Xiaomi รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2019 รายได้รวม 5.19 หมื่นล้านหยวน (7.3 พันล้านดอลลาร์, 2.3 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้น 14.8% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 1.96 พันล้านหยวน (277.7 ล้านดอลลาร์, 8.5 พันล้านบาท)
สมาร์ทโฟนในไตรมาสที่ผ่านมาขายได้ 32.1 ล้านเครื่อง ส่วนยอดขายรวมนับตั้งแต่เปิดตัวนั้น Xiaomi บอกว่าตระกูล Redmi Note 7 ขายได้แล้วมากกว่า 20 ล้านเครื่อง ส่วนตระกูล K20 ขายได้มากกว่า 1 ล้านเครื่อง ในเดือนแรกที่เริ่มจำหน่าย
3 ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ของจีน ได้แก่ Xiaomi, Oppo และ Vivo ประกาศความร่วมมือในการพัฒนาโปรโตคอลสำหรับส่งไฟล์แบบไร้สายระหว่างอุปกรณ์ร่วมกัน โดยจะทำงานบนระบบปฏิบัติการที่พัฒนาต่อจาก Android ของแต่ละค่าย นั่นคือ MIUI ของ Xiaomi, ColorOS ของ Oppo และ FuntouchOS ของ Vivo
โปรโตคอลดังกล่าวจะจับคู่อุปกรณ์ผ่านบลูทูธ และส่งข้อมูลหากันด้วย Wi-Fi ความเร็วสูงสุด 20MB ต่อวินาที คล้ายกับการทำงานของ AirDrop บน iOS ทั้งนี้ Xiaomi บอกว่าเวอร์ชันเบต้าจะมีออกมาให้ใช้งานภายในเดือนนี้ และผู้ผลิตสมาร์ทโฟนค่ายอื่นก็สามารถเข้าร่วมพันธมิตรนี้ได้
หากดูเฉพาะส่วนแบ่งยอดขาย 3 ค่ายสมาร์ทโฟนนี้ในจีนก็สูงถึง 49% โปรโตคอลดังกล่าวจึงมีโอกาสได้รับความนิยมสูง
ซัมซุงเปิดตัวเซ็นเซอร์กล้อง ISOCELL รุ่นใหม่ Bright HMX ที่มีความละเอียดสูงถึง 108 เมกะพิกเซล ถือเป็นเซ็นเซอร์กล้องมือถือตัวแรกที่มีความละเอียดสูงเกิน 100 ล้านพิกเซล เทียบเท่ากับกล้อง DSLR ระดับโปร
คุณสมบัติอื่นของ ISOCELL Bright HMX คือใช้เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.33 รองรับปริมาณแสงได้มากขึ้น และเทคนิค Tetracell รวมแสงจากพิกเซลที่อยู่ติดกัน 4 เม็ดพิกเซลเพื่อให้ได้ภาพที่สว่างขึ้น (ภาพที่รวมแล้วจะความละเอียด 27 เมกะพิกเซล)
นอกจากนี้ เซ็นเซอร์ HMX ยังมีฟีเจอร์ Smart-ISO ช่วยเลือกระดับการขยายสัญญาณ เพื่อให้การแปลงสัญญาณแสงเป็นกระแสไฟฟ้า (light-to-electric signal conversion) มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะเลือกใช้ ISO ต่ำในสภาพแสงปกติ และ ISO สูงในสภาพแสงน้อยเพื่อลด noise
Xiaomi Thailand เปิดราคาของ Mi A3 มือถือ Android One ในประเทศไทย
Mi A3 เริ่มวางขายในประเทศไทยแล้ววันนี้ (7 สิงหาคม) เป็นวันแรก
Xiaomi เปิดตัวเกมมิ่งโฟน Black Shark 2 Pro ซึ่งเป็นเวอร์ชันอัพเกรดของ Black Shark 2 ที่ออกเมื่อต้นปี
การเปลี่ยนแปลงสำคัญที่สุดคือ อัพเกรดหน่วยประมวลผลเป็น Snapdragon 855 Plus ตัวใหม่ล่าสุด (เทียบเท่ากับ ASUS ROG Phone II ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อไม่กี่วันก่อน) และอัพเกรดตัวสตอเรจเป็น UFS 3.0
