หนึ่งในไฮไลต์ในช่วงของการเปิดตัว iOS 7 อย่างเป็นทางการอย่าง Siri ที่ยกเครื่องเพิ่มคุณสมบัติและปรับหน้าตาใหม่ ในงาน WWDC 2013 แอปเปิลประกาศว่า Siri ใน iOS 7 เพิ่ม Bing ในระบบ search engine ของตัว Siri เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหาให้ดีขึ้น
ทั้งนี้ไมโครซอฟท์บอกว่า ตอนนี้ไมโครซอฟท์กำลังทำงานร่วมกับแอปเปิลในการพัฒนาระบบค้นหา Bing ในระบบ Siri อย่างเต็มที่ และยินดีที่ได้ทำงานร่วมกัน
สิ่งที่น่าสนใจคือ ปกติแล้วแอปเปิลมักจะใช้กูเกิลเป็นระบบ search engine หลัก แต่จากการเปิดตัว iOS 7 นี้ อาจจะมีนัยยะบางอย่างแอบแฝงก็ได้
คงไม่นานเกินรอสำหรับผู้ใช้ไอโฟนและเฝ้ารอให้มือถือกับรถยนต์ทำงานผนวกกันอย่างสมบูรณ์ เพราะวันนี้ BMW ได้เปิดตัว iDrive 4.2 อินเตอร์เฟซที่สามารถทำให้ผู้ใช้ไอโฟนสามารถเชื่อมต่อมือถือกับรถยนต์เพื่อเรียกใช้งาน Siri ได้อย่างสะดวกสบาย เรียกได้ว่าระหว่างขับรถไม่จำเป็นต้องแตะมือถือเลยทีเดียว
iDrive 4.2 จะถูกติดตั้งมาทันทีบนรถยนต์ BMW รุ่นปี 2014 โดยสามารถรับคำสั่งเสียงได้เพียงแค่กดปุ่มที่อยู่บนพวงมาลัยรถค้างไว้เพื่อเรียกการใช้งาน Siri ได้เลย ซึ่งสะดวกกว่าการกดปุ่มโฮมที่ไอโฟน และแม้ว่าผมจะพาดหัวข่าวด้วย Siri แต่ข่าวดีก็คือ iDrive 4.2 นั้นรองรับมือถือซัมซุงกาแลคซี่ที่มี S Voice ด้วย
ไมโครซอฟท์ได้เลือกใช้ Siri ในการแขวะ iPad ในโฆษณาแท็บเล็ต Windows 8 ชุดล่าสุด โดยในโฆษณาได้มีการเปรียบเทียบการใช้งานฟังก์ชั่นต่าง ๆ ระหว่าง iPad กับแท็บเล็ต Windows 8 ในรูปแบบที่ใกล้เคียงกับโฆษณา iPad mini ที่แอปเปิลได้เอา iPad mini มาวางไว้ข้างกับ iPad รุ่นปกติ
Siri แขวะ iPad อย่างไรบ้าง กดอ่านต่อเข้ามาชมตัวโฆษณาได้เลยครับ
ที่มา - 9to5Mac
โฆษณา iPad mini:
แอปเปิลได้เปิดเผยว่าบริษัทจะเก็บข้อมูลการโต้ตอบระหว่างผู้ใช้กับ Siri เป็นเวลาสองปี โดยข้อมูลเหล่านี้รวมไปถึงคลิปเสียงของผู้ใช้ด้วย โดยเหตุผลในการเก็บข้อมูลนี้ก็เพื่อเพิ่มความสามารถของ Siri ในการตีความคำสั่งทางเสียงของผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ข้อมูลที่แอปเปิลได้เก็บบันทึกไว้จากการใช้งาน Siri ได้แก่ข้อมูลการค้นหาที่ผ่านมา และชื่อของบุคคลในโฟนบุ้คของผู้ใช้ อย่างไรก็ตามแอปเปิลไมได้เผยรายละเอียดอย่างเจาะจงว่าข้อมูลอะไรถูกเก็บไว้บ้าง โดยบอกเพียงแค่ว่าข้อมูลทุกอย่างจะไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้ได้
แอปเปิลลงประกาศรับสมัครงานใน LinkedIn โดยระบุคุณสมบัติว่าต้องการคนที่มีประสบการณ์ด้านภาษา การใช้คำ การเขียนคำสนทนา โดยต้องแสดงให้เห็นว่าสร้างเนื้อหาที่ "มีชีวิตชีวา" ได้ภายในสภาพแวดล้อมการทำงานทางเทคนิค
