หลังจากออกวางตลาดครั้งแรกเมื่อเกือบ 20 ปีก่อน (1989) และเป็นเกมพกพาที่ขายดีที่สุดในโลก ก็อาจใกล้เวลาที่เราจะต้องลาจากกับเกมบอยแล้ว สาเหตุก็ไม่ใช่อะไรอื่น ความนิยมของ Nintendo DS นั่นเอง
ชิเงรุ มิยาโมโต้เคยให้ข้อมูลกับเว็บไซต์ Kotaku ว่าทีมพัฒนาภายในของนินเทนโดหันมาเจาะจงพัฒนาเกมบน DS กับ Wii เพียงสองเครื่อง ล่าสุด George Harrison รองประธานของนินเทนโดอเมริกาได้ออกมากล่าวอีกว่า บริษัทใกล้เลิกทำตลาดเกมโดยใช้เครื่องหมายการค้า "Game Boy" ในเร็วๆ นี้
เดิมที Nintendo DS เริ่มจากเป็นเครื่องเล่นเกมที่สามนอกเหนือไปจากเกมบอย และคอนโซล อาจเป็นเพราะช่วงแรกนินเทนโดยังไม่แน่ใจในแนวทางของ DS มากนัก แต่เมื่อ DS ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เกมบอยก็ต้องเป็นฝ่ายไป
ผมเชื่อว่าคนอ่านของเรารู้จัก Sonic the Hedgehog กันทุกคน หลังจาก Sonic ภาคหลังๆ ทำได้ค่อนข้างแย่จนแฟนๆ เริ่มเซ็ง ข่าวล่าสุดที่ประกาศออกมาเมื่อเดือนมิถุนายนก็คือ Sonic ภาค RPG ที่จะลง Nintendo DS และพัฒนาโดยเจ้าพ่อเกม RPG อย่าง Bioware
จากบทสัมภาษณ์ซีอีโอและประธานของ Bioware ทางทีมงานสัญญาว่าจะรวมเอาความเร็วที่เป็นเอกลักษณ์ของ Sonic มาผสมกับเนื้อเรื่องที่ลุ่มลึกแบบ RPG ให้ได้ นอกจากนี้เกมยังไม่ต้องเล่นต่อเนื่อง สามารถเล่นๆ หยุดๆ บนรถเมล์ตามแบบฉบับเกม DS ได้เช่นกัน
ที่มา - Wired
คนแถลงคือ Reggie Fils-Aime ประธานของนินเทนโดอเมริกา และ Satoru Iwata ประธานใหญ่ของนินเทนโด
ความแปลกประหลาดในการใช้งานเครื่อง Nintendo DS ที่สร้างขึ้นมาไว้เล่นเกมเหมือนจะมากขึ้นเรื่อยๆ นับแต่มีการประยุกต์เอาไปใช้ด้านความงามกันเป็นระยะ ล่าสุดมีบริษัทในสหรัฐฯ เตรียมพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อทำให้ Nintendo DS กลายเป็นอุปกรณ์สำหรับการชมกีฬากันแล้ว
บริษัทในสหรัฐที่ชื่อว่า The Redmond กำลังพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อให้ผู้ใช้ Nintendo DS สามารถติดตั้งลงไปในเครื่องของตนเพื่อติดต่อกับเครือข่ายไร้สายในสนามกีฬา ทำให้ผู้ชมสามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ได้ง่ายกว่าเดิม เช่น การสั่งน้ำ และของขบเคี้ยวก็สามารถสั่งได้จากที่นั่งโดยตรง
เดือนมิถุนายนที่ผ่านมานินเทนโดสามารถขาย Wii เครื่องเล่นเกมคอนโซลยุคล่าสุดได้มากกว่าโซนี่ถึง 6 เท่าในญี่ปุ่นเลยทีเดียว โดยยอดขายของ Wii เมื่อเดือนที่แล้วคือ 270,974 เครื่องในขณะที่โซนี่เพลย์สเตชั่น 3 ขายได้เพียง 41,628 เครื่อง
