Skip to main content

Main menu

  • Features
  • Interview
  • Forum
  • Jobs
  • Workplace
  • Company Profile
  • Search

You are here

Home » Blogs » sponsored's blog

6 เหตุผลที่ IBM Power พร้อมสำหรับ SAP HANA ได้มากกว่า

By: sponsored on 17 August 2023 - 14:30 Tags:
Topics: 
IBM
SAP
HANA
BrandedContent
Node Thumbnail

หลายคนคงทราบดีอยู่แล้วว่าซอฟต์แวร์ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จขององค์กรมากมายทั่วโลกก็คือ SAP แน่นอนว่าคงไม่มีใครปฏิเสธถึงความสำคัญ ที่ระบบ SAP จำเป็นต้องพร้อมใช้งานอยู่เสมอ เพราะหากระบบ SAP ไม่พร้อมสำหรับบริการแล้ว ธุรกิจคงประสบปัญหาไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง แม้ความมีสเถียรภาพของโครงสร้างพื้นฐานจะเป็นเรื่องสำคัญ แต่ความมีประสิทธิภาพก็มีบทบาทไม่แพ้กัน โดยเฉพาะซอฟต์แวร์ in-memory database ที่องค์กรหวังพึ่งพาความเร็วนี้ให้ตอบสนองการตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างทันทีทันใด

ด้วยความคาดหวังเหล่านี้ IBM จึงได้นำเสนอ IBM Power ที่ช่วยให้ท่านมั่นใจได้ว่า SAP HANA ขององค์กรจะอยู่บนระบบฮาร์ดแวร์ที่พร้อมใช้งานตลอดเวลา และรองรับการเติบโตของธุรกิจ โดยในบทความนี้ท่านจะได้รับทราบ 6 เหตุผลว่าทำไม IBM Power ถึงตอบโจทย์ SAP HANA ได้มากกว่า

1.) ความมีสเถียรภาพ คงทน

ทุกการ Downtime ของระบบใดระบบหนึ่งขององค์กรมักมีผลตามมาเสมอไม่มากก็น้อย ยิ่งเป็นระบบที่เป็นหัวใจสำคัญขององค์กรที่ช่วยจัดการเรื่องราวต่างๆอย่าง SAP ที่ความผิดพลาดนั้นเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ ด้วยเหตุนี้หากต้องเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่จะนำเข้ามาใช้งานสักตัวหนึ่ง องค์กรคงต้องมองหาเซิร์ฟเวอร์ที่ถูกออกแบบมาอย่างมีสเถียรภาพอย่างแท้จริง โดยเฉพาะ IBM Power ที่มีผลงานการันตีว่า

  • IBM เป็นผู้นำด้าน Reliability มากกว่า 13 ปีโดยสถิติ uptime การให้บริการ SAP ถึง 99.999% จากรายงานของ Information Technology Consulting (ITIC)
  • IBM มีเทคโนโลยี Memory Protection ที่ช่วยตรวจสอบปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในส่วนของหน่วยความจำก่อนที่จะเกิดขึ้น เพื่อเป็นการป้องกันในเชิงรุก ซึ่งสำคัญมากับการทำงานแบบ In-memory อย่าง SAP HANA
  • กรณีที่ชิปเสียหาย โมดูล Dual in-line memory (DIMM) จะช่วยทดแทนส่วนที่เสียหาย ทำให้งานสามารถดำเนินต่อไปได้ โดยเฉพาะความสามารถของ IBM Power10 ที่ให้ประสิทธิภาพของ Data Throughput และ Latency ต่ำ
  • IBM ใส่ใจต่อประเด็นด้านความคงทนเป็นอย่างสูง ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ในขั้นตอนการออกแบบ อีกทั้งยังมีการทดสอบด้วยระบบจำลอง (Simulation Test) และการทดสอบใช้งานกับโจทย์ในความเป็นจริงอีกด้วย

2.) พร้อมรองรับการเติบโต

คำแนะนำหนึ่งจากทีมงาน SAP ต่อลูกค้าที่ใช้งานก็คือการเพิ่มทรัพยากรได้เรื่อยๆ (Scale-up) เพื่อรองรับการเติบโตของข้อมูล ที่ท่านจะเห็นได้ว่าแนวโน้มเหล่านี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงและเป็นการเติบโตเป็นไปอย่างก้าวกระโดด เพราะมีแหล่งข้อมูลใหม่เพิ่มขึ้นมากเช่น IoT ข้อมูลที่ได้รับจากพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย

อย่างไรก็ดีโจทย์การขยายตัวเหล่านี้เป็นเรื่องที่ทำได้ยากโดยเฉพาะกับฮาร์ดแวร์ x86 ที่ใช้งานกันในอดีต นั่นหมายถึงการเพิ่มจำนวน Appliance เข้ามา หรือต้องใช้ Appliance หลายตัวต่อ SAP HANA เพียงแค่ 1 instance ด้วยเหตุนี้เองการขยายตัวจึงเป็นเรื่องที่มีต้นทุนทางการจัดการสูง แต่ไม่ใช่กับ IBM Power เนื่องจาก

