Tags:
Node Thumbnail

กรมทางหลวง (ทล.) ได้เริ่มเปิดใช้งานเซนเซอร์สำหรับการตรวจสอบและอัพเดตสภาพการจราจรแบบเรียลไทม์บนถนน โดยใช้การตรวจจับสัญญาณ Bluetooth หรือ Wi-Fi บนรถยนต์

เซนเซอร์นี้มีชื่อเรียกว่า BlipTrack ผลิตโดยบริษัทสัญชาติเดนมาร์ก และเรียกระบบที่ใช้งานว่า Blip System ซึ่งหลังจากเริ่มทดลองใช้ไปได้สักระยะหนึ่ง พบว่าผลลัพธ์ที่ได้เป็นที่น่าพอใจ มีการติดตั้งที่รวดเร็ว, ปรับแต่งได้ง่าย และน่าเชื่อถือสูง โดยฝ่ายผู้ขับขี่รถยนต์สามารถรับข้อมูลการจราจรแบบเรียลไทม์จากโทรศัพท์ เพื่อช่วยในการคำนวณเส้นทางที่จะใช้ในการเดินทางได้

คุณทรงฤทธิ์ ชยานันท์ ผู้อำนวยการแขวงการทางสมุทรสาครกล่าวว่า "BlipTrack ช่วยประชาชนในการเดินทางจากบ้านให้เร็วขึ้นในช่วงเทศกาลสำคัญสองเทศกาลหลัก คือ สงกรานต์ และปีใหม่ โดยระบบจะไม่ใช่แค่ช่วยให้ผู้ใช้ถนนตัดสินใจเลือกเส้นทางด้วยการใช้ข้อมูลจากออนไลน์เท่านั้น แต่ตำรวจทางหลวงก็ยังสามารถใช้เพื่อจัดการการจราจรในแบบเรียลไทม์ได้ด้วย"

กรมทางหลวงวางแผนจะใช้ข้อมูลจาก BlipTrack เพื่อช่วยปรับปรุงลักษณะการไหลของจราจรให้ดีขึ้น เช่นการเปิดเส้นทางใหม่ หรือปรับเปลี่ยนเส้นทางในชั่วโมงเร่งด่วน โดยระบบแสดงการจราจรแบบเรียลไทม์นั้นถือว่าสำคัญมากสำหรับประเทศ เพราะช่วยลดการแออัดของจราจรและมลภาวะในในกลางเมือง ทั้งยังช่วยให้ธุรกิจด้านการรับและส่งพัสดุในการปรับปรุงความคล่องตัวในการทำงานด้วย

ระบบ Blip System มีการใช้งานมาแล้วทั้งในออสเตรเลีย, แคนาดา, สหราชอาณาจักร แต่ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศกำลังพัฒนาที่ระบบ Blip System ได้นำไปติดตั้งและใช้งาน

กรมทางหลวงพบว่า หลังจากติดตั้งและทดลองใช้งานระบบ Blip System เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พบว่าโครงการนี้สามารถช่วยลดความหนาแน่นการจราจรได้อย่างมีนัยยะสำคัญ โดยแผนหลังจากนี้คือจะติดตั้งเซนเซอร์ให้ครอบคลุมทางหลวงแผ่นดินให้ได้ 250 กิโลเมตรด้วยเซนเซอร์จำนวนมากกว่า 100 ตัว

ที่มา - Readwrite

Get latest news from Blognone

Comments

By: eak1111 on 2 August 2016 - 19:55 #929865
eak1111's picture

ดูคุณสมบัติแล้ว มันต่างจาก Google map ยังไงอ่ะ
ดูเผินๆ เหมือน google map ก็ทำได้หมดนะ

By: Bound
Windows PhoneAndroidWindows
on 2 August 2016 - 20:34 #929877 Reply to:929865

สงสัยเหมือนผมเลย....

