แอปเรียกรถโดยสารอย่าง Uber และ Grab (โดยเฉพาะ GrabCar) สร้างความไม่พอใจกับผู้ขับขี่รถโดยสารเดิมไปทั่วโลก ล่าสุดอินโดนีเซียพยายามหาจุดร่วมระหว่างสองกลุ่มด้วยการเปิดทางให้รัฐบาลท้องถิ่นควบคุมราคาและปริมาณรถของแอปเหล่านี้ หลังจากออกกฎควบคุมแล้วแต่คนขับแท็กซี่ยังแสดงความไม่พอใจอยู่

กฎหมายใหม่เปิดทางให้รัฐบาลท้องถิ่นสามารถกำหนดราคาขั้นต่ำและสูงของแอปเรียกรถ พร้อมกับจำกัดปริมาณรถได้ด้วย สำหรับเหตุผลการออกกฎครั้งนี้ ทางขนส่งอินโดนีเซียยอมรับตรงๆ ว่าเป็นการหาจุดร่วมระหว่างคนขับรถโดยสารเดิมกับกลุ่มใหม่ที่ให้บริการผ่านแอป

ในเมื่อประสบปัญหากฎหมายท้องถิ่น ก็ต้องให้คนท้องถิ่นที่เชี่ยวชาญมาช่วย Grab ประกาศแต่งตั้ง Badrodin Haiti อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติของอินโดนีเซีย ที่เพิ่งเกษียณไปเมื่อปีที่แล้ว ในตำแหน่ง President Commissioner of Grab Indonesia หรือประธานบอร์ดของ Grab Indonesia

Grab คาดหวังให้ Haiti เข้ามาดูแล ช่วยเหลือและให้คำแนะนำที่เกี่ยวข้องกับปัญหาด้านกฎหมายท้องถิ่น โดยปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้ให้บริการเรียกรถในปัจจุบันคือความล่าช้าของกระบวนการขอใบอนุญาตและตรวจสภาพรถ สำหรับรถยนต์แต่ละคันที่จะนำมาให้บริการ จนเกิดเป็นความขัดแย้งย่อมๆ ระหว่างรัฐบาลและผู้ให้บริการ รวมถึงอาจเข้ามาช่วยกรณีความขัดแย้งกับผู้ให้บริการรถแท็กซี่และแอพเรียกรถท้องถิ่นของอินโดนีเซียด้วย

Uber ในอินโดนีเซียประกาศความร่วมมือกับ Express Group ผู้ให้บริการแท็กซี่อันดับ 2 ของประเทศ ซึ่งดีลนี้ทำให้ Uber สามารถเข้าถึงแท็กซี่กว่า 11,000 คันและคนขับอีกกว่า 17,000 คนของ Express

ความร่วมมือนี้ทำให้คนขับแท็กซี่ของ Express สามารถกดรับบริการจากผู้ใช้ UberX ให้พื้นที่ใกล้เคียงได้ ขณะเดียวกันดีลนี้ยังมีออพชันที่คนขับ Uber สามารถยืมรถภายใต้การดูแลของ Express มาใช้งานได้ โดยไม่มีแบรนด์หรือสัญลักษณ์ของแท็กซี่ และจ่ายค่ายืมตามจำนวนครั้งที่รถถูกนำไปให้บริการ อย่างไรก็ตาม Uber ยังไม่ให้รายละเอียดว่าแผนการทั้ง 2 ช่วงนั้นจะเริ่มเมื่อใด

เห็นว่าข่าวนี้กำลังเป็นที่ฮือฮาในประเทศอินโดนีเซีย เมื่อมีชายนักธุรกิจนามว่า Pablo Putera Benua ใช้แอพ Tinder และได้จับคู่กับ Rey Utami ดาราและพิธีกรหญิงยอดนิยมของที่นั่น และใช้เวลาคบหาดูใจเพียง 7 วัน และประกาศแต่งงานกัน

