Coinbase เว็บไซต์แลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโตชื่อดังได้สั่งปิดบัญชี WikiLeaks Shop ซึ่งเป็นบัญชีสำหรับร้านค้าขายของที่ระลึกของ WikiLeaks อย่างเช่นเสื้อ, เคสโทรศัพท์, แก้วกาแฟ และอื่น ๆ
การสั่งปิดบัญชีจาก Coinbase ส่งผลให้ WikiLeaks Shop ไม่สามารถรับสกุลเงินคริปโตหรือแลกกลับเป็นดอลลาร์ผ่านระบบของ Coinbase ได้ (แต่ยังคงรับสกุลเงินคริปโตผ่านช่องทางอื่นที่ไม่ใช่ Coinbase ได้)
Coinbase ให้เหตุผลว่าที่ WikiLeaks Shop ถูกปิดบัญชีเนื่องจากผิดข้อตกลงการใช้งาน ซึ่ง The Verge ได้สอบถามไปยัง Coinbase โฆษกก็ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเฉพาะบัญชี แต่ชี้ไปยังข้อกฎหมายที่ว่าต้องปฏิบัติตามกฎของ Financial Crimes Enforcement Network ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ที่ออกมาเพื่อป้องกันการฟอกเงิน
ธนาคารกลางญี่ปุ่นสร้างหน้าเว็บเตือนประชาชนถึงการลงทุนเงินคริปโต โดยใช้ชื่อเว็บว่า Let's think about "virtual currency"! หรือ "มาพิจารณาเรื่องเงินคริปโตกัน" นับเป็นมาตรการเตือนที่แรงที่สุดนับแต่การเตือนปากเปล่าในการแถลงข่าวเมื่อปีที่แล้ว
เว็บแจ้งเตือนประชาชนถึงคำเตือนต่างๆ ที่เราอาจจะเห็นธนาคารกลางเตือนกันมาเรื่อยๆ เช่น มันไม่ใช่เงินจริงๆ ที่มีธนาคารกลางของชาติดูแล, ราคาผันผวนไม่ได้กำไรเสมอไป, มูลค่าไม่แน่นอนไม่มีอะไรหนุนมูลค่า, มีการขโมยกันได้
กระแสเงินคริปโตบูมในปี 2017 ส่งผลให้เกิดกองทุนเก็งกำไร (hedge fund) ที่ลงทุนในเงินคริปโตมากถึง 167 กองในปีเดียว
แต่ราคาของเงินคริปโตที่ตกลงมากในปี 2018 โดยเฉพาะ Bitcoin ที่ราคาลงมาเหลือประมาณ 7,000 ดอลลาร์ต่อ BTC (หายไปราว 50% จากจุดสูงสุด) ทำให้เกิดกองทุนใหม่ในปี 2018 น้อยลง เหลือเพียงแค่ 20 กองทุน และมีกองทุนหลายกองประกาศปิดตัวแล้ว
Chrome ประกาศนโยบายใหม่ บล็อคส่วนขยายทั้งหมดบน Chrome Web Store ที่ใช้เครื่องของผู้ใช้ขุดเหมืองคริปโต
ก่อนหน้านี้ Chrome Web Store อนุญาตให้มีส่วนขยายที่ขุดเหมืองได้ ภายใต้เงื่อนไขว่าต้องเป็นส่วนขยายที่ทำหน้าที่ขุดเหมืองเพียงอย่างเดียว (ห้ามแอบแฝง) และต้องแจ้งเตือนผู้ใช้ว่ามันใช้ขุดเหมืองด้วย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ 90% ของส่วนขยายที่ฝังสคริปต์ขุดเหมืองที่ส่งเข้ามายัง Chrome Web Store ไม่ทำตามเงื่อนไขเหล่านี้ ผลคือส่วนขยายถูกปฏิเสธหรือถูกเอาลงจาก Store ในภายหลัง
กูเกิลจึงตัดสินใจไม่รับส่วนขยายที่เกี่ยวข้องกับการขุดเหมืองทั้งหมด สำหรับส่วนขยายที่ขึ้น Store ไปแล้วจะถูกถอดออกในช่วงปลายเดือนมิถุนายน
