หลายคนอาจลืมไปแล้วว่า Facebook มีแอพเวอร์ชัน Windows 10 ให้ดาวน์โหลดบน Microsoft Store ด้วย และชะตากรรมของแอพที่คนใช้น้อยๆ แบบนี้ก็ไม่ต้องเดากันยากนัก
ล่าสุด Facebook แจ้งเตือนผู้ใช้แอพเหล่านี้ว่าจะปิดแอพในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2020 โดยแนะนำให้ใช้ Facebook ผ่านเว็บเบราว์เซอร์แทน ส่วนแอพ Messenger for Windows ยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ
Facebook มีเครือข่ายโฆษณา Facebook Audience Network มาตั้งแต่ปี 2014 รูปแบบธุรกิจเหมือนกับ Google AdSense หรือ AdMob ที่หาโฆษณามาลงแอพ เว็บหรือวิดีโอ ที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในระบบของ Facebook เอง
แต่ล่าสุด Facebook ประกาศปิดบริการ Audience Network สำหรับเว็บไซต์และวิดีโอแล้ว เหลือแต่โฆษณาบนแอพเท่านั้น การเปลี่ยนแปลงจะมีผลในวันที่ 11 เมษายน 2020 ซึ่ง Facebook แนะนำให้เจ้าของเว็บหรือวิดีโอถอดโค้ดโฆษณาออกจากระบบของตัวเอง
มาร์ก ซักคอเบิร์ก โดนองค์กรการกุศล และการศึกษา 129 แห่งทั่วโลก ลงนามกดดันให้ Facebook หยุดการทำแชทเข้ารหัสในทุกแพลตฟอร์มในเครืออย่างที่ Facebook เคยประกาศไว้ (ทั้ง Facebook, WhatsApp และ Instagram) เพราะจะเอื้อประโยชน์ต่อผู้ร้ายที่หวังหาประโยชน์และล่วงละเมิดเด็ก
Facebook ประกาศแต่งตั้ง Drew Houston ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ Dropbox เป็นกรรมการบอร์ดบริหารของบริษัท โดยมีผลทันที
จากประกาศนี้ทำให้ปัจจุบัน Facebook มีบอร์ดบริหารรวม 8 คน ได้แก่ Mark Zuckerberg (ซีอีโอ), Peggy Alford (รองประธานอาวุโส PayPal), Marc Andreessen (กองทุน Andreessen Horowitz), Kenneth Chenault (ประธาน General Catalyst), Sheryl Sandberg (ซีโอโอ), Peter Thiel (Founders Fund), Jeffrey Zients (ซีอีโอ Cranemere ) และ Drew Houston
Mark Zuckerberg กล่าวว่า Houston เป็นคนที่ความสามารถ เข้าใจว่าเทคโนโลยีเคลื่อนไปอย่างไร ทั้งยังมีวิธีจัดการวัฒนธรรมองค์กรให้สามารถสร้างสินค้าที่ใช้งานได้ดี
ในการแข่งขัน Super Bowl ครั้งที่ 54 สีสันหนึ่งในช่วงเวลาการถ่ายทอดสดก็คือโฆษณาในระหว่างการแข่งขัน ซึ่งมีค่าโฆษณาสูงมาก แต่บริษัทขนาดใหญ่ก็ต่างยอมเสียเงินเพื่อนำเสนอโฆษณาใหม่ที่เปิดตัวในการแข่งขันนี้เช่นกัน
ซึ่งเมื่อพูดถึงค่าโฆษณาที่แพงมาก บริษัทด้านเทคโนโลยีหลายแห่งซึ่งมีงบประมาณสูง ก็ต่างเลือกลงโฆษณาด้วย มาดูกันว่ามีบริษัทใดบ้าง
Hyundai โชว์เทคโนโลยีจอดรถอัตโนมัติ Remote Smart Parking Assist ในรถยนต์ Sonato รุ่นปี 2020 โดยเรียกฟีเจอร์นี้ว่า Smaht Pahk
CERN หน่วยงานวิจัยนิวเคลียร์ของยุโรป ที่เรารู้จักกันจากโครงการ Large Hadron Collider แต่ก็ยังมีโครงการอื่นอีกมาก (WWW ก็เกิดที่นี่) ประกาศเลิกใช้งาน Facebook Workplace บริการโซเชียลสำหรับลูกค้าองค์กรของ Facebook แล้ว
