หลังหมดชุดการอัพเดตเป็น Windows 10 Creators Update ไมโครซอฟท์ก็เดินหน้าต่อกับ Windows Insider เพื่อเตรียมออกอัพเดตตัวถัดไป (Redstone 3) ในเดือนกันยายนนี้
ของใหม่ใน Build 16188 ตัวล่าสุด เน้นไปที่ความสามารถของ Edge ในการอ่านไฟล์ PDF เช่น รองรับการกรอกฟอร์ม PDF, เขียนข้อความลงในไฟล์ (annotation), รองรับการแสดงสารบัญ (table of contents), รองรับการพลิกเอกสาร (rotate) และการแสดงผลแบบ 2 หน้าในจอเดียว
โน้ตบุ๊คแบรนด์อื่นนอกเหนือจาก Microsoft Surface ที่จะรองรับระบบปฎิบัติการ Windows 10 S สองรายแรกที่ประกาศล่าสุดคือ HP และ Acer โดยทั้งคู่ขายเครื่องพร้อมระบบ Windows 10 S ในราคา 299 ดอลลาร์
ใน Windows 10 S ระบบปฏิบัติการสำหรับภาคการศึกษาที่ไมโครซอฟท์เปิดตัวมาสดๆ ร้อนๆ มีฟีเจอร์เพื่อการศึกษาคือ View Mixed Reality ที่ใช้รูปภาพธรรมดามาสร้างเป็นภาพสามมิติได้บนหน้าจอเลย หรือใช้กล้องบนแล็ปท็อปสร้างภาพสามมิติได้
ฟีเจอร์ใหม่นี้เปิดโอกาสให้ผู้ใช้โดยเฉพาะนักเรียนได้เรียนรู้คอนเทนต์แบบสามมิติบนหน้าจอโดยไม่ต้องสวมอุปกรณ์ แต่ฟีเจอร์
View Mixed Reality ก็รองรับแว่น VR ด้วยเช่นกันผู้เรียนสามารถสำรวจดวงดาวในระบบสุริยะแบบใกล้ชิดสมจริง หรือสำรวจคอนเทนต์เพื่อการศึกษาอื่นๆ
ไมโครซอฟท์เปิดตัว Windows 10 S ระบบปฏิบัติการสำหรับภาคการศึกษา (หรือก่อนหน้านี้ที่เราเรียกกันเล่นๆ ว่า Windows 10 Cloud)
ข้อมูลของ Windows 10 S ตรงตามข่าวลือก่อนหน้านี้ว่ามันจะรันได้เฉพาะแอพจาก Windows Store เท่านั้น ไม่สามารถติดตั้งแอพแบบ .exe เองได้ เพื่อแลกกับความปลอดภัยที่ดีขึ้น (แอพจาก Store จะรันอยู่ใน container) ส่วนคนที่เกรงว่าจะไม่มี Microsoft Office ให้ใช้งาน ก็สบายใจได้ว่าไมโครซอฟท์จะออก Office 365 เวอร์ชัน Store พร้อมแอพ Microsoft Teams สำหรับภาคการศึกษาด้วย
Windows 10 S จะพรีโหลดมาพร้อมกับพีซีสำหรับภาคการศึกษาจากผู้ผลิตหลายราย ราคาเครื่องพร้อมระบบปฏิบัติการเริ่มต้นที่ 189 ดอลลาร์
Microsoft Edge ถือเป็นเว็บเบราว์เซอร์ที่ไมโครซอฟท์ฝากความหวังเอาไว้มาก หากแต่มันกลับพัฒนาอย่างช้าๆ และมีฟีเจอร์ด้อยกว่าคู่แข่งรายอื่นหลายอย่าง เหตุผลหนึ่งอาจเป็นเพราะไมโครซอฟท์อัพเดต Edge ตามรอบของระบบปฏิบัติการ Windows 10 ทำให้การพัฒนาไม่เร็วอย่างที่ควรจะเป็น
เว็บไซต์ Neowin อ้างแหล่งข่าวภายในว่าอัพเดตใหญ่ของ Windows 10 ตัวถัดไป โค้ดเนม Redstone 3 ที่จะออกในเดือนกันยายนนี้ ไมโครซอฟท์จะแยก Edge ให้อัพเดตผ่าน Windows Store แทน
ไมโครซอฟท์จะจัดสัมมนาใหญ่ Build 2017 ในวันที่ 10 พฤษภาคมนี้ และข่าวนี้มีโอกาสสูงที่จะประกาศในงานนี้
ที่มา - Neowin
เมื่อครั้งที่ไมโครซอฟท์เปิดตัว Windows 10 Creators Update ในเดือนตุลาคม 2016 ฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญคือ 3D, Gaming และ My People ที่ฝังไอคอนของคนที่เราติดต่อบ่อยๆ ไว้ในทาสก์บาร์