ยอดรวมเบ็ดเสร็จนั้น Wii สามารถขายได้ทั้งหมด 2.76 ล้านเครื่องตั้งแต่วันวางจำหน่ายวันแรกเมื่อเดือนธันวาคมเมื่อปีที่แล้ว สำหรับโซนี่นั้นจนถึงวันนี้สามารถขายได้ 970,270 เครื่อง
สำหรับ Xbox 360 ของไมโครซอฟท์นั้นขายได้ 17,616 เครื่องในเดือนที่แล้ว แพ้ขาดลอยในญี่ปุ่น
BBC รายงานว่าสาวกเพลย์สเตชั่นส่วนใหญ่กำลังรอแฟรนไชส์เกมดัง ๆ ที่จะออกมาในอนาคตก่อนที่จะซื้อเครื่อง เกมเหล่านั้นได้แก่ Metal Gear Solid, Killzone 2, Gran Turismo และ Final Fantasy
เมื่อเดือนที่แล้วนินเทนโดออกเกมให้คำแนะนำในการรักษาผิวพรรณกับสาวๆ ไปแล้ว (ข่าวเก่า) ดูเหมือนว่าตลาดนี้จะเป็นทิศทางที่นินเทนโดยังคงมุ่งหน้าไปอย่างต่อเนื่อง เมื่อในเดือนนี้ทางนินเทนโดได้ออกมาประกาศเปิดตัวอุปกรณ์เสริมเป็นกล้องขนาดเล็กใช้ติดเข้ากับ Nintendo DS เพื่อเล่นเกมบริหารใบหน้า
เกมที่ว่าหน้าอาศัยหลักการทำหน้าแบบต่างๆ ที่เป็นการบริหารกล้ามเนื้อบนใบหน้าที่เราอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว แต่เมื่อมีกล้องติดกับเครื่องเล่นเกมแล้ว ตัวเครื่องจะตรวจสอบความถูกต้องของการทำหน้าแบบต่างๆ ของเราได้ด้วย
วางขายเดือนกันยายนนี้ ราคาตั้งอยู่ที่ 4800 เยน อีกหน่อยสาวๆ บ้านเราคงเดินถือ DS กันอีกเยอะ
หลังๆ มานี้เหล่าผู้ผลิตเครื่องคอนโซลเริ่มมาเอาใจผู้ผลิตรายย่อยกันอย่างออกหน้าออกตา เพราะตลาดเกมเล็กๆ สร้างความน่าสนใจให้กับเครื่องเล่นเกมได้เป็นอย่างมาก เริ่มต้นเจ้าแรกๆ ที่มีคงเป็นทางไมโครซอฟท์ที่มีให้ทั้งชุดพัฒนาและตลาดเกม แต่ตอนนี้ค่ายนินเทนโดก็ตามมาแล้ว ด้วยการประกาศชัดว่าบริษัทกำลังเตรียมช่องทางจำหน่ายเกมให้กับบริษัทขนาดเล็กในชื่อว่า WiiWare
งานนี้นินเทนโดก็โม้สารพัดตามรูปแบบการเปิดตัวว่านี่จะเป็นการเปิดโอกาสให้กับความคิดสร้างสรรอย่างนั้นอย่างนี้ เอาเข้าจริงจะเวิร์คแค่ไหนคงต้องรอดูกันต่อไป
เปิดตัวจริงๆ ต้นปี 2008 ดังนั้นตอนนี้ก็รอกันไปก่อน
ที่มา - Gaming Bits
นินเทนโดเตรียมออกเกมส์เอาใจคอเกมส์สาว ๆ (ผู้ชายเล่นด้วยได้ป่าวหว่า)ที่จะช่วยให้คำแนะนำการดูแล้วรักษาผิวพรรณ Dream Skincare เป็นเกมส์ที่ให้ผู้เล่นป้อนคุณสมบัติทางกายภาพของผู้เล่น เช่น อายุ ส่วนสูง น้ำหนัก (เอ่อบางคนโกงน้ำหนัก) สีผิว เวลาที่ต้องตากแดด ชั่วโมงนอน และอื่น ๆ ในแต่ละวัน และแสดงผลออกมาเป็นขั้นตอนแนะนำการรักษาดูแลผิวพรรณ รวมถึงการดื่มน้ำ ทานแอปเปิ้ล หรือแม้กระทั่งการรักษาสมดุลฮอโมนในร่างกาย ทางนินเทนโดคาดการณ์ไว้ว่าจะสามารถออกเกมส์นี้ได้ภายในเดือนตุลาคมในญี่ปุ่น แต่ว่าต้องถึงรอปีหน้าสำหรับสาว ๆ ฝั่งยุโรปหรืออเมริกา