CERN บอกว่าทดลองใช้ Facebook Workplace มาได้สักระยะหนึ่ง เนื่องจาก Facebook เปิดให้ลองใช้ฟรี แต่ผลลัพธ์ไม่ค่อยประสบความสำเร็จนัก มีบุคคลากรในเครือข่าย CERN มาเปิดบัญชีประมาณ 1,000 คน และมีผู้ใช้งานจริงๆ (active user) ประมาณ 150 คนต่อสัปดาห์เท่านั้น โดย CERN วิเคราะห์ว่าสาเหตุน่าจะมาความไม่เชื่อมั่นเรื่องความเป็นส่วนตัวข้อมูลที่เก็บไว้บน Facebook
หลัง Facebook ประกาศผลประกอบกิจการไตรมาสล่าสุดซึ่งเป็นไปในทางที่ดี มาร์ค ซักเคอเบิร์ก ก็ออกมาโพสต์ยาวเรื่องเป้าหมายของเขาในอนาคต นอกเหนือจากการโฟกัสไปที่ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และปัญหาที่ค้างคาของ Facebook แล้ว เขายังบอกด้วยว่าอยากให้คนอื่นเข้าใจจุดยืนของเขามากขึ้นโดยไม่ต้องรู้สึกชื่นชอบเขาก็ได้
Facebook ประกาศมาตรการด้านข้อมูลไวรัสโคโรน่าบนแพลตฟอร์ม เริ่มลบเนื้อหาปลอมที่คัดกรองโดยองค์กรที่เกี่ยวกับสุขภาพภายนอก พุ่งเป้าไปที่เนื้อหาการรักษาไวรัสแบบผิดๆ เช่น ดื่มเครื่องดื่มอะไรสักอย่างเพื่อกำจัดเชื้อไวรัส เป็นต้น และบล็อกแฮชแท็กที่เผยแพร่ข้อมูลผิดเกี่ยวกับไวรัสด้วย
นอกจากนี้ Facebook ระบุด้วยว่าจะให้องค์กรที่เผยแพร่ข้อมูลและความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าฟรีทั้งบน Facebook และ Instagram นอกจากนี้ ถ้าผู้ใช้งานกดค้นหาข้อมูลหรือกดแฮชแท็กเกี่ยวกับไวรัส ระบบจะขึ้นป๊อบอัพแสดงข้อมูลที่น่าเชื่อถือจาก WHO (World Health Organization) ขึ้นมาก่อน
ย้อนไปในปี 2015 ผู้ใช้งาน Facebook ในรัฐอิลลินอยส์ยื่นฟ้อง Facebook ฐานละเมิดความเป็นส่วนตัว โดยใช้ระบบจดจำใบหน้าแท็กรูป และโชว์โปรไฟล์โดยอัตโนมัติ ผิดกฎ Illinois Biometric Information Privacy Act ซึ่งภายหลัง Facebook เปิดให้ปิดการตั้งค่านี้แล้ว
จนกระทั่งในปี 2020 มีความคืบหน้าของคดีคือ Facebook ยอมจ่ายเพื่อระงับข้อพิพาทกว่า 550 ล้านดอลลาร์ โดยอิลลินอยส์เป็นรัฐเดียวที่มีกฎหมายความเป็นส่วนตัวไบโอเมตริกซ์ อนุญาตให้คนฟ้องถ้ามีการใช้ไบโอเมตริกซ์ละเมิดความเป็นส่วนตัว
Facebook รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ปี 2019 รายได้รวม 21,082 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 25% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน กำไรสุทธิ 7,349 ล้านดอลลาร์
จำนวนผู้ใช้งานเฉพาะ Facebook แบบเป็นประจำทุกเดือน (MAUs) มีจำนวน 2.50 พันล้านบัญชี และแบบเป็นประจำทุกวัน (DAUs) 1.66 พันล้านบัญชี ในไตรมาสนี้ Facebook ยังรายงานตัวเลขผู้ใช้งานรวมทุกบริการในเครือ (Facebook, Instagram, Messenger, WhatsApp) โดยมี MAP (monthly active people) 2.89 พันล้านคน และ DAP 2.26 พันล้านคน
ซีอีโอ Mark Zuckerberg กล่าวว่าไตรมาสนี้ Facebook ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ซึ่ง Facebook ยังคงให้ความสำคัญกับการสร้างบริการที่ช่วยเชื่อมต่อผู้คนเข้าหากัน
