Apple iOS
ใน iOS 17.4 จะมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญสำหรับผู้ใช้งานในกลุ่มประเทศ EU ที่สามารถเลือกเบราว์เซอร์ค่าเริ่มต้นได้เอง และเลือกโหลดแอปจากสโตร์ภายนอกได้ อย่างไรก็ตามมีนักพัฒนาพบว่า มีฟีเจอร์หนึ่งที่ไม่สามารถใช้งานได้แล้ว คือการสร้างไอคอนเว็บแอปในหน้า Home (PWA - Progressive Web App)
Opera ประกาศทำเว็บเบราว์เซอร์ลง iOS โดยใช้เอนจินของตัวเอง (ปัจจุบัน Opera เวอร์ชันเดสก์ท็อปใช้ Blink/Chromium) ตามนโยบายใหม่ของแอปเปิลที่ยอมให้ใช้เอนจินอื่นได้ ตามกฎหมาย DMA ในยุโรป
Opera ระบุว่าจะออกเว็บเบราว์เซอร์แบรนด์ Opera One ภายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หลังจากกฎหมาย DMA ของยุโรปมีผลบังคับใช้ในเดือนมีนาคม 2024 แต่ก็ยังไม่ได้ให้รายละเอียดมากกว่านี้
แอปเปิลประกาศว่า iPhone และ iPad จะมีการเปลี่ยนแปลงใน iOS 17.4 เช่น การโหลดแอปจากสโตร์ภายนอกได้ จ่ายเงินผ่านช่องทางอื่นได้ และอื่น ๆ อีกหลายอย่าง แต่มีผลเฉพาะกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป 27 ประเทศเท่านั้น เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายดิจิทัล Digital Markets Act (DMA)
คำถามที่หลายคนอยากรู้ แม้จะเดาคำตอบในใจกันได้ไม่ยาก ก็คือประเทศอื่นจะมีโอกาสได้อะไรแบบนี้บ้างไหม? ซึ่งแอปเปิลก็มีคำตอบมาให้แล้ว
Epic Games ประกาศทำ Epic Games Store บน iOS หลังแอปเปิลปรับเงื่อนไขของแพลตฟอร์มตามกฎหมาย DMA ของยุโรป (สโตร์นี้จะมีบริการเฉพาะในยุโรปเท่านั้น)
ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดมากนัก โดย Epic Games ระบุว่ากำลังหารือรายละเอียดเรื่องกรอบเวลาตามกฎหมายอยู่ แต่ที่แน่ๆ คือเราจะได้เห็นเกม Fortnite กลับมาให้เล่นบน iOS โดยสามารถดาวน์โหลดได้จาก Epic Games Store โดยตรง
แอปเปิลเพิ่มฟีเจอร์ Stolen Device Protection เพิ่มมาตรการป้องกันแม้คนร้ายจะขโมยโทรศัพท์ไปได้ และรู้ PIN ของไอโฟนก็ตาม ฟีเจอร์นี้ประกอบด้วยฟีเจอร์ย่อย ได้แก่ การบังคับยืนยันตัวตนด้วย Face ID/Touch ID เท่านั้นสั่งคำสั่งสำคัญ และเพิ่มช่วงเวลาหน่วงหนึ่งชั่วโมงเมื่อสั่งเปลี่ยนรหัสผ่าน
สำหรับการหน่วงเวลาในการเปลี่ยนรหัสผ่านนั้นจะบังคับเฉพาะเมื่อไอโฟนอยู่นอกพื้นที่ปกติเท่านั้น หากใช้งานในบ้านหรือที่ทำงานยังทำงานเหมือนเดิม ส่วนคำสั่งสำคัญที่ต้องการ Face ID/Touch ID ได้แก่ การดูรหัสผ่านใน Keychain, เปิดบัตร Apple Card, ดูเลขบัตร Apple Card, ปิด Lost Mode, ล้างข้อมูลในเครื่อง, ส่งคำสั่งใน Apple Cash, สั่งจ่ายเงินผ่าน Safari, และการโอนบัญชีไปยังอุปกรณ์ใหม่