ตำแหน่งงานนี้ต้องการคนที่เคยเขียนหนังสือ-บทละครที่เน้นการสนทนาของผู้คน จะให้ดีควรรู้มากกว่าหนึ่งภาษา ส่วนหน้าที่การงานคือพัฒนา Siri ให้น่าเข้าไปพูดคุยด้วย มีอารมณ์ขัน และเหมาะกับการใช้งานจริง (practical) มากขึ้น
ที่มา - MIT Technology Review
หากยังจำกันได้ งาน WWDC เมื่อเดือนมิถุนายน แอปเปิลบอกว่า ตอนนี้กำลังทำงานร่วมกับบริษัทรถยนต์ เพื่อให้ใช้งานโหมด Eyes Free ของ Siri ได้ โดยจะรวมเข้ากับระบบสั่งการด้วยเสียงภายในรถยนต์ที่มีอยู่แล้วในบางคัน ซึ่งจะทำให้เราไม่ต้องหันไปมองหน้าจออุปกรณ์ตอนสั่งการ Siri ซึ่งในงาน WWDC นั้น Scott Forstall (อดีต)หัวหน้าฝ่าย iOS ประกาศพันธมิตรค่ายรถยนต์ดังนี้คือ BMW, GM, Mercedes, Land Rover, Jaguar, Audi, Toyota, Chrysler และ Honda
GM ประกาศออกมาแล้วว่า จะนำ Siri รวมเป็นส่วนหนึ่งของระบบ MyLink ของ Chevrolet Spark และ Sonic ในต้นปี 2013 โดยมีรายละเอียดดังนี้
รายงานล่าสุดอ้างว่า build แรก ๆ ของ OS X 10.9 ระบบปฏิบัติการตัวต่อไปสำหรับแมคมีการพยายามนำ Siri กับ Maps เข้ามารวมเข้ากับตัวระบบปฏิบัติการ แต่ยังไม่แน่ว่าคุณสมบัติสองอย่างนี้จะผ่านการทดสอบระยะแรกนี้หรือไม่
ในรายงานระบุว่าถ้าแอปเปิลสามารถนำ Maps (แอปเปิลเรียกว่า MapKit) และ Siri เข้ามาสู่ OS X ได้ นักพัฒนาแอพจะสามารถนำแผนที่มา embed ในแอพของตัวเองได้ในลักษณะเดียวกับแอพบน iOS App Store
ตอนนี้ 9to5Mac ระบุว่าแหล่งข่าวนี้ แม้จะมีความน่าเชื่อถือสูง แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถที่จะยืนยันได้ว่าข้อมูลเหล่านี้เป็นจริง
ที่มา - 9to5Mac
แอปเปิลเพิ่งปล่อยอัพเดตแอพ Apple Store ใหม่ โดยของใหม่ในครั้งนี้คือ
ที่มา - MacRumors
บริษัท Dynamic Advances (ซึ่งว่ากันว่าเป็นบริษัทที่หากินกับการไล่ฟ้องสิทธิบัตร) ยื่นฟ้องแอปเปิลว่า Siri ละเมิดสิทธิบัตรเกี่ยวกับการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (natural language processing) ของตัวเอง
อย่างไรก็ตามสิทธิบัตรหมายเลข 7,177,798 ที่อยู่ในคำฟ้องไม่ใช่สิทธิบัตรที่คิดค้นโดย Dynamic Advances แต่บริษัทซื้อมาจากสถาบัน Rensselaer Polytechnic Institute ในนิวยอร์กอีกทึหนึ่ง
ที่น่าสนใจคือสิทธิบัตรใบนี้ออกในปี 2007 ให้กับอาจารย์และนักศึกษาของสถาบันในขณะนั้น ซึ่งนักศึกษาเป็นคนไทยชื่อ Veera Boonjing ด้วยครับ
ที่มา - The Register
All Things D รายงานว่าแอปเปิลได้จ้าง William Stasior เพื่อมาดูแลแผนก Siri เรียบร้อยแล้ว โดย Stasior เดิมนั้นเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบส่วนธุรกิจที่ชื่อ A9 ของ Amazon ซึ่งดูแลระบบเสิร์ชและระบบโฆษณาภายในเว็บ Amazon ทั้งหมด รวมถึงรับดูแลระบบเสิร์ชให้เว็บขายสินค้าที่อื่นด้วย