ในบทความที่แล้ว Blognone เสนอวิธี ดูข้อมูลกิจกรรมนอกแอปที่ Facebook ได้ไป และวิธีล้างประวัติกิจกรรมออก ในบทความนี้จึงเสนอวิธีดาวน์โหลดออกมาดูว่า Facebook มีกิจกรรมนอกแอปอะไรของเราบ้าง โดยข้อมูลที่ดาวน์โหลดออกมานี้จะมีข้อมูลละเอียดขึ้น ระบุว่าข้อมูลแต่ละชุดทาง Facebook ได้มาเวลาใด
จากข่าว แล้วจะรู้ว่าทำไมไม่ต้องดักฟัง Facebook เปิดให้ดูข้อมูลที่ได้จากนอก Facebook แล้ว หรือการเปิดบริการ Off-Facebook Activity ที่แสดงให้เห็นว่า Facebook ได้ข้อมูลกิจกรรมอะไรบ้างที่เราทำแม้ไม่ได้เข้า Facebook ก็ตาม และเสนอช่องทางลบประวัติกิจกรรมมาด้วย
ต้องบอกก่อนว่า กิจกรรมเหล่านี้ ไม่ใช่แค่แอปพลิเคชั่นภายนอกที่เราใช้ Facebook เพื่อล็อกอินเข้าใช้งาน แต่เป็นกิจกรรมนอกแอป Facebook โดยสิ้นเชิง คือ คลิกดูเว็บข่าว เล่นเกม กิจกรรมที่ทำบนแอปธนาคาร เป็นต้น ซึ่งอาจตอบข้อสงสัยของใครหลายคนว่าทำไม Facebook ขึ้นโฆษณามาให้เหมือนดักฟัง ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่การดักฟัง แต่ส่วนหนึ่งมาจากการที่เว็บไซต์และแอปภายนอกนั้นส่งข้อมูลกิจกรรมกลับมายัง Facebook ทำให้ Facebook คาดเดาความสนใจได้นั่นเอง
ไวรัสโคโรน่าระบาด ข่าวปลอมเกี่ยวกับไวรัสก็ระบาดด้วยเช่นกัน ที่สิงคโปร์มีผู้ใช้งาน Facebook เผยแพร่ข่าวปลอมว่าพบเจอผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าที่สถานีรถไฟและมีการปิดสถานีรถไฟฟ้า Woodlands MRT เพื่อทำการฆ่าเชื้อ
ข่าวปลอมดังกล่าวแพร่กระจายออกไป และมีผู้ใช้งาน Facebook นำไปโพสต์ต่อๆ กันเป็นจำนวนมาก จนกระทรวงคมนาคมของสิงคโปร์ออกมาโพสต์แก้ข่าวว่าไม่เป็นความจริง สถานีรถไฟยังทำงานปกติ โดยขอให้ประชาชนเน้นตามข่าวผ่านช่องทางรัฐบาลเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น www.moh.gov.sg หรือกลุ่ม Whatsapp ที่ https://go.gov.sg/whatsapp
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม Khaw Boon Wan เริ่มดำเนินการกับ Facebook ให้ทำการแก้ไขปัญหาข่าวปลอม ภายใต้กฎ Protection from Online Falsehoods and Manipulation Act (Pofma) ของสิงคโปร์ ซึ่งถือเป็นกรณีที่สองแล้วของไวรัสโคโรน่า โดยกรณีแรกเป็นข่าวปลอมจากนิตยสาร SPH ที่แพร่ข่าวปลอมผ่านฟอรั่ม HardwareZone ที่บอกว่ามีคนตายในสิงคโปร์จากเชื้อไวรัส
เฟซบุ๊กเปิดบริการ Off-Facebook Activity แสดงข้อมูลที่เฟซบุ๊กได้มาจากบริการภายนอก ทั้งแอปและเว็บที่เฟซบุ๊กมีความสามารถในการเชื่อมโยงการกระทำของเรานอกเว็บเฟซบุ๊กเข้ากับบัญชีของเราได้โดยที่เรามักไม่รู้ตัว
ผมดูบัญชีของผมเองแล้วพบว่าหลายบริการยังน่าแปลกใจ เช่น แอปธนาคารหลักๆ ล้วนส่งข้อมูลเข้าเฟซบุ๊ก
เฟซบุ๊กเปิดให้กดล้างประวัติโดยตรง และมีปุ่มให้กดดาวน์โหลดข้อมูลออกไปได้ แต่ไม่มีรายการข้อมูลให้ดูโดยตรง มีเพียงปริมาณข้อมูลที่เฟซบุ๊กได้รับ และเวลาที่ได้รับข้อมูลครั้งล่าสุดเท่านั้น การดูรายละเอียดต้องดาวน์โหลดจากหมวด Ads and Businesses