Supergiant Games ประกาศออกเกม Hades เวอร์ชัน iOS เล่นได้ทั้งบน iPhone และ iPad โดยจะเป็นเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะสมาชิก Netflix เท่านั้น
เกมมีกำหนดออกกว้างๆ ว่าในปี 2024 โดยต้องการ iOS 16 ขึ้นไป ส่วนรายละเอียดของสเปกเครื่องต้องรอประกาศอีกครั้งหนึ่ง เกมจะถูกปรับแต่งวิธีการควบคุมให้เหมาะกับจอสัมผัส และรองรับการต่อจอยบลูทูธได้ถ้าต้องการประสบการณ์เล่นเหมือนบนคอนโซล
เกม Hades เวอร์ชัน iOS พัฒนาโดยสตูดิโอ Secret 6 ที่มีผลงานช่วยพัฒนาเกมดังเกรด AAA หลายเกม เช่น Uncharted, Battlefield, Tomb Raider, Cyberpunk 2077
ในการเปิดตัว iPhone 15 Pro หนึ่งในฟีเจอร์ที่ Apple นำเสนอคือสามารถถ่ายวิดีโอแบบ Spatial Video ที่มีลักษณะคล้ายกับวิดีโอ 3 มิติแบบลึกที่แยกวัตถุกับพื้นหลัง สามารถดูบนแว่น Apple Vision Pro ได้หลากหลายองศาการมอง แต่เมื่อ iPhone 15 Pro วางจำหน่ายจริง กลับยังไม่มีฟีเจอร์นี้ (คาดว่ายังทำไม่เสร็จ) ตอนนี้ฟีเจอร์ดังกล่าวปรากฎตัวแล้วใน iOS 17.2 Beta
ในหน้าการตั้งค่าของกล้อง จะมีให้เลือกเปิดโหมดการถ่ายวิดีโอที่ระบุว่าเป็นการถ่าย Spatial Video สำหรับแว่น Apple Vision Pro พอเปิดแล้วให้เข้าที่ไปที่แอปกล้อง ซึ่งจะมีโหมด Spatial เพิ่มเข้ามาโดยแสดงเป็นสัญลักษณ์แว่น Vision Pro
Capcom ออกมายืนยันผ่าน X/Twitter ว่าเกม Resident Evil 4 Remake เวอร์ชันที่พอร์ตลง iOS และ iPadOS จะเปิดให้ดาวน์โหลดได้ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวามคมเป็นต้นไป โดยเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าใน App Store แล้ว
หลังจากที่วางขาย Resident Evil Village เวอร์ชัน iOS ไปเมื่อ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา ตอนนี้ก็ถึงคิวของ Resident Evil 4 Remake ซึ่งเป็น 1 ในเกมที่แอปเปิ้ลประกาศ ในงานเปิดตัว iPhone 15 Pro
กูเกิลอัพเดต Chrome บน iOS ให้ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าย้ายแถบที่อยู่ (Address Bar) มาไว้ที่ด้านล่างของหน้าจอแบบเดียวกับ Safari ได้แล้ว ซึ่งฟีเจอร์นี้มีผู้พบในเวอร์ชันทดสอบก่อนหน้านี้
วิธีการย้ายแถบ Address Bar นี้ทำได้สองวิธีได้แก่ กดค้างที่แถบดังกล่าว แล้วเลือก Move address bar to bottom หรือไปแก้ไขที่ Settings ในหัวข้อ Address Bar
