ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายผูกขาดของสหรัฐประเมินว่า การซื้อกิจการของ Facebook/Instagram อาจต้องใช้เวลาระหว่าง 3-12 เดือน (เป็นไปได้มากที่สุดคือ 6 เดือน) เพื่อรอคณะกรรมการการค้าของสหรัฐหรือ FTC อนุมัติดีลนี้
ตามกฎแล้ว FTC ต้องตรวจสอบการซื้อกิจการทุกรายที่มีมูลค่าเกิน 66 ล้านดอลลาร์ ซึ่งใช้เวลาขั้นต่ำ 30 วัน แต่ถ้ามีประเด็นปัญหาหรือสงสัย FTC ก็สามารถเรียกบริษัททั้งสองมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ (แปลว่าใช้เวลานานขึ้นไปอีก)
สำหรับกรณีนี้ FTC เป็นห่วงว่า Facebook จะกลายเป็นผู้นำด้านการแชร์ภาพถ่ายออนไลน์-มือถืออย่างเบ็ดเสร็จ ทำให้มีอำนาจต่อรองเรื่องโฆษณาสูงและอาจกีดกันคู่แข่งในวงการได้ (งานนี้มีข่าวลือมาว่ากูเกิลและทวิตเตอร์เป็นคนร้องเรียนไปยัง FTC ให้เข้ามาสอบสวนในประเด็นนี้)
Instagram อัพเดตใหม่สำหรับผู้ใช้แอนดรอยด์ เพิ่มฟีเจอร์เท่าเทียมกับผู้ใช้ iOS แล้ว นั่นก็คือรองรับการใส่เอฟเฟค tilt-shift (อธิบายง่ายๆ คือการทำให้ภาพชัด/เบลอเป็นจุดๆ เหมือนกับการใช้เลนส์ประเภท tilt-shift) ซึ่งจะใช้ไอคอนเป็นรูปหยดน้ำ และสามารถเลือกพื้นที่ใส่เอฟเฟคได้สองแบบคือเป็นวงกลม และเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า
นอกจากนี้ยังแก้ให้มือถือซัมซุงบางเครื่องสามารถใช้งานฟิลเตอร์ได้ด้วย สามารถดาวน์โหลดได้จาก Play Store ครับ
ที่มา - The Verge
คนไทยหันมาใช้อินสตาแกรม (Instagram) โซเชี่ยลเน็ตเวิร์กแบบรูปภาพกันจนฮิตติดลมบน ตอนนี้มีผู้ใช้มากกว่าแสนคนแล้ว เป็นกระแสต่อจากการใช้เฟซบุ๊ค ปัจจุบันมีคนไทยอัพโหลดภาพมากว่า 11 ล้านภาพ ดาราสาวชื่อดัง พลอย เฌอมาลย์ มีผู้ตามในอินสตาแกรมสูงสุดอันดับ 1 ของไทย มีคนไทยใช้อินสตาแกรมมากกว่า 154,591 คนเลยทีเดียว โดยฟิลเตอร์ที่ใช้แต่งภาพที่นิยมมากที่สุดคือ X-Pro II
ความร้อนแรงของข่าว Instagram ที่แม้ว่าจะเริ่มซาๆ ไปบ้างแล้ว แต่ในส่วนของผู้ใช้ยังคงเพิ่มอย่างต่อเนื่อง หลังจากทะลุ 30 ล้านคนเมื่อต้นเดือนเมษายน และ 40 ล้านช่วงสงกรานต์บ้านเรา จบด้วยการปิดสิ้นเดือนเมษายนด้วยยอดผู้ใช้ที่ทะลุ 50 ล้านคนเข้าไปแล้ว เรียกได้ว่าเพิ่มขึ้นสัปดาห์ละ 5 ล้านคนทีเดียว
ในส่วนของแอพบนแอนดรอยด์ก็มียอดดาวน์โหลดทะลุ 10 ล้านครั้งแล้ว (ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้) ถ้าหากว่า Instagram ยังคงอัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ใช้ได้ในระดับนี้ต่อไป เป้าหมายที่จะแซงสถิติ 100 ล้านคนภายใน 4 ปี ของ Facebook คงอยู่อีกไม่ไกลนัก
ที่มา - Mashable
ข่าวนี้เป็นข้อมูลเพิ่มเติมจาก Twitter เองก็อยากซื้อ Instagram (แต่โดน Facebook ตัดหน้า)
เว็บไซต์ VentureBeat อ้างแหล่งข่าววงในที่เกี่ยวข้องกับการขายกิจการของ Instagram ว่าในช่วงเวลานั้นเป็นการเจรจาของ Instagram กับ 3 ฝ่าย ได้แก่ Twitter, Facebook และกลุ่มนักลงทุน