Blooomberg อ้างแหล่งข่าวไม่ระบุตัวตน ระบุว่าเฟซบุ๊กประกาศมาตรการรับมือไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (2019-nCoV) ด้วยการจำกัดการเดินทางเข้าจีนทั้งประเทศหากไม่จำเป็น สำหรับพนักงานที่ทำงานในจีนหรือเพิ่งกลับมาจากจีนให้ทำงานที่บ้าน
แม้ว่าเฟซบุ๊กจะไม่มีบริการในจีนแต่ประกาศนี้จะกระทบฝ่ายฮาร์ดแวร์ที่ต้องทำงานร่วมกับโรงงานในจีน และข้อจำกัดในการทำงานเช่นนี้อาจจะทำให้การออกสินค้ารุ่นใหม่ช้าออกไป
เพื่อแก้ปัญหาการเดินทางแหล่งข่าวระบุกับทาง Bloomberg ว่าตอนนี้เฟซบุ๊กเองก็เริ่มหาโรงงานอื่นในเวียดนามเพื่อรับงานแทนโรงงานในจีน
ที่มา - Bloomberg
โครงการเงินคริปโต Libra ของ Facebook ดูเป็นเครื่องหมายคำถามอีกครั้ง เมื่อ Vodafone บริษัทโทรคมนาคมจากอังกฤษ ประกาศถอนตัวออกจาก Libra Association ซึ่งถือเป็นบริษัทลำดับที่ 8 ที่เคยประกาศเป็นพาร์ทเนอร์และถอนตัวในเวลาต่อมา
7 บริษัทใหญ่ก่อนหน้านี้ที่ถอนตัวจากโครงการ Libra ได้แก่ PayPal, eBay, Stripe, Visa, Mastercard, Booking Holdings และ Mercado Pago
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี โพสต์ Facebook เผยว่าได้ไปเยือน Facebook ที่สหรัฐฯ และได้ไปหารือเรื่องมาตรการจัดการกับข่าวปลอม ข้อมูลปลอม หรือเพจที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสม ผิดกฎหมาย และยังย้ำด้วยว่าเรื่องเหล่านี้เป็น "ปัญหาหนักของประเทศไทย"
Wall Street Journal รายงานว่า Facebook ล้มเลิกความตั้งใจจะขายโฆษณาในแพลตฟอร์มแชท WhatSApp แล้ว และมีการยุบทีมที่ดูแลเรื่องโฆษณาใน WhatsApp ด้วย
ในปี 2018 Facebook ประกาศว่าจะนำโฆษณาเข้าไปอยู่ในหน้า Status ของ WhatSApp ที่เทียบได้กับ Stories ของ Instagram และยังเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้ก่อตั้ง WhatsApp ลาออก เพราะ WhatsApp มีจุดขายคือให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ มีการเข้ารหัสข้อความจากปลายทางถึงปลายทาง การนำโฆษณามาลงเท่ากับเป็นการลดทอนความเป็นส่วนตัวออกไป
อย่างไรก็ตาม อนาคตก็อาจมีแผนจะนำโฆษณามาลง WhatSApp อยู่ เพราะ Facebook ออกมาบอกกับ CNET ว่ากำลังอยู่ในขั้นวางแผนมองหาคววามเป็นไปได้ และมุ่งเน้นไปที่คุณสมบัติที่ช่วยให้ธุรกิจเชื่อมต่อกับลูกค้า
เฟซบุ๊กสร้างปัญญาประดิษฐ์สำหรับแก้สมการคณิตศาสตร์แบบหนึ่งตัวแปร (หาค่า y เมื่อเทียบกับ x) โดยยังคงหาผลลัพธ์ได้แม้สมการจะมีความซับซ้อนสูง โดยอาศัยโครงสร้างปัญญาประดิษฐ์แบบเดียวกับการแปลภาษา
งานวิจัยนี้แปลงสมการเป็นโครงสร้างข้อมูลแบบ tree เพื่อเปลี่ยนเป็นชุดข้อมูลแบบ sequence เนื่องจากโมเดลปัญญาประดิษฐ์แปลภาษา มันเป็นการแปลง จาก sequence ไปเป็นอีก sequence (seq2seq) เมื่อโมเดลสามารถรับสมการได้แล้ว โมเดลก็ฝึกคล้ายการแปลภาษา โดยภาษาฝั่งเอาท์พุตนั้นเป็นสมการที่เริ่มด้วย "y =" เสมอ