By: buzdesign on 2 August 2016 - 21:53 #929888 Reply to:929865

Google map คงฟรีมั้งครับ อันนี้น่าจะแพง

By: zipper
ContributorAndroid
on 2 August 2016 - 22:13 #929893 Reply to:929865

ไปเจอคลิปที่อธิบายการทำงานของระบบนี้มา

Blip Track: Part I "How it works"

Blip Track: Part II "Advantages"

Blip Track: Part III "Business Cases"

ดูแล้วก็เหมือนว่ามันดีตรงตรวจจับได้หลายๆ คันพร้อมกันและก็สามารถรู้ความเร็วรถด้วยจากการวัดว่าตำแหน่งที่ตรวจเจอครั้งแรกกับครั้งต่อไปห่างกันแค่ไหนทำให้คำนวณความเร็วในการเดินทางได้

ถ้าจำไม่ผิด Google Map มันจะได้ข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจราจรเช่น จส.100 ข้อมูลที่ได้คงไม่ได้ละเอียดขนาดว่ารถแต่ละคันวิ่งด้วยความเร็วเท่าไหร่แน่ จากข้อมูลตรงนี้ก็คงจะเอาไปใช้ในการวางแผนการจราจรได้ละเอียดขึ้น

By: chain_choonoi on 2 August 2016 - 22:39 #929896 Reply to:929893

คุ้นๆว่า Google Map นี้ได้ข้อมูลจากคนใช้ส่งกลับเข้าserverด้วย

By: Zatang
ContributoriPhoneAndroid
on 3 August 2016 - 08:32 #929970 Reply to:929893

google maps เดี๋ยวนี้ใช้ข้อมูลจากมือถือเข้าไปร่วมด้วยแล้วครับ ในเมืองหรือเส้นที่มีคนหน่อยแม่นมาก บอกรถติดตรงเป๊ะๆ เลย บางทีแนะนำให้วิ่งเส้นปกติไม่ขึ้นทางด่วนด้วย ลองไปตามแล้วไม่ติด เพื่อนที่ขึ้นทางด่วนถึงช้ากว่า


อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว

By: toooooooon
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 3 August 2016 - 15:26 #930164 Reply to:929970

ถ้าใครเปิด gps นี่กลายเป็นข้อมมูลชั้นดีให้ google ไปใช้เลยใช่ไหมครับ

น่าสนใจแฮะ

By: -Rookies-
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 3 August 2016 - 13:03 #930095 Reply to:929865

ที่นึกออกก็คงเป็นความแม่นยำครับ Google Map อาศัยข้อมูลจากหน่วยงานรัฐ (พวกกล้องวงจรปิด) และข้อมูลที่ผู้ใช้ส่งกลับมา (ซึ่งคาวมถูกต้องขึ้นอยู่กับ GPS ของมือถือ)

ซึ่งผมก็ยังนึกไม่ออกว่า ถ้าระบบนี้มันติดไม่ทั่ว มันจะไปแก้ปัญหารถติดได้ยังไง? (วางแผนที่นึงมั้นต้องรู้ข้อมูลทั้งหมดไม่ใช่เหรอ รู้เฉพาะบางจุดมันวางแผนได้ด้วยเหรอ?)


เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!

By: negithousand
iPhone
on 2 August 2016 - 23:59 #929919

คำถามคือ ข้อมูลที่ประมวลผลได้จะถึงมือผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างเราอย่างไร?
ข้อมูลที่ได้ จะส่งแชร์กับ google map ไหม? (ตามคลิปมีการอ้างอิง google map
แต่ไม่แน่ใจว่า เป็นแค่การแสดงผล ให้ศูนย์รับข้อมูลทราบเท่าัน้น หรือมีการแบ่งปันข้อมูลกับ google map ด้วย) เพราะถ้าไม่มีการแชร์ข้อมูล มันจะต่างอะไรกับ การให้คนไปนั่งตาม 4 แยกแล้วนับจำนวนรถ!

By: MaDCraZy
AndroidWindows
on 3 August 2016 - 10:23 #930020
MaDCraZy's picture

ถ้าเจอรถติดทางลงสะพาน ทางใกล้แยก ไม่ต้องสงสัย มีด่านข้างหน้าแน่นอน