แต่ภายหลัง ไมโครซอฟท์ถอดฟีเจอร์ My People ออกไปจาก Creators Update ด้วยเหตุผลว่าทำไม่ทัน ล่าสุดมันกลับมาแล้วใน Windows Insider Build ล่าสุด 16184 ที่จะพัฒนาจนเป็น อัพเดตใหญ่ตัวถัดไปในเดือนกันยายนนี้
ถ้ายังจำกันได้ ไมโครซอฟท์มี Office Mobile for Windows 10 ที่เป็นเวอร์ชันสำหรับแท็บเล็ตและอุปกรณ์จอเล็กกว่า 10 นิ้ว มันเขียนด้วยเทคโนโลยี UWP ที่รองรับหน้าจอสัมผัสเต็มที่ แต่มีฟีเจอร์น้อยกว่า Office เวอร์ชันเดสก์ท็อปอยู่พอสมควร
แต่ล่าสุดมีรายงานว่าแอพกลุ่มนี้ (Word Mobile, Excel Mobile, PowerPoint Mobile) หายไปจาก Windows Store บน Windows 10 เวอร์ชันพีซีแล้ว ถ้าลองค้นหาชื่อแอพเหล่านี้จะไม่เจอผลลัพธ์อะไร แต่ถ้ารู้ลิงก์ตรงก็ยังสามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ (ส่วนบน Windows 10 Mobile ยังค้นหาเจอตามปกติ)
จากข่าว ไมโครซอฟท์จัดงาน 2 พฤษภาคม คาดเปิดตัว Windows 10 Cloud พร้อมอุปกรณ์ซีรีส์ใหม่ที่เรียกกันในตอนนี้ว่า "CloudBook" ที่เป็นอุปกรณ์ราคาถูกเน้นเจาะตลาดภาคการศึกษา
ล่าสุดเว็บไซต์ Windows Central ได้ข้อมูลหลุดจากเอกสารภายในของไมโครซอฟท์ ระบุสเปกฮาร์ดแวร์ขั้นต่ำของ Windows 10 Cloud มาแล้ว
เมื่อปลายปีก่อน ไมโครซอฟท์และ Qualcomm ประกาศว่าสามารถรัน Windows 10 ตัวเต็มบนสถาปัตยกรรม ARM ได้แล้ว โดยสามารถรองรับแอพ x86 และ x64 ได้ ไม่มีข้อจำกัดเหมือน Windows RT แล้ว แต่ก็ยังไม่มีข่าวของอุปกรณ์แต่อย่างใด
วันนี้ Steve Mollenkopf ซีอีโอของ Qualcomm ได้กล่าวถึงในการรายงานผลประกอบการของบริษัทว่าอุปกรณ์ Windows 10 ที่รันบนชิปเซ็ต Snapdragon 835 มีกำหนดการออกสู่ตลาดในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้
ทั้งนี้ ยังไม่มีรายละเอียดว่าจะเป็นอุปกรณ์ประเภทใด (Steve Mollenkopf ใช้คำว่า Mobile PC)
วันนี้ ทางไมโครซอฟท์ประกาศกำหนดการอัพเดท Windows 10, Office 365 ProPlus และ System Center Configuration Update ออกมาเพื่อให้กลุ่มลูกค้าระดับองค์กรสามารถวางแผนและจัดการการอัพเดทได้ดีขึ้น โดยจะมีอัพเดทใหญ่ปีละ 2 ครั้ง ครั้งแรกในเดือนมีนาคม และครั้งต่อมาในเดือนกันยายน ซึ่งแปลว่า อัพเดทต่อไปของ Windows 10 หรือ Redstone 3 จะมาในเดือนกันยายนนี้นั่นเอง
นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังระบุด้วยว่าอัพเดทใหญ่ในแต่ละครั้งนั้นจะมีการสนับสนุนเป็นระยะเวลา 18 เดือน
ทิศทางของไมโครซอฟท์ชัดเจนว่าต้องการผลักการพัฒนาแอพบน Windows ไปสู่ UWP โดยชักจูงนักพัฒนาบนแพลตฟอร์มอื่นๆ แปลงแอพของตัวเองมาสู่ UWP ผ่านเครื่องมือของไมโครซอฟท์ เช่น Windows Bridge for iOS (Project Islandwood เดิม)