Xiaomi เปิดตัวมือถือ Android One ประจำปี 2019 นั่นคือ Mi A3 ที่หลายคนรอคอยกัน โดยรอบนี้อิงจาก Xiaomi CC9e มือถือแบรนด์ย่อยที่เพิ่งเปิดตัวไม่นานมานี้
สเปกของ Xiaomi Mi A3 มีดังนี้
ช่วงที่ผ่านมาตลาด Smart Band หรือ Fitness Tracker กลับมาคึกคักอีกครั้ง เมื่อ Xiaomi เปิดตัว Mi Band 4 ด้วยคุณสมบัติที่จัดเต็มใกล้เคียงกับคู่แข่งที่ราคาหลายพัน แต่มาในราคาแค่ 1,290 บาทเท่านั้น หรือหากสั่งซื้อจากบนเว็บก็พอมีราคาต่ำพันขายด้วยซ้ำ
รีวิวนี้จะพาไปดูความสามารถของ Mi Band 4 ว่ามันคุ้มสมชื่อมันจริงหรือไม่
Disclaimer: บทความนี้ไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จาก Xiaomi ผู้เขียนซื้อมาใช้เอง
Xiaomi เปิดจำหน่าย Mi Box S ที่เป็น Android TV ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการที่ราคา 2,599 บาท หลังจากเปิดตัวในสหรัฐฯ ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
การเป็น Android TV ทำให้ Mi Box S รองรับ Google Cast ยิงภาพจากโทรศัพท์มือถือขึ้นทีวีได้เลย หากใครต้องการใช้ Google Cast ที่ภาพระดับ 4K ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
Xiaomi เปิดตัวโทรศัพท์ตัวรอง Mi 9T ในประเทศไทย สเปคดังนี้
รุ่นสตอเรจ 64GB ราคา 11,990 บาท รุ่น 128GB ราคา 12,990 บาท มีโปรโมชั่นติดสัญญากับ AIS แถม Mi Band 4
Xiaomi ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนชุดใหญ่ซีรี่ส์ CC9 โดยมีประเด็นที่หลายคนสนใจคือฟีเจอร์สร้างอวาตาร์ 3D สำหรับสนทนา เรียกชื่อว่า Mimoji ซึ่งหน้าตาการ์ตูนนั้นค่อนข้างคล้ายกับฟีเจอร์แนวเดียวกันใน iMessage ของแอปเปิลที่เรียกชื่อว่า Memoji
แอปเปิลเปิดตัว Memoji ใน iOS 12 ไปเมื่อปีที่แล้ว และไม่ถือว่าเป็นผู้ริเริ่มเสียทีเดียว เนื่องจาก Galaxy S9 มีฟีเจอร์แบบนี้มาก่อนอยู่แล้ว
พร้อมๆ กับ Mi Band 4 ทาง Xiaomi ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนระดับล่างอย่าง Redmi 7A ด้วยขนาดหน้าจอ 5.45 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ชิปเซ็ต Snapdragon 439 กล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 5 พิกเซล มีระบบ AI ทั้งคู่
Redmi 7A ยังรองรับวิทยุ, หูฟัง 3.5 มม., microSD และกันละอองน้ำได้ด้วย แบตเตอรี 4,000 mAh มีสองสีคือ Matte Black และ Matte Blue โดยรุ่น 2GB+16GB ราคาอยู่ที่ 2,999 บาท ส่วนรุ่น 2GB+32GB ราคาอยู่ที่ 3,399 บาท เปิดให้พรีออเดอร์ผ่าน Lazada ถึงวันที่ 10 กรกฎาคมนี้ พร้อมรับฟรี microSD 32GB (ของแถมมีจำกัด)
