ในที่สุด Tesla ก็เปิดตัวรถยนต์ SUV ขนาดเล็กที่มีข่าวมานานอย่าง Model Y โดยหน้าตาก็เป็นไปตามคาดคือเป็นการเอา Model 3 มาขยายตัวถัง และทำให้สูงขึ้น แบ่งออกเป็น 4 รุ่นย่อย ดังนี้
Performance เป็นรุ่นท็อปสุด เร่งจาก 0-96 กม./ชม. ได้ภายใน 3.5 วินาที มาพร้อมมอเตอร์คู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม. วิ่งได้ระยะทาง 450 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ราคาเริ่มต้น 60,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.9 ล้านบาท (ยังไม่รวมส่วนลดจากรัฐ
วันนี้ Tesla ได้จัดงานที่สำนักงานใหญ่ ณ เมือง Fremont รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยเป็นการเปิดตัวสถานีชาร์จ Supercharger V3 หรือรุ่นที่ 3 ซึ่งมีกำลังไฟสูงสุดที่ 250 กิโลวัตต์ ใช้เวลาชาร์จเพียง 5 นาทีก็วิ่งต่อได้อีก 75 ไมล์ หรือราว 120 กิโลเมตร
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คณะกรรมการบริการสาธารณะประจำรัฐนิวยอร์ก (New York Public Service Commission – NYPSC) ได้ออกคำสั่งว่าจะคิดค่าไฟในราคาต่ำกว่าปกติแก่สถานีชาร์จสาธารณะแบบชาร์จเร็วกระแสตรง (Direct Current Fast Charging – DCFC) ที่ติดตั้งหัวชาร์จมาตรฐาน Combined Charging System (CCS) และ CHAdeMo ซึ่งเป็นหัวชาร์จที่ใช้กันแพร่หลาย โดยหัวชาร์จ CCS นิยมใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าจากฝั่งสหรัฐอเมริกาและยุโรป และหัวชาร์จ CHAdeMo นิยมใช้ในรถยนต์จากญี่ปุ่น
ที่งาน Geneva Motor Show ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ Honda ได้นำรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ e Prototype มาโชว์ พร้อมระบุว่าจะผลิตขายจริงในช่วงปลายปี 2019 แต่นอกจากรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบแล้ว Honda ยังได้ประกาศเป้าหมายสำคัญว่าจะขายเฉพาะรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าล้วนในยุโรป ภายในปี 2025
เป้าหมายนี้เป็นเป้าใหม่หลังสถานการณ์ในยุโรปเปลี่ยนแปลงไปมาก เพราะผู้ผลิตรถยนต์ในยุโรปต่างมีแผนเลิกใช้เครื่องยนต์ดีเซลกันแล้ว และผู้คนก็เริ่มมองหารถยนต์ตัวเลือกใหม่ๆ ที่มีค่าบำรุงรักษาต่ำ โดย Honda เคยประกาศเมื่อปี 2017 ว่าจะขายรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าคิดเป็นสัดส่วน 66% ในปี 2025 แต่คราวนี้คือเปลี่ยนเป็น 100% เลย
สืบเนื่องจากโพสต์ทวิตเตอร์ของ Elon Musk ที่เกี่ยวข้องกับการเปิดตัว Model Y ในวันที่ 14 มีนาคมนี้ มีคนเข้าไปถามต่อ (หรือหลอกถาม?) ว่า Model Y จะเป็นรถกระบะใช่ไม๊ หลังจากที่ Musk เคยออกมาบอกว่าบริษัทจะทำรถกระบะ ซึ่งเจ้าตัวก็ปฏิเสธ พร้อมบอกว่ารถกระบะจะถูกเปิดตัวภายในปีนี้ (later this year)