"ข้อมูลใหม่" ของ VentureBeat แสดงให้เราเห็นความฉลาดของ Kevin Systrom ผู้ก่อตั้ง Instagram ที่ใช้สถานการณ์นี้ให้เกิดประโยชน์ต่อราคาของ Instagram ที่สุดท้ายขายออกไปที่ 1 พันล้านดอลลาร์
ยังคงมีข่าวเกี่ยวเนื่องกับดีลประวัติศาสตร์ Instagram อีกแล้ว โดยคราวนี้เรื่องเริ่มต้นจาก New York Times เผยแพร่บทความถึงการตัดสินใจลงทุนใน Instagram ของกองทุน Andreessen Horowitz ที่ก่อตั้งโดย Marc Andreessen และ Ben Horowitz (จากนี้จะใช้ตัวย่อว่า AH) ซึ่งกองทุนนี้จะลงทุนในสตาร์ทอัพที่มีความน่าสนใจ โดยพวกเขาตัดสินใจให้ทุนเริ่มต้น (seeding) 250,000 ดอลลาร์เมื่อปี 2010 กับ Kevin Systrom ที่ปัจจุบันเป็นซีอีโอ Instagram ซึ่งตอนนั้นเดินเข้ามาเสนอโครงการทำระบบเช็กอินที่คล้ายกับ Foursquare ที่ต่อมากลายเป็น Burbn
แฟนๆ Instagram คงรู้วิธีการสื่อสารกับสังคมที่ชอบเหมือนกันใน Instagram ผ่านทาง hashtag (#) ซึ่งช่วยให้สามารถค้นหาภาพที่อยู่ในหมวดเดียวกันได้ง่ายขึ้น
ล่าสุด Instagram ได้เพิ่มไกด์ไลน์สำหรับการใช้งาน hashtag ทำให้ต่อจากนี้จะไม่สามารถสร้างบัญชี โพสต์รูป หรือใช้ hashtag ที่สนับสนุน หรือกระตุ้นให้เกิดการทำร้ายตัวเอง โดยมี hashtag สามตัวแรกที่ถูกเก็บไปแล้ว คือ thinspiration, probulimia และ proanorexia ซึ่งเกี่ยวข้องกับการลดน้ำหนักของผู้หญิงทั้งสิ้น
ส่วนผู้ใช้อื่นๆ ที่พบภาพ หรือบัญชีที่อยู่ในข่ายดังกล่าว แต่ยังลอยนวลอยู่ก็สามารถแจ้งไปยังทีมงานได้และเลือกหัวข้อผิดกฏการใช้งานทางด้านความรุนแรงเพื่อส่งต่อให้ทีมงานมาดูแลต่อไปได้
รองประธานฝ่ายการตลาดของแอปเปิล Phil Schiller ได้ลบบัญชีใช้งานของเขาบน Instagram ที่เขาใช้นามว่า "@schiller" และให้สาเหตุว่า Instagram ได้ทำการ "jump the shark" หรือ "ลดคุณภาพลงเกินการเยียวยา" แล้วหลังจากที่เปิดให้บริการกับผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ Android
แน่นอนว่าในฐานะที่เขาเป็นหัวหน้าฝ่ายการตลาดทั้งหมดของแอปเปิล เขาต้องเคยเห็น Instagram เป็นหนึ่งในสิ่งที่ดึงให้ผู้ใช้เลือก iOS ก่อนแพลตฟอร์มอื่น ๆ โดยก่อนหน้านี้ Instagram เองก็ได้ถูกเลือกนำมาเป็นโชว์เคสบน App Store หลาย ๆ ครั้งรวมถึงการได้รับตำแหน่ง App of the Year จากแอปเปิล
ยังคงมีเรื่องราวออกมาต่อเนื่องจากดีล Facebook ซื้อ Instagram มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งนอกเหนือจากข่าวก่อนหน้านี้ว่า Mark Zuckerberg ใช้เวลาเพียง 2 วันในการซื้อกิจการ ทาง WSJ อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องซึ่งเผยรายละเอียดเพิ่มเติมว่าดีลนี้เริ่มขึ้นในวันที่ 5 เมษายนโดย Zuckerberg ได้ปรึกษาซีโอโอ Sheryl Sandberg เรื่องการซื้อ Instagram จากนั้นก็ตัดสินใจโทรศัพท์หา Kevin Systrom ซีอีโอ Instagram โดยตรงเลยเพราะเกรงว่าถ้าเปิดการเจรจาผ่านทนายแบบการซื้อกิจการขนาดใหญ่ทั่วไป Systrom จะปฏิเสธ