Xiaomi เปิดราคา Mi Band 4 ฟิตเนทแทรคเกอร์ในประเทศไทย ด้วยสเปคหน้าจอ AMOLED, กันน้ำ 5 ATM, วัดอัตราการเต้นของหัวใจ รองรับการควบคุมเพลง แบตเตอรี่อยู่ได้สูงสุด 20 วัน ตัวจับการเคลื่อนไหวเป็น accelerometer 3 แกนและ gyroscope 3 แกน
ส่วนราคาเปิดมาที่ 1,290 บาท ราคาเดียวกับ Galaxy Fit e ของคู่แข่ง
ปีที่แล้ว เราเห็นข่าว Xiaomi เข้าเทคโอเวอร์ธุรกิจฮาร์ดแวร์มือถือของ Meitu ผู้พัฒนาแอพกล้องเซลฟี่ชื่อดังของจีน โดย Meitu จะไปโฟกัสที่การพัฒนาซอฟต์แวร์กล้องเพียงอย่างเดียวแทน
ความคืบหน้าของเรื่องนี้คือ Xiaomi ประกาศทำสมาร์ทโฟนซีรีส์ใหม่ Mi CC (ย่อมาจาก camera+camera) โดยจะเป็นสมาร์ทโฟนอีกซีรีส์นอกเหนือจาก Mi และ Mi Mix ที่มีอยู่แล้ว
Xiaomi บอกว่า Mi CC จะเป็นสมาร์ทโฟนสำหรับคนรุ่นใหม่ เน้นเรื่องการถ่ายภาพทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง โดยชูจุดเด่นเรื่องอัลกอริทึมของกล้องที่พัฒนาโดย Xiaomi x Meitu AI Beauty Lab
ตอนนี้ยังไม่มีหน้าตาของมือถือ Mi CC ตัวแรกออกมา รวมถึงยังไม่มีข้อมูลว่าจะเปิดตัวเมื่อไร
คนที่ใช้มือถือ Android แบรนด์จีน อาจไม่ค่อยคุ้นเคยกับแนวทางการออกแบบ UI ของรอมจีน ที่นำไอคอนของแอพทั้งหมดมาแสดงไว้บนหน้าโฮม (เหมือนกับ iOS) สักเท่าไรนัก เพราะแตกต่างจากแนวทางการออกแบบ UI ของกูเกิลซึ่งมี app drawer อยู่มากพอสมควร
รอม MIUI ของค่าย Xiaomi เป็นอีกรอมที่ใช้แนวทางนี้ และที่ผ่านมาไม่มีตัวเลือกในการเปิดใช้ app drawer ด้วย ทางออกสำหรับคนชอบ drawer คงต้องใช้ launcher ตัวอื่นแทน
ปกติแล้วรอม MIUI แบ่งเป็น แบบเสถียร (stable) ที่มากับเครื่องสำหรับผู้ใช้ทั่วไป มีเสถียรภาพสูงกว่า ปกติจะอัพเดตเป็นรายเดือน กับรุ่นเบต้า (beta) ที่ต้องหามาติดตั้งเอง ใช้เพื่อทดสอบฟีเจอร์หรือลูกเล่นใหม่ๆ อาจเสถียรน้อยกว่า แต่จะได้ลองฟีเจอร์ใหม่ๆ ปกติจะอัพเดตเป็นรายสัปดาห์
เมื่อสี่วันก่อน Xiaomi ประกาศว่า จริงๆ แล้วรอมเบต้านั้นตั้งใจสำหรับให้แฟนๆ มีส่วนร่วมในการพัฒนารอมได้ทดสอบและให้ฟีดแบ็คแก่ทีม R&D เพื่อช่วยปรับปรุง ก่อนที่จะปล่อยฟีเจอร์ขึ้นไปยังรอมฉบับเสถียรต่อไป
Xiaomi ประกาศมือถือชุดแรกที่จะได้อัพเกรดเป็น MIUI 11 ที่พัฒนาจาก Android Q โดยมีกำหนดออกรอมในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2019
ประกาศนี้สำหรับสมาร์ทโฟนที่วางขายในตลาดจีนเป็นหลัก สำหรับตลาดนอกประเทศจีนคงต้องรอประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง
ที่มา - 9to5google
นอกจาก Mi Band 4 แล้ว เมื่อวานนี้ Xiaomi ยังเปิดตัวนาฬิกาอีกสองรุ่น คือ Amazfit Verge 2 นาฬิการุ่นสูงของ Xiaomi และ Amazfit Health Watch ที่หน้าตาคล้าย Amazfit BIP นาฬิการุ่นต่ำสุดที่มี GPS ในตัว