Stasior จบการศึกษาระดับปริญญาเอกจาก MIT และมีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีเสิร์ชอย่างมาก เขาเคยทำงานทั้งที่ออราเคิลและเป็นผู้ร่วมก่อตั้งเว็บ AltaVista
ต้องเกริ่นก่อนว่านี่เป็น "ความเห็น" จากนิตยสาร Fortune เท่านั้นนะครับ
Philip Elmer-DeWitt บรรณาธิการด้านข่าวแอปเปิลของ Fortune แสดงความเห็นว่า Scott Forstall รองประธานฝ่ายซอฟต์แวร์ iOS ที่เป็นขุนศึกข้างกายสตีฟ จ็อบส์ มาตั้งแต่สมัย NeXT และถูกคาดการณ์ว่าจะเป็นซีอีโอคนต่อไปของแอปเปิล อาจกลายเป็นตัวปัญหาของแอปเปิลไปเสียแล้ว
Forstall เพิ่งเดโม Apple Maps บนเวทีไปหมาดๆ ด้วยลีลาที่น่าตื่นตาตื่นใจ เขาโฆษณาผู้ชมถึงความสามารถอันโดดเด่นของ Apple Maps แต่ผลการใช้งานจริงกลับออกมาในทางตรงข้าม ซึ่งเป็นสิ่งที่ขัดกับแนวทางเดิมๆ ของแอปเปิลว่า "โฆษณาให้น้อย ออกผลงานจริงให้ดี"
นอกจากเปิดตัว iPhone 5 แล้ว แอปเปิลก็อัพเดตไลน์ iPod ไปพร้อมๆ กัน แต่ในงานคราวนี้มีเพียง iPod nano และ iPod touch ที่ได้เปิดตัวรุ่นใหม่
เริ่มต้นกันที่ iPod touch รุ่นใหม่ อัพเกรดไปจากรุ่นเดิมมากพอควร วัสดุที่ใช้ขึ้นรูปตัวเครื่องใกล้เคียงกับ iPhone 5 คืออลูมิเนียมทั้งชิ้น สเปคเด่นๆ มีดังนี้ครับ
iPod touch รุ่นใหม่จะมีแถบด้านหลังสำหรับใส่สายห้อยข้อมือ "loop" ด้วย
ข่าวสั้นก่อนงานแถลงข่าวแอปเปิลคืนนี้ครับ สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า Adam Cheyer วิศวกรซึ่งเป็นผู้ร่วมสร้าง Siri ได้ลาออกจากแอปเปิลแล้ว โดยเขาได้เข้าทำงานที่แผนกโทรศัพท์มือถือของแอปเปิลหลังจากขาย Siri ไป
ทั้งนี้เมื่อปลายปีที่แล้ว Dag Kittlaus ซีอีโอของ Siri ก็ได้ลาออกจากแอปเปิลเช่นกัน
ที่มา: Bloomberg
Siri อาจเป็นอนาคตของเครื่องมือค้นหาข้อมูลบนมือถือสำหรับแอปเปิล และ Google Now อาจเป็นทางที่กูเกิลเลือกใช้ แต่ท้ายที่สุดสิ่งที่ผู้ใช้งานต้องการก็คือประสิทธิภาพการทำงานและความแม่นยำ เพื่อทดสอบเรื่องนี้ Gene Munster นักวิเคราะห์แห่ง Piper Jaffray ผู้มีประวัติเชียร์แอปเปิลออกนอกหน้า ทั้งเคยบอกว่าหุ้น AAPL จะสูงถึง 1000 ดอลลาร์ และ iTV จะเป็นสุดยอดนวัตกรรม ก็ได้ทดสอบความสามารถระหว่าง Siri เมื่อเทียบกับเสิร์ชของกูเกิลเอง
สตีฟ วอซเนียกผู้ร่วมก่อตั้งแอปเปิลได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นระหว่างการเดินทางไปนิวยอร์ก โดยมีประเด็นสำคัญคือเขาได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับ Siri ไว้ดังนี้ครับ
วอซบอกว่าเขาใช้ Siri มานานแล้วก่อนที่แอปเปิลจะซื้อไป และเขาประทับใจในความสามารถมันมาก ยกตัวอย่างเช่นเมื่อถามว่า "ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุด 5 อันดับในแคลิฟอร์เนียคือที่ใดบ้าง?" Siri ก็จะตอบไล่มาครบทั้ง 5 แห่ง และถ้าถามว่า "จำนวนเฉพาะที่มากกว่า 87 มีอะไรบ้าง" Siri ก็จะตอบไล่มาให้เช่นกันซึ่งเป็นความสามารถที่ยอดเยี่ยมมาก
