Dell เปิดตัวมอนิเตอร์ใหม่ 3 ขนาด ที่ Dell เรียกว่า "มอนิเตอร์สำหรับวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์รุ่นแรกของโลกที่ได้รับการรับรองจาก Microsoft Team" เนื่องจากมีปุ่มที่ใช้งานสำหรับการประชุมผ่าน Microsoft Teams ทั้งปุ่มเปิดโปรแกรม, รับสาย เพิ่มลดเสียงและปิดไมค์
นอกจากนี้ตัวมอนิเตอร์ยังมีกล้องหน้าแบบป๊อปอัพขนาด 5 ล้านพิกเซลที่เป็นกล้อง IR สำหรับปลดล็อกผ่าน Windows Hello, ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนและลำโพงคู่แรงขับ 5 วัตต์ พร้อมโหมดตัดแสงสีฟ้าให้ในตัวด้วย
หน้าจอทั้ง 3 ขนาดก็มี 24 นิ้วความละเอียด FHD ราคา 519.99 เหรียญ (ราว 15,500 บาท), 27 นิ้วความละเอียด QHD ราคา 719.99 เหรียญ (ราว 21,500 บาท) และจอโค้ง 34 นิ้ว (WQHD) ราคา 1,149.99 เหรียญ (ราว 34,400 บาท) วางขาย 16 กุมภาพันธ์นี้
มาถึงตอนนี้พนักงานออฟฟิศจำนวนมากคงใช้ Microsoft Teams กันจนชินแล้ว ทั้งการทำงานเอกสารร่วมกันแบบเรียลไทม์และการประชุมออนไลน์
ปัญหาหนึ่งที่ทุกคนน่าจะเคยเจอคือเปิดแท็บหรือเอกสารหนึ่งไว้แล้วต้องไปทำอย่างอื่นเช่นแชทหรือไปเปิดเอกสารอื่นแต่ไม่สามารถกลับมาเปิดเอกสารอันเดิมได้ง่ายๆ ต้องไปเข้าใหม่เสมอ ซึ่งขณะนี้ฟีเจอร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกได้บ้าง คือปุ่ม Back และ Forward ที่อยู่มุมบนซ้ายของหน้าจอ แต่หากต้องการกลับไปหาเอกสารที่เปิดไว้เมื่อหลายชั่วโมงที่แล้วก็ยังไม่ตอบโจทย์
ในอภิมหาดีล Salesforce ซื้อ Slack ด้วยราคา 27.7 พันล้านดอลลาร์ ถึงแม้ทั้งสองบริษัทไม่ได้พูดชื่อออกมาตรงๆ แต่ทุกคนก็รู้ว่าเกิดขึ้นเพื่อรับมือ Microsoft Teams ที่ยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
ไมโครซอฟท์เงียบมาตลอดในเรื่องนี้ แต่เมื่อต้นเดือนธันวาคม Judson Althoff ผู้บริหารฝ่ายธุรกิจองค์กรของไมโครซอฟท์ไปพูดที่งานสัมมนาของธนาคาร UBS และได้รับคำถามเรื่องดีล Salesforce/Slack ว่าเขามีความเห็นอย่างไร เราจึงเห็นมุมมองของไมโครซอฟท์ต่อคู่แข่งเป็นครั้งแรก
มาถึงจุดที่เราสามารถเลี้ยงกาแฟพนักงานได้ผ่านแอปประชุมวิดีโอคอลแล้ว Microsoft Teams เพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ เพิ่มแอปพลิเคชั่น Starbucks เข้ามาในแอปประชุมได้ เจ้านายสามารถส่งมอบคูปองกาแฟดิจิทัลให้พนักงานผ่าน Microsoft Teams ได้
เริ่มต้นจาก ดาวน์โหลดแอป Starbucks ไปยัง Microsoft Teams, ล็อกอิน Starbucks® Reward หรือสร้างบัญชีใหม่ได้, กดที่ไอคอน Starbucks ในเมนู New Conversation, เลือกการ์ดรูปต่างๆ และเลือกราคาได้ตั้งแต่ $5 ถึง $100 พร้อมระบุข้อความที่อยากส่งให้
Microsoft Teams ออกอัพเดตเกี่ยวกับระบบโทรศัพท์ล่าสุด โดยปรับให้ระบบโทรศัพท์ของ Teams ใช้งานได้ง่ายและมีประโยชน์มากขึ้นหลายอย่าง