ข้อมูลนี้มาจาก Jeff Pu นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ด้านซัพพลายเชนจาก Haitong International Securities ซึ่งเขาออกรายงานอ้างแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ว่าแอปเปิลได้เริ่มติดตั้งเซิร์ฟเวอร์สำหรับงาน AI จำนวนมากในปีนี้ และจะเพิ่มจำนวนอีกในอนาคต เพื่อรองรับฟีเจอร์ใหม่ของ AI บนคลาวด์ ควบคู่ไปกับการพัฒนา AI ที่ประมวลในระดับอุปกรณ์ สำหรับงานด้าน Generative AI ซึ่งต้องสามารถควบคุมความเป็นส่วนตัวผู้ใช้งานได้ด้วย
เขาบอกว่าหากทุกอย่างเป็นไปตามแผนงาน Generative AI จะเป็นฟีเจอร์จุดขายใน iOS 18 และ iPadOS 18 กำหนดออกมาในปีหน้า โดยอาจมาใช้รูปแบบคำสั่ง Siri ที่สามารถทำงานซับซ้อนมากได้ในแอป Shortcuts
ข้อมูลนี้มาจาก Mark Gurman แห่ง Bloomberg คนเดิม เขาบอกว่าแอปเปิลเตรียมสร้างระบบเพื่อใช้ใน Apple Store ที่สามารถอัพเดตซอฟต์แวร์ iOS เวอร์ชันล่าสุดให้กับ iPhone เครื่องใหม่โดยไม่ต้องแกะกล่องได้เลย อุปกรณ์นี้จะเป็นแผ่นรองที่เมื่อวางกล่อง iPhone จะสั่งเปิดเครื่องและอัพเดต iOS จากนั้นก็ปิดเครื่องให้
รายงานบอกว่าแอปเปิลจะเริ่มติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าวและใช้งานใน Apple Store ให้ได้ภายในปีนี้
มาตามสัญญา แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการ iOS 17.0.3 เพื่อแก้ไขปัญหา iPhone เครื่องร้อนกว่าปกติ ซึ่งแอปเปิลยอมรับว่าสาเหตุหนึ่งมาจากบั๊กในระบบปฏิบัติการเอง
ผู้ใช้งานสามารถอัพเดตได้โดยไปที่ Settings > General > Software Update
ในอัพเดตนี้แอปเปิลยังระบุว่าได้แก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัยสองรายการ โดยเป็นช่องโหว่ของเคอร์เนลและ WebRTC ผู้ใช้งานจึงควรอัพเดตซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการนี้
นอกจากนี้ 9to5Mac ได้ลองทดสอบเบื้องต้นเพื่อตอบคำถามที่หลายคนสงสัย ว่าแอปเปิลจะลดประสิทธิภาพของชิป A17 Pro เพื่อลดปัญหาความร้อนหรือไม่ คำตอบตอนนี้คือ ยังไม่พบว่าประสิทธิภาพการทำงานลดลงแบบชัดเจน
แอพจัดการรหัสผ่าน 1Password อัพเดตเวอร์ชันใหม่ รองรับการยืนยันตัวตนด้วย Passkey แล้วทั้งบนเบราว์เซอร์และ iOS 17 ขึ้นไป ส่วน Android จะตามมาในเร็วๆ นี้หลัง Android 14 ออกตัวจริง
Passkey เป็นระบบการล็อกอินแบบใหม่ที่ไม่ใช้รหัสผ่าน แต่ใช้กุญแจ public/private key แทน โดยแอพจัดการรหัสผ่านแต่ละตัวจะช่วยเรื่องการซิงก์กุญแจข้ามอุปกรณ์ หรือแชร์กุญแจระหว่างกัน รายละเอียดอ่านในบทความ Passkey อนาคตแห่งการล็อกอินไร้รหัสผ่าน
