Baidu เดินหน้าเรื่องรถไร้คนขับมาซักพักแล้ว ตั้งแต่การทดสอบวิ่งในกรุงปักกิ่ง ไปจนถึงตั้งศูนย์วิจัยและนำรถไร้คนขับไปทดสอบในสหรัฐ ล่าสุดนิตยสาร Forbes รายงานว่า Baidu เตรียมจะผลิตรถยนต์ไร้คนขับ (Mass Production) ในอีก 5 ปีข้างหน้านี้
Forbes ระบุว่า Baidu จะไม่ได้เป็นผู้ผลิตรถด้วยตัวเอง แต่อาศัยการจัดจ้าง (outsource) จากบริษัทผลิตรถยนต์ของจีน โดย Baidu ได้ติดต่อไปยังผู้ผลิตหลายเจ้าแล้ว แต่ยังไม่มีข้อตกลงกับบริษัทใดทั้งสิ้น
ทั้งนี้ รถที่ Baidu นำมาทดสอบระบบไร้คนขับคือ BMW 3-Series GT และเริ่มทดสอบครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว
ในขณะที่โครงการทำรถยนต์อัตโนมัติของ Apple ยังคลุมเครือ กลุ่มอดีตวิศวกรที่มีส่วนสำคัญในการผลิต iPod และ iPhone ของ Apple ออกมาเปิดบริษัทชื่อว่า Pearl Automation Inc. เพื่อเดินหน้าเรื่องนี้โดยเฉพาะ เป้าหมายของบริษัทคือผลิตอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อรถไร้คนขับ โดยผลิตภัณฑ์แรกจะเป็นกล้องติดด้านหลังรถ เปิดขายเต็มที่ในสหรัฐฯช่วงเดือนกันยายน ตอนนี้เปิดให้พรีออเดอร์แล้ว
IBM ประกาศความร่วมมือกับ Local Motors บริษัทผลิตรถยนต์จากรัฐแอริโซนาเปิดตัว Olli รถบัสไร้คนขับขนาด 12 ที่นั่งที่ขับเคลื่อนด้วย Watson เวอร์ชันที่ถูกปรับแต่งสำหรับการทำงานบน Olli โดยเฉพาะ
อย่างไรก็ตาม IBM ระบุว่า Watson ไม่ได้เป็นตัวควบคุมระบบรถโดยตรง แต่มีไว้เพื่อเพิ่มประสบการณ์บนรถของผู้โดยสาร โดยเฉพาะการพูดคุยและสั่งการกับตัวรถอย่างการขอคำแนะนำเรื่องร้านอาหารระหว่างการเดินทาง
IBM ระบุว่ารถบัส Olli ใช้ Watson APIs 4 ตัวคือ Speech to Text, Natural Language Classifier, Entity Extraction และ Text to Speech ขณะที่ตัวรถมีเซ็นเซอร์กว่า 30 แห่งรอบคัน สำหรับใช้ในการคำนวนและประมวนผลข้อมูลการขับขี่
สถานะของรถไร้คนขับในสหรัฐฯ ทุกวันนี้ยังไม่ค่อยชัดเจนว่าถูกกฎหมายหรือไม่ บางรัฐก็เปิดรับเทคโนโลยีดังกล่าว บางรัฐก็ยังคงต่อต้าน (ไม่ใช่เพียงรถไร้คนขับแต่รวมถึงบริการรถอย่าง Uber ด้วย)
ส่วนการทดลองรถไร้คนขับ ในบางรัฐ กฎหมายยังไม่อนุญาตให้ทำ แต่ความคลุมเครือทั้งหมดอาจหมดไป เมื่อรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เตรียมทำให้รถไร้คนขับถูกกฎหมายภายในเดือนหน้า
NHTSA หน่วยงานทางหลวงและความปลอดภัยทางจราจรของสหรัฐฯ ออกเอกสารแนวทางสำหรับรถไร้คนขับว่าจะประนีประนอมการทดลองรถดังกล่าวตามท้องถนน และอาจทำให้ถูกกฎหมาย
เนื้อหาในเอกสารยังเน้นเรื่องการขายว่าผู้ขายจะต้องไม่ให้ข้อมูลเท็จเพื่อกระตุ้นยอดขาย หน่วยงานรัฐจะเข้าเป็นส่วนหนึ่งในการให้ข้อมูลประชาชน เพื่อให้การทดลองใช้ และการเอามาใช้จริงเป็นไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น
ปัญหาเรื่องประกันภัยรถยนต์ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่สร้างความปวดเศียรให้กับบริษัทประกัน หากรถยนต์ไร้คนขับออกมาวิ่งบนถนนได้จริง แต่ล่าสุด Adrian Flux บริษัทประกันจากอังกฤษเข้าเกียร์เดินหน้าเป็นตัวอย่างในเรื่องนี้แล้ว จากการออกประกันรถที่ครอบคลุมฟีเจอร์ไร้คนขับ ซึ่งหมายรวมถึงระบบเบรคอัตโนมัติที่มีอยู่ในรถยนต์หลายรุ่นในปัจจุบันด้วย