ฟีเจอร์สำคัญในรอบนี้คือ Teams ปรับระบบโทรศัพท์ให้ใช้งานง่ายขึ้น โดยรวม dial pad, ประวัติการโทร, voicemail, ที่อยู่ติดต่อ และการตั้งค่าต่าง ๆ ไว้อยู่ที่เดียวกัน ทำให้การใช้งานระบบโทรศัพท์บน Teams ทำงานได้ผ่านแท็บเดียว พร้อมทั้งรองรับ CarPlay เพื่อให้ใช้โทรศัพท์ได้แม้ขณะขับรถ รวมถึงรองรับการสั่งการโทรศัพท์ผ่าน Siri ได้
ฟีเจอร์อื่น ๆ ที่น่าสนใจในรอบนี้ เช่น
ไมโครซอฟท์เพิ่งประกาศว่า Microsoft Teams รองรับบัญชีส่วนตัว เชิญเพื่อนมาวิดีโอคอลล์ได้แม้ไม่ต้องมีบัญชี Teams
ในประกาศนี้ยังมีเงื่อนไขตัวเล็กๆ อยู่อีกว่า วิดีโอคอลล์สามารถคุยได้ต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง และรองรับผู้เข้าคอลล์ได้สูงสุด 300 คน (เยอะกว่าห้องแชทที่รองรับ 250 คนด้วยซ้ำ) ใช้ได้นานจนกว่าจะเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น (until further specified)
ประกาศนี้ทำให้ Microsoft Teams เวอร์ชันใช้ฟรีด้วยบัญชีส่วนตัว กลายเป็นโซลูชันประชุมออนไลน์ที่น่าสนใจมาก และสร้างแรงกดดันให้ Zoom ที่ยังจำกัดการใช้งาน 40 นาที ผู้ใช้งานสูงสุด 100 คน สำหรับบัญชีฟรี
Microsoft Teams เผยฟีเจอร์ใหม่หลายอย่างทั้งบนเดสก์ทอป และ web app ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มบัญชีส่วนตัวลงใน เดสก์ทอป และ web app ได้ ช่วยให้การสนทนาทั้งหมด ทั้งติดต่องานและติดต่อส่วนตัว รวมอยู่ในที่เดียวกัน แต่สามารถแยกบราวเซอร์บัญชีใช้สำหรับทำงานกับบราวเซอร์บัญชีส่วนตัวออกจากได้ ทั้งนี้เพื่อช่วยให้การสนทนาทั้งงานและส่วนตัวสามารถทำได้บนคอมพิวเตอร์
ฟีเจอร์ใหม่ Microsoft Teams ให้โฮสต์ผู้จัดการการประชุม ปิดไมค์ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนได้ และให้สิทธิ์โฮสต์ในการปิดกั้นไม่ให้ใครก็ตามเปิดไมค์ขึ้นมาระหว่างการประชุม เพื่อไม่ให้เกิดเสียงแทรกระหว่างการบรรยาย มีสมาธิกับการประชุมได้เต็มที่
ไมโครซอฟท์รายงานตัวเลขผู้ใช้งาน Microsoft Teams ที่ 115 ล้านคนคนต่อวัน เพิ่มขึ้น 53% จากตัวเลข 75 ล้านคนต่อวันที่รายงานเมื่อเดือนเมษายน และมีลูกค้าสถาบันการศึกษาจำนวน 270,000 รายแล้ว
ไมโครซอฟท์อธิบายว่า Teams เป็นโซลูชันเดียวที่มีครบทั้งแชท คอลล์ ประชุมออนไลน์ แก้เอกสารร่วมกัน และเวิร์คโฟลว์ทางธุรกิจ เมื่อออฟฟิศจำนวนมากย้ายกระบวนการทำงานมาเป็นออนไลน์ จึงทำให้ Teams (รวมถึง Microsoft 365) ประสบความสำเร็จอย่างมาก
จำนวนลูกค้า Microsoft 365 ฝั่งคอนซูเมอร์เติบโต 27% เป็น 45.7 ล้านราย และลูกค้า Office 365 ฝั่งธุรกิจเติบโตขึ้น 15% ส่วนรายได้โต 21%
ปัญหาอันแสนเจ็บปวดของผู้ใช้ Microsoft Teams คือแอพมีประสิทธิภาพไม่ดีนัก ทำงานช้า โดยเฉพาะแอพเวอร์ชันเดสก์ท็อป