ข่าวนี้เก่าเล็กน้อยครับ Global Crypto Offering Exchange บริษัทรับแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโตในสิงคโปร์ดึงตัวไมเคิล โอเวน อดีตดาวยิงบัลลงดอร์ของลิเวอร์พูลมาเป็นพาร์ทเนอร์ พร้อมเปิดตัวสกุลเงินคริปโต OWN ซึ่งนอกจากโอเวนแล้วยังมี แมนนี ปาเกียว นักมวยดังจากฟิลิปปินส์ก็เตรียมเปิดตัวสกุลเงินของตัวเองร่วมกับ Global Crypto Offering ด้วย
สกุลเงิน OWN จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไตรมาสหน้า สามารถใช้ซื้อสินค้าหรือบริจาคให้กับองค์กรตามที่อดีตสตาร์ลิเวอร์พูลเลือก โดยในอนาคตจะสามารถใช้งานร่วมกับศูนย์ฝึกฟุตบอลและโปรแกรมฝึกสอนที่โอเวนกำลังพัฒนาอยู่ด้วย
เพราะโลกกำลังเข้าสู่ยุค 4.0 ที่ทุกวงการจะถูกปฎิวัติจากหน้ามือเป็นหลังมือ เงินคริปโตและบล็อคเชนกำลังเข้าไป disrupt ทุกวงการอย่าง บล็อคเชนกำลังแก้ปัญหาทุกอย่างในโลก ตั้งแต่ค่าธรรมเนียมโอนเงินราคาแพง, ปัญหาแรงงานต่างด้าวในอุตสาหกรรมประมง, ท่อระบายน้ำตันในกทม., หรือแม้แต่สันติภาพในตะวันออกกลาง
วันนี้ Blognone จึงเปิดตัว Bn Coin เครือข่ายบล็อคเชนแรกสำหรับผู้อ่านบล็อกนันที่ "มีความเชื่อ" และ "มั่นใจ" ว่าบล็อคเชนกำลังมาเปลี่ยนโลก
สำนักงานสิทธิบัตรสหรัฐฯ (USPTO) เปิดเผยแบบฟอร์มขอจดสิทธิบัตรชิปเร่งความเร็วการขุดบิตคอยน์ของอินเทลที่ยื่นไว้ตั้งแต่ปี 2016 เป็นชิปแบบ System on Chip ที่ออกแบบเพื่อเร่งความเร็วการคำนวณบล็อคโดยเฉพาะ
ฮาร์ดแวร์ออกแบบมาเพื่อคำนวณค่าแฮชสำหรับบล็อคของบิตคอยน์โดยเฉพาะ โดยเป็นฮาร์ดแวร์สำหรับคำนวณค่าแฮช SHA-256 ของข้อความขนาด 1024 บิต มีการปรับแต่งกระบวนการคำนวณค่าแฮชเพื่อให้คำนวณข้อมูลบางส่วนก่อนใส่ค่า nonce
อินเทลระบุว่าการออกแบบเช่นนี้ทำให้ชิปขุดมีประสิทธิภาพในแง่พื้นที่ชิป และอัตราการใช้พลังงานดีกว่าเดิม
ฟอร์มจดสิทธิบัตรระบุว่าการออกแบบนี้รวมทั้งการทำชิปแบบ ASIC และการใช้ FPGA ตอนนี้ไม่มีข้อมูลว่าอินเทลผลิตชิปนี้แล้วหรือไม่ หรือมีการใช้ขุดจริงที่ใดแล้วบ้าง
โพล่งมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยมาก่อน สำหรับข่าว PeiCoin ซึ่ง OnePlus ประกาศว่าเป็นการนำเอาเทคโนโลยี blockchain มาใช้กับเงินดิจิทัล
OnePlus อธิบายถึง PeiCoin ซึ่งเป็นการตั้งชื่อเงินตามชื่อของ Carl Pei หนึ่งผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท โดยระบุว่าเป็นเงินดิจิทัลที่สร้างโดยจำกัดไว้สำหรับลูกค้าผู้ใช้ OnePlus เท่านั้น โดยผู้ใช้จะได้รับสิทธิ์เข้าถึงกระเป๋าเงิน PeiCoin Wallet ซึ่งสามารถรันได้บนอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ OxygenOS เท่านั้น (OxygenOS เป็นระบบปฏิบัติการที่ OnePlus ปรับแต่งมาจาก Android)