หนังสือพิมพ์ The New York Times มีสกู๊ปพิเศษเกี่ยวกับชีวิตของ Kevin Systrom ผู้ก่อตั้ง Instagram ว่ามีพื้นฐานอย่างไร มาก่อตั้งบริษัทจนโด่งดัง และกลายเป็นเศรษฐีหมื่นล้านได้อย่างไร
บทความของ The New York Times ให้ความเห็นว่าตัว Kevin Systrom มีคอนเนคชันในวงการไอทีของสหรัฐที่ค่อนข้างดี เขาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เคยทำงานที่กูเกิล และสนิทสนมกับผู้ก่อตั้งบริษัท-นักลงทุนในซิลิคอนวัลเลย์หลายคน ส่งผลให้เขามีโอกาสในการระดมทุนหรือหาทีมงานเยอะได้ เป็นตัวอย่างที่ดีของกิจการสตาร์ตอัพที่ใช้ประโยชน์จากซิลิคอนวัลเลย์อย่างเต็มที่
ตั้งแต่ย่างเข้าเดือนเมษายนมา เรียกได้ว่าเป็นเดือนแห่งความร้อนแรงของ Instagram จริงๆ เพราะมีข่าวออกมาแทบจะรายวัน ตั้งแต่ออก Instagram บน Android มาเมื่อตอนต้นเดือน แล้วก็มีคนดาวน์โหลดไปใช้เป็นหลักล้าน ตามมาด้วยข่าวดังที่ Facebook เข้าซื้อกิจการ
มาวันนี้ มีข่าวล่าสุดออกมาว่าจำนวนผู้ใช้ Instagram เกิน 40 ล้านคนแล้ว โดยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จาก 30 ล้านคนเป็น 40 ล้านคนในช่วง 10 วันหลังนี้เอง เรียกได้ว่าเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 1 ล้านคนเลยทีเดียว อาจจะเป็นเพราะอานิสงค์ของเวอร์ชั่นบน Android รวมทั้งข่าวการเข้าซื้อกิจการโดย Facebook ด้วย
ข่าวนี้เก่าไปหลายเดือน แต่น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่อยากรู้ว่าบริการยอดฮิตอย่าง Instagram สามารถรองรับโหลดปริมาณมหาศาลจากผู้ใช้ทั่วโลกได้อย่างไร
เรื่องนี้มีอธิบายไว้ในบล็อก Instagram Engineering
เซิร์ฟเวอร์
ระบบปฏิบัติการเซิร์ฟเวอร์เป็น Ubuntu 11.04 โดยทีมงานบอกว่า Ubuntu รุ่นก่อนๆ มีปัญหากับ EC2 แต่ในรุ่นนี้ไม่มีแล้ว
Load Balancing
เดิมที Instagram ใช้เซิร์ฟเวอร์ NGINX สองตัว สลับกันแบบ DNS Round-Robin
หนังสือพิมพ์ The New York Times รายงานข้อมูลวงในของการซื้อกิจการ Instagram ว่ามีเบื้องหลังอย่างไร
แหล่งข่าวของ The New York Times ให้ข้อมูลว่างานนี้ Mark Zuckerberg คิดเองทำเองทั้งหมด ซึ่งผิดไปจากการซื้อกิจการครั้งอื่นๆ ของ Facebook ที่เขาไม่ค่อยเข้ามายุ่งเท่าไรนัก
เหตุการณ์เริ่มขึ้นในวันศุกร์ก่อนหน้าข่าวการซื้อกิจการ โดย Zuckerberg เป็นคนโทรไปหา Kevin Systrom ซีอีโอของ Instagram ด้วยตัวเองว่าอยากซื้อบริษัท และภายใน 48 ชั่วโมงหลังจากนั้น สองบริษัทก็ตกลงเงื่อนไขการเจรจากันเรียบร้อย
โดยปกติแล้ว หน้าที่การซื้อกิจการของ Facebook เป็นของ Amin Zoufonoun ผู้บริหารอีกคนที่ย้ายข้ามวิกมาจากกูเกิล