ก่อนหน้านี้ Musk ก็เคยบอกว่ารถกระบะของ Tesla จะเป็นรถกระบะแห่งอนาคต เหมือนหลุดมาจาก Blade Runner และใน thread ข้างต้น เจ้าตัวก็แย้มอีกเล็กน้อยด้วยว่า เขาตื่นเต้นกับรถกระบะมาก หลายคนอาจมองว่ามันดูล้ำเกิน (too futuristic) แต่เขารักมันเลยหละ
ในงานเปิดตัว Tesla Model 3 เมื่อเกือบสามปีก่อน Elon Musk ระบุว่ารถรุ่นนี้จะมีราคาขายเริ่มต้นที่เพียงคันละ 35,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.104 ล้านบาทเท่านั้น แต่ที่ผ่านมาก็ยังไม่สามารถขายรถในราคานั้นได้เสียทีเนื่องจากสถานการณ์ทางการเงินของบริษัทยังไม่สู้ดีนัก และหากดึงดันขายในราคานั้นจะทำให้บริษัทขาดทุนจนเจ๊งได้
รายการข่าว 60 Minutes ของอเมริกา ได้ทำสกู๊ปเกี่ยวกับ Nio บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ มูลค่ากิจการกว่า 8 พันล้านดอลลาร์ของจีน ซึ่งเนื้อหาตอนหนึ่งกล่าวถึงการที่ Tesla เปิดโรงงานขนาดยักษ์ (gigafactory) ในเซี่ยงไฮ้ เพื่อผลิต Tesla เน้นขายในจีน โดยเป็นการพูดคุยกับ William Li ซีอีโอของ Nio
Electrek รายงานว่าได้รับอีเมลที่ Tesla Motors ส่งให้พนักงานภายในระบุว่าบริษัทเตรียมจะให้บริการซื้อผ่อน (leasing) Model 3 ด้วยเหตุผลหวังเพิ่มยอดให้กับรถยนต์รุ่นดังกล่าว
ด้าน Tesla Motors ยืนยันข้อมูลในอีเมล โดยระบุว่าจดหมายภายในเป็นการแจ้งเตือนให้พนักงานเตรียมตัว โดยวันที่จะเริ่มให้บริการซื้อผ่อนยังไม่มีกำหนด ถึงแม้ว่าในอีเมลจะระบุว่าภายใน 2 สัปดาห์หลังจากนี้ก็ตาม
ในการประชุมผู้ถือหุ้นรอบล่าสุด Musk ยอบรับว่าบริษัทลังเลที่จะปล่อยบริการซื้อผ่อน Model 3 มานาน เพราะถึงแม้จะช่วยเพิ่มดีมานด์ให้กับ Model 3 แต่จะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการ GAAP ของบริษัท
ที่มา - Electrek
หลังปล่อยภาพสเก๊ตและปล่อยข้อมูลคร่าวๆ เรื่อง Model Y รถยนต์ไฟฟ้า SUV รุ่นราคาประหยัดกว่า Model X มาหลายปี รวมถึงมีข่าวลือว่าจะผลิตปลายปีนี้
ล่าสุด Tesla ยืนยันกรอบเวลาการผลิตของรถ SUV รุ่นใหม่นี้ในรายงานผู้ถือหุ้นว่าจะเริ่มผลิตในช่วงปลายปี 2020 นี้ โดย Musk ระบุด้วยว่าน่าจะผลิตที่โรงงาน Gigafactory ในรัฐเนวาด้า และคาดว่ายอดขายของ Model Y น่าจะสูงกว่า Model 3 ด้วย
หลังจากเปิดตัว LEAF ใหม่ ได้ปีกว่าๆ นิสสันก็ประกาศเปิดตัว LEAF e+ รุ่นอัพเกรด ที่เพิ่มแบตเตอรี่จากเดิม 40kWh เป็น 62kWh สามารถวิ่งได้ไกลราว 458 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งรอบ เทียบกับราว 322 กม. ในรุ่นปัจจุบัน