คนใช้ Nintendo DS อาจจะเท่ห์ขึ้นกว่าเดิมอย่างคาดไม่ถึง ด้วยการเล่นเว็บผ่าน เครื่องเล่นเกมที่ไม่สร้างความลำบากเกินพอดีอีกต่อไป หลังจากที่มีการประกาศสร้างบราวเซอร์ Opera และในวันนี้เองก็มีการเริ่มจำหน่ายตลับบราวเซอร์ตัวนี้กันแล้ว
Nintendo DS มีข้อได้เปรียบเครื่องเล่นเกมอื่นๆ ในการแสดงผลเว็บสูงมาก ได้หน้าจอสองจอ ทำให้มันสามารถใช้จอหนึ่งเพื่อแสดงภาพรวมของเว็บและอีกจอเพื่ออ่านเนื้อหาได้ ขณะที่การพิมพ์ก็สามารถทำได้ผ่านคีย์บอร์ดบนจอภาพเช่นกัน
มีวางขายแยกกันระหว่างรุ่น DS และ DS Lite โดยต่างกันแค่ขนาดตลับอย่างเดียว
ที่มา - ArsTechnica
ยอดขายเกมในสหรัฐอเมริกาประจำไตรมาสแรกปี 2007 นินเทนโดเป็นแชมป์แบบหายห่วง ขาย DS ได้ 1.2 ล้านเครื่อง และ Wii 1 ล้านเครื่อง
อันดับสามน่าสนใจมากเพราะเป็น PS2 8.7 แสนเครื่อง (อาจเป็นเพราะราคาที่ถูกลงมาก และเกมดีๆ จำนวนไม่น้อย) ตามมาด้วย Xbox 360 ที่ 7.2 แสนเครื่อง ส่วน PS3 ขายได้ประมาณ 5 แสนเครื่อง ซึ่งน้อยกว่า PSP เสียอีก
อย่างไรก็ตามถ้าดูยอดขายซอฟต์แวร์ นินเทนโดทำได้ไม่ค่อยดีนักถ้าเทียบกับจำนวนคอนโซลที่ขายออกไป ตรงนี้ Xbox 360 ทำได้ดีกว่า แต่เกมอันดับหนึ่งก็เป็น God of War 2 ของ PS2
อันดับเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าถ้าเกมดี เครื่องก็ขายดีตามไปด้วย และ PS3 ยังมีอนาคตที่น่าเป็นห่วงมากมาย ยิ่งเมื่อเทียบกับ PS2 ด้วยกันเอง
แอปเปิล โซนี่ และนินเทนโดเป็นสามบริษัทที่สามารถขายสินค้าตระกูลเดียวได้มากกว่า 100 ล้านเครื่อง ตั้งแต่ช่วงปลายยุค 80 จนถึงปัจจุบันโซนี่นั้นสามารถขายสินค้าตระกูล Walkman ได้กว่า 350 ล้านเครื่องทำให้ Walkman เป็นสินค้าอิเลคโทรนิคที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยสินค้าอีกตัวของบริษัทที่มียอดขายเกินร้อยล้านเครื่องก็คือ PlayStation 2
สินค้าที่ขายได้เกินร้อยล้านเครื่องของนินเทนโดแน่นอนก็คือเครื่องเล่นเกมพกพา GameBoy (เกมบอย) นั้นเอง แต่กว่าจะขายได้ร้อยล้านเครื่องนั้นต้องใช้เวลาถึง 13 ปี
เผอิญผมชอบเกม NiGHTS into Dreams... เป็นการส่วนตัว (เคยเล่นสมัย Sega Saturn แล้วรู้สึกว่าเจ๋งมาก) พอมีข่าว NiGHTS 2 ลง Wii เลยต้องเขียนถึงหน่อย