ในส่วนของแอพเก่าๆ บน Windows ไม่ว่าจะเขียนด้วย Win32 หรือ .NET ไมโครซอฟท์มี Desktop Bridge (Project Centennial เดิม) ที่เป็นเครื่องมือสำคัญในการแปลงโค้ดมาเป็น UWP เพื่อเผยแพร่แอพผ่าน Windows Store
ล่าสุดไมโครซอฟท์เปิดคอร์สออนไลน์มาจับตลาดนักพัฒนากลุ่มนี้แล้ว แนวทางของไมโครซอฟท์มี 3 ระดับคือ
ไมโครซอฟท์ประกาศฟีเจอร์ใหม่ของ Windows 10 ชื่อว่า Power Throttling มันคือจำกัดการทำงานของแอพเบื้องหลัง เพื่อประหยัดพลังงานและยืดแบตเตอรี่ให้นานขึ้น จากการทดสอบของไมโครซอฟท์เองสามารถลดพลังงานได้สูงสุด 11% จากเดิม
ข้อจำกัดของฟีเจอร์นี้คือยังต้องใช้กับซีพียูที่มีเทคโนโลยี Speed Shift ของอินเทลเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันคือ Core 6th Gen Skylake ขึ้นไป แต่ไมโครซอฟท์ก็สัญญาว่าจะขยายรุ่นของซีพียูที่รองรับให้มากขึ้นในอนาคต
ผู้ใช้สามารถเลือกเปิดการทำงานของ Power Throttling เป็นรายแอพได้ และในหน้า Task Manager จะมีคอลัมน์ชื่อ 'Background Moderated' เพิ่มเข้ามาให้ดูได้ว่าแอพไหนใช้โหมดนี้อยู่ ฟีเจอร์นี้ถูกเพิ่มเข้ามาแล้วใน Windows Insider Build 16176 รุ่นล่าสุด
ฟีเจอร์ใหม่อย่างหนึ่งของ Windows 10 Creators Update คือ Game Mode ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเกมที่เล่น เพราะ Windows จะกันทรัพยากรของเครื่องไว้ให้เกมเป็นหลัก แทนที่จะต้องแย่งกับโปรแกรมอื่นที่รันอยู่
เว็บไซต์ PCWorld ลองทดสอบฟีเจอร์นี้ และพบว่าถ้าเปิดแต่เกมอย่างเดียว ไม่เปิดโปรแกรมอื่นเลย Game Mode แทบไม่ได้ประโยชน์อะไร แต่ถ้าเปิดโปรแกรมอื่นรันขนานไปด้วย (เช่น ฟังเพลง รันแอนตี้ไวรัส) Game Mode ช่วยให้เกมมีประสิทธิภาพดีขึ้นจริง
Windows Central รายงานว่า Microsoft กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า Tabbed Shell ซึ่งจะเป็นการนำแท็บที่เหมือนกับบนเบราว์เซอร์มาใช้งานกับแอพต่าง ๆ บน Windows 10 รวมทั้ง File Explorer ด้วย
แหล่งข่าวของ Windows Central อ้างว่า Tabbed Shell นั้นจะเป็นฟีเจอร์ในระดับระบบปฏิบัติการ ดังนั้นนักพัฒนาจึงไม่ต้องทำอะไรมากมายเพื่อใช้งานฟีเจอร์นี้ โดยจะมี API ให้นักพัฒนาภายนอกใช้ และยังสามารถใช้งานกับหน้าต่างได้ทุกแอพ ไม่ว่าจะเป็น Photoshop, File Explorer, Microsoft Word ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นแอพ UWP, Win32 หรือ Centennial ก็สามารถใช้งาานได้
แหล่งข่าวของ Windows Central คาดว่าฟีเจอร์นี้อาจจะมาจริงในอัพเดต Redstone 3 หรือ Redstone 4 ในปี 2018
หลังจากประกาศยุติการขายไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทางไมโครซอฟท์ประกาศจะยุติการสนับสนุน Windows 10 เวอร์ชัน 1507 (เวอร์ชันแรกสุดของ Windows 10 ที่ออกเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2015) ลงในวันที่ 9 พฤษภาคม 2017 โดยหลังจากนั้น จะยังสามารถใช้ต่อไปได้ แต่จะไม่ได้รับอัพเดทความปลอดภัยและประสิทธิภาพอีกต่อไป