The Jakarta Post รายงานว่า หลังจากพบกันวันแรก Pablo ซื้อรถให้ในวันถัดมา วันที่สามก็มอบนาฬิกาข้อมือเรือนละกว่า 3 แสนเหรียญสหรัฐฯ ให้ พร้อมขอแต่งงานและพบญาติผู้ใหญ่ในวันถัดมา ซึ่งงานแต่งงานของพวกเขาเพิ่งจัดไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แม้จะมีเรื่องราววิจารณ์กันหนาหู แต่คุณค่าข่าวที่ได้คือทำให้ทราบว่าแอพพลิเคชั่นหาคู่แบบนี้สามารถทำให้คนพบกับความรักครั้งใหม่ได้จริง

เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal (WSJ) รายงานว่า Samsung กำลังกลับมาแย่งส่วนแบ่งตลาดในจีน อินเดีย และอินโดนีเซีย ได้อีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ต้องเสียตำแหน่งเจ้าตลาดไปในปี 2014 และ 2015 ซึ่งกลยุทธ์ของ Samsung ก็คือการตัดราคาและผลิตโทรศัพท์มือถือในราคาที่ถูกลง ผู้คนเข้าถึงได้มากขึ้น

WSJ ได้ไปสัมภาษณ์ผู้ใช้รายหนึ่ง ซึ่งเปลี่ยนมาใช้โทรศัพท์อย่าง Galaxy J2 ที่เป็นโทรศัพท์ตอบโจทย์ตลาดล่าง ซึ่งผู้ใช้ระบุว่ามีคุณภาพที่ดีกว่าแบรนด์ของท้องถิ่นมาก และได้รับความนิยมจากทั้งในอินเดียและอินโดนีเซีย ส่วนในจีน Galaxy A ก็ถือว่าทำให้ Samsung ที่ตอนนี้เป็นอันดับ 6 ของตลาด มีที่ยืนได้ดีขึ้น แสดงให้เห็นว่า Samsung เองมุ่งไปสู่ตลาดโทรศัพท์มือถือในระดับกลางและล่างมากขึ้น สอดคล้องไปกับแนวทางของการลดต้นทุนที่บริษัทกำลังทำอยู่

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ที่ให้สัมภาษณ์กับทาง WSJ ระบุว่า Samsung เองมีความเสี่ยงในการลงมาเล่นตลาดล่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนต่างกำไรที่จะลดลงมาก นอกจากนั้นยังเป็นเรื่องของการลดมูลค่าของแบรนด์ลงไปด้วย

ที่มา - The Wall Street Journal

ข่าวเก่าหน่อยนะครับแต่เห็นว่าน่าจะมีประโยชน์กัน

รัฐบาลอินโดนีเซีย โดยโฆษกของกระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสาร ออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนที่แล้วว่ามีการร้องขอให้สื่อสังคมออนไลน์และระบบส่งข้อความต่างๆ ลบสติกเกอร์ที่สื่อถึงเพศทางเลือก (LGBT) ออกจากระบบของสื่อสังคมออนไลน์และระบบส่งข้อความต่างๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ LINE ที่ตอบรับคำขอดังกล่าวนี้

กลุ่มคนขับรถแท็กซี่ในอินโดนีเซียหลายพันคนนัดกันรวมตัวกันที่กรุงจาร์กาตาในวันพรุ่งนี้ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลสั่งแบนบริการเรียกรถผ่านแอพ

บริการเรียกรถโดยสารผ่านแอพอย่าง Grab, Uber และ Go-jek (สตาร์ทอัพในอินโดนีเซียให้บริการเรียกจักรยานยนต์รับจ้างผ่านแอพ) ซึ่งสร้างการแข่งขันด้านราคาค่าโดยสารอย่างรุนแรง ทำให้กลุ่มบริษัทแท็กซี่เดิมของอินโดนีเซียประสบปัญหาผลกำไรหดหาย

Bambang Brodjonegoro รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของอินโดนีเซียประกาศว่าบริษัทต่างชาติที่ให้บริการบนอินเทอร์เน็ตแก่ประชาชนในอินโดนีเซียต้องทำการเสียภาษีจากรายได้แก่รัฐ มิฉะนั้นอาจถูกบล็อคการให้บริการ หรือจำกัดแบนด์วิดท์ในประเทศ