เทคโนโลยี IBM PowerVM Virtulization ทำให้ผู้ใช้งาน SAP HANA สามารถค่อยๆเพิ่มทรัพยากรการใช้งานได้ตั้งแต่ 0.01 คอร์และหน่วยความจำที่ 1 GB ซึ่งนอกจากจะรองรับการขยายตัวตามความจำเป็นแล้ว ยังหมายถึงการรับมือกับช่วงเวลาที่โหลดการใช้งานพุ่งสูงด้วย ทั้งนี้เทคโนโลยี Virtual Server ยังช่วยให้ธุรกิจสามารถ Provision เครื่องใหม่สำหรับจุดประสงค์การใช้งานที่ต่างกันออกไป เช่น เพื่อการทดสอบและพัฒนา หรือการใช้งานจริงในวัตถุประสงค์อื่น ตลอดจนเครื่อง Virtual เหล่านี้ยังสามารถย้ายข้ามระหว่าง IBM Power Server ได้โดยไม่ต้องปิดหรือรีบูตเครื่องอีกด้วย

3.) มั่นคงปลอดภัยมากขึ้น

ประเด็นเรื่องความมั่นคงปลอดภัยเป็นสิ่งที่องค์กรในปัจจุบันมองหา ยิ่งในยามที่ภัยคุกคามทางไซเบอร์กลายเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ทุกวัน ซึ่งหลายองค์กรพยายามจัดทำ Policy ที่รัดกุมมากขึ้น โดยจากสถิติของ ITIC พบว่าผู้ใช้งาน IBM Power กว่า 92% ชี้ว่าพวกเขาสามารถตรวจจับและป้องกันการโจมตีอย่างทันท่วงที ซึ่งเป็นสถิติที่เหนือกว่าเซิร์ฟเวอร์ทั่วไปในท้องตลาด

โดยประสิทธิภาพด้านความมั่นคงปลอดภัยของ IBM Power กับ SAP HANA ยังสามารถทำ Memory Encryption ได้ด้วยอัลกอริทีมที่ได้รับการยอมรับโดยไม่กระทบต่อคุณภาพการทำงานของแอปพลิเคชัน ไม่เพียงเท่านั้นใน IBM Power10 ผู้ใช้งานยังสามารถพึ่งพาความแข็งแกร่งนี้ไปได้แม้กระทั่งวันที่ยุคแห่งควอนตัมมาถึง เนื่องจากการเข้ารหัสได้รองรับ Quantum-Safe แล้ว

4.) สนับสนุนเป้าหมายด้านความยั่งยืน

หมวดนึงของเป้าหมายด้านความยั่งยืนที่ภาคไอทีมีบทบาทสำคัญก็คืออัตราการปล่อยคาร์บอน ที่ภาคธุรกิจไอทีมีส่วนร่วมถึง 3.9% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งโลก ซึ่งแน่นอนว่าผู้บริหารส่วนใหญ่เริ่มตระหนักถึงประเด็นนี้และบรรจุลงเป็นสิ่งที่ต้องทำในอนาคตอันใกล้ เช่นกันกับ IBM ที่ตระหนักถึงความสำคัญในอนาคตของโลกใบนี้ จนนำไปสู่การตั้งเป้าหมายว่า IBM Power รุ่นถัดไปต้องมีอัตราการใช้ไฟน้อยลงเรื่อยๆ เช่น เมื่อเทียบระหว่าง IBM Power9 และ IBM Power10 ในการใช้ไฟเท่ากันแต่ Power10 มีประสิทธิภาพมากกว่าถึง 50% นอกจากนี้ IBM เองยังให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานหมุนเวียนและการเลือกใช้วัสดุที่ย่อยสลายได้

5.) พร้อมทุกทางเลือกในการใช้งาน

No Description

แต่ละองค์กรย่อมมีความต้องการที่แตกต่างกันออกไป บางองค์กรอาจพึงพอใจกับการมี Appliance เป็นของตัวเอง แต่ก็อยากได้ความคุ้มค่าเทียบเท่ากันกับคลาวด์ที่ใช้จ่ายตามจริง ซึ่งนี่คือประโยชน์เชิงตัวเลขของ IBM Power ที่เห็นผลได้โดยตรง ด้วยโมเดลที่เริ่มต้นตามความต้องการก่อน และค่อยๆเปิดการใช้งานเพิ่มขึ้นในภายหลัง ด้วยเทคโนโลยี IBM Power Virtual Server หรือแม้แต่บริการคลาวด์เต็มรูปแบบบน IBM Cloud ผ่านโครงการ RISE with SAP ดังนั้นไม่ว่าท่านจะเป็นผู้ใช้งานในรูปแบบใดก็สามารถเลือก IBM Power ได้ทั้งสิ้น