ส่วนมอเตอร์ก็ได้แรงบิดเพิ่มขึ้นจาก 320 นิวตันเมตรมาเป็น 340 นิวตันเมตร เช่นเดียวกับความเร็วสูงสุดที่วิ่งได้เพิ่มจาก 144 กม./ชม. เป็น 157 กม./ชม. น้ำหนักตัวรถก็เพิ่มขึ้นราว 170-180 กก. จากแบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับราคาที่เพิ่มจากรุ่นธรรมดามา 1 ล้านเยนอยู่ที่ 4.1 ล้านเยนรวมภาษี (ราว 1.2 ล้านบาท)
ที่มา - Nikkei Automotive
หลังมีข่าวตั้งแต่ปลายปี 2017 ว่า Toyota กับ Panasonic เริ่มศึกษาความเป็นไปได้ที่จะตั้งธุรกิจผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าร่วมกัน ล่าสุดทั้งสองบริษัทได้แถลงแล้วว่าจะร่วมทุนกันตั้งบริษัทใหม่ภายในสิ้นปี 2020 เพื่อการวิจัย, พัฒนา, ผลิต ไปจนถึงจำหน่ายแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนทรงกล่อง (prismatic cell), แบตเตอรี่แบบ solid-state รวมถึงแบตเตอรี่ยุคถัดไป
การร่วมทุนครั้งนี้อยู่ในสัดส่วน Toyota 51% และ Panasonic 49% โดยทั้งสองบริษัทจะนำเครื่องมือและบุคลากรเข้ามารวมกันในทุกส่วนของธุรกิจ จะมีโรงงานในญี่ปุ่นและที่เมืองต้าเหลียนประเทศจีนด้วย ซึ่ง Toyota ระบุว่าจะมีบุคลากรมารวมกันที่ราว 3,500 คน และ Panasonic จะเป็นผู้รับผิดชอบด้านการขายให้ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายอื่นต่อไป
เว็บไซต์ Electrek รายงานว่าตอนนี้ Tesla เริ่มขึ้นราคาของสถานีชาร์จไฟ Supercharger แล้ว โดยมีผลทั่วโลก ซึ่งเป็นเวลาไม่นานนักหลังจากที่ Tesla เพิ่งปลดคนงานครั้งใหญ่ 7% เพื่อควบคุมต้นทุน
จากข้อมูลของ Electrek ระบุว่า การขึ้นราคาของ Tesla นี้มีผลทั่วโลก โดยบริษัทมีการปรับโครงสร้างการคิดราคาของสถานีชาร์จไฟใหม่ จากเดิมที่จะคิดราคาตามรัฐหรือประเทศ มาเป็นการคิดราคาแยกตามสถานีโดยคำนวณจากค่าไฟและความต้องการใช้งานในบริเวณนั้นแทน ซึ่งทำให้ราคาค่าชาร์จไฟบางสถานีสูงขึ้นมาก ซึ่ง Electrek รายงานว่าจากการเก็บผลสำรวจของทางเว็บไซต์ พบว่าค่าชาร์จไฟเพิ่มขึ้นราว 33%
เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว Tesla ประกาศตั้งโรงงาน Gigafactory 3 ในประเทศจีน ล่าสุด Elon Musk ได้ทวีตว่าจะทำพิธีเปิดหน้าดิน หรือ groundbreaking ceremony วันนี้ ซึ่งเขาเดินทางไปร่วมพิธีด้วยตนเอง ถือเป็นการเริ่มการก่อสร้างอย่างเป็นทางการ
ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Tesla ก็ระบุว่าได้ที่ดินขนาด 210 เอเคอร์หรือราว 849,840 ตารางเมตรที่เซี่ยงไฮ้สำหรับก่อสร้างโรงงาน ต่อมาในเดือนธันวาคมนายกเทศมนตรีเมืองเซี่ยงไฮ้ก็ระบุว่า Tesla ได้ปรับพื้นที่เรียบร้อยแล้วและพร้อมสำหรับการก่อสร้าง
ปัญหาใหญ่ของรถยนต์ไฟฟ้าคือสถานีชาร์จน้อยและใช้เวลาชาร์จนาน ซึ่ง Tesla ก็พยายามขยายสถานีชาร์จ Supercharger ของตัวเองอยู่ตลอด โดยล่าสุดได้สรุปตัวเลขของปี 2018 ออกมา