ประกันนี้จะครอบคลุมตั้งแต่ความผิดพลาดทุกอย่างที่อาจส่งผลต่อซอฟต์แวร์ไร้คนขับ, ความผิดพลาดที่เกิดจากการขาดการติดต่อกับระบบ GPS หรือดาวเทียม, กรณีถูกแฮกเกอร์เข้าควบคุมรถ หรือแม้แต่กรณีที่เกี่ยวเนื่องกับความผิดพลาดของมนุษย์อย่างการลืมอัพเดตซอฟต์แวร์ และไม่สามารถเข้าควบคุมรถแทนในสถานการณ์ฉุกเฉินได้ก็ตาม
สำนักข่าว Bloomberg ได้รายงานว่า Uber กำลังคุยกับ Fiat ถึงเรื่องการเป็นพาร์ทเนอร์ในเทคโนโลยีรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ โดยรายละเอียดของการพูดคุยกันยังอยู่ในขั้นต้น และ Wall Street Journal ก็ได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ยืนยันในเรื่องนี้เช่นกัน โดยก่อนหน้านี้ Fiat Chrysler ก็ได้จับมือกับ Google พัฒนารถยนต์ไร้คนขับไปแล้ว
ในรายงานกล่าวว่า Uber เริ่มคุยกับผู้ผลิตรถยนต์มาหลายรายแล้วเช่นกัน (แต่ไม่ทราบว่าคุยกับใครบ้าง) ก่อนที่จะมาคุยกับ Fiat Chrysler ถึงเรื่องการเป็นพาร์ทเนอร์ โดยช่วงหลังมานี้บริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งเริ่มสนใจในธุรกิจรถยนต์มากขึ้น และบริษัทรถยนต์ก็เริ่มสนใจในเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับมากขึ้นเช่นกัน
ที่งานสัมมนา Converge ซึ่งจัดร่วมกันระหว่าง Wall Street Journal และ F.ounders นั้น Peggy Johnson ผู้บริหารจากไมโครซอฟท์เผยว่า บริษัทจะไม่ทำรถยนต์ไร้คนขับอย่างแน่นอน แต่ต้องการช่วยคู่ค้าพัฒนารถยนต์ไร้คนขับให้ผู้คนที่อยู่ในรถยนต์มีผลิตผลมากขึ้น (ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ Productivity and Platform) เนื่องจากผู้คนใช้เวลาไปกับการอยู่ในรถยนต์เป็นเวลานานในแต่ละวัน โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีของบริษัท อาทิ Azure, Cortana, Windows และ Office 365 เป็นต้น
เมื่อ Peggy ถูกถามว่าไมโครซอฟท์สามารถพัฒนาระบบปฏิบัติการสำหรับรถยนต์ไร้คนขับได้หรือไม่ Peggy ก็ยืนยันว่าสามารถทำได้อย่างแน่นอน
Volvo ออกมาประกาศว่าระบบไร้คนขับของตนเองจะล้ำหน้ากว่าของเจ้าอื่นๆ ตรงที่ไม่จำเป็นจะต้องมีคนคอยนั่งควบคุมหลังพวงมาลัย ซึ่งแตกต่างจากของบริษัทอื่น ที่ยังไม่มีใครกล้ายืนยันถึงความปลอดภัยและความน่าเชื่อของระบบไร้คนขับเช่นนี้
Erik Coelingh หัวหน้าอาวุโสฝ่ายเทคนิคด้านความปลอดภัยและเทคโนโลยีสนับสนุนผู้ขับขี่ (Senior Technical Leader for Safety and Driver Support Technologies) ของ Volvo ให้สัมภาษณ์ว่า Volvo จะเผยโฉมระบบไร้คนขับก่อนในปี 2017 และภายในปี 2020 เทคโนโลยีไร้คนขับของบริษัทนั้น จะล้ำหน้ากว่าเจ้าอื่นๆ และสามารถใช้งานได้จริง คนขับสามารถทำอย่างอื่นได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องคอยสนใจถนนและพวงมาลัยเลย
Google ประกาศข่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่ากำลังจะตั้งศูนย์พัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับแห่งใหม่ในเขตเมือง Novi ห่างจากเมือง Detroit ออกไปราว 50 กิโลเมตร