NiGHTS: Journey of Dreams ประกาศลงเครื่อง Wii โดยมีดีไซเนอร์จากเกมภาคก่อนมาเป็นผู้กำกับในภาคนี้ ทีมงานพัฒนาเป็น Sonic Team USA (รับผิดชอบ Sonic ทุกภาค) และประกาศว่าจะใช้ความสามารถของ Wiimote อย่างเต็มที่สำหรับการบินของ NiGHTS กำหนดออกฤดูใบไม้ร่วง 2007 และลงเฉพาะ Wii เท่านั้น
เราดู keynote ของสตีฟ จ็อบส์กันมาเยอะแล้ว มาดู keynote ของไอดอลแห่งวงการเกมอย่างชิเงรุ มิยาโมโต้กันบ้างดีกว่า สำหรับคนที่ไม่รู้จัก มิยาโมโต้เป็นพ่อของมาริโอ้, ดองกี้คอง และเซลด้าครับ keynote อันนี้มิยาโมโต้มาพูดในงาน Game Developers Conference 2007 ซึ่งดูชื่อก็จะเห็นได้ว่าจับตลาดนักพัฒนาเกมโดยเฉพาะ
หลังจากเปิดตัวแบบสุดเท่ด้วยการปล่อยให้ Mii ของตัวเองออกมาบนจอก่อน มิยาโมโต้ได้พูดถึงแนวคิดในการพัฒนาเกม 3 ประเด็นใหญ่ๆ
เกมระดับตำนานอย่าง SimCity จะตามคุณไปในทุกหนทุกแห่งแล้วในที่สุด เมื่อทาง Electronic Arts (EA) ประกาศเตรียมวางตลาดในฤดูร้อนที่จะถึงนี้ ที่น่าสนใจคือการพอร์ตลงเครื่อง Nintendo DS ครั้งนี้ทาง EA ระบุว่าจะมีการรองรับฟีเจอร์ทั้งหมดของเครื่อง DS กันอย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการใช้จอภาพสองจอ การใช้ไมโครโฟนในกรณีที่เกิดไฟไหม้ หรือจะเป็นการเซ็นอนุมัติเอกสารที่ต้องเซ็นกันลงจอจริงๆ ตลอดจนการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเครื่องอื่นๆ ผ่านทางระบบไร้สายของ DS
กำลังคิดอยู่ว่าจะซื้อ DS หรือ Wii ดี งานนี้คงตัดสินใจลำบากขึ้นอีกเยอะ
ที่มา - IGN
ออกวางขายมาตั้งแต่ปี 2001 และไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร (ขายได้ 21 ล้านเครื่อง เทียบกับ 115 ล้านเครื่องของ PS2) นินเทนโดจึงประกาศหยุดการผลิต GameCube แล้ว แต่ของในสต็อกที่เหลือก็ยังขายอยู่ โดยจะมุ่งเป้าไปยังครอบครัวที่ต้องการเครื่องเล่นเกมราคาถูกแทน
นอกจากนี้นินเทนโดยังใบ้ว่าอาจมี Wii 2.0 (ในทำนองเดียวกับ DS มี DS Lite) ในระยะเวลาที่ไม่นานเกินรอ
มีใครสนใจหิ้ว GameCube ไปงาน BTD3 ไหมครับ ผมยังไม่ได้เล่น Wind Waker เลย (อยากเล่นมากแต่บ้านเราขายเครื่องแพงซะเหลือเกิน)
ที่มา - Engadget
Shigeru Miyamoto ให้สัมภาษณ์รายการ Talk Asia ทาง CNN ในหลายแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นประวัติการทำงานของเขาที่นินเทนโด, แนวคิดในการออกแบบเกม, Wii และความรุนแรงในเกมหรือการ์ตูน