Amazfit Verge 2 ใช้ชิป Qualcomm Wear 2500 แรม 512MB สตอเรจ 4GB รองรับ eSIM แบบ 4G มีไมโครโฟนและลำโพงในตัว จับพิกัดได้ทั้ง GPS/GLONASS/Beidou มีรุ่น ECG จับสัญญาณหัวใจ และ NFC สำหรับจ่ายเงิน Alipay
รุ่นธรรมดาเริ่มต้น 1,000 หยวน รุ่น ECG ราคา 1,299 หยวน เริ่มขายในจีนแล้ว
งานเปิดตัว Xiaomi ในจีนวันนี้นอกจากการเปิดตัว Mi Band 4 แล้ว ยังมีการเปิดตัวเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอีกชุด ได้แก่
Xiaomi เปิดตัว Mi Band 4 สมาร์ตวอชราคาประหยัด ความเปลี่ยนแปลงสำคัญคือหน้าจอสามารถรับคำสั่งได้มากขึ้น เช่น ควบคุมโปรแกรมเล่นเพลงได้จากในนาฬิกาแล้ว หรือหากคำสั่งซับซ้อนกว่านั้นก็สามารถส่งคำสั่งด้วยเสียงได้ เช่นการควบคุมหลอดไฟ หรือเครื่องปรับอากาศ
สเปคอื่นๆ ได้แก่ หน้าจอ AMOLED 0.95 นิ้ว, ตัวจับการเคลื่อนไหว 6 แกนทำให้จับจังหวะการว่ายน้ำได้แม่นยำขึ้น, สามารถเปลี่ยนหน้าจอ, มีตัวเลือกรุ่น NFC สำหรับจ่ายเงิน, และตัวเรือนกันน้ำ 50 เมตร แบตเตอรี่ชาร์จเต็มอยู่ได้ 20 วัน
เริ่มขายเฉพาะในจีนก่อน แต่คงมีร้านนำมาขายกันเรื่อยๆ ราคาในจีนรุ่นธรรมดา 169 หยวน รุ่น NFC ราคา 229 หยวน รุ่น Avenger 349 หยวน
Xiaomi รายงานว่าทางบริษัทพบปัญหาความปลอดภัยบนผลิตภัณฑ์ Mi Electric Scooter (M365) คือตัวสกรูมีโอกาสหลวมซึ่งทำให้ชิ้นส่วนหลุดจากกันได้ในขณะใช้งาน ทำให้ต้องเรียกคืนผลิตภัณฑ์บางส่วนกลับมาแก้ไข
ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาความปลอดภัยนี้มีอยู่เป็นจำนวนจำกัด (ตามตัวเลขของ Xiaomi บอกว่า 10,257 คัน) โดย Xiaomi จะเรียกคืนผลิตภัณฑ์ในสหราชอาณาจักรวันที่ 26 มิถุนายนนี้ และประเทศอื่น ๆ ในวันที่ 1 กรกฎาคม
มือถือรุ่นใหม่เดี๋ยวนี้มีนวัตกรรมกล้องหน้ามากมาย ทั้งติ่งบนหน้าจอ ติ่งหยดน้ำ รูฝังลงในหน้าจอ เพื่อให้จอมือถือมันกว้างเต็มพื้นที่มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ล่าสุดค่ายมือถือก็ส่งมือถือกล้องป๊อบอัพกันมาหลายรุ่น เพราะพื้นที่หน้าจอจะได้ไม่ต้องเสียไปกับการวางเลนส์
แต่ดูเหมือนแค่กล้องป๊อบอัพจะไม่พอ ล่าสุด OPPO, Xiaomi เผยโมเดลกล้องมือถือใหม่ในเวลาไล่เลี่ยกันคือ เป็นกล้องที่ฝังอยู่ในหน้าจอมือถือโดยที่เรามองไม่เห็น แต่สามารถใช้งานกล้องหน้าได้เมื่อเปิดกล้องถ่ายรูปตามปกติ
นอกจากแล็ปท็อป RedmiBook 14 แบรนด์ลูกของ Xiaomi อย่าง Redmi ก็เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ด้วยเช่นกันตามที่มีข่าวลือก่อนหน้านี้ นั่นคือ Redmi K20 ที่วางตำแหน่งเป็นมือถือสเป็กดีราคาถูกเช่นเคย โดยคราวนี้มาพร้อมกับรุ่นคู่กัน K20 Pro ที่มีราคาเพิ่มขึ้นพร้อมสเป็กที่จัดเต็ม