Brodjonegoro อธิบายว่าบริษัทต่างชาติอย่าง Google, Facebook หรือ Twitter ต้องดำเนินการจัดตั้งสาขา หรือตั้งบริษัทลูกเป็นนิติบุคคล พร้อมทั้งเสียภาษีตามข้อกำหนดของกฎหมายว่าด้วยเรื่องการประกอบธุรกิจของบริษัทต่างชาติในอินโดนีเซีย เช่นเดียวกับที่บังคับใช้กับกลุ่มบริษัทน้ำมันที่เข้าไปลงทุน

กูเกิลประกาศความช่วยเหลือในการฝึกอบรมโปรแกรมเมอร์ด้านอุปกรณ์เคลื่อนที่ให้กับชาวอินโดนีเซียรวม 100,000 คนในช่วงเวลาสี่ปี โดยแบ่งความช่วยเหลือออกเป็นสามส่วน

1. ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในการสร้างวิชาหนึ่งเทอมสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชั่นแอนดรอยด์
2. แปลวิชาเรียนใน Udacity เป็นภาษาบาฮาซา อินโดนีเซีย
3. จัดอบรม Google Developers Study Jams ตามเมืองใหญ่ 5 เมืองทั่วอินโดนีเซีย

นอกจากการฝึกอบรมแล้ว กูเกิลยังระบุว่ามีความช่วยเหลืออื่นๆ เช่นการช่วยประชาสัมพันธ์แอปพลิเคชั่น หรือการสร้างชุมชนนักพัฒนา รวมไปถึงการลดราคาขั้นต่ำแอปพลิเคชั่นบน Google Play ให้เข้าถึงผู้ใช้ทั่วไปได้ง่ายขึ้น

Project Loon โครงการกระจายอินเทอร์เน็ตสู่พื้นที่ห่างไกลของ Alphabet ได้ร่วมมือกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมในอินโดนิเซีย 3 บริษัท ได้แก่ Telkomsel, XL Axiata และ Indosat

Mike Cassidy หัวหน้า Project Loon และ Sergey Brin ประธานบริษัท Alphabet และผู้บริหารบริษัทโทรคมนาคมในอินโดนิเซีย 3 บริษัทได้จัดงานแถลงข่าวในแคลิฟอร์เนียถึงความร่วมมือ Project Loon ในอินโดนิเซีย โดยก่อนหน้านี้ Project Loon ได้ส่งบอลลูนขึ้นเหนือพื้นที่ 12 ไมล์เพื่อส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตในนิวซีแลนด์มาแล้ว ตามมาด้วยออสเตรเลียและบราซิล โดยอินโดนิเซียถือเป็นประเทศที่ 4 ที่จะได้ส่ง Project Loon โดย Cassidy เผยแผนว่าจะส่งบอลลูนขึ้นไปลอยเหนือประเทศอินโดนิเซียให้ได้ 100 ลูก

บริษัท Cyanogen ขยับขยายตัวเองออกจากตลาดอินเดียมายังอินโดนีเซียแล้ว ผ่านความร่วมมือกับโอเปอเรเตอร์ Smartfren ออกมือถือรุ่น Andromax Q ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Cyanogen OS โดยตรง

Andromax Q เป็นมือถือราคาถูก ใช้หน้าจอ 4.5" FWVGA, ซีพียู Snapdragon 410, แรม 1GB, รอม 8GB, กล้อง 2MP/5MP วางขายในราคา 1,299,000 รูเปียห์ หรือประมาณ 3,300 บาท มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Cyanogen OS 12 ที่อิงอยู่บน Android 5.0 Lollipop

Smartfren ยังมีมือถืออีกรุ่นที่สเปกเท่ากันคือ Andromax Qi แต่ไม่ได้ใช้รอมจาก Cyanogen ครับ

ด้วยขนาดประเทศที่ใหญ่ และเต็มไปด้วยหมู่เกาะจำนวนมาก การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของอินโดนีเซียจึงยังลำบาก และค่อนข้างแพง แม้ว่าจะอยู่ในยุคที่สมาร์ทโฟนเติบโตสูงก็ตาม เพื่อแก้ปัญหานี้ ผู้ให้บริการดาวเทียมอย่าง BigNet จึงเดินหน้าเข้ามาแก้ไขสถานการณ์นี้แล้ว