อันที่น่าสนใจคือที่มาของชื่อ Wii ซึ่ง Miyamoto บอกว่าคนญี่ปุ่นนิยมเรียกคำย่อ (อย่าง Family + Computer = Famicom) นินเทนโดจึงเลือกคำเดียวที่ไม่สามารถย่อได้อีกแล้ว และชื่อสั้นยังเอาไปนำหน้าชื่อเกมอย่าง "Wii Sports" หรือ "Wii Play" ได้อีกด้วย
Miyamoto บอกว่ากลุ่มลูกค้าที่ท้าทายมากๆ คือผู้หญิง อย่างเช่นภรรยาของเขาที่ทำยังไงก็ไม่ยอมสนใจ เขาหวังว่า Wii จะช่วยให้บรรดาแม่ๆ ทั้งหลายเข้ามามีส่วนร่วมกับกิจกรรมบันเทิงภายในบ้านได้มากขึ้น
ลืมบอกไปว่า Miyamoto คือผู้ใช้กำเนิด Mario, Donkey Kong และ Zelda ครับ
จากนินเทนโดให้เปลี่ยนสายคล้องจอย Wii ผมเล่นยังไงก็ไม่ยักเห็นว่าสายมันจะขาดง่าย พอค้นๆไปในเน็ตเลยพบว่ามีคนทดลองกันแล้วครับ โดยทดลองเอาสาย Wii มารับน้ำหนักดูว่าได้เท่าไหร่กันแน่ พบว่าอย่างน้อยๆก็ 25 ปอนด์ ขึ้นไป เจ้าของบทความเขียนว่า ที่ทีวีพังน่ะแน่ใจนะ ว่าใส่สายรัดข้อมือแล้ว
การทดลองนี้ ไม่ได้รวมแรง impulse ดังนั้นผมไม่แน่ใจว่า เวลาเล่นแล้วหลุดมือ มีโอกาสไหมว่าแรงตึงในสายจะสูงจนขาด แต่ก็พอบอกได้ว่า มันไม่ได้ เปราะขนาดเหวี่ยงแล้วขาดกันได้ง่ายๆ
ที่มา - ninterdojo
Square-Enix ประกาศข่าวที่ช็อควงการเกมว่า Dragon Quest IX: Protectors of the Starry Sky ภาคหลักภาคใหม่จะย้ายไปลง Nintendo DS
DQ9 จะพัฒนาโดยสตูดิโอ Level 5 ซึ่งเป็นทีมเดียวกับที่ทำ DQ8 ซึ่งภาคนี้จะเปลี่ยนรูปแบบการเล่นมาเป็นแอคชันมากขึ้น และเล่นพร้อมกันได้ 4 คนผ่านเครือข่าย WiFi ที่ Nintendo DS สนับสนุนอยู่แล้ว Yuji Horii บิดาของ Dragon Quest บอกว่าเกมภาคนี้จะย้อนกลับไปให้ความรู้สึกเหมือน DQ ภาคแรกมากขึ้น เขาหวังว่าเกมจะเสร็จภายในปี 2007 สนใจดูเทรลเลอร์ได้จาก YouTube
เท้าความนิดว่าเจ้าของ Wii จำนวนหนึ่งเล่นจนจอยหลุดมือไปชนจอทีวีแตก (มันเป็นเรื่องเพราะเป็น LCD/Plasma ด้วยแหละ) สาเหตุก็เพราะสายคล้องข้อมือของตัวจอยนั้นเปราะบางกว่าที่คิด เลยมีเสียงเรียกร้องให้นินเทนโดทำอะไรซักอย่าง
นินเทนโดจึงเปลี่ยนสายคล้องใหม่หมดในเครื่องที่เริ่มขายตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม ส่วนเครื่องที่ซื้อไปแล้ว สามารถขอเปลี่ยนได้โดยต้องกรอกแบบฟอร์มกับทางนินเทนโดก่อน (ฟอร์มนี้เฉพาะของสหรัฐ/แคนาดาครับ ฝั่งญี่ปุ่นยังไม่มีข้อมูล) ใครที่อยากเห็นว่าสายคล้องสองแบบมันต่างกันยังไง ดูรูปได้จากเว็บนินเทนโด
รีวิวงวดนี้ อาจจะขาดๆเกินๆบ้าง เพราะผมซื้อภาษาญี่ปุ่นมาครับ กว่าจะแงะไปได้ แต่ละอันนี่แสนเข็ญ แต่เซลด้าขายดิบขายดีขนาดนี้ มันต้องมีดีละน่า!