Tesla ระบุว่าตลอดปี 2018 บริษัทฯ ได้เพิ่มสถานีชาร์จไฟไปทั้งสิ้น 3,100 จุดทั่วโลก (ที่ Tesla ทำตลาดอย่างเป็นทางการ) โดยขณะนี้สถานีชาร์จครอบคลุม 99% ของประชากรสหรัฐอเมริกาแล้ว รวมถึงครอบคลุม 97% ของประชากรในทวีปยุโรป เรียกว่าถ้าอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาหรือยุโรปก็แทบจะไม่มีปัญหาเรื่องหาสถานีชาร์จแล้ว
หลังจากนิสสันประเทศไทยเผยตั้งแต่ปีที่แล้วว่าจะนำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า Nissan LEAF ในประเทศไทย ล่าสุดวันนี้นิสสันได้จัดงานเปิดตัวรถรุ่นดังกล่าวอย่างเป็นทางการ โดยเปิดราคาที่ 1.99 ล้านบาท พร้อมเปิดจองในงาน Motor Expo 2018
Nissan LEAF มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 40 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งได้ระยะทาง 311 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง มาพร้อมกับการรับประกันตัวรถ 3 ปี, ระบบไฟฟ้า 5 ปี และแบตเตอรี่ 8 ปีหรือ 160,000 กิโลเมตร
เมื่อวาน Mercedes-Benz ประเทศไทยนำโดยคุณ Roland Folger ซีอีโอประกาศพร้อมลุยตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยระบุว่าไทยเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ โดยพิจารณาจากจำนวนรถยนต์และสถานีชาร์จ พร้อมประกาศสร้างโรงงานแบตเตอรี่ในไทย
Roland Folgar มองว่าประเทศไทยค่อนข้างพร้อมกับรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งในแง่ของการขยายตัวของสถานีชาร์จ, การสนับสนุนของภาครัฐ ไปจนถึงการรับรู้และตื่นตัวของผู้บริโภค โดยที่ผ่านมา Benzแนะนำรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นแรกในไทยตั้งแต่ปี 2555 กับรุ่น E 300 BlueTEC Hybrid ก่อนจะเริ่มทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยภายใต้ชื่อ EQ Power และหลังจากนี้น่าจะทำตลาดอย่างกว้างขวางขึ้น รวมถึงชูความเป็นรถยนต์ที่ฉลาดหรือ Connected Car มากขึ้นด้วย
Bloomberg New Energy Finance (BNEF) ออกรายงานคาดการณ์แนวโน้มการใช้งานแบตเตอรี่ Lithium-ion ตั้งแต่ปี 2014 จนถึง 2030 ซึ่งชี้ว่าสัดส่วนของแบตเตอรี่ที่จะถูกใช้บนรถยนต์ไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนมีสัดส่วนถึง 8 ใน 10 ในปี 2030
ขณะที่การใช้งานแบตเตอรี่ Li-ion บนอุปกรณ์แก๊ตเจ๊ทต่างๆ สัดส่วนจะลดลง ไม่ใช่ว่าการใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ลดลง แต่เมื่อเทียบปริมาณกับที่ถูกใช้บนรถยนต์ไฟฟ้าแล้วปริมาณมันแตกต่างกันมาก นอกจากนี้รายงานยังบอกด้วยว่าภายในปี 2040 การซื้อรถยนต์คันใหม่จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ 55%