ล่าสุดไมโครซอฟท์ออกมาประกาศแผนการแก้ปัญหาประสิทธิภาพของ Teams บนแพลตฟอร์มต่างๆ ดังนี้
สัปดาห์ที่แล้วในงาน Ignite 2020 มีบริการตัวใหม่ในสังกัด Azure ที่น่าสนใจเปิดตัวคือ Azure Communication Services
Azure Communication Services เป็นการนำแพลตฟอร์มสื่อสาร Microsoft Teams ที่รองรับทั้งแชท เสียง วิดีโอ โทรศัพท์แบบดั้งเดิม และข้อความ SMS มาแยกร่างออกเป็นส่วนๆ ให้องค์กรอื่นสามารถเรียกใช้ได้ผ่าน API และคิดค่าใช้งานตามปริมาณ
Microsoft Teams ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ชุดใหม่ในงาน Microsoft Ignite จำนวนมาก โดยฟีเจอร์การประชุมวิดีโอได้แก่ โหมด Together ใหม่ตัดพื้นหลังแล้ววางภาพทุกคนเหมือนนั่งในห้องประชุมร่วมกัน, Custom layouts สามารถวางภาพผู้นำเสนอทับลงไปบนสไลด์ได้ คล้ายการแคสเกม, Breakout ห้องย่อยระหว่างการประชุมใหญ่ ที่อาจมีการแบ่งทีมย่อยระดมสมอง, Meeting recap แสดงข้อมูลสรุปหลังจบการประชุม ทั้งสไดล์, วิดีโอประชุม, และไฟล์ข้อความที่แปลงจากเสียงที่พูดกันขณะประชุม
เมื่อวานนี้ผู้ใช้แอป Microsoft Teams จำนวนมากได้รับ notification ประหลาด ข้อความจำนวนมากระบุว่าเป็นการทดสอบ วันนี้ทางเว็บ The Register ก็พูดคุยกับ Abhishek Dharani นักวิจัยความปลอดภัยที่เพิ่งรายงานช่องโหว่กุญแจ Firebase Cloud Messaging (FCM) หลุดไปกับตัวแอป โดย Dharani คาดว่ามีคนอื่นอ่านรายงานช่องโหว่ของเขาแล้วนำไปทดสอบกับแอปอื่นๆ
ช่องโหว่นี้เป็นช่องโหว่ของแอปที่เก็บรักษากุญแจ FCM ผิดพลาด โดยติดกุญแจไปกับตัวแอปจนคนร้ายสามารถดึงออกมาจากไฟล์ APK บนแอนดรอยด์ได้ แม้แต่กูเกิลเองก็พลาดในเรื่องนี้จน Dharani สามารถดึงกุญแจสำหรับแอป Google Hangouts และ Google Play Music ออกมาได้ ทำให้กูเกิลจ่ายเงินรางวัลสำหรับรายงานช่องโหว่ถึง 30,000 ดอลลาร์
Microsoft Teams ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ระดับสูงที่เรียกว่า Advanced Communications (แปลว่าต้องจ่ายเงินซื้อเพิ่ม)
ไมโครซอฟท์ยังประกาศความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ฮาร์ดแวร์ ออกเครื่องโทรศัพท์ตั้งโต๊ะที่รองรับการโทรเข้า Microsoft Teams (มีปุ่ม Teams สีม่วงบนแป้นโทรศัพท์เลย) โดยจะเริ่มขายช่วงต้นปี 2021
แฟนฟุตบอลยุโรปอาจเห็นการใช้ "คนดูออนไลน์" มาวางไว้บนอัฒจันทร์ในสนามแข่ง เพื่อสร้างบรรยากาศการเชียร์กีฬาในยุค COVID-19 ที่ยังห้ามแฟนบอลเข้าสนาม
ล่าสุดลีกบาสเก็ตบอล NBA กำลังจะทำแบบเดียวกันเมื่อกลับมาแข่งฤดูกาล 2019-2020 ต่อในวันที่ 30 กรกฎาคมนี้ โดยนำจอภาพขนาดใหญ่มาวางไว้รอบสนาม สิ่งใหม่ที่แตกต่างออกไปคือหน้าจอจะแสดงภาพแฟนๆ จาก Microsoft Teams โหมดใหม่ Together Mode ที่เพิ่งเปิดตัว