ปัญญาประดิษฐ์สำหรับแปลงเสียงเป็นข้อความ (speech to text) มีความแม่นยำสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ส่วนมากแล้วงานวิจัยมักมีเป้าหมายพัฒนาความแแม่นยำอย่างเดียวโดยใช้ข้อมูลเสียงที่อัดไว้ล่วงหน้าเป็นอินพุต แต่งานอีกกลุ่มหนึ่งเช่นการแปลงเสียงบทสนทนานั้นมีเงื่อนไขของระยะเวลาหน่วง (latency) ว่าต้องไม่สูงเกินไป ตอนนี้เฟซบุ๊กก็เปิดซอร์สโครงการ wave2letter++ งานวิจัยแปลงเสียงเป็นข้อความโดยมีระยะเวลาหน่วงต่ำ
Facebook ออกฟีเจอร์ Login Notifications โดยจะเริ่มส่งการแจ้งเตือนถ้ามีการแชร์ข้อมูลร่วมกับแอปพลิเคชั่นอื่น เช่น การใช้ล็อกอินด้วย Facebook โดย Facebook จะแจ้งเตือนทั้งผ่านช่องทาง Facebook และอีเมล ผู้ใช้งานสามารถกดเปลี่ยนตั้งค่าได้จากเมนูแจ้งเตือนนั้นเลย
ข้อมูลที่ Facebook จะส่งมาพร้อมกับการแจ้งเตือนคือ แอปพลิเคชั่นอะไร ข้อมูลอะไรบ้างที่แชร์ไป พร้อมปุ่มตั้งค่าให้กดได้เลย
ก่อนหน้านี้ Facebook ก็ออกฟีเจอร์ privacy checkup ซึ่งทำหน้าที่คล้ายกันคือ มีเมนูตั้งค่าความเป็นส่วนตัวให้กดได้ง่ายๆ จากเดิมที่ต้องเข้าไปกดที่รูปเฟืองและตามหาเมนูตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
Mark Hamill หรือผู้รับบท ลุค สกายวอล์กเกอร์จาก Star Wars คืออีกหนึ่งคนที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายไม่แบนโฆษณาการเมืองของ Facebook เขาโพสต์ทวิตเตอร์ว่าจะลบบัญชี Facebook ทิ้ง
เขาบอกว่าผิดหวังที่ มาร์ก ซักเคอเบิร์ก เห็นแก่ผลกำไรมากกว่าคุณค่าของความจริง เขาตัดสินใจจะลบบัญชี Facebook ทิ้ง และมันคงทำให้เขานอนหลับสบายขึ้น
Facebook ออกนโยบายแบนคลิป deepfake อย่างเป็นทางการ โดยระบุว่า ทางแพลตฟอร์มจะแบนวิดีโอและเนื้อหาที่ผ่านการแก้ไข สังเคราะห์ (ไม่รวมการปรับแต่งให้คมชัดขึ้น) และผลลัพธ์คือทำให้เกิดความเข้าใจผิด หรือวิดีโอที่ปรับแต่งโดย AI แต่ไม่รวมวิดีโอที่ทำขึ้นเชิงตลก ล้อเลียน
Facebook ทำฟีเจอร์ใหม่ออกมาเงียบๆ คือ Privacy Checkup ให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ว่า เราแชร์ข้อมูลอะไรให้ใครบ้าง พร้อมปุ่มลัดที่สามารถแก้ไขและตั้งค่าเพิ่มเติม หรือเปลี่ยนรหัสผ่านได้
ฟีเจอร์ใหม่จะอยู่ตรงปุ่มเครื่องหมายคำถามบนหน้าฟีด ถ้าเป็นเวอร์ชั่นเดสก์ทอปจะอยู่ด้านขวาบน กดที่ปุ่มเครื่องหมายคำถาม จากนั้นเลือกเมนู Privacy Checkup ผู้ใช้จะเจอหน้าป๊อบอัพแสดงเมนูในรูปแบบการ์ด 4 อย่างให้เข้าไปตรวจสอบ
รัฐบาลบราซิลสั่งปรับ Facebook เป็นมูลค่ากว่า 1.6 ล้านดอลลาร์ โดยเป็นการสั่งปรับอันเนื่องมาจากกรณีของ Cambridge Analytica
สำหรับกรณีของ Cambridge Analytica นี้ มีการประเมินกันว่าผู้ได้รับผลกระทบทั่วโลกน่าจะอยู่ที่ราว 87 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในสหรัฐฯ โดยกระทรวงยุติธรรมและความปลอดภัยสาธารณะของบราซิลระบุว่าข้อมูลที่หลุดไปในเหตุการณ์ครั้งนั้นกระทบชาวบราซิล 443,000 คน โดย Facebook ล้มเหลวในการให้ข้อมูลผู้ใช้เกี่ยวกับความสำคัญของผลลัพธ์ของการตั้งค่าด้านความเป็นส่วนตัว ทางบริษัทควรจะระมัดระวังมากกว่านี้หากปล่อยแชร์ข้อมูลของเพื่อนและเพื่อนของเพื่อนโดยอัตโนมัติ