ผู้ให้บริการซื้อขายเงินคริปโตของญี่ปุ่น ประกาศปิดตัวไปแล้วรวม 5 ราย หลังหน่วยกำกับดูแลภาครัฐเข้ามาคุมเข้มมากขึ้น
ตลาดซื้อขาย 2 รายล่าสุดที่ประกาศปิดตัวคือ Tokyo GateWay และ Mr. Exchange ถอนตัวจากการยื่นจดทะเบียนกับ Financial Services Agency (FSA) หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของญี่ปุ่น โดยจะคืนเงินและเหรียญคริปโตให้แก่ลูกค้า และหยุดทำธุรกิจนี้อย่างถาวร ส่วน 3 รายที่ประกาศตัวไปแล้วคือ Raimu, bitExpress, Bit Station
ทวิตเตอร์กำลังประกาศแบนโฆษณา ICO ทั้งหมดภายใน 30 วันข้างหน้า โดยตอนนี้ระบุประเภทโฆษณาที่จะแบนสองประเภท คือ การระดมทุน ICO และการขายโทเค็น
ก่อนหน้านี้นโบายของทวิตเตอร์อนุญาตให้โฆษณาได้ทั้งสองประเภท แม้จะมีการจำกัดบ้างว่าต้องเป็นบริษัทได้รับอนุญาตหากจะโฆษณาในบางประเทศ เช่น ญี่ปุ่น การจำกัดเช่นนี้ทำให้ทวิตเตอร์ยังค่อนข้างเปิดกว้างกับบริการประเภทอื่นๆ เช่น กระเป๋าเงินคริปโต หรือบริการแลกเปลี่ยนเงินคริปโต ที่กูเกิลประกาศห้ามไปก่อนหน้านี้ ขณะที่เฟซบุ๊กก็ห้ามบริการที่เกี่ยวข้องกับเงินคริปโตทั้งหมด
Yahoo! Japan (ซึ่งเป็นบริษัทแยกจาก Yahoo! มี SoftBank ถือหุ้นใหญ่ และ Altaba ถือหุ้นอันดับสอง) เตรียมจะเข้าถือหุ้น 40% ของ BitARG Exchange Tokyo ผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโตในประเทศญี่ปุ่น เพื่อเข้าสู่ธุรกิจแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโตอย่างเต็มรูปแบบ
แพลตฟอร์มสกุลเงินคริปโตของ Yahoo! Japan นี้จะเป็นแพลตฟอร์มที่พัฒนาขึ้นใหม่ แต่จะยังตั้งอยู่บน BitARG ซึ่งบริษัท BitARG นี้ได้ลงทะเบียนกับ Financial Services Agency หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของประเทศญี่ปุ่นแล้ว
สหราชอาณาจักรประกาศตั้งคณะทำงานด้านทรัพย์สินคริปโต (Cryptoassets Task Force) ขึ้นมาเตรียมพร้อมเรื่องการกำกับดูแลเงินคริปโตโดยเฉพาะ
หน่วยงานภาครัฐของสหราชอาณาจักรที่เข้าร่วมในคณะทำงานนี้ ได้แก่ กระทรวงการคลัง (HM Treasury) ธนาคารกลาง (Bank of England) และหน่วยงานกำกับดูแลการเงิน (Financial Conduct Authority)
Philip Hammond รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ระบุว่าคณะทำงานนี้จะทำหน้าที่จัดการความเสี่ยงจากเงินคริปโต และพิจารณาการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีบล็อกเชนด้วย
Jack Dorsey ซีอีโอ Twitter ให้สัมภาษณ์กับ The Times of London โดยเนื้อหาตอนหนึ่งเขาให้ความเห็นเกี่ยวกับ Bitcoin ว่าโลกกำลังจะมีสกุลเงินร่วมกันตัวเดียว อินเทอร์เน็ตจะมีสกุลเงินร่วมกันตัวเดียว และส่วนตัวเขาคิดว่าสกุลเงินนั้นคือ Bitcoin แต่กว่าวันนั้นจะมาถึงคงต้องรอมากกว่าสิบปี หรือไม่แน่ก็อาจเร็วกว่านั้น