ไมโครซอฟท์ออกมาตอบโต้ Slack ที่ร้องเรียนคณะกรรมการยุโรปกรณี Microsoft Teams แข่งขันไม่เป็นธรรม ว่า Teams มีผู้ใช้เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง COVID-19 เป็นเพราะตลาดตอบรับฟีเจอร์ประชุมผ่านวิดีโอ ซึ่ง Slack ไม่มีฟีเจอร์ลักษณะนี้
ไมโครซอฟท์ยังบอกว่ารอเข้าไปชี้แจงและส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้คณะกรรมการยุโรปด้วย
หมายเหตุ: Slack มีฟีเจอร์วิดีโอคอลล์แต่เฉพาะกลุ่มเล็กๆ และมีฟีเจอร์ไม่มากนัก โดย Slack เพิ่งจับมือเป็นพันธมิตรกับ Amazon เพื่อนำระบบวิดีโอคอลล์ Amazon Chime มาใช้งาน
Slack ประกาศว่ายื่นคำร้องไปยังคณะกรรมการยุโรป (European Commission) ในประเด็นการแข่งขันไม่เป็นธรรมจาก Microsoft Teams ที่แถมพ่วงไปกับ Office ที่เป็นเจ้าตลาดอยู่แล้ว จึงบิดเบือนโครงสร้างราคาและทำให้ Slack แข่งขันได้ยาก
Slack ระบุว่ามั่นใจในคุณภาพผลิตภัณฑ์ของตัวเอง แต่ยอมรับพฤติกรรมที่ผิดกฎหมายไม่ได้ ไมโครซอฟท์ทำผลิตภัณฑ์เลียนแบบ Slack แล้วนำไปผูกกับ Office ซึ่งเป็นพฤติกรรมแบบเดียวกับที่เคยใช้ตอนทำ IE แล้วพ่วงไปกับ Windows
ขั้นต่อไปคือ European Commission จะรับคำร้องเรียนของ Slack ไปพิจารณาว่าจะสอบสวนไมโครซอฟท์อย่างเป็นทางการหรือไม่
งาน Microsoft Inspire ที่เป็นงานสำหรับพันธมิตรของไมโครซอฟท์ปีนี้ไมโครซอฟท์ประกาศฟีเจอร์ใหม่ๆ ของ Microsoft Teams ออกมาอีกชุดใหญ่ ทั้งการปรับปรุงการจัดประชุมให้รองรับแอปภายนอกขณะประชุมมากขึ้น, รองรับฟีเจอร์สำหรับคนทำงานหน้างาน (firstline), และการพัฒนาแอปแบบ low-code ให้เข้าถึงข้อมูลองค์กร
ไมโครซอฟท์เปิดตัวหน้าจออัจฉริยะ (smart display) สำหรับวิดีโอคอลล์ผ่าน Microsoft Team โดยเรียกฮาร์ดแวร์กลุ่มนี้ว่า "Microsoft Teams displays"
หน้าจออัจฉริยะกลุ่มนี้เหมือนกับ Google Home Hub/Nest Hub หรือ Amazon Echo Show โดยเป็นอุปกรณ์จอสัมผัส เน้นสั่งงานด้วยเสียงพูด มีกล้องวิดีโอและไมโครโฟนในตัว เพียงแต่อุปกรณ์ของไมโครซอฟท์เน้นลูกค้าองค์กรเป็นหลัก ต่างจากคู่แข่งที่เน้นตลาดคอนซูเมอร์
ไมโครซอฟท์ยังเดินหน้าเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์ในเครือโดยเฉพาะสาย productivity ที่มีหลายตัวซ้ำซ้อนกัน โดยเพิ่มแท็บ Tasks ภายใน Microsoft Teams จะซิงก์รายการงาน (task) จากแอพในเครือ 3 ตัวคือ To Do, Planner, Outlook ไว้ที่เดียว
ไมโครซอฟท์ให้เหตุผลว่า To Do เป็นบริการส่วนบุคคล ใช้จดงานส่วนตัว ส่วน Planner เป็นการแบ่งงานภายในทีม หน้าจอของแท็บ Tasks จึงจะแยกเป็น Personal lists และ Team lists ให้จัดกลุ่มได้ง่าย แต่ถ้าผู้ใช้ไม่ต้องการแสดงรายการหมวด Personal lists ก็สามารถซ่อนได้