การยุติการสนับสนุนมีผลต่อ Windows 10 เวอร์ชัน 1507 ในรุ่นต่อไปนี้ คือ Home, Pro, Education และ Enterprise
ส่วนรุ่น Enterprise 2015 LTSB และ IoT Enterprise 2015 LTSB ยังคงได้รับอัพเดทต่อไป
ตามปกติเกมของ Xbox One ที่ซื้อแบบดิจิทัลผ่าน Windows Store จะไม่สามารถยื่นเรื่องขอเงินคืนได้ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเครื่องคอนโซล เพราะทาง Sony และ Nintendo ก็ยังไม่มีระบบขอเงินคืนจากเกมแบบดิจิทัลเช่นกัน
แต่ล่าสุดมีชาว reddit ค้นพบว่าทาง Microsoft กำลังทดสอบระบบใหม่อยู่ เป็นระบบที่ให้ลูกค้าบน Xbox One และ Windows 10 สามารถยื่นเรื่องขอเงินคืนจากแอปและเกมได้ด้วยตนเองแบบง่าย ๆ ถ้าเกมที่ซื้อมายังอยู่ในเงื่อนไขที่กำหนดไว้ คล้ายกับของ Steam
ปีที่แล้ว ไมโครซอฟท์ออก Skype for Windows 10 เวอร์ชันที่เขียนด้วยเทคโนโลยี UWP และผนวกมาพร้อมกับ Windows 10 Anniversary Update โดยที่ยังแปะป้ายเป็น Skype Preview มาตลอด
เนื่องในโอกาส Windows 10 Creators Update ออกตัวจริง ไมโครซอฟท์ก็อัพเดตแอพ Skype for Windows 10 โดยปลดป้าย Preview ออกสักที (ชื่อแอพจะกลายเป็น "Skype" เฉยๆ) พร้อมกับฟีเจอร์ใหม่หลายอย่าง
ไมโครซอฟท์เริ่มปล่อยไฟล์อัพเดต Windows 10 Creators Update ให้กับผู้ใช้ทั่วโลก ตามกำหนด 11 เมษายน (เวลาสหรัฐ)
กระบวนการอัพเดตผ่าน Windows Update จะทยอยเปิดให้ผู้ใช้ทีละกลุ่ม คนที่ไม่รีบร้อนสามารถรอให้ Windows Update แจ้งเตือนแล้วค่อยอัพเดตได้ และถ้ายังไม่ต้องการอัพเดตก็สามารถเลื่อนไปก่อนได้เช่นกัน
ส่วนคนที่ไม่อยากรอและต้องการอัพเดตทันที สามารถใช้วิธี manual update โดยดาวน์โหลดตัวช่วยอัพเดตมาจากเว็บไซต์ของไมโครซอฟท์ได้เลย
หลังจากที่ Netflix ได้เปิดให้ผู้ใช้ดูหนังแบบออฟไลน์บน Android และ iOS กันมาซักพัก ในตอนนี้ฟีเจอร์ดังกล่าวก็ได้ตามมายังแอพ Netflix สำหรับ Windows 10 บนพีซีเป็นที่เรียบร้อย
ในส่วนของการใช้งานก็ไม่ได้แตกต่างไปจากแพลตฟอร์มอื่นกล่าวคือ เมื่อค้นเจอคอนเทนต์ที่รองรับการดูแบบออฟไลน์ ผู้ใช้ก็จะสามารถกดปุ่มดาวน์โหลดเพื่อเก็บหนังไว้ดูในภายหลังขณะที่ไม่ได้ต่ออินเทอร์เน็ตได้ โดยผู้ใช้ยังสามารถเข้าไปค้นคอนเทนต์ที่รองรับการดูแบบออฟไลน์ทั้งหมดได้ที่เมนู Available for Download และเปิดดูรายการที่ดาวน์โหลดเก็บไว้ได้ที่เมนู My Downloads
ถึงแม้แนวทางการพัฒนา .NET ของไมโครซอฟท์จะมุ่งไปยัง .NET Core ฝั่งโอเพนซอร์ส (ที่นับเวอร์ชันใหม่เป็น 1.0) และเราคงไม่ได้เห็น .NET Framework 5.0 อีกต่อไป แต่ไมโครซอฟท์ก็ยังตามอัพเดตความสามารถให้ .NET Framework 4.x กันต่อ