ตอบสนองอย่างรวดเร็วถูกใจแฟนๆ อย่างมาก ล่าสุด Instagram ออกรุ่น 1.0.4 บน Google Play เรียบร้อยแล้ว แอพรุ่นนี้แก้ปัญหาหลายๆ อย่างในรุ่นก่อนหน้า จุดที่สำคัญคงเป็นการรองรับ HTC One X มือถือเรือธงตัวล่าสุดจากค่าย HTC และแท็บเล็ต-มือถือที่ใช้ชิป NVIDIA Tegra 3 แล้ว
การแก้ไขอื่นๆ ได้แก่แก้บั๊กสำหรับแท็บเล็ต, แก้บั๊กรูปจาก Instagram ไม่โผล่ใน Gallery และปรับปรุงการแสดงรายชื่อสถานที่ใน geotag เป็นต้น
ผู้ใช้ Android ก็อัพเดตกันตามสะดวกผ่าน Google Play นะครับ
ที่มา - Android Central
ข่าวดียังมีมาต่อเนื่องโดยล่าสุด Instagram ได้ทวีตประกาศว่าแอพ Instagram สำหรับ iOS ได้ก้าวขึ้นสู่อันดับ 1 แอพฟรียอดนิยมบน App Store แล้ว ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่แอพนี้ออกมาตั้งแต่ปลายปี 2010 ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านี่เป็นผลพวงมาจากการประกาศเข้าซื้อกิจการของ Facebook นั่นเอง ทั้งนี้อันดับดังกล่าวเป็นเฉพาะส่วน App Store อเมริกานะครับ เพราะในไทยยังไม่ติดอันดับแต่อย่างใด
Instagram บน Android ทำสถิติใหม่อีกครั้งแบบเงียบๆ หลังข่าว Facebook เข้าซื้อกิจการกลบไปหมด โดยตัวเลขล่าสุดใน Google Play ได้แสดงยอดดาวน์โหลดของ Instagram ล่าสุดว่าเข้าสู่ช่วง 5 ถึง 10 ล้านครั้งแล้ว นั่นเท่ากับว่า Instagram ใช้เวลาเพียง 6 วันเท่านั้นกับยอดดาวน์โหลดถึง 5 ล้านครั้ง นี่แสดงให้เห็นถึงพลังแห่งการรอคอยแอพนี้บน Android อย่างมากนั่นเอง
จากข่าว Facebook ซื้อ Instagram แล้ว ก็คงเป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จของ Instagram ได้เป็นอย่างดี แต่จุดเริ่มต้นของ Instagram นั้นแตกต่างจาก Facebook ของ Mark Zuckerberg อยู่มากพอสมควร เพราะตอนแรกนั้น Kevin Systrom ซีอีโอของ Instagram เขียนโปรแกรมไม่เป็น
ข่าว Facebook ซื้อ Instagram แล้ว เมื่อคืนนี้เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายของใครหลายๆ คน (ผมด้วย) และมีปฏิกริยาที่หลากหลายแตกต่างกันไป แต่ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือคัดค้าน ดีลนี้ก็คงเดินหน้าต่อไปไม่มีย้อนกลับ
การซื้อกิจการครั้งนี้ถือว่าสำคัญมาก เพราะถ้าพิจารณาดีๆ แล้วมันคือ "social network ที่ใหญ่ที่สุดในโลก" ซื้อกิจการ "social network บนมือถือรายใหญ่ของโลก" (พูดง่ายๆ คือเบอร์ 1 ซื้อเบอร์ 1 ในอีกวงการที่ใกล้เคียงกัน) และสะท้อนให้เห็นความเคลื่อนไหว ยุทธศาสตร์ กลยุทธที่น่าสนใจมากมาย
ในโอกาสนี้ก็ขอลองเขียนบทวิเคราะห์มุมมองของผมไว้สักหน่อยนะครับ
หลังจากอีกดีลประวัติศาสตร์ Facebook ซื้อ Instagram ที่มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์เกิดขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับ Instagram ที่มีอายุแค่ 2 ปี แต่สามารถขายกิจการได้มูลค่าสูงมากขนาดนี้ ก็เช่นเคยว่าในอีกด้านหนึ่ง กลุ่มผู้ใช้ Instagram บางส่วนได้ออกมาแสดงความไม่พอใจอีกครั้ง จากรอบที่แล้วเป็นประเด็น Instagram บน Android คราวนี้พวกเขาก็ไม่พอใจว่า Facebook จะเข้ามาทำลายความเป็นเครือข่ายสังคมพิเศษของ Instagram ไป