ที่ผ่านมา Dorsey มีมุมมองบวกต่อ Bitcoin มาตลอด เขายังให้ความเห็นที่หลายคนมองว่า Bitcoin ยังไม่มีประสิทธิภาพดีพอในการใช้งานกับชีวิตจริงว่า แม้ Bitcoin จะช้าและต้นทุนสูง แต่พอมีคนถือมากขึ้น ใช้มากขึ้น เรื่องเหล่านี้ก็ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป รวมทั้งเทคโนโลยีบล็อกเชนใหม่ๆ ก็จะเข้ามาแก้ปัญหานี้
Saleem Rashid นักวิจัยความปลอดภัยรายงานถึงช่องโหว่ของกระเป๋าเงินคริปโตแบบฮาร์ดแวร์ยี่ห้อ Ledger ที่ผู้บริหารเคยยืนยันว่ามีความปลอดภัยสูง ถึงขนาดที่สามารถซื้อจากที่ไหนก็ได้ ขอแค่รันซอฟต์แวร์ตรวจสอบแล้วผ่านก็ใช้งานได้อย่างสบายใจทันที และบนกล่องก็มีข้อความว่ากล่องไม่มีสติกเกอร์กันการเปิดกล่อง เพราะกระบวนการตรวจสอบความถูกต้องเฟิร์มแวร์นั้นสามารถป้องกันได้อยู่แล้ว
ประธานาธิบดี Donald Trump ได้ลงนามในสัญญาห้ามยุ่งเกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงินของสกุลเงินคริปโตของเวเนซุเอลา รวมถึงหน่วยงานภาครัฐยังเตือนว่านี่เป็นการหลอกลวงโดยรัฐบาล Nicolas Maduro ซึ่งการลงทุนจะถูกมองว่าเป็นการสนับสนุนระบอบเผด็จการโดยตรง
ทำเนียบขาวได้ประกาศคำสั่งของ Trump เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยคำสั่งนี้จะกีดกันธุรกรรม, การช่วยเหลือทางการเงิน และดีลต่าง ๆ ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล, เหรียญดิจิทัล หรือโทเคนดิจิทัลที่ออกโดยรัฐบาลเวเนซุเอลาตั้งแต่วันที่ 9 มกราคมเป็นต้นไป คำสั่งนี้จะมีผลใช้กับประชากรสหรัฐฯ หรือคนที่อยู่ในสหรัฐฯ ส่วนคนที่เคยทำธุรกรรมไปแล้วก่อนคำสั่งจะออกจะต้องถูกพิจารณาเป็นรายกรณี
Sky News อ้างว่า Twitter เตรียมปรับนโยบายการลงโฆษณา โดยอาจสั่งระงับโฆษณาของผู้ประกอบธุรกิจเงินคริปโต แบบเดียวกับที่ Google และ Facebook ได้ประกาศสั่งแบนโฆษณาประเภทนี้ไปก่อนหน้าแล้ว
โฆษณาที่จะโดนสั่งแบนนั้นมีทั้งการประกาศระดมทุน ICO, บริการกระเป๋าเงินคริปโต รวมทั้งบริการแลกเปลี่ยนเงินคริปโต โดยเข้าใจว่าความเปลี่ยนแปลงนี้จะเกิดขึ้นในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้านี้
ที่มา - Sky News
เมือง Plattsburgh ในรัฐนิวยอร์กเป็นเมืองแรกในสหรัฐฯ ที่เตรียมออกนโยบายแบนการขุดสกุลเงินคริปโตอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะมีผลในอีก 18 เดือนข้างหน้า
