดับใกล้เคียงกัน สองแบรนด์นี้มีส่วนแบ่งตลาดจีนรวมกันราว 15% ซึ่งใกล้เคียงกับ Xiaomi, Huawei และ Apple (ส่วนซัมซุงล่าสุดส่วนแบ่งลดต่ำกว่า 10% แล้ว)
คณะกรรมการพิทักษ์สิทธิผู้บริโภคเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Consumer Rights Protection Commission) ประกาศว่าจะฟ้องผู้ผลิตมือถือสองราย คือ ซัมซุงและ Oppo ในประเด็นว่าพรีโหลดแอพที่ผู้บริโภคไม่ต้องการ และไม่สามารถลบแอพเหล่านี้ได้
คณะกรรมการเผยผลการศึกษาสมาร์ทโฟน 20 รุ่น และยกตัวอย่างมือถือ Samsung SM-N9008S (Note 3 จีน) ว่าพรีโหลดแอพมาให้ 44 ตัว ส่วน Oppo X9007 มีแอพมาให้ถึง 71 ตัว ทั้งสองบริษัทไม่ได้แจ้งผู้บริโภคถึงแอพเหล่านี้ก่อนซื้อ ถือเป็นการละเมิดสิทธิผู้บริโภคด้านข้อมูลสินค้า (rights to know)
Oppo เปิดตัวสองสมาร์ทโฟนสุดบางรุ่นใหม่ทั้ง Oppo R7 และ R7 Plus อย่างเป็นทางการ หลังจากเคยประกาศไว้แล้วว่าจะเปิดตัวในวันที่ 20 พฤษภาคม ซึ่งก็คือวันนี้นี่เอง
ด้านการออกแบบ ทั้ง Oppo R7 และ R7 Plus ยังคงเน้นความบางเบา และหรูหราของซีรีส์ R โดยใช้โลหะ และกระจกเป็นวัสดุหลัก โดยในรุ่นใหม่นี้จะใช้กระจกด้านหน้าแบบ 2.5D ขอบโค้งที่นอกจากจะจับกระชับมือแล้ว ยังทำให้ขอบหน้าจอแทบจะไม่มีอีกด้วย
สำหรับ R7 Plus นอกจากจะไร้ขอบหน้าจอแล้ว ยังเป็นรุ่นแรกที่ใช้ปุ่มเมนูบนหน้าจออีกด้วย ตัวเครื่องจึงไม่ยาวเหมือนกับสมาร์ทโฟนจอใหญ่อื่นๆ
หลังจากมีภาพหลุดมาเมื่อเดือนก่อนว่า Oppo กำลังจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนซีรีส์ R ที่เน้นความบางเบาตัวใหม่ในชื่อรุ่น Oppo R7 ซึ่งมีจุดเด่นที่การออกแบบตัวเครื่องไร้ขอบหน้าจอ ล่าสุด Oppo ประเทศจีนได้เปิดภาพแรกของตัวเครื่องมาให้เห็นกันชัดๆ แล้ว
Oppo R7 จะมีทั้งสิ้นสองโมเดลคือรุ่นปกติ และรุ่นจอใหญ่ ฟีเจอร์เยอะกว่าอย่าง R7 Plus โดยความแตกต่างอื่นๆ นอกจากขนาดหน้าจอของทั้งสองรุ่นคือ รุ่น R7 Plus จะเป็นรุ่นที่ใช้หน้าจอแบบไร้ขอบ และขอบด้านบน-ล่างที่บางมาก ด้วยการใช้กระจกขอบโค้ง (2.5D) ส่วนรุ่นปกติจะมีขอบให้เห็นชัดๆ นอกจากนี้ R7 Plus จะมีแฟลชคู่ด้านหลัง ที่สแกนลายนิ้วมือ และเป็นรุ่นแรกของ Oppo ที่ใช้ปุ่มบนหน้าจออีกด้วย
หลังจากปีก่อน วงการสมาร์ทโฟนหันไปทำเครื่องรุ่นใหม่ให้ขอบจอบางลงเรื่อยๆ จนน่าจะไปสุดอยู่ที่ Sharp Aqous Crystal ที่เรียกได้ว่าเกือบจะไร้ขอบจออยู่แล้ว ผ่านมาราวครึ่งปี ผู้ผลิตฝั่งจีนอย่าง Oppo ดูเหมือนจะไม่ยอมง่ายๆ ด้วยสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่อย่าง Oppo R7 ที่ไปถึงขั้นไร้ขอบจออย่างแท้จริง