ตามที่แอปเปิลประกาศว่า iOS 17 ระบบปฏิบัติการของ iPhone เวอร์ชันใหม่ จะเปิดให้ผู้ใช้งานทั่วไปอัพเดตได้ในวันที่ 18 กันยายนนี้ พร้อมกับฟีเจอร์ใหม่หลายอย่าง อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกฟีเจอร์ที่จะได้มาพร้อมกับอัพเดตแรกหรือ iOS 17.0
โดยแอปเปิลได้เผยแพร่เอกสาร PDF ยาว 17 หน้า สรุปรายการฟีเจอร์ใหม่ทั้งหมดของ iOS 17 ซึ่งหลายฟีเจอร์เด่นที่แอปเปิลเคยโปรโมต ถูกระบุว่าจะใช้งานได้ภายในปีนี้ ซึ่งอาจมาพร้อมกับ iOS 17.1 หรือ 17.2 เป็นต้นไป
แอปเปิลแจ้งนักพัฒนาแอปว่า App Store ใหม่ที่จะรองรับเฮดเซต Vision Pro จะนำแอปจาก iPhone และ iPad ที่รองรับขึ้นสโตร์ใหม่นี้เป็นค่าเริ่มต้น (default) โดย App Store ใหม่นี้จะเริ่มเปิดให้ใช้งานพร้อมกับอัพเดตของ visionOS เบต้า ในช่วงปลายปี
แอปเปิลบอกว่าเฟรมเวิร์กส่วนใหญ่ที่มีใน iPadOS และ iOS มีรวมใน visionOS อยู่แล้ว ทำให้แอปแทบทั้งหมดของ iPad และ iPhone สามารถรันบน visionOS ได้ นักพัฒนาจึงไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม แต่หากแอปมีปัญหาไม่รองรับ จะมีการแจ้งผ่าน App Store Connect ให้แก้ไขเพื่อให้รองรับการใช้งานกับ visionOS นักพัฒนาสามารถทดสอบความเข้ากันได้ใน simulator ของ visionOS บน Xcode 15 beta
แอปเปิลเพิ่มเนื้อหาใหม่ในเว็บไซต์ "Apps by Apple" เพื่อนำเสนอแอปต่าง ๆ ของแอปเปิลเอง ทั้งใน iPhone, iPad, Apple Watch, Mac และ Apple TV แบ่งตามลักษณะการใช้งานในแบบต่าง ๆ รวมถึงชูฟีเจอร์ใหม่ที่จะเพิ่มมาในอัพเดตซอฟต์แวร์ใหญ่ปลายปีรวมทั้ง iOS 17
ตัวอย่างแอปในหมวด Productivity ของแอปเปิลเองเช่น Notes, Reminders, Calendar, Freeform, Pages, Numbers, Keynote, Shortcuts เป็นต้น หรือในหมวด Features ที่ทำให้การใช้งานข้ามอุปกรณ์เชื่อมต่อได้ดี เช่น Siri, iCloud, CarPlay, Continuity เป็นต้น
แอป Tesla ใน iOS ออกอัพเดตเวอร์ชัน 4.24.0 โดยมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญ คือรองรับการควบคุมผ่านแอป Shortcuts ของแอปเปิลแล้ว ซึ่งผู้ใช้งานต้องกำหนดรายละเอียดขึ้นเอง
เมื่อรองรับ Shortcuts ผู้ใช้งานจึงสามารถสั่งการตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ผ่านระบบคำสั่งเสียง Siri ได้ด้วย
ตัวอย่างคำสั่งที่รองรับมีทั้งการควบคุมรถยนต์ และการควบคุมอุณหภูมิ เช่น เปิดปิดประตู เปิดปิดหน้าต่าง กำหนดอุณหภูมิ สั่งหยุดการชาร์จไฟ เป็นต้น
ที่มา: The Verge
