บริษัทวิจัย IHS iSuppli ประเมินว่าสัดส่วนการหารายได้ของแอพมือถือในปี 2015 จะเปลี่ยนจากปัจจุบัน โดยแอพที่ตั้งราคาขายตามปกติจะมีสัดส่วนน้อยลง และการซื้อสินค้า-เนื้อหาภายในแอพ (in-app purchase หรือ freemium) จะได้รับความนิยมแทน
IHS iSuppli ประเมินว่าในปี 2015 สัดส่วนของแอพที่ทำเงินด้วย in-app purchase จะสูงถึง 64% ในขณะที่ปัจจุบันมีแอพประมาณ 39% ที่ทำเงินด้วยวิธีนี้
เหตุผลก็เพราะผู้ใช้สมาร์ทโฟนมีแนวโน้มจะดาวน์โหลดแอพฟรีมากกว่า ซึ่ง IHS iSuppli ประเมินว่าในปี 2011 ที่ผ่านมา 96% ของแอพที่ถูกดาวน์โหลดไปทั้งหมดคือแอพฟรี ทำให้การขายแอพโดยตรงทำได้ยากกว่าเดิม
Paul Otellini ซีอีโอของอินเทล กล่าวในงานแถลงผลประกอบการไตรมาสล่าสุด เขาพูดถึงแคมเปญโฆษณา ultrabook ว่าเป็น "สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดนับตั้งแต่ Centrino" (ในปี 2003)
ยาฮูประกาศว่าเจอรี่ หยาง หนึ่งในสองผู้ร่วมก่อตั้งยาฮูได้ลาออกจากตำแหน่งบอร์ดบริหาร รวมถึงตำแหน่งอื่นๆ ของบริษัทในเครือยาฮูทั้งหมดมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
หน่วยวิจัยของ DigiTimes ประเมินยอดขายพีซีแบบ all-in-one ในปีหน้า 2012 ว่าจะเพิ่มเป็น 15.8 ล้านเครื่อง จากที่ขายได้ 13.5 ล้านเครื่องในปีนี้
อย่างไรก็ตาม อัตราการเติบโตของ all-in-one จะเริ่มช้าลง หลังจากโตแบบก้าวกระโดดระหว่างปี 2008-2009 พอมาเป็นปี 2011-2012 จะมีอัตราการเติบโตลดลงมาที่ประมาณ 20% จากปีก่อนหน้า
สำหรับส่วนแบ่งของ all-in-one ในตลาดพีซีเดสก์ท็อปทั้งหมด ในปี 2011 มีส่วนแบ่ง 9.3% ซึ่งจะเพิ่มเป็น 10.5% ในปี 2012 ซึ่งเป็นแนวโน้มที่มองเห็นได้ชัดเจนว่าลูกค้าเองต้องการพีซีแบบ all-in-one มากขึ้นเรื่อยๆ
Meg Whitman ซีอีโอของ HP ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Le Figaro ของฝรั่งเศส บอกว่าจะตัดสินใจเรื่องอนาคตของ webOS ภายในสองสัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งเธอยอมรับว่าเป็นการตัดสินใจที่ยาก เพราะเป็นเรื่องชะตาชีวิตของพนักงานจำนวน 600 คนด้วย
เธอยังพูดถึงคำพยากรณ์ของบริษัทวิจัย Canalyst ที่ประเมินว่าแอปเปิลจะขึ้นเป็นผู้ผลิตพีซีอันดับหนึ่งของโลกในปี 2012 แซงหน้า HP (ถ้านับรวมยอดขาย iPad เป็นพีซีด้วย) ว่าเธอเห็นด้วยตามนั้น แอปเปิลทำผลงานได้ดีมากและน่าจะเป็นแชมป์ในปี 2012 ส่วน HP เองก็ต้องเล่นตามเกมของตัวเองให้ดี และพยายามแซงกลับให้ได้ในปี 2013