Oppo R7 ที่พูดถึงครั้งนี้ยังไม่เปิดตัวเป็นทางการ แต่มาเป็นภาพหลุดตัวเครื่องจริง ที่แม้ว่าจะออกแบบมาให้ไร้ขอบ แต่กลับไม่ต้องตัดฟีเจอร์ทิ้งไปเหมือนอย่างที่ Sharp ทำ โดยรวมจึงเหมือนกับสมาร์ทโฟนปกติที่ขอบจอหายไป รวมถึงตำแหน่งของกล้องหน้าที่ยังอยู่ด้านบนเช่นเดิมอีกด้วย
ผู้ผลิตสัญชาติจีนอีกรายอย่าง Oppo เริ่มมีข่าวว่ากำลังซุ่มทำสมาร์ทวอทช์ของตัวเองบ้างแล้ว โดยจะมาพร้อมกับจุดขายเดียวกับสมาร์ทโฟนนั่นก็คือสามารถชาร์จได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง
จากข้อมูลที่ปล่อยมาโดยบัญชีทวิตเตอร์ leaksfly ระบุว่าสมาร์ทวอทช์ของ Oppo นอกจากจะรัน Android Wear ตามสมัยนิยมแล้ว ยังจะมาพร้อมกับฟีเจอร์ VOOC charging ซึ่งสามารถลดระยะเวลาการชาร์จจาก 0% ไป 100% ได้ภายใน 5 นาทีเท่านั้น
นอกจากจะมีฟีเจอร์หลุดมาแล้ว ยังมีภาพเรนเดอร์ของสมาร์ทวอทช์ตัวที่ว่าออกมาด้วย โดยจะใช้หน้าจอกลม และสามารถเปลี่ยนสายขนาด 22 มม. ได้ครับ
ที่มา - Phandroid
ถึงแม้ Qualcomm จะยอมรับแบบเงียบๆ ผ่านงานแถลงผลประกอบการว่ามีผู้ผลิตรายใหญ่ได้ยกเลิกการใช้ Snapdragon 810 กับสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงไปแล้ว แต่ล่าสุดบริษัทยังยืนยันว่ามีผู้ผลิตอุปกรณ์หลายรายเลือกใช้ Snapdragon 810 ที่เจอข่าวปัญหาความร้อนอยู่
Qualcomm กล่าวว่า นอกจาก LG G Flex 2 และ Xiaomi Mi Note Pro แล้ว ยังมีอีกหลายบริษัทที่เลือกใช้ชิปล่าสุดนี้ ทั้ง Microsoft (!), Motorola Mobility, Oppo และ Sony Mobile ซึ่งจะทำให้มีอุปกรณ์ระดับพรีเมียมกว่า 60 รุ่นที่ใช้ชิปข้างต้นออกสู่ตลาดครับ
Lumia จะได้ใช้ชิปล่าสุดเสียทีสินะ
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Oppo ประเทศไทยจัดงานเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่สองรุ่นรวด ได้แก่ Oppo R5 สมาร์ทโฟนสุดบางหน้าจอ AMOLED และ Oppo N3 สมาร์ทโฟนกล้องหมุนได้แบบอัตโนมัติ ในงานมีเครื่องจริงให้ลองจับกันด้วย แต่ก่อนอื่นมาว่ากันถึงสเปคของแต่ละรุ่นกันก่อนครับ
สเปคหลักๆ ของรุ่นแรก Oppo R5 เน้นไปที่ความบางเฉียบ ตัวเครื่องทำจากสแตนเลสสตีล พร้อมโครงสร้างระบายความร้อนที่ใช้มาตั้งแต่ Oppo Find 7 ช่วยให้ระบายความร้อนได้ดี แม้ว่าตัวเครื่องจะบางเฉียบเพียง 4.85 มม. ก็ตาม โดยความบางระดับนี้ Oppo เคลมว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นบางสุดที่ขายในประเทศไทยอีกด้วย (ซึ่งจริง) ส่วนสเปคภายในมีดังนี้ครับ
นอกจากจะเปิดตัว Oppo N3 สมาร์ทโฟนหมุนกล้องได้รุ่นใหม่แล้ว ในงานเดียวกัน Oppo ยังมีอีกรุ่นมาเปิดตัวด้วย นั่นก็คือ Oppo R5 นั่นเอง