Reuters และ Bloomberg อ้างแหล่งข่าวไม่ระบุตัวตน ระบุว่า Volkswagen เตรียมปรับโรงงาน 3 แห่งให้กลายเป็นโรงงานผลิตรถไฟฟ้าราคาถูก โดยรุ่นเริ่มต้น จะราคาต่ำกว่า 20,000 ยูโร หรือประมาณ 750,000 บาท (Bloomberg ระบุว่ารุ่นเริ่มต้นอาจจะมีราคาเพียง 18,000 ยูโร) โดยเริ่มสายการผลิตในปี 2020 และคาดว่าจะมีกำลังผลิตปีละ 200,000 คัน
แผนการนี้เป็นการปรับตัวขนานใหญ่ โดยเปิดตระกูลรถกลุ่ม I.D. รวมทั้งตระกูลถึง 50 รุ่น รุ่นแรกคือ I.D. Neo ผลิตในเยอรมัน ราคาประมาณ 23,000 ยูโร จากนั้นจะมีรถขนาดกลางชื่อว่า I.D. Aero
Volkswagen กำลังพยายามอย่างหนักเพื่อเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้าหลังโดนจับได้ว่าโกงผลการทดสอบมลพิษเมื่อปี 2015 อีกทั้งรัฐบาลเยอรมนีก็กำลังเดินหน้าแบนรถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลหนักขึ้นเรื่อยๆ ซึ่ง Herbert Diess ซีอีโอของ Volkswagen ถึงกับบอกว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ของเยอรมนีอาจถึงขั้นสูญสิ้นไปเลย
ล่าสุดมีข่าวลือว่า Volkswagen เล็งขายรถยนต์ไฟฟ้าที่ราคาต่ำกว่า 20,000 ยูโรหรือราว 750,000 บาทเพื่อแข่งกับ Tesla โดยปัจจุบันรุ่นที่ถูกสุดของ Tesla คือ Model 3 ตั้งราคาไว้ที่ 35,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือราว 1.15 ล้านบาท (แต่ตอนนี้ยังไม่มีขาย)
บริษัทรถยนต์ Hyundai ประกาศเข้าลงทุนใน Grab เป็นเงิน 250 ล้านดอลลาร์ หรือราว 8,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในการเป็นพันธมิตรด้านการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยความร่วมมือนี้เป็นของทั้งรถยนต์ Hyundai และ Kia ที่ Hyundai เป็นถือหุ้นใหญ่
เบื้องต้น Grab, Hyundai และ Kia จะเริ่มต้นโครงการ EV ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สิงคโปร์เป็นแห่งแรก ภายในปี 2019 โดยเป็นการพัฒนารถยนต์ที่คุ้มค่าต้นทุน-การใช้งานมากที่สุดสำหรับบริการ Grab รวมถึงร่วมมือกับหน่วยงานรัฐในการพัฒนาจุดติดตั้งสถานีชาร์จไฟที่เหมาะสม
ตามแผนของ Grab นั้น ต้องการเพิ่มทุนให้ได้ 3,000 ล้านดอลลาร์ ภายในปี 2018 ซึ่งถึงตอนนี้ก็ได้รับเงินทุนไปแล้ว 2,700 ล้านดอลลาร์
เมื่อปลายปี 2017 เคยมีรายงานข่าวว่า Dyson ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าหรูจากอังกฤษเตรียมเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเมื่อต้นปีนี้ก็มีข่าวความคืบหน้าออกมาว่าจะใช้แบตเตอรี่แบบ Li-Ion ล่าสุด Dyson เลือกตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ประเทศสิงคโปร์ หวังตีตลาดจีน
Dyson ระบุว่าบริษัทจะตั้งโรงงานเองมากกว่าจะไปเซ็นสัญญากับซัพพลายเออร์ภายนอก โดยคาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จในปี 2020 และเริ่มขายรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกในปี 2021 ซึ่งบริษัทมีงบลงทุนกับตลาดรถยนต์ถึง 2 พันล้านปอนด์หรือราว 85,000 ล้านบาท