นักวิเคราะห์ของ Digitimes Research ประเมินว่าการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดแท็บเล็ต จะส่งผลให้ ราคาเฉลี่ย ของแท็บเล็ตที่วางขายในปีหน้า 2012 ลดราคาลง
Digitimes ยังคาดว่า Amazon จะลดราคา Kindle Fire จากเดิม 199 มาเหลือ 149 ดอลลาร์ และลดราคาเครื่องอ่านอีบุ๊ก Kindle รุ่นล่างสุดมาอยู่ที่ 49 ดอลลาร์ ซึ่งจะส่งผลให้คู่แข่งอย่าง Barnes & Noble และ Kobo ต้องลดราคาสู้ด้วย
ตลาดเครื่องอ่านอีบุ๊กก็ยังมีอนาคตที่สดใส คาดว่าปี 2012 จะเติบโต 31.4% มียอดขายรวม 28.9 ล้านเครื่อง
ถึงแม้ ultrabook ที่อินเทลหมายมั่นปั้นมือเอาไว้ จะยังไม่สามารถสร้างยอดขายอย่างมีนัยยะสำคัญได้ในตอนนี้ แต่ผลประเมินของบริษัท IHS (iSuppli เดิม) คาดว่า ultrabook จะจุดติด และมีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 40% ของโน้ตบุ๊กทั้งหมดในปี 2015
นักวิเคราะห์ของ IHS ให้เหตุผลว่าโน้ตบุ๊กต้องปรับตัวเองใหม่ให้ดูเซ็กซี่มากขึ้น จึงจะสามารถแข่งขันกับแท็บเล็ตได้ และ ultrabook ถือเป็นคำตอบสำหรับผู้ผลิตโน้ตบุ๊ก เพราะนำแนวทางการออกแบบหลายอย่างจากแท็บเล็ตมาใช้
IHS คาดว่า ultrabook จะมีส่วนแบ่งตลาดน้อยกว่า 2% ในปีนี้ แต่ตัวเลขจะเพิ่มเป็น 12% ในปี 2012, 28% ในปี 2013, 38% ในปี 2014 และ 43% ในปี 2015
ที่มา - PC Mag
ยักษ์สีฟ้าไอบีเอ็มได้กลายเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีที่มีมูลค่ากิจการตามราคาในตลาด (Market Capitalization) สูงที่สุดในโลกเป็นอันดับ 2 เมื่อคืนนี้หลังปิดการซื้อขายในตลาดหุ้นอเมริกา ด้วยมูลค่าบริษัท 2.14 แสนล้านดอลลาร์ แซงหน้าอันดับ 2 เดิมอย่างไมโครซอฟท์ซึ่งมีมูลค่าบริษัทเมื่อคืนนี้ 2.132 แสนล้านดอลลาร์ โดย
โนเกียประกาศวันนี้ว่าบริษัทจะปลดพนักงานเพิ่มอีก 3,500 อัตรา โดยส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มสายการผลิตเพื่อให้โครงสร้างบริษัทคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้โนเกียจะปิดโรงงานในประเทศโรมาเนีย ลดระดับอัตราการผลิตของโรงงานในฟินแลนด์, ฮังการี และเม็กซิโก รวมทั้งปิดสำนักงานที่มีส่วนงานซ้ำซ้อนกันในประเทศเยอรมนีและอเมริกาอีกด้วย
บริษัทวิเคราะห์ตลาด IDC ประเมินยอดขายของแท็บเล็ตไตรมาสที่สองของปี 2011 พบว่าสูงขึ้นจากไตรมาสที่แล้วที่ออกมาน้อยกว่าคาด โดยมีจำนวนสุทธิ 13.6 ล้านเครื่องในไตรมาสนี้ และปรับเพิ่มตัวเลขยอดขายตลอดปีนี้จากเดิม 53.5 ล้านเครื่องเป็น 62.5 ล้านเครื่อง
ข่าวร้อนในวันนี้คงหนีไม่พ้นข่าวเรื่อง HP กับการแยกธุรกิจพีซีออกไป (1,