ล่าสุด BigNet เข้าจับมือกับ Kacific ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ความเร็วสูงผ่านดาวเทียมสัญชาติสิงคโปร์ โดยทาง Kacific จะทำการส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตครอบคลุมกลุ่มเกาะของอินโดนีเซียตะวันออก ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 17,000 เกาะด้วยกัน

สำหรับอุปกรณ์ในการรับสัญญาณจะเป็นจานดาวเทียมขนาดเล็ก ซึ่งสามารถติดตั้งได้ง่าย และเหมาะกับเป้าหมายของแผนนี้ทั้งโรงเรียน องค์กร ที่ทำการรัฐฯ เป็นต้น

ไมโครซอฟท์อินโดนีเซียเผยภาพบนเฟซบุ๊กที่มีข้อความ "Dual simcard buat yang smart!" (แปลได้ว่า "Dual Sim card made that smart") พร้อมข้อความ "Coming soon"

จากภาพ (ดูได้ที่ท้ายข่าว) จะเห็นว่าไม่มีปุ่มจริงสามปุ่มด้านหน้าเครื่อง กรอบตัวเครื่องสีส้ม และหน้าจอสามารถแสดงผลไทล์ขนาดกลางได้ 3 คอลัมน์ เว็บไซต์ Nokiapoweruser คาดว่ามือถือนี้จะมาแทน Lumia 1320 อย่าง RM-1067 ซึ่งผ่านการรับรองที่อินโดนีเซียไปแล้ว เพราะไมโครซอฟท์ได้เปิดตัว Lumia สองซิมในอินโดนีเซีย รวมถึง Lumia 435 และ Lumia 532 ไปหมดแล้ว (อ้างอิง)

กูเกิลเพิ่งเปิดตัว Android One ในอินโดนีเซียวันนี้ และมีคนตาดีหลายคนเห็นข้อความว่ามันจะมาพร้อมกับ Android 5.1 Lollipop

หลักฐานนี้มาจากเว็บไซต์ Android One Indonesia ที่เขียนชัดเจนว่า

Introducing Android One. Fast and responsive smartphones running the latest version of Android, Lollipop 5.1.

ส่วนในภาพโปรโมท Android One ทางทวิตเตอร์ (ภาพเดียวกับข่าวเก่า) นาฬิกาบนหน้าจอก็ใช้ตัวเลข 5:10 ตามธรรมเนียมของกูเกิลที่จะตั้งเวลาในภาพตามเลขเวอร์ชัน

โครงการ Android One โทรศัพท์ราคาถูกที่ได้รับซอฟต์แวร์จากกูเกิลโดยตรงเริ่มแรกเปิดตัวในอินเดีย, บังคลาเทศ, เนปาล, และศรีลังกา ตอนนี้กูเกิลก็เปิดตัวเพิ่มในอินโดนีเซียแล้ว

Android One ในอินโดนีเซียจะขายในสามแบรนด์ ได้แก่ Evercoss, Mito, และ Nexian ราคาขายจะถูกกว่า 1.5 ล้านรูเปียห์ หรือต่ำกว่า 4,000 บาท ทุกรุ่นได้รับ Android 5.0 Lollipop ตั้งแต่แรก ตัวโทรศัพท์รองรับสองซิมพร้อมวิทยุเอฟเอ็ม ใส่ microSD เพิ่มหน่วยความจำได้ และได้รับอัพเดตโดยตรงจากกูเกิลสองปี

Xiaomi เพิ่งจัดงานเปิดตัว Redmi ในอินโดนีเซียไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว วันนี้ก็เป็นวันขายวันแรกตามกำหนด ปรากฎว่าสินค้าล็อตแรก 5,000 เครื่องขายหมดภายใน 7 นาทีเท่านั้น

แม้ทาง Lazada และ Xiaomi จะระบุว่าขายสินค้าหมดใน 7 นาทีแต่ระหว่างนั้นเว็บ Lazada ก็ล่มไปนานถึง 42 นาที ทำให้ระยะเวลาตั้งแต่เริ่มขายจนขายหมดกินเวลาเกือบชั่วโมง หลังจบการขายสินค้าล็อตแรก มีผู้ลงทะเบียนรอสินค้าอีกกว่าหกหมื่นคน