ข่าวนี้เป็นประเด็นที่น่าสนใจสำหรับนโยบายอนุญาตให้พนักงานนำอุปกรณ์ไอทีของตัวเองมาใช้ในที่ทำงาน (bring your own device หรือ BYOD)
ยักษ์ใหญ่อย่าง IBM ที่มีพนักงานทั่วโลกเป็นหลักแสนคน ได้สั่งบล็อคทราฟฟิกของ Siri ไม่ให้ทำงานได้บนเครือข่ายภายในองค์กรแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ Jeanette Horan ซีไอโอของบริษัทให้สัมภาษณ์กับ MIT Technology Review ว่าบริษัทกังวลว่าข้อความเสียงที่ส่งผ่าน Siri จะถูกแอปเปิลเก็บรักษาเอาไว้ที่ศูนย์ข้อมูลภายนอกบริษัท ซึ่งข้อความเหล่านี้อาจมีความลับของบริษัทรวมอยู่ด้วย
จริงๆ แล้วนอกจาก Siri แล้ว IBM ยังห้ามใช้ Dropbox/iCloud และห้ามส่งต่ออีเมลจากบัญชี IBM ไปยังบัญชีส่วนตัวภายนอกบริษัท
ถ้ายังจำกันได้กับคดีที่ชายคนหนึ่งฟ้องแอปเปิลว่าคุณสมบัติ Siri ใน iPhone 4S นั้นทำไม่ได้จริงอย่างที่โฆษณา ซึ่งพอมีผู้กล้าที่ฟ้องศาลคนแรกก็มีผู้ยื่นฟ้องตามมาอีกหลายราย ล่าสุดแอปเปิลได้ตอบโต้ข้อกล่าวหานี้ในชั้นศาลแล้ว
หลังจากเว็บไซต์ The Next Web เผย Siri ตอบคำถามว่าสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดคือ Nokia Lumia 900 รุ่นของ AT&T จนกลายเป็นข่าวขำขำไปหลายวัน เว็บไซต์ AppleInsider รายงานว่าเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาแอปเปิลได้แอบแก้คำตอบของคำถาม "What is the best smartphone ever?" เป็น "The one you're holding" หรือ "You're kidding, right?" แทน
AppleInsider ยังกล่าวว่า คีย์เวิร์ดการค้นน่าจะอยู่ที่คำว่า "ever" เพราะหากถามในลักษณะ "best smartphone" Siri จะตอบกลับว่า "The one you're holding" อยู่แล้ว แต่หากเติมคำว่า "ever" ลงไปจะได้ผลลัพธ์เป็น Nokia Lumia 900 แทน
ข่าวขำๆ ของเจ้า Siri ใน iPhone 4S ครับ
เว็บไซต์ The Next Web ลองถาม Siri ด้วยคำว่า "What is the best smartphone ever" คำตอบที่ได้คือ Nokia Lumia 900 รุ่นของ AT&T
เหตุผลที่ตอบแบบนี้เพราะว่า Siri ใช้ฐานข้อมูลของ Wolfram Alpha ซึ่งรวบรวมคะแนนรีวิวมือถือจากผู้ใช้ในอินเทอร์เน็ต และ Lumia 900 มาเป็นอันดับหนึ่งในแง่ความพึงพอใจของผู้ใช้นั่นเอง
ที่มา - The Next Web
Dag Kittlaus หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Siri ไปพูดที่งาน Technori Pitch ในชิคาโก เขาเล่าถึงที่มาของชื่อ Siri ว่าความหมายของคำนี้คือ "สาวงามผู้นำคุณไปสู่ชัยชนะ" ในภาษานอร์เวย์
เขาบอกว่าเคยทำงานกับผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ Siri ในนอร์เวย์ อยากตั้งชื่อลูกสาวว่า Siri จากนั้นเขาพบว่าโดเมนเนมนี้ยังว่างอยู่ แถมการตั้งชื่อบริษัทที่ทำธุรกิจเพื่อคอนซูเมอร์ควรจะเป็นชื่อที่สะกดได้ง่าย ทำให้สุดท้ายเขาเลือกชื่อนี้