แอปเปิลเตรียมปล่อยแพตช์ Rapid Security Responses รอบที่สองหลังจากเพิ่งปล่อยแพตช์รอบแรกเมื่อคืนวาน สาเหตุเพราะแพตช์ทำให้ User-Agent ใน WebKit แสดงเวอร์ชั่นของระบบปฎิบัติการโดยมี (a)
กำกับเวอร์ชั่นเพื่อบ่งบอกว่าเป็นแพตช์ฉุกเฉินแรกของเวอร์ชั่นนี้ แต่กลับทำให้ผู้ใช้เข้าเว็บบางเว็บไม่ได้
เว็บจำนวนหนึ่งเช็คเลขเวอร์ชั่นของเบราว์เซอร์ว่าสูงกว่ากำหนดหรือไม่ แต่เมื่อมีวงเล็บตามหลังเลขเวอร์ชั่นทำให้โปรแกรมอ่านเลขเวอร์ชั่นทำงานผิดพลาด และเว็บแสดงข้อความเตือนว่าไม่ซัพพอร์ตเบราว์เซอร์
แม้จะไม่ใช่ความผิดของแอปเปิลโดยตรง แต่แอปเปิลก็ระบุว่าจะปล่อยแพตช์เวอร์ชั่น (b)
เพื่อแก้ปัญหานี้ให้เร็วๆ นี้
แอปเปิลเพิ่มอัพเดตแบบใหม่ เรียกว่า Rapid Security Responses สำหรับการอัพเดตเพื่ออุดช่องโหว่ที่มีการโจมตีแล้วเท่านั้น พร้อมกับปล่อยแพตช์ชุดแรกสำหรับ iOS, iPadOS, และ macOS มาพร้อมกัน
Rapid Security Responses จะมีอัพเดตให้กับผู้ใช้ที่อัพเดตระบบปฎิบัติการเป็นรุ่นล่าสุดแล้วเท่านั้น และเลขเวอร์ชั่นจะเป็นตัวอักษรเพื่อบ่งบอกว่าเป็นการอุดช่องโหว่อย่างเดียว เช่น แพตช์ที่ออกมาวันนี้จะอัพเดตเป็น iOS 16.5.1 (a), iPadOS 16.5.1 (a), และ macOS Ventura 13.4.1 (a) สำหรับแพตช์ชุดนี้แก้ช่องโหว่ใน WebKit ที่รายงานโดยนักวิจัยไม่ประสงค์ออกนามคนหนึ่ง
การตั้งค่าเริ่มต้นจะเปิดรับแพตช์ฉุกเฉินนี้ทั้งหมด และผู้ใช้สามารถปิดได้เอง ซึ่งจะทำให้อุปกรณ์รับแพตช์เฉพาะตามรอบปกติเท่านั้น
เว็บ Gizmochina นำเสนอรายงานจาก GreenSmartphones เว็บไซต์เปรียบเทียบราคาสมาร์ทโฟน ที่นำส่วนแบ่งค่าธรรมเนียมมาปลูกต้นไม้ลดปริมาณคาร์บอน โดยตั้งโจทย์ว่าระบบปฏิบัติการสมาร์ทโฟนระหว่าง Android กับ iOS อันไหนใช้งานง่ายกว่ากัน?
GreenSmartphones เก็บข้อมูลจากการเสิร์ชในกูเกิลของผู้ใช้สมาร์ทโฟนในอเมริกา โดยเทียบว่าผู้ใช้ Android กับ iPhone ถามในปัญหาการใช้งานเดียวกันแต่ละหัวข้อมากกว่ากัน เช่น วิธีบันทึกหน้าจอแบบวิดีโอ วิธีแชร์โลเกชัน โดยผลสำรวจจาก 12 หัวข้อ ได้จำนวนการเสิร์ชของผู้ใช้ Android 226,000 ครั้ง ส่วน iPhone มีจำนวน 358,000 ครั้ง จึงอาจมองได้ว่า Android มีปัญหาในการใช้งานน้อยกว่า iPhone หรือในรายงานนี้ก็สรุปว่า Android ใช้ง่ายกว่านั่นเอง
แอปเปิลเปิดตัว iOS 17 ระบบปฏิบัติการสำหรับ iPhone เวอร์ชันใหม่ของปีนี้ ซึ่งมาพร้อมของใหม่หลายรายการ เน้นไปที่การปรับแต่งและเพิ่มการจัดการข้อมูลส่วนตัว