ที่มา - Tech in Asia

วันนี้ทาง Xiaomi จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว Redmi 1S ในอินโดนีเซียอย่างเป็นทางการ โดยจะเริ่มวางขายผ่านเว็บ Lazada ในอินโดนีเซียเริ่มขายวันแรกวันที่ 4 กันยายนนี้

ราคาขายของ Redmi 1S อยู่ที่ 1,499,000 รูเปียห์ หรือประมาณ 4,100 บาท

คนไทยก็รอกันต่อไปครับ

update: งานนี้ Hugo Barra เดินทางไปเปิดงานด้วยตัวเอง แม้ว่าตอนนี้ยังเปิดตัวเฉพาะ Redmi 1S แต่แฟนๆ Xiaomi ในงานก็เตรียมป้ายเรียกร้องให้เปิดตัวครบทุกรุ่นเข้ามางานเปิดตัวด้วยครับ จาก +Hugo Barra

แพลตฟอร์มสอนภาษาเบื้องต้น Duolingo ได้รองรับภาษาในเอเชียเพิ่มคืออินโดนีเซียและเกาหลีแล้ว ตามหลังภาษาจีน ญี่ปุ่น และเวียดนามที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้

Duolingo มีภาษาที่สอนอยู่ทั้งหมด 6 ภาษาหลักๆ คืออังกฤษ สเปน ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี และโปรตุเกส โดยกลุ่มภาษาในเอเชียข้างต้นจะมีสอนเฉพาะภาษาอังกฤษเท่านั้น (แต่ยังคงเรียนภาษาอื่นๆ ได้โดยใช้ภาษาอังกฤษ)

แอพแชท BBM ของ BlackBerry ได้รับรางวัลจากงานแสดงโทรศัพท์มือถือ Indonesia Cellular Show ในหมวดแอพแชทยอดเยี่ยม ซึ่งการแจกรางวัลในงานนี้มีทั้งสิ้น 18 สาขา โดยใช้การตัดสินจากคณะกรรมการและคะแนนโหวตจากประชาชนกว่า 13,000 คน

BBM ยังคงได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นตลาดสำคัญของ BlackBerry (BlackBerry Z3 เริ่มขายที่อินโดนีเซียที่แรก) โดย BlackBerry เผยว่าความนิยม BBM ในอินโดนีเซียนั้นเป็นการใช้งานมาจากในทุกแพลตฟอร์ม

เราอาจต้องบอกว่าสำหรับคนอินโดนีเซียแล้ว BBM ยังคงทิ้ง WhatsApp อยู่อย่างไม่เห็นฝุ่นนะครับ

ที่มา: CrackBerry

เพิ่งบุกเข้ามาเลเซียไปเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม ล่าสุด Xiaomi ประกาศเตรียมวางขายสมาร์ทโฟนในอินโดนีเซียอย่างเป็นทางการแล้ว ตามแผนขยายตลาดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ประกาศไว้ตั้งแต่ต้นปี

Hugo Barra รองประธานของ Xiaomi Global ยืนยันการบุกอินโดนีเซียในงาน International Cellular Show (ICS) งานแสดงสินค้าคล้ายกับ CES ของสหรัฐฯ ว่า Xiaomi จะเริ่มวางขายสินค้าของตัวเองในอินโดนีเซียเร็วๆ นี้ โดยมี Erajaya ผู้ขายสมาร์ทโฟนรายใหญ่ในอินโดนีเซียให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าจะเริ่มขายประมาณเดือนสิงหาคม และในงาน ICS ดังกล่าว Erajaya เองก็มีบูธแสดงสินค้าของ Xiaomi ตั้งโชว์แล้ว

BlackBerry เริ่มวางขาย BlackBerry Z3 มือถือราคาถูก (ที่จ้าง Foxconn ผลิต) ในประเทศอินโดนีเซียซึ่งถือเป็นฐานที่มั่นอันแข็งแกร่งของบริษัท