นอกจากนี้พอเขามีลูกจริงๆ กลับได้ลูกชาย ทำให้ชื่อ Siri กลายเป็นชื่อบริษัทของเขาเพียงอย่างเดียว
บริษัทที่ปรึกษา Parks Associates ได้ทำการสำรวจผู้ใช้ iPhone 4S จำนวน 482 คน ว่าด้วยพฤติกรรมการใช้งาน Siri พบว่า 87% ของผู้มี iPhone 4S ใช้งาน Siri อยู่บ้างอย่างน้อยเดือนละครั้ง โดยพบว่าผู้ที่ใช้ Siri ส่วนใหญ่มักใช้งานในเรื่องพื้นฐานของโทรศัพท์ คือสั่งให้โทรออกหรือส่งข้อความ
ผลสำรวจยังพบว่าผู้ใช้ Siri มากกว่า 30% ไม่เคยใช้งาน Siri ในเรื่องที่ซับซ้อนขึ้นอย่างเขียนตารางนัดหมายหรือเปิดเพลง เมื่อถามต่อไปว่า Siri มีข้อเสียอย่างไรและเหตุใดจึงไม่ใช้ คำตอบส่วนใหญ่คือ Siri มักฟังสำเนียงผู้ใช้ไม่ออก หรือมีเวลาตอบสนองนานเกินไป อย่างไรก็ตามผู้ใช้งาน 55% สรุปว่าพอใจกับ Siri มาก มีเพียง 9% ที่ไม่พอใจ
เรื่องมีอยู่ว่า Frank M. Fazio ชายชาวนิวยอร์กได้ซื้อ iPhone 4S ไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และเขารู้สึกผิดหวังกับคุณสมบัติของ Siri ที่แอปเปิลพยายามอวดอ้างผ่านโฆษณา จึงตัดสินใจยื่นฟ้องผ่านทนายโดยมีใจความสำคัญว่า "โฆษณาของแอปเปิลใช้ถ้อยคำหลอกให้เชื่อในสิ่งที่ไม่จริง"
เอกสารที่ตัวแทนของ Fazio ยื่นฟ้องมีการอธิบายสาเหตุของการฟ้องร้องแบ่งเป็นข้อๆ หลายสิบประเด็น ในที่นี้ขอหยิบยกหัวข้อที่เป็นประเด็นหลักมาครับ
ในโฆษณาทางโทรทัศน์แอปเปิลแสดงให้เห็นว่า Siri ช่วยจัดการตารางนัดหมาย ค้นหาร้านอาหาร หรือแม้กระทั่งการหาคอร์ดกีต้าร์ ผ่านการสั่งงานด้วยเสียงอย่างง่ายดาย อันเป็นปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าจำนวนมากตัดสินใจซื้อ iPhone 4S รวมทั้งโจทก์
เพิ่มเติมข้อมูลจากข่าวแอปเปิลปล่อย iOS 5.1, Siri ภาษาญี่ปุ่นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ว่าแอปเปิลเริ่มปล่อยตัวอัพเดต iOS 5.1 แบบ OTA (Over-The-Air) ไฟล์มีขนาด 189MB ต้องการพื้นที่ว่าง 1GB
ฟีเจอร์ที่เพิ่มขึ้นมาค่อนข้างตรงกับข่าวลือแทบทั้งหมดดังนี้
หลังจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้นำเสนอระบบสั่งงานภายในรถยนต์ mbrace2 ในงาน CES เมื่อต้นปีนี้ ล่าสุดเดมเลอร์ เอจี บริษัทแม่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประกาศเตรียมบูรณาการ iPhone เข้ากับระบบเพื่อความบันเทิงใน A-Class รุ่นใหม่ โดยระบบสั่งการด้วยเสียง Siri จะถูกนำมาใช้เพื่อ
หลังจากที่มีรายงานว่าแอปเปิลเตรียมจะถอดแอพ Evi โดย True Knowledge ออกจาก App Store เนื่องจาก Evi มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับ Siri มากเกินไปแล้วกลัวว่าลูกค้าจะสับสนระหว่างบริการสองอย่างนี้ ทำให้ยอดการดาวน์โหลด Evi พุ่งสูงขึ้นมาอย่างรวด