Nintendo Wii ถือได้ว่าเป็นเครื่องเกมคอนโซลแห่งยุคที่ขายได้เร็วที่สุดในประวัติการณ์ โดยใช้ช่วงเวลาเพียงแค่ 2 สัปดาห์ขายไปได้ 1 ล้านเครื่อง หรือประมาณ 78,000 เครื่องต่อวัน ซึ่งขายได้มากกว่าเครื่องเกม Sony Playstation 3 ที่ขายได้ 22,000 เครื่องต่อวัน และเครื่องเกม Microsoft Xbox 360 ที่ขายได้ 20,000 เครื่องต่อวัน (งานนี้ปู่นินยอดขายกระฉูด)
ที่มา: Retrothinking
เกริ่น: house ซึ่งไปทำงานอยู่ที่ญี่ปุ่น ไปต่อคิวซื้อ Wii มาได้ เลยโดนผมบังคับให้รีวิว Wii มาลง ใครอ่านแล้วสนใจฝากซื้อก็ติดต่อกันเอาเองเน่อ - mk
ผมซื้อ Wii มาเมื่อวานพร้อมกับ Zelda และ Wii Sport ราคารวมๆก็ราวๆ สามหมื่นกว่าเยน หรือ หมื่นกว่าบาท มาดูกันเลยดีกว่า!
จากยอดขายที่พุ่งกระฉูดของการเปิดตัว Wii นั้นใกล้ที่จะบรรลุเป้า 600,000 เครื่องแล้ว โดยมีเกมตำนานอย่างเซลด้าเป็นพระเอกชูโรง (The Legend of Zelda: Twilight Princess) ซึ่งทำยอดขายได้ถึง 454,000 แผ่น โดยประธานของนินเทนโดโซนอเมริกาได้ออกมาประกาศว่าเกมของ Wii จะเป็นที่ชื่นชอบของคนที่หัดเล่นเกมและจะเป็นที่น่าหลงใหลสำหรับเกมเมอร์ โดยมันจะเป็นปรากฏการณ์ครั้งใหม่เลยทีเดียว
ที่มา: Console Games
รีวิวออกมาหลายเจ้าแล้ว เผอิญผมเป็นแฟน Ars Technica เลยรอเขียนของ Ars ละกัน
ถัดจาก PS3 ก็ถึงคิวของ Wii ใจความหลักคือเป็นเครื่องขนาดเล็กที่ไม่แข่งพลังกราฟฟิก เน้นราคาถูกและจอยแบบใหม่ Ars ตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะคล้ายๆ PSP กับ DS ที่ PSP เหนือกว่าทุกด้านแต่ก็แพ้ DS ที่คนสร้างเกมออกมาได้ดึงดูดกว่า
เครื่องเล่นเกมสุดไฮเทคยุคล่าสุดของ Nintendo เปิดตัวในอเมริกาไปแล้วเมื่อวันที่ 19 พฤษจิกายน ที่ผ่านมา ถือได้ว่าเครื่องเล่นเกม "NextGen" ได้วางตลาดครบทั้งสามยี่ห้อแล้ว
engadget มี live-bloging รายงานสดจากบริเวณหน้าร้าน TOYS-R-US สาขาไทม์แสควร์ในนิวยอร์ค เห็นบรรยาการโดยรวมแล้ว คิดว่าฝรั่งต่อแถวรอซื้อเกมน่าสนุกกว่าญี่ปุ่นต่อแถวรอซื้อเกมเยอะ เพราะมีกิจกรรมเล่นกันหลากหลายดี และมี Segway ติด Wii ขับไปมาให้เล่นแถวนั้นด้วย :D - engadget