แอปโทรศัพท์เพิ่มของใหม่หลายอย่าง โปสเตอร์ของรายชื่อผู้ติดต่อ ที่เต็มหน้าจอและใส่ลูกเล่นได้มากขึ้น, Voice Mail รองรับการถอดเสียงออกมาเป็นข้อความ ในกรณีที่ไม่สะดวกแม้แต่ฟังข้อความเสียง และสามารถฝากข้อความไว้หากปลายสายไม่สะดวกรับ FaceTime
แอปเปิลยังคงรายงานตัวเลขสถิติต่าง ๆ ออกมา ก่อนการจัดงานใหญ่ประจำปี WWDC สัปดาห์หน้า คราวนี้เป็นสถิติส่วนแบ่งการใช้งานระบบปฏิบัติการ iOS 16 และ iPadOS 16 ในอุปกรณ์ทั้งหมด
โดยข้อมูล ณ วันที่ 30 พฤษภาคม 2023 แอปเปิลระบุว่า 81% ของ iPhone ที่มีการใช้งานอยู่ตอนนี้ เป็นระบบปฏิบัติการ iOS 16 เพิ่มขึ้นจาก 72% ที่แอปเปิลรายงานในเดือนกุมภาพันธ์ เป็น iOS 15 13% ที่เหลือเป็นเวอร์ชันเก่ากว่านั้น และหากดูเฉพาะ iPhone รุ่นใหม่ที่เปิดตัวย้อนหลัง 4 ปี ส่วนแบ่ง iOS 16 อยู่ที่ 90%
แอปเปิลประกาศอัพเดตคุณสมบัติใหม่ของซอฟต์แวร์ช่วยเหลือการเข้าถึง (Accessibility) ให้กับผู้ใช้งานที่มีข้อจำกัดในการรับรู้ มองเห็น ได้ยิน หรือเคลื่อนไหว ซึ่งแอปเปิลบอกว่าเป็นสิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญ และพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาตลอด
เครื่องมือช่วยเหลือใหม่ที่เพิ่มมาที่แอปเปิลครั้งนี้ มีดังนี้
ไมโครซอฟท์ประกาศขยายการรองรับของแอป Phone Link ที่ใช้เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับ Windows 11 โดยรองรับ iPhone มีผลกับผู้ใช้งานทุกคนตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป หลังจากออกเวอร์ชันทดสอบเบต้าไปก่อนหน้านี้
Phone Link รองรับการทำงานร่วมกับ Android มาระยะหนึ่งแล้ว ส่วนการรองรับ iOS นั้น จะรองรับการเข้าถึงพื้นฐานทั้งโทรศัพท์, ข้อความ, รายชื่อผู้ติดต่อ ตลอดจนสามารถเข้าถึงรูปภาพได้ผ่านการเชื่อมต่อกับบัญชี iCloud ในแอป Photos ของ Windows 11 อย่างไรก็ตามฟีเจอร์ส่งข้อความจะมีข้อจำกัด โดยรองรับเฉพาะข้อความจากผู้ติดต่อเท่านั้น ไม่รองรับรูปภาพ-วิดีโอ และแชทกลุ่ม
Compose Multiplatform เฟรมเวิร์คสำหรับเขียน UI ของภาษา Kotlin ที่พัฒนาโดย JetBrains และออกเวอร์ชันแรกในปี 2021
รากเหง้าของ Compose มาจาก Jetpack Compose ที่กูเกิลสร้างขึ้นเพื่อเขียน UI บน Android โดย JetBrains นำมาพัฒนาต่อให้รองรับแพลตฟอร์มอื่นๆ คือบนเดสก์ท็อป (Windows, macOS, Linux)
ล่าสุด JetBrains เปิดตัว Compose Multiplatform สำหรับ iOS แล้ว สถานะยังเป็นรุ่นทดสอบแบบ Alpha และจำเป็นต้องใช้ Xcode บน macOS ช่วยคอมไพล์ออกมาเป็นแอพบน iOS ให้