หลังแอปเปิลประกาศผลประกอบไตรมาสล่าสุดซึ่งเติบโตดีต่อเนื่อง และนักวิเคราะห์ต่างมองว่าแอปเปิลยังมีพื้นที่ให้เติบโตได้อีกมาก ตัวชี้วัดหนึ่งก็คือราคาหุ้นของแอปเปิลเอง ซึ่งล่าสุดได้ทำสถิติราคาสูงสุดใหม่อีกครั้งที่ $403.41 ไปเรียบร้อยแล้ว
ที่ราคาดังกล่าวทำให้มูลค่ากิจการตามราคาหุ้นในตลาดของแอปเปิลขณะนี้อยู่ที่ 3.74 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่มูลค่ากิจการของ Exxon Mobil บริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกปัจจุบันนั้นอยู่ที่ 4.16 แสนล้านดอลลาร์ ห่างกันอยู่ 4.16 หมื่นล้านดอลลาร์ ถ้าหากดูอัตราการเติบโตย้อนหลัง 5 ปี ก็จะเห็นว่าโอกาสที่แอปเปิลจะขึ้นเป็นบริษัทมูลค่าสูงที่สุดในโลกนั้นใกล้เข้ามาแล้ว
บริษัทวิเคราะห์ตลาด IDC ประเมินยอดขายของแท็บเล็ตทั่วโลกในไตรมาสแรกของปี 2011 พบว่ายอดขายต่ำกว่าไตรมาสที่สี่ของปี 2010 (ซึ่งเป็นเทศกาลซื้อของของฝรั่ง) ประมาณ 28% ซึ่งน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ตัวเลขนี้อาจแปลว่าตลาดแท็บเล็ตไม่ได้พุ่งแรงตามกระแสข่าวเท่าไรนัก
IDC ประเมินว่าปัญหาอย่างหนึ่งของแท็บเล็ตคือวิธีการขายที่นิยมไปผูกกับโอเปอเรเตอร์ ในขณะที่ลูกค้าไม่ต้องการเครื่องแบบติดสัญญาเท่าไรนัก อย่างไรก็ตาม IDC เองก็ปรับตัวเลขยอดขายแท็บเล็ตตลอดปี 2011 ขึ้นอีกเล็กน้อย จากเดิม 50.4 ล้านเครื่องเป็น 53.5 ล้านเครื่อง
แชมป์ของโลกแท็บเล็ตยังเป็น iPad แต่ Android ก็เริ่มแรงขึ้นมา โดยชิงส่วนแบ่งตลาดได้ 34% แล้ว
มีข่าวว่าเว็บรับบริการจดโดเมนและโฮสติ้งชื่อดัง Go Daddy กำลังอยู่ในช่วงเจรจาเพื่อขายกิจการให้กับกลุ่มทุน KKR และ Silver Lake ด้วยมูลค่ากว่า 2 พันล้านดอลลาร์ โดยจะมีการแถลงอย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า
ที่จริง Go Daddy เองก็อยากขายกิจการอยู่ตั้งแต่ปีที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าข่าวการจดสกุลโดเมนได้อิสระเป็นตัวเร่งมูลค่าของ Go Daddy ได้อย่างดี เพราะทำให้ธุรกิจการจดโดเมนมีความคึกคักมากขึ้น
Go Daddy ก่อตั้งในปี 1997 โดย Bob Parsons ซึ่งปัจจุบันเขายังเป็นเจ้าของและซีอีโออยู่ มีโดเมนในความดูแลอยู่มากกว่า 48 ล้านโดเมน
สำหรับผู้ทำธุรกิจไอที เมื่อโตไปถึงจุด ๆ หนึ่งแล้วก็คงหนีไม่พ้นกับการลงทุนในประเทศจีน หนึ่งในปัญหาที่พบบ่อยสุดก็คือการที่ประเทศจีนได้ทำการบล็อคการเข้าถึงเว็บสาระข่าวสารต่าง ๆ มากมาย ตั้งแต่ Wikipedia จนถึงไปถึงเว็บประเภทเครือข่ายสังคมออนไลน์ ได้แก่ Facebook และ Twitter