ผลการวางขายเบื้องต้นออกมาดีกว่าที่คาด โดยร้านค้าปลีกในอินโดนีเซียได้รับยอดสั่งซื้อล่วงหน้าจนหมดเกลี้ยงแล้ว และงานเปิดตัวก็มีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากด้วย อย่างไรก็ตาม BlackBerry ไม่ได้เปิดเผยยอดขายเป็นตัวเลขว่าขายได้เยอะน้อยแค่ไหนครับ

ที่มา - CrackBerry (1), CrackBerry (2)

ข่าวเก่าสักหน่อย แต่เห็นว่ายังไม่มีท่านใดเขียนถึงเลยเอามาลงครับ

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา หน่วยงานภาครัฐของอินโดนีเซีย ประกาศแผนที่จะจัดเก็บภาษีฟุ่มเฟือยสำหรับสินค้ากลุ่มโทรศัพท์มือถือทุกประเภท เพื่อลดความร้อนแรงของตลาดที่กำลังเติบโตอย่างมากในเวลานี้

โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของอินโดนีเซีย ให้สัมภาษณ์กับทาง The Jakarta Post โดยระบุว่า โทรศัพท์มือถือจัดเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย (luxury goods) ขณะที่ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมของอินโดนีเซีย กำลังอยู่ในการวางแผน โดยเฉพาะการกำหนดราคาขั้นต่ำของโทรศัพท์มือถือ และระบุว่าโทรศัพท์มือถือทุกรุ่นจะได้รับผลกระทบจากมาตรการนี้

Facebook เปิดสำนักงานในอินโดนีเซียแบบเงียบๆ แล้ว หลังจากปฏิเสธตลอดว่าจะมาเปิดสำนักงานที่นี่

Dan Neary ผู้บริหารของ Facebook ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกให้สัมภาษณ์สั้นๆ ว่าการเปิดสำนักงานในอินโดนีเซียจะช่วยให้บริษัทใกล้ชิดกับวงการโฆษณาและบริษัท SME ท้องถิ่นมากขึ้น

ปัจจุบัน Facebook มีผู้ใช้ในอินโดนีเซียมากถึง 65 ล้านคน หรือคิดเป็น 90% ของผู้ใช้เน็ตชาวอินโดนีเซียแล้ว และตั้งใจดึงคนอินโดนีเซียกลุ่มที่ยังเข้าไม่ถึงอินเทอร์เน็ตให้มาเป็นลูกค้าของ Facebook ต่อไป

ที่มา - Tech in Asia

สำนักข่าวอินโดนีเซีย Kompas รายงานว่ากระทรวงการศึกษาและวัฒนธรรมของอินโดนีเซีย มีมติว่าจะเริ่มใช้แบบข้อสอบออนไลน์กับการสอบระดับชาติของอินโดนีเซียในปี 2015 นี้ โดยจะเริ่มกับบางโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกก่อน

ระบบสอบคัดเลือกผ่านอินเทอร์เน็ตนี้คาดว่าจะมีโรงเรียนเข้าร่วมในแรกเริ่มประมาณ 10-30 แห่งต่อจังหวัด โดยมีผู้ให้บริการเครือข่ายในประเทศอย่าง Telkomsel เป็นผู้ดูแลระบบร่วมกับกระทรวงการศึกษาฯ

BlackBerry เปิดตัว BlackBerry Z3 มือถือ BB10 รุ่นราคาถูกตัวแรกของบริษัท เน้นจับตลาดอินโดนีเซียโดยเฉพาะ

BlackBerry Z3 เคยมีภาพหลุดมาก่อนหน้านี้ มันคือมือถือตัวที่ BlackBerry ใช้วิธีจ้าง Foxconn ผลิตให้ เพื่อลดต้นทุนของบริษัทเอง

สเปกมีข้อมูลแค่คร่าวๆ คือหน้าจอสัมผัส 5" ไม่มีคีย์บอร์ด, แบตเตอรี่อยู่ได้นาน, ระบบปฏิบัติการ BlackBerry 10.2.1 รุ่นใหม่ล่าสุด จะเริ่มวางขายในอินโดนีเซียเดือนเมษายนนี้ (ราคายังไม่เปิดเผย) ส่วนแผนการวางขายในประเทศอื่นยังไม่มีข้อมูล