Colin Read นายกเทศมนตรีเมือง Plattsburgh เผยว่า เมืองนี้มีค่าไฟที่ราคาถูกที่สุดในโลก เนื่องจากใช้พลังงานจากเขื่อนไฮดรอลิกในแม่น้ำ St. Lawrence ผู้อยู่อาศัยจ่ายค่าไฟเพียง 4.5 เซนต์ต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของทั่วประเทศที่จ่าย 10 เซนต์ และเทศบาลเมืองยังมีนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมอีก ซึ่งทำให้จ่ายค่าไฟได้ถูกสุดเหลือเพียง 2 เซนต์ต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมงเท่านั้น
Tony Fernandes ซีอีโอสายการบินราคาประหยัด AirAsia ให้สัมภาษณ์แก่ TechCrunch ว่ากำลังพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะทำเงินคริปโตเป็นของ AirAsia เองและเปิดขายเหรียญเพื่อระดมทุน
ในขณะที่การใช้บริการสายการบินเพื่อสะสมไมล์ไว้ใช้แลกตั๋วเดินทางคือเรื่องปกติสำหรับสายการบินต่างๆ แต่ Fernandes เริ่มคิดถึงเรื่องการต่อยอดระบบสมาชิกไปยังเงินคริปโต โดย Fernandes ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ในงาน Money2020 ซึ่งจัดขึ้นที่สิงคโปร์
กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ IMF นำโดยผู้อำนวยการ Christine Lagarde ออกมาเผยท่าทีต่อเงินคริปโตเป็นครั้งแรกผ่านบล็อกของ IMF โดยระบุชัดเจนว่าโลกต้องช่วยกันแก้ปัญหาการฟอกเงินผ่านคริปโต และการใช้เงินคริปโตเพื่อการก่อการร้าย
Lagarde ยกกรณีการทลายเว็บไซต์ตลาดมืด AlphaBay ในปี 2017 ที่มีเงินคริปโตมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์ หมุนเวียนภายในระบบเพื่อใช้ในกิจกรรมผิดกฎหมายต่างๆ
ข้อเสนอของ IMF คือ "ใช้ไฟสู้กับไฟ" เมื่อการกำกับดูแลเงินคริปโตทำได้ยากเพราะไม่มีศูนย์กลาง ทำให้ IMF เสนอว่าทำระบบกระจายศูนย์ distributed ledger technology (DLT) สู้กลับคืน
กูเกิลประกาศเปลี่ยนนโยบายการโฆษณาบริการทางการเงินใหม่ เพิ่มหมวดหมู่สินค้าที่ไม่รับโฆษณา ได้แก่ ไบนารีออปชั่น และเงินคริปโตทั้งหมด
ประกาศนี้ครอบคลุมแทบทุกเรื่องที่เกี่ยวกับเงินคริปโต ทั้งการประกาศระดมทุน ICO, บริการแลกเปลี่ยนเงินคริปโต, บริการซอฟต์แวร์กระเป๋าเงิน, หรือบริการให้คำปรึกษา
ประกาศมีผลเดือนมิถุนายนนี้ ก่อนหน้านี้เฟซบุ๊กก็ประกาศแบนไปก่อนแล้ว
ที่มา - Google
เมื่อวานนี้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร สำหรับการเก็บภาษีเงินได้จากเงินคริปโตและโทเคน โดยใจความสำคัญคือการหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% และต้องนำรายได้รวมไปคำนวณภาษีในหมวด 40(4) ที่ประกาศเพิ่มสองหมวดย่อย คือ (ซ) สำหรับกำไรเป็นเงินจากเงินคริปโตและโทเคน และ (ฌ) สำหรับผลประโยชน์อื่นที่ตีราคาเป็นเงินได้ และมีกำไร
กำหมายนี้เสนอโดยกระทรวงการคลัง และพระราชกำหนดนี้น่าจะเป็นกฎหมายที่นำเงินคริปโตเข้าสู่ระบบกฎหมายไทยเป็นทางการครั้งแรก
ที่มา - ประชาชาติธุรกิจ