โดยธรรมชาติของรถยนต์ไฟฟ้านั้นมีชื่อเสียงว่าทนทานกว่ารถยนต์เครื่องสันดาปภายในเนื่องจากมีชิ้นส่วนที่ขยับไปมาน้อยกว่า รวมถึงระบบเกียร์ก็ซับซ้อนน้อยกว่าเพราะมีเพียงเกียร์เดียวจึงลดความสึกหรอไปได้มากเมื่อเทียบกับรถยนต์ทั่วไปที่มีหลายเกียร์
ล่าสุด Tesla ปล่อยภาพชิ้นส่วนเฟืองในระบบส่งกำลังของ Tesla Model 3 ออกมาสองภาพ โดยระบุว่าเป็นชิ้นส่วนที่ผ่านการทดสอบวิ่งมาแล้ว 1 ล้านไมล์ หรือ 1.6 ล้านกิโลเมตร และ Elon Musk ก็ออกมาเสริมว่าชิ้นส่วนเหล่านี้ถูกออกแบบมาให้ทนทานมากเป็นพิเศษ
Google Maps ประกาศเพิ่มข้อมูล, ตำแหน่งและรองรับการค้นหาสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว ซึ่งสามารถใช้คีย์เวิร์ดสั้นๆ อย่าง EV Charging ก็ได้ ซึ่งข้อมูลที่แสดงมีทั้งพอร์ทที่สถานีนั้นรองรับ, กำลังไฟ, ความเร็วในการชาร์จและมีช่องชาร์จทั้งหมดกี่ช่อง รวมถึงมีรูปและรีวิว เหมือนสถานที่อื่นๆ ด้วย
Google บอกว่าฟีเจอร์นี้รองรับสถานีชาร์จทั่วโลก และเปิดให้ใช้แล้วทั้งบน iOS และแอนดรอยด์ ส่วนบนเดสก์ท็อปจะตามมาในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ที่มา - Google Blog
Klaus Froehlich หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาของ BMW Group เปิดเผยถึงวิสัยทัศน์ของบริษัทเกี่ยวกับรถไฟฟ้าว่า บริษัทจะต้องลดต้นทุนการผลิตแบตเตอรี่ให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะอยู่รอดในสมรภูมินี้ โดยแนวทางของ BMW คือการเป็นพาร์ทเนอร์กับแหล่งวัตถุดิบสำหรับผลิตแบตเตอรี่โดยตรงเลย
Froehlich ระบุว่าตอนนี้บริษัทเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทเหมืองโคบอลต์ที่ไม่มีการใช้แรงงานเด็กหรือเอาเปรียบคนงานแล้ว แต่จะมีเพิ่มตามมาอีก ขณะที่ผู้ผลิตแบตเตอรี่ BMW จ้างบริษัท Contemporary Amperex Technology ของจีนและซัมซุง
นอกจากแบตเตอรี่ BMW ยังเล็งจะเป็นพันธมิตรกับบริษัทรถยนต์รายอื่นรวมถึงซัพพลายเออร์ เพื่อสร้างมาตรฐานสำหรับระบบรถไร้คนขับ ซึ่งตอนนี้เริ่มคุยกับบางรายไปแล้ว
ตั้งแต่ยุคแรกๆ ของ Tesla ที่ยังมีผู้ใช้ไม่มากนัก Tesla มีโครงการ “เพื่อนชวนเพื่อน” ให้มาซื้อรถ Tesla Model S และ X เพื่อรับสิทธิ์ชาร์จไฟจากเครือข่าย Supercharger ฟรีไม่อั้น โครงการนี้ก็ดำเนินเรื่อยมาจนมาถึงยุค Tesla Model 3 ที่เป็นรถรุ่นถูกสุดของบริษัทก็ไม่ได้ให้สิทธิ์นี้ แต่ให้เฉพาะผู้ที่ซื้อ Model 3 Performance ซึ่งเป็นรุ่นแพงเท่านั้น
ล่าสุด Tesla ประกาศยกเลิกสิทธิ์ชาร์จไฟฟรีแล้ว โดยหลังจากวันนี้หากชวนเพื่อนมาซื้อรถจะได้เครดิตสำหรับชาร์จไฟจำนวน 100 ดอลลาร์สหรัฐแทน