เว็บหลายแห่งได้รวบรวมการแสดงความคิดเห็นผ่าน Twitter ของเหล่าผู้ใช้ Instagram ในประเด็นดังกล่าวไว้ดังนี้
Kevin Rose - CEO ของ Instagram ได้เปิดเผยในบล็อกของ Instagram ว่าเวลานี้เขาได้ตกลงกับ Facebook เรื่องของการขาย Instagram ให้ทาง Facebook ด้วย โดยเขาและทีมงานจะยังคงทำ Instagram ต่อไป
ทั้งนี้ Kevin Rose ยังคงให้สัญญาว่า Instagram จะยังคงสามารถแชร์รูปไปยัง Social Network ต่างๆได้เช่นเดิม และ เขาจะยังคงกุมบังเหียนการพัฒนา Instagram เช่นเดิม เขาหวังว่าจะสามารถพัฒนาลูกเล่นใหม่ๆ ให้ผู้ใช้ Instagram แน่นอน
ที่มา - Instagram Blog
หลังจากสร้างฐานผู้ใช้ได้อย่างเหนียวแน่นจนมีผู้ใช้ 35 ล้านคน (ที่ดูจะไม่อ้างว้างเหมือนผู้ใช้ 100 ล้านคนของ Google+) บริษัทที่ไม่มีโมเดลธุรกิจของตัวเองอย่าง Facebook ก็ลงเอยในแบบที่บริษัทแนวเดียวกันทุกบริษัทฝันไว้ คือมีบริษัทรวยๆ เข้ามาซื้อในราคาที่สูงลิบ
การเข้าซื้อครั้งนี้ยังไม่มีรายละเอียดอะไรมากไปกว่าการยืนยันการเข้าซื้อ ไม่มีการประกาศมูลค่า เพียงแต่บอกว่า Instragram จะไม่หายไปไหน และจะร่วมมือกับ Facebook เพื่อสร้าง Instragram ให้ดีขึ้นไปเท่านั้น
ที่มา - Instragram Blog
หลังจากที่ Instagram เพิ่งเปิดตัวไปบน Android และมีฐานผู้ใช้กว่า 30 ล้านคน วันนี้ Instagram ได้ประกาศเข้าร่วมส่วนหนึ่งอาณาจักร Facebook แล้ว
ถึงแม้ Instagram จะมีเวอร์ชัน Android แล้ว แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนจะชอบใช้ Instagram ไปเสียทั้งหมด ทางเว็บไซต์ Gizmodo จึงได้รวบรวมแอพลักษณะเดียวกันตัวอื่นๆ มาให้เป็นทางเลือก 5 ตัว (ซึ่งบางตัวก็เก่งกว่า Instagram ในบางเรื่อง)
หลังจากที่มีอัพเดตแรกของ Instagram for Android วันนี้ได้ปล่อยอัพเดตตัวที่ 2 เป็นที่เรียบร้อย พร้อมรองรับการติดตั้งแอพลิเคชันบน SD Card, รองรับอุปกรณ์ที่ใช้ Wi-Fi (รวมถึงแท็บเล็ตด้วย) และแก้บั๊กเสียงถ่ายรูปอีกด้วย
อัพเดตได้แล้ววันนี้ที่ Play Store
ที่มา : Engadget
Satnam Narang นักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์จาก Symantec ออกมาเปิดเผยตัวอย่างของสแปมตัวใหม่ที่กำลังระบาดอยู่บน Instagram โดยสแปมตัวนี้จะทำงานโดยการแสดงข้อความผ่านทางการแสดงความคิดเห็นของรูปภาพว่าผู้ใช้ได้รับเงินรางวัลเป็นจำนวนเงินต่างๆ และหลอกล่อผู้ใช้ให้กรอกข้อมูลส่วนตัวลงไปในเว็บไซต์ของแฮกเกอร์ ผู้ใช้งานจึงควรที่จะเพิ่มความระมัดระวังในการใช้งานมากขึ้น และหมั่นติดตามข่าวสารเพื่อรู้เท่าทันและนำไปสู่การป้องกันที่ถูกต้องครับ
ในแหล่งที่มามีตัวอย่างและรูปแบบการทำงานเบื้องต้นของสแปมตัวนี้ แนะนำให้เข้าไปดูเพื่อความปลอดภัยในการใช้งานครับ