สัปดาห์ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ออก .NET Framework 4.7 มาพร้อมกับ Windows 10 Creators Update ของใหม่ในรุ่นนี้ได้แก่
นับตั้งแต่ Windows 10 รุ่นแรกเป็นต้นมา ไมโครซอฟท์ "บังคับ" เก็บข้อมูลของผู้ใช้งานเพื่อนำไปใช้ปรับปรุงคุณภาพของซอฟต์แวร์ (หรือที่เรียกว่า diagnostic/telemetry data) ซึ่งตัวเลือกนี้ปิดไม่ได้ (เลือกได้แค่ว่าจะให้เก็บแบบ Basic หรือ Full) แถมไมโครซอฟท์ก็ไม่เคยประกาศชัดเจนว่าเก็บข้อมูลใดไปบ้าง ส่งผลให้ไมโครซอฟท์ถูกวิจารณ์จากกลุ่มเคลื่อนไหวด้านความเป็นส่วนตัวมาโดยตลอด
Microsoft ได้ปรับนโยบายของ Windows Store ใหม่ โดยจะแบนแอพประเภทอีมูเลเตอร์สำหรับเกม ซึ่งมีผลทำให้แอพเกมอีมูเลเตอร์ต่าง ๆ ใน Windows Store ถูกนำออกไป
กฎล่าสุดนี้เพิ่งเริ่มใช้งานเมื่อ 29 มีนาคมที่ผ่านมา โดยตอนนี้มีเกมอีมูเลเตอร์ที่ได้รับผลกระทบ เช่น Universal Emulator ของ Nestbox ที่เปิดให้ผู้ใช้เล่นเกมจากรอมของ Nintendo หรือ Sega นักพัฒนาแอพก็ยืนยันแล้วว่าตัวแอพถูก Microsoft นำออกจาก Windows Store เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ที่มา - The Verge
จุดอ่อนสำคัญของระบบปฏิบัติการ Windows คือการรองรับจอภาพความละเอียดสูง (High DPI) ที่แอพพลิเคชันรุ่นเก่าหลายๆ ตัวไม่สามารถขยายขนาดตามความละเอียดจอภาพ (scaling) ได้ดีนัก โดยเฉพาะการต่อสองจอที่ความละเอียดไม่เท่ากัน ส่งผลให้เกิดปัญหาตัวหนังสือเบลอ หรือแสดงผลหน้าต่างใหญ่-เล็กเกินไป
ในโอกาสที่ Windows 10 Creators Update กำลังจะเปิดให้ดาวน์โหลด ไมโครซอฟท์ก็ออกมาอธิบายการเปลี่ยนแปลงเรื่อง High DPI Scaling ว่าปรับปรุงไปอีกเยอะพอสมควร และช่วยให้การแสดงผลแอพพลิเคชันดีขึ้นกว่าเดิม แก้ปัญหาเดิมๆ ไปเกือบหมด แม้จะยังมีปัญหาบางจุดหลงเหลืออยู่ก็ตาม
ไมโครซอฟท์จะปล่อยอัพเดต Windows 10 Creators Update ในวันที่ 11 เมษายน แต่วันนี้คนที่อยากอัพเดตก่อนก็สามารถทำได้แล้ว (โดยที่ไม่ต้องเป็น Insider)
วิธีการคือดาวน์โหลด Windows 10 Update Assistant จากเว็บไซต์ของไมโครซอฟท์ (ปุ่ม Update now อันบนสุด) มาติดตั้งและรันกระบวนการอัพเดตเอง
หลังจากที่เคยประกาศไปในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่าจะมีการนำเกม Cities: Skylines มาพอร์ตมาลงเครื่อง Xbox One และ Windows 10 (รองรับ Xbox Play Anywhere) ล่าสุดทาง Paradox Interactive เปิดเผยวันวางจำหน่ายออกมาแล้ว เป็นวันที่ 21 เมษายน วางขายในราคา $39.99 (ประมาณ 1,380 บาท)
Cities: Skylines Xbox One Edition และ Windows 10 Edition ถูกพัฒนาโดย Tantalus Media ภายในเวอร์ชันนี้จะมี After Dark ภาคเสริมตัวแรกของเกมรวมอยู่ด้วย ในส่วนของภาคเสริมอื่น ๆ ทาง Paradox Interactive ยังไม่ได้ยืนยันว่าจะมีตามมาทีหลังในรูปแบบ DLC หรือไม่