รายการ Last Week Tonight ของพิธีกรชื่อดัง John Oliver นำเสนอประเด็นสำคัญในสหรัฐฯ มาหลายเรื่องนับแต่ประเด็นทางการเมือง, ปัญหาประกันสุขภาพ, ไปถึงการครอบครองปืนในสหรัฐฯ ตอนล่าสุดของรายการก็นำเสนอประเด็นเงินคริปโต
เนื้อหาพยายามอธิบายกลไกของเงินคริปโตและบล็อคเชนอย่างกว้างๆ แต่ชี้ให้เห็นปัญหาว่าการชักจูงคนจำนวนมากให้ลงทุนในเงินคริปโตและการระดมทุน ICO อาจจะเป็นปัญหาในระยะยาว ว่าคนทั่วไปแยกไม่ออกระหว่างบริษัทที่นำเสนอเทคโนโลยีจริง กับบริษัทที่ตั้งขึ้นมาเพียงเพื่อหลอกลวงคน กรณีที่มีการยกตัวอย่างเช่น BitConnect ที่ปิดแพลตฟอร์มไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
Troy Mursch นักวิจัยด้านความปลอดภัยออกรายงานใน Bad Packet Reports ว่าพบเว็บไซต์ที่ถูกฝังด้วยสคริปต์ขุดเงินคริปโตไม่ต่ำกว่า 48,953 เว็บ ซึ่งจากจำนวนนี้เป็น WordPress กว่า 7,368 เว็บ
สคริปต์ขุดเหมืองที่ถูกพบมากที่สุดคือ CoinHive คิดเป็นถึง 81.6% หรือกว่า 39,025 เว็บ ส่วนที่เหลือเป็น Crypto-Loot, CoinImp, Minr และ deepMiner ขณะที่ตัวเลขเว็บที่ถูกฝังสคริปต์ขุดเงินที่ Mursch พบในช่วงปลายปีที่แล้วอยู่ที่ราว 30,000 เว็บไซต์เท่านั้น
สิ่งที่เราๆ ทำได้ก็คงมีแค่ใช้ส่วนเสริมเบราว์เซอร์ที่ป้องกันการขุดเหมืองอย่าง AntiMiner, NoCoin หรือ MinerBlock เป็นต้น
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีรายงานว่ามีคนเลียนแบบเป็น Vitalik Buterin (ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum), Elon Musk หรือ John McAfee บน Twitter โดยใช้วิธีการสะกด username ผิดหรือใช้ avatar เดียวกับบัญชีจริงเพื่อทำให้ผู้ใช้สับสน (ซึ่งแน่นอนว่าบัญชีเหล่านี้ไม่มีเครื่องหมายยืนยันสีฟ้า)
บัญชีเหล่านี้จะหลอกลวงผู้ใช้ Twitter โดยการบอกให้เขาส่งเงินมาที่บัญชีโดยอ้างว่าจะได้รับเงินก้อนใหญ่กลับไป พร้อมบอกเลขบัญชีให้เรียบร้อย โดยตอนนี้ Buterin ตัวจริงได้ทวีตว่า “ไม่ ผมจะไม่ให้ ETH ใคร” พร้อมกับเปลี่ยนชื่อที่แสดงบน Twitter เป็น Vitalik “No I’m not giving away ETH” Buterin แล้ว
FSA (Financial Services Agency) หน่วยงานกำกับดูแลบริการทางการเงินของญี่ปุ่นสั่งลงโทษบริษัทค้าเงินคริปโต 7 ราย โดยสองบริษัท คือ FSHO และ BitStation ถูกสั่งปิดหนึ่งเดือน อีกห้าบริษัท ได้แก่ Tech Bureau, GMO Coin, Bicrements, Mr. Exchange, และ Coincheck ที่เพิ่งถูกแฮกไปถูกสั่งให้ปรับปรุงกระบวนการดำเนินธุรกิจ
การตรวจสอบของ FSA เน้นตรวจสอบกระบวนการปกป้องลูกค้า, การป้องกันการฟอกเงิน, และการแยกสินทรัพย์ของลูกค้าออกจากสินทรัพย์ของผู้ให้บริการ
BitStation ถูกจับได้ว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงนำสินทรัพย์ของลูกค้าไปใช้งานส่วนตัว