ปัจจุบัน แท็บรายการงานของ Teams ใช้ชื่อว่า Planner แต่ในอนาคตอันใกล้จะเปลี่ยนเป็น Tasks by Planner and To Do แล้วในระยะถัดไปจะเหลือคำว่า Tasks อย่างเดียว
ไมโครซอฟท์อัพเดตฟีเจอร์ใหม่ชุดใหญ่ใน Microsoft Teams ที่สำคัญๆ คือ Together Mode เป็นการใช้ AI สร้างร่างอวตารของผู้เข้าร่วมประชุม นำไปไว้ในฉากต่างๆ เช่นฉากห้องสมุด ฉากห้องประชุมใหญ่ ให้รู้สึกราวกับว่าไปนั่งอยู่ในสถานที่นั้นด้วยกันจริงๆ ช่วยให้มองเห็นสีหน้าท่าทางของคนอื่น และดำเนินการประชุมต่อได้ในสภาพแวดล้อมที่มีหลายคนพูดพร้อมกัน ฟีเจอร์นี้จะเริ่มใช้งานได้ในเดือนสิงหาคม
แม้ Zoom จะเป็นม้ามืดที่ถูกพูดถึงมากที่สุดรายหนึ่งในฐานะผู้ให้บริการวิดีโอคอลในช่วง COVID-19 ที่เติบโตทั้งยอดผู้ใช้งานและมูลค่าบริษัท ทว่าข้อมูลจาก Aternity บริษัทพัฒนาโซลูชันองค์กรออกรายงานว่าด้วยเรื่อง Global Remote Work Productivity เผยข้อมูลว่า Microsoft Teams คู่แข่ง Zoom ที่ดูจะเติบโตได้สูงไม่แพ้กัน กลับมียอดผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นแซงหน้า Zoom ไปค่อนข้างเยอะ
ตัวเลขผู้ใช้งาน Aternity นับตั้งแต่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาจนถึง 14 มิถุนายน โดย Microsoft Teams มียอดผู้ใช้งานเติบโตสูงสุดที่ 894% ส่วน Zoom มียอดเติบโต 677% และเคยเติบโตนำมาเป็นอันดับ 1 ก่อนจะถูก Microsoft Teams แซงราวเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ถ้ายังจำกันได้ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์เปลี่ยนชื่อ Office 365 เป็น Microsoft 365 และเพิ่ม Microsoft Teams เข้ามาในทุกแพ็กเกจ โดยขยายฟีเจอร์ของ Teams จากการพูดคุยเรื่องงาน มาใช้กับการสื่อสารในครอบครัวด้วย
วันนี้ Microsoft Teams เวอร์ชันคอนซูเมอร์เปิดให้ทดสอบแล้ว ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแอพ Teams จากช่องทางต่างๆ ได้ตามปกติ ล็อกอินด้วยบัญชี Microsoft Account ส่วนตัว แล้วใช้งาน Teams คุยกับเพื่อนหรือคนนครอบครัวได้ทันที (หากล็อกอินบัญชีขององค์กรอยู่แล้ว ก็สามารถล็อกอินบัญชีส่วนตัว แล้วสลับหน้าจอไปมาได้)
รวมข่าวฟีเจอร์ใหม่ของ Microsoft Teams ในรอบสัปดาห์นี้
Microsoft Teams เพิ่งอัพเดตหน้าจอประชุมแบบ 3x3 คนไปเมือเดือนเมษายน เพื่อไล่ให้ทัน Zoom ที่รองรับหน้าจอ 7x7 คน และได้รับความนิยมอย่างมาก
ล่าสุดโฆษกของไมโครซอฟท์ยืนยันกับเว็บไซต์ CRN ว่าจะขยายหน้าจอเป็น 7x7 คนเท่ากับ Zoom แน่นอน แต่ยังไม่ระบุกรอบเวลาที่ชัดเจนว่าเมื่อไร
ตัวแทนของไมโครซอฟท์บอกว่า 3x3 เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี (เดิมคือ 2x2) แต่ก็ยังไม่เพียงพอ และพยายามจะรองรับจำนวนผู้สนทนาในวิดีโอคอลล์มากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งาน