เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Oppo ประเทศไทยจัดงานเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่สองรุ่นรวด ได้แก่ Oppo R5 สมาร์ทโฟนสุดบางหน้าจอ AMOLED และ Oppo N3 สมาร์ทโฟนกล้องหมุนได้แบบอัตโนมัติ ในงานมีเครื่องจริงให้ลองจับกันด้วย แต่ก่อนอื่นมาว่ากันถึงสเปคของแต่ละรุ่นกันก่อนครับ

สเปคหลักๆ ของรุ่นแรก Oppo R5 เน้นไปที่ความบางเฉียบ ตัวเครื่องทำจากสแตนเลสสตีล พร้อมโครงสร้างระบายความร้อนที่ใช้มาตั้งแต่ Oppo Find 7 ช่วยให้ระบายความร้อนได้ดี แม้ว่าตัวเครื่องจะบางเฉียบเพียง 4.85 มม. ก็ตาม โดยความบางระดับนี้ Oppo เคลมว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นบางสุดที่ขายในประเทศไทยอีกด้วย (ซึ่งจริง) ส่วนสเปคภายในมีดังนี้ครับ

• หน้าจอ AMOLED ขนาด 5.2" ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล (423PPI)
• ซีพียู Snapdragon 615 แปดคอร์ความถี่ 1.5GHz รองรับ 64 บิต
• รัน Android 4.4 ครอบด้วย Color OS 2.0
• รองรับ LTE
• หน่วยความจำภายใน 16GB, แรม 2GB
• กล้องหลัง 13 เมกะพิกเซล, กล้องหน้า 5 เมกะพิกเซล รูรับแสงกว้างสุด f/2.0 ทั้งหน้าหลัง
• ตัวเครื่องบาง 4.85 มม. หนัก 155 กรัม แบตเตอรี่จุ 2000 mAh

  

Oppo R5 เรียกได้ว่าปรับปรุงจากรุ่นก่อนหน้าไปค่อนข้างเยอะ รวมถึงสืบทอดเจตนารมณ์ของรุ่นสุดบางของ Oppo เองอย่าง Finder มาด้วย (ตอนนั้น Finder บาง 6.65 มม.) ซึ่งจะพูดถึงไปพร้อมๆ กับลองจับเครื่องจริงกันเลยครับ

ตัวเครื่อง Oppo R5 มาในทรงมาตรฐาน แต่บางแบบรู้สึกได้ กรอบรอบเครื่องเป็นโลหะมนๆ จับแล้วลื่นมือเอาเรื่อง เพราะตัวเครื่องบางมากด้วย

ด้านบนของหน้าจอเป็นจุดวางลำโพงสนทนา กล้องหน้า และเซนเซอร์ต่างๆ ตามมาตรฐาน ใน Oppo R5 พิเศษหน่อยตรงที่เปิดโหมดใช้งานแบบแฮนด์ฟรีมาเป็นค่าเริ่มต้น สามารถโบกมือเพื่อเปลี่ยนหน้าได้โดยไม่ต้องแตะหน้าจอ ... ซึ่งทำงานได้รวดเร็วมาก สามารถปิดได้ที่เมนูตั้งค่าสำหรับคนที่ไม่ชอบให้หน้าจอเลื่อนไปมาบ่อยๆ โดยไม่ตั้งใจ (มันเร็วมากจริงๆ)

ด้านล่างหน้าจอวางปุ่มหลักทั้งสามเอาไว้ ตรงนี้ไม่มีอะไรพิเศษครับ

สำหรับหน้าจอ AMOLED ขนาด 5.2" ของ Oppo R5 จัดว่าดีในระดับมาตรฐานของ AMOLED และสว่างมาก! (ในรูปนี่ปรับลดแสงเกือบสุดแล้ว) มุมมองกว้างมากๆ มองจากด้านข้างเกือบ 180 องศาสีก็ยังไม่เพี้ยน น่าชมเชย

ขอบด้านข้างของ Oppo R5 เรียกได้ว่าเรียบง่ายมาก ฝั่งซ้ายมีถาดใส่ซิม ฝั่งขวาเป็นปุ่มเปิดเครื่อง และปุ่มปรับเสียง

น่าเสียดายที่ไม่ได้หยิบเครื่องอื่นไปเทียบให้เห็นว่าบางแค่ไหน

วกกลับมาขอบล่างตัวเครื่องวางพอร์ต micro USB เอาไว้ตามมาตรฐาน ซึ่งรองรับการชาร์จไฟความเร็วสูง VOOC mini Rapid Charger ที่ลดขนาดแท่นชาร์จลงจากเดิม แต่คงความเร็วไว้จากรุ่นก่อนหน้าอย่างดี สามารถชาร์จให้ได้ถึง 75% ภายใน 30 นาทีเท่านั้น

อนึ่งพอร์ต micro USB ต้องใช้สำหรับเสียบหูฟังด้วย โดย Oppo จะแถมอแดปเตอร์ USB-to-3.5mm มาให้ด้วย

ด้านหลังของ Oppo R5 มาเป็นสีโลหะเรียบๆ ปาดด้วยพลาสติกบนล่าง กล้องนูนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

ฟีเจอร์กล้องที่มาพร้อมกับ Oppo R5 เรียกได้ว่าให้มาล้นหลาม พร้อมกับเอนจินประมวลผลภาพ Pure Image 2.0 ที่นอกจากจะโฟกัสได้รวดเร็ว ถ่ายภาพความละเอียดสูงมาก 50 เมกะพิกเซล (Ultra HD) ได้เหมือนกับ Find 7 แล้ว ยังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่างการถ่ายก่อนโฟกัสทีหลัง โฟกัสวัตถุเคลื่อนไหว ถ่ายภาพออกมาเป็นภาพขยับได้สกุล .GIF รวมถึง Beauty Mode ที่สาวๆ ชื่นชอบกัน

สำหรับอุปกรณ์เสริมชิ้นใหม่ที่มาพร้อมกับ Oppo R5 คือ O-Music บลูทูธตัวจิ๋วสำหรับควบคุมเพลง ใช้ถ่ายภาพ ซึ่งไม่ได้ลองเล่นจริงครับ (ก็คงทำได้ตามที่โฆษณาแหละ)

ค่าตัวของ Oppo R5 เปิดมาแล้ว 15,990 บาท เริ่มขายแล้ววันนี้ ใครไปซื้อมาแล้วอย่าลืมปิดโหมดแฮนด์ฟรีก่อนใช้งานนะครับ