ล่าสุด ประเทศจีนได้มีแผนที่จะสร้างศูนย์ออฟฟิศพาร์คขนาดหกตารางไมล์ ในเมือง Chongqing โดยจุดเด่นของออฟฟิศพาร์คแห่งนี้คือจะเป็นที่แห่งเดียวในประเทศ ที่บริษัทไอทีต่าง ๆ จะสามารถเชื่อมต่อเข้าถึงเว็บและบริการต่าง ๆ ที่ถูกบล็อคภายในประเทศจีนได้
มันคงเป็นเรื่องยากสำหรับธุรกิจรายย่อยของประเทศจีน ที่จะเข้าถึงตลาดโลกได้ หากไม่สามารถเข้าถึง Twitter หรือ Facebook แต่พวกเขาคงไม่จำเป็นต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว
บริษัทวิจัยด้านมือถือชื่อ research2guidance จากเยอรมนี ประเมินการเติบโตของจำนวนแอพใน Android Market และ iPhone App Store และพยากรณ์ว่า Android Market จะมีแอพแซง iPhone App Store ในเดือนสิงหาคมปีนี้
ช่วงหลังๆ Android Market มีจำนวนแอพใหม่มากกว่า iPhone App Store แล้ว โดยเดือนเมษายนที่ผ่านมา Android Market มีแอพใหม่ 28,000 ตัว ส่วน iPhone App Store มี 11,000 ตัว
ปัจจุบัน Android Market มีแอพเกือบ 3 แสนตัว และ iPhone App Store มี 3.8 แสนตัว ส่วนเดือนสิงหาคมที่จะเป็น "จุดตัด" ทั้งสองค่ายจะมีแอพ 4.25 แสนตัว
ดูเหมือนหุ้นของแอปเปิลยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง โดยเมื่อปีก่อนแซงไมโครซอฟท์จนเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีอันดับ 1 ส่วนเมื่อต้นปีมูลค่าก็ทะลุ 3 แสนล้านดอลลาร์ไปแล้ว ล่าสุด James Altucher นักลงทุนแห่ง Formula Capital ออกมาให้ความเห็นว่าบริษัทแอปเปิลสามารถมีมูลค่าตลาดสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ได้แน่
Panasonic ประกาศวันนี้ว่าจะทำการลดพนักงานลงอีก 40,000 17,000 อัตราภายในสองปี รวมทั้งปิดโรงงานทั่วโลกราว 70 แห่ง ทั้งนี้เพื่อปรับสภาพองค์กรให้แข่งขันในธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ดีมากขึ้น หลังคู่แข่งจากเกาหลีใต้ และจีนรุกหนักมากขึ้น โดยเมื่อปี 2009 ช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ บริษัทก็ปรับลดพนักงานไปแล้ว 15,000 คน
โดยหลังจากนี้ Panasonic จะทุ่มความสนใจไปที่กลุ่มธุรกิจสิ่งแวดล้อมและพลังงานมากขึ้น ซึ่งเป็นการต่อยอดหลังซื้อ Sanyo เมื่อปีก่อน
ที่มา: Reuters
ข่าวนี้ถือว่าไม่ผิดคาดนักถ้าดูกันตามแผนการของโนเกียช่วงที่ผ่านมา โดยโนเกียประกาศวันนี้ว่าบริษัทจะปลดพนักงาน 4,000 อัตรา และโอนย้ายพนักงาน 3,000 คนด้าน Symbian ไปอยู่กับ Accenture ซึ่งโนเกียจะเอาท์ซอร์สงานเกี่ยวกับ Symbian ทั้งหมดไปยัง Accenture หลังจากนี้