6.) ความช่วยเหลือระดับพรีเมี่ยม

แน่นอนว่าทุกการใช้งานของระบบไอทีปัญหาเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอ ดังนั้นคำถามที่ควรถูกถามคือจะมีช่องทางใดที่ช่วยให้การแก้ปัญหานั้นเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว โดยในการใช้งาน IBM Power นั้นมาพร้อมกับเครื่องมือที่ช่วยให้ทีมงานไอทีสามารถตรวจสอบปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นและป้องกันเหตุได้ก่อนเกิดจริง นอกจากนี้ฟังก์ชัน Call Home ยังช่วยให้องค์กรสามารถรับความช่วยเหลือจากทีมงานของ IBM โดยตรง ไม่เพียงเท่านั้นยังมีคำแนะนำจาก AI ที่ช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้าไปแล้วนับหมื่นราย

ในทางปฏิบัติจริงนั้น SAP HANA มีรายละเอียดปลีกย่อยอีกไม่น้อยที่ต้องคำนึงถึง เช่น การย้าย SAP จากระบบ On-premise เดิมสู่ SAP HANA หรือการใช้งานคลาวด์ ตลอดจนเมื่อการติดตั้งสำเร็จแล้ว ประสิทธิภาพที่เหมาะสมจริงกับองค์กรนั้นควรเป็นอย่างไร เพิ่มหรือลดอะไรได้บ้าง ในส่วนของฮาร์ดแวร์เองท่านสามารถมั่นใจได้เลยว่า IBM Power10 ได้ผ่านการรับรอง (Certified) กับ SAP HANA มาแล้ว แต่ในเรื่องของการออกแบบและดูแลหลังการขาย ผู้สนใจสามารถปรึกษาทีมงานของ Computer Union ได้ที่ email : cu_mkt@cu.co.th หรอ โทร 02 311 6881 #7151, 7158

No Description

LINE it!
FB Share
Get latest news from Blognone Follow @twitterapi

Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ

Data Wow Co.,Ltd company cover
Data Wow Co.,Ltd
We enable our clients to realize increased productivity by solving their most complex issues by Data
Seven Peaks company cover
Seven Peaks
We Drive Digital Transformation
Bangmod Enterprise company cover
Bangmod Enterprise
The leader in Cloud Server and Hosting in Thailand.

sign in

  • ลงทะเบียน
  • ลืมรหัสผ่าน

Cloudnone

  • AWS มาไทย ย้ายเลยดีไหม อะไรยังมาไม่ครบบ้าง? | Cloudnone Ep. 23
  • NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
  • ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
  • รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
  • อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
More

Future of Work

  • Google พบ พนักงานสามารถลดเวลาได้ 122 ชั่วโมงต่อปี หลังนำ AI มาใช้ในงานธุรการ
  • 5 ประโยคอันตรายช่วงสัมภาษณ์งานที่ควรระวังไว้ก่อนตกลงเข้าทำงานที่ใหม่
  • 5 วิธีปลุกไฟในการทำงาน แก้อาการ Burnout Syndrome
  • 4 ทักษะจำเป็นสำหรับการทำงานยุคใหม่
  • รู้หรือไม่ว่าการเรียนคอร์สออนไลน์ มีส่วนช่วยให้ได้งานง่ายขึ้น

Forum

  • ปิดบางฟังก์ชั่นเพื่อ migrate เว็บครับ
  • มีใครทราบวิธีการแบ่งตัวหนังสือยาว ๆ เป็นย่อหน้าด้วยเอไอไหมครับ
  • ตามหาบริษัทรับทำแอปมืออาชีพครับ
  • Barcamp Songkhla ครั้งที่ 9 ขยายเวลารับสมัครแล้วนะ !
  • มีใครเป็นบ้าง ต่อ android auto kplus ฟ้อง เป็นแอพจับภาพหน้าจอ
  • แอพธนาคารที่ยังไม่ล็อค USB Debugging
  • Android แท็บเล็ต 8 นิ้วแบบมีปากกาหายไปไหนหมด?
  • Best Performance บน Windows 11 ใช้แทน high performance ของ Windows 10 ได้ไหมครับ?
  • 9800x3d จะวางขายในไทยเมื่อไรครับ
  • แชร์ Nerd Font ทีใช้กันครับ

About Blognone

  • About Us, History
  • Careers
  • Statistics
  • Become Member
  • Writing Guideline, Glossary
  • Contact Us
  • Privacy Policy

Other Version

  • RSS Feed
  • Apps
  • Twitter, Facebook, YouTube

Blognone in Other Forms

Copyright Notice

Creative Commons Attribution 3.0
©2004-2024

Blognone.com is owned and operated by Blognone Co., Ltd. (LinkedIn Profile)

Blognone is a subsidiary company of wongnai.com