Oppo R5 เป็นสมาร์ทโฟนเน้นการออกแบบ และวัสดุพรีเมียมที่มาในรุ่นนี้อัพเกรดตัวเองเป็นสมาร์ทโฟนที่บางที่สุดในโลกไปแล้วด้วยความบางเพียง 4.85 มม. เท่านั้น และยังเป็นสมาร์ทโฟนตัวแรกของ Oppo ที่รองรับ 64 บิตอีกด้วย
สำหรับสเปคของ Oppo R5 จัดว่าอยู่กลางๆ ค่อนไปทางสูงดังนี้ครับ
บอกไว้ก่อนหน้าแล้วว่า Oppo จะเปิดตัวสมาร์ทโฟนหมุนกล้องได้รุ่นใหม่ในชื่อ Oppo N3 วันที่ 29 ตุลาคมนี้ ซึ่งตอนนี้ก็เปิดตัวมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
Oppo N3 อัพเกรดจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง Oppo N1 ทุกประการ และลดขนาดหน้าจอลงจาก 5.9" เหลือ 5.5" พร้อมขอบหน้าจอที่บางลงเพื่อให้สามารถถือได้สะดวกขึ้นอีกด้วย ส่วนสเปคโดยรวมมีดังนี้ครับ
Oppo เริ่มโชว์ภาพบางส่วนของ Oppo N3 มือถือหมุนกล้องได้ตัวล่าสุด โดยหน้าตาของมันต่างไปจากภาพหลุดก่อนหน้านี้ และดูเหมือนรุ่นพี่ Oppo N1 มากกว่า
จากภาพที่นำมาโชว์ กล้องของ Oppo N3 จะยังมีลักษณะคล้ายกับกล้องของ N1 คือหมุนสลับตำแหน่งของกล้องระหว่างด้านหน้าและด้านหลัง ส่วนวัสดุของตัวเครื่องก็ระบุแล้วว่าใช้อะลูมิเนียมอัลลอยด์ แบบเดียวกับที่ใช้ทำเครื่องบินหรือดาวเทียม
Oppo N3 จะเปิดตัววันที่ 29 ตุลาคมนี้ที่สิงคโปร์ครับ
เมื่อปีก่อน Oppo มาแปลกด้วยการเปิดตัว Oppo N1 สมาร์ทโฟนรุ่นแรกๆ ของโลกที่สามารถบิดกล้องหลังมาด้านหน้าได้ และดูเหมือน Oppo จะยังติดใจกับแนวทางการทำสมาร์ทโฟนแบบนี้อยู่ ล่าสุดมีภาพหลุดของ Oppo N3 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของซีรีย์นี้ออกมาแล้ว
Oppo N3 มากลบจุดด้อยที่ตัวเครื่องหนาเนื่องจากกลไกการบิดกล้อง ด้วยการปรับการออกแบบส่วนกลไกบิดกล้องใหม่เป็นก้อนกลมๆ เหนือหน้าจอ (อธิบายด้วยตัวอักษรอาจจะไม่เห็นภาพ ดูเองท้ายข่าวดีกว่า) พร้อมโยกลำโพงไปอยู่ด้านบนข้างกล้อง และปรับไปใช้โลหะทั้งเครื่อง
สเปคอื่นๆ ของ Oppo N3 ยังคงเป็นปริศนาเกือบทั้งหมด แต่คาดว่าหน้าจอคงใหญ่มโหฬารพอกับรุ่นก่อนหน้าครับ
หลังจากเปิดตัว Oppo N1 ไปเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว เมื่อใกล้ครบวาระ Oppo จึงตัดสินใจส่ง Oppo N1 Mini ออกมาสู่ตลาด โดยเปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤษภาคม และเริ่มวางจำหน่ายในบ้านเราเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ในราคาค่าตัวที่ 12,900 บาท
เนื่องจากผมมีโอกาสไปงานเปิดตัวและได้ลองจับ จึงเขียนเป็นพรีวิวการลองจับสั้นๆ ครับ
Oppo ยังคงเลือกที่จะใช้บรรจุภัณฑ์สีขาวเหมือนกับรุ่น N1 ก่อนหน้าแทบจะทุกประการ (ลองดูแกะกล่องของรุ่น N1 ได้) เพียงแต่เมื่อขนาดเล็กลง ก็ลดขนาดลงตามด้วย