การปรับลดนี้จะกระทบกับพนักงานในฟินแลนด์ เดนมาร์ก และอังกฤษเป็นส่วนใหญ่ โดยกระบวนการปรับลดนี้จะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในสิ้นปี 2012
ที่มา: Reuters
รายงานสำรวจตลาดสมาร์ตโฟนจาก Nielsen ประจำไตรมาสแรกของปี 2011 เฉพาะในสหรัฐฯ ออกมาแล้วพบว่าความเปลี่ยนแปลงยังคงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อผลสำรวจระบุว่า Android เป็นโทรศัพท์ที่มีผู้ซื้อ "อยากได้" เป็นเครื่องต่อไปมากที่สุดถึง 31% เทียบกับ 26% ในไตรมาสที่แล้ว ขณะที่ iPhone นั้นมีผู้อยากได้เป็นเครื่องถัดไปลดลงเหลือ 30% เทียบกับ 33% ในไตรมาสที่แล้ว ทำให้ Android เป็นระบบปฎิบัติการสมาร์ตโฟนที่มีผู้ใช้อยากได้เป็นเครื่องต่อไปมากที่สุด
หนังสือพิมพ์ Wall Street Journal มีบทความเขียนถึงภาวะขาดแคลนนักพัฒนาซอฟต์แวร์บนมือถือ ซึ่งเกิดจากความนิยมของการสร้างแอพบนมือถือขององค์กรต่างๆ
ตัวเลขจากเว็บไซต์หางานบ่งชี้ว่างานที่เกี่ยวข้องกับ iPhone เพิ่มขึ้น 3 เท่าระหว่างปี 2010-2011 ส่วน Android เพิ่มขึ้น 4 เท่า ส่วนเว็บไซต์หางานสำหรับฟรีแลนซ์ชื่อ Elance.com บอกว่าตำแหน่งงานด้านมือถือโตขึ้น 2 เท่าจากปีก่อน
องค์กรหลายแห่งก็ระบุแผนขยายทีมพัฒนาด้านมือถือของตัวเอง เช่น Ning จะขยายทีมมือถืออีกเท่าตัวเป็น 17 คน, Where เปิดศูนย์พัฒนาที่ประเทศโครเอเชีย ซึ่งให้เงินเดือนสูงกว่าบริษัทอื่นในท้องถิ่น
แฟนฟุตบอลอังกฤษโดยเฉพาะสโมสร Arsenal อาจจะคุ้นกับชื่อ Alisher Usmanov เพราะเขาเป็นผู้ถือหุ้นในทีมปืนใหญ่นี้อยู่ 27% แต่ในอีกด้านหนึ่งเขาก็เป็นนักลงทุนรายใหญ่ในธุรกิจเว็บอยู่มากมาย Usmanov ให้สัมภาษณ์ว่าในมุมมองเขาตอนนี้ การลงทุนในธุรกิจบริษัทด้านเว็บหรืออินเทอร์เน็ตเริ่มให้ผลตอบแทนที่น้อยลง โดยเฉพาะถ้าเทียบกับส่วนที่เขาได้ลงทุนไปเมื่อสองถึงสามปีแล้วซึ่งผลตอบแทนดีกว่านี้มาก
ถึงแม้ว่ามูลค่าบริษัทตามราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ (market cap) จะบ่งบอกสถานะของบริษัทได้ไม่ดีนัก (เพราะหุ้นมีขึ้นมีลงอยู่ตลอดเวลา) แต่มันก็สามารถแสดงภาพรวมของอุตสาหกรรมได้ในระดับหนึ่ง
ล่าสุดบริษัทมือถือฝั่งไต้หวันที่มาแรงในช่วงหลังอย่าง HTC มีมูลค่าหุ้น 33.88 พันล้านดอลลาร์ แซงราชาแห่งมือถืออย่างโนเกีย (32.84 พันล้านดอลลาร์) เรียบร้อยแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่นาน HTC ก็เพิ่งจะแซง RIM (28.5 พันล้านดอลลาร์) ไปแล้วเช่นกัน
ปัจจัยสำคัญอันหนึ่งคือราคาหุ้นของโนเกียตกลงไปมากใน 2-3 ปีหลัง ส่วนมูลค่าหุ้นของ HTC ก็เพิ่มขึ้น 30 เท่าในรอบ 5 ปีหลังเช่นกัน
ที่มา - AllThingsD