Redmi K20 Pro มาพร้อมซีพียู Snapdragon 855 กล้องหลังสามตัว 48MP, 13MP สำหรับเลนส์มุมกว้าง และ 8MP สำหรับเลนส์เทเลโฟโต้ ส่วนกล้องหน้า 20MP เป็นแบบป๊อปอัพ หน้าจอ OLED 6.39 นิ้ว พร้อมระบบสแกนลายนิ้วมือใต้จอ แบตเตอรี่ 4,000 mAh แรม 6/8 GB สำหรับรุ่นความจุ 64 และ 256 GB ตามลำดับ
Xiaomi เปิดตัวแล็บท็อปภายใต้แบรนด์ลูก Redmi โดยรุ่นแรกเรียกชื่อว่า RedmiBook 14 ซึ่งเน้นไปที่ความคุ้มค่าของสเป็กในราคาที่ไม่แรง
RedmiBook 14 มาพร้อมหน้าจอ 14 นิ้ว Full HD ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ซีพียูอินเทลมีตัวเลือกคือ 8th Gen i7-8565U กับ i5-8265U การ์ดจอ NVIDIA GeForce MX250 หน่วยความจำ SSD 256GB หรือ 512GB และแรม 8GB น้ำหนัก 1.5 กิโลกรัม ความหนาเครื่อง 17.95 มิลลิเมตร
ราคาขายเริ่มต้นที่ 3,999 หยวน (18,000 บาท) สำหรับรุ่น Core i5 SSD 256GB และรุ่นสเป็กสูงสุด 4,999 หยวน (23,000 บาท) สำหรับ Core i7 SSD 512GB ยังไม่มีข้อมูลว่าจะมีการจำหน่ายนอกประเทศจีนหรือไม่
Xiaomi รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2019 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 27.2% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน เป็น 43,756.8 ล้านหยวน และมีกำไรสุทธิ 3,191.7 ล้านหยวน โดยมีจำนวนผู้ใช้งาน MIUI 260.9 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้น 37.3%
รายได้หลักของ Xiaomi ยังคงมาจากสมาร์ทโฟน รายได้ไตรมาสที่ผ่านมาอยู่ที่ 27,008.7 ล้านหยวน คิดเป็น 62% ของรายได้รวม ขายไปได้ 27.9 ล้านเครื่อง มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 4 ของโลก ส่วนสินค้า IoT และไลฟ์สไตล์มีรายได้ 12,043.0 ล้านหยวน นอกจากนี้ยังมีรายได้จากส่วนธุรกิจอื่น อาทิ โฆษณาทางอินเทอร์เน็ต, บริการด้านการเงิน และอีคอมเมิร์ซ Youpin
Xiaomi ออกรายงานแจ้งข่าวสารต่อตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ระบุว่ารายงานของ IDC เกี่ยวกับตลาดสมาร์ทโฟนไตรมาส 1/2019 ซึ่งบอกว่า Xiaomi มียอดส่งมอบสมาร์ทโฟน 25.0 ล้านเครื่อง คิดเป็นอันดับ 4 ของตลาดนั้นไม่ถูกต้อง และคลาดเคลื่อนไปจากความจริง
โดย Xiaomi บอกว่าเหตุที่ต้องรีบออกมาปฏิเสธ ก็เพื่อให้นักลงทุนได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ซึ่งยอดส่งมอบจริงนั้นมีจำนวนมากกว่า 27.5 ล้านเครื่อง (สูงกว่า IDC อย่างน้อย 10%) โดยตอนนี้เป็นตัวเลขเบื้องต้นเท่านั้น บริษัทจะรายงานตัวเลขจริงหลังตรวจสอบและจะรายงานในรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสอีกครั้ง
ทั้งนี้ IDC ได้ชี้แจงว่าจะมีการปรับปรุงตัวเลขส่วนของ Xiaomi ภายในสัปดาห์หน้า