ช่วง 2-3 ปีหลังมานี้ มีวิศวกรของ Google หลายคนที่ทำงานจากระยะไกลจาก Detroit เพื่อร่วมพัฒนารถยนต์ไร้คนขับกับทีมที่สำนักงานใหญ่ใน California ด้วยเหตุนี้ Google จึงตัดสินใจจัดตั้งศูนย์พัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับที่เมือง Novi นี้เพื่อให้ทีมงานทำงานกันได้สะดวกมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การตั้งศูนย์ในละแวก Detroit เช่นนี้ ทำให้ Google มีโอกาสหาความร่วมมือจากคนเก่งๆ ในวงการรถยนต์จากอดีตเมืองหลวงแห่งอุตสาหกรรมรถยนต์ได้ง่ายยิ่งขึ้น
ค่อนข้างตรงกันข้ามกับท่าทีของฝั่งสหรัฐ ที่ยอมรับรถไร้คนขับของ Google ในฐานะผู้ขับขี่ในทางปฏิบัติ (ข่าวเก่า) หลัง National Police Agency (NPA) ของรัฐบาลญี่ปุ่นออกคู่มือ (guideline) ที่ว่าด้วยรถไร้คนขับฉบับแรก ห้ามรถไร้คนขับมาทดสอบวิ่งบนถนนโดยไม่มีคนนั่งอยู่หลังพวงมาลัย
คู่มือระบุด้วยว่าควรที่จะมีการติดตั้งกล่องดำ (black boxes) ไว้บนรถ เพื่อบันทึกข้อมูล และสืบหาต้นสายปลายเหตุ กรณีที่เกิดอุบัติเหตุขึ้น
หลังจาก Uber เผยแพร่ภาพแรกของรถขับเคลื่อนอัตโนมัติมาได้ไม่นานล่าสุดที่ Pittsburgh มีการทดลองให้รถ Ford Fusion รุ่นไฮบริดวิ่งในตัวเมืองอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจาก Uber ทดลองใช้อย่างไม่เป็นทางการมา 2-3 อาทิตย์ และผลคือไร้อุบัติเหตุ
OTTO บริษัทสตาร์ทอัพที่พนักงานแต่ละท่านมีโปรไฟล์ไม่ธรรมดา เตรียมเสนอเครื่องมือ เทคโนโลยีใช้ในรถบรรทุกไร้คนขับ หวังช่วยลดอุบัติเหตุ และพัฒนาคุณภาพชีวิตพนักงานขับรถบรรทุก
เครื่องมือที่จะติดตั้งเพิ่มเติมประกอบด้วย กล้อง เรดาร์ และเซนเซอร์ที่ช่วยให้รถบรรทุกสามารถวิ่งอยู่เฉพาะในเลนถนนที่กำหนดไว้ตามกฎจราจร เพิ่ม ลด ความเร็วตามที่จำเป็น
NXP Semiconductors ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของโลก ประกาศลุยตลาดชิปสำหรับรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ โดยเปิดตัวแพลตฟอร์มชื่อ BlueBox Engine เพื่อให้บริษัทรถยนต์นำไปใช้งาน
BlueBox ประกอบด้วย
ที่การประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีของ BMW ในปีนี้ Harald Krueger ซีอีโอของบริษัทออกมาระบุว่า เตรียมที่จะเปิดตัวรถยนต์ไร้คนขับในอนาคตที่พัฒนาต่อมาจาก BMW i8 ในปี 2021 โดยมีชื่อเรียกในตอนนี้ว่า BMW i Next
Krueger ระบุว่ารถดังกล่าวจะมีคุณสมบัติในการขับได้เอง เชื่อมต่อด้วยระบบดิจิทัล การออกแบบที่บางเบา การตกแต่งภายในแบบใหม่ และนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้งานอย่างเต็มที่
อนึ่ง ปกติแล้ว BMW มักใช้ชื่อ Next สำหรับโครงการที่เป็นอนาคตมากๆ ตัวอย่างเช่นรถยนต์ต้นแบบ Vision Next 100 ที่เคยจัดแสดงไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ผู้ช่วยเลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ ฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยในงานนิทรรศการด้านความมั่นคงและการต่อต้านการก่อการร้ายที่จัดขึ้นในกรุงลอนดอนว่า ฝ่าย R&D ของกลุ่มรัฐอิสลาม กำลังใช้โรงงานผลิตระเบิดในเขตประเทศซิเรีย เป็นฐานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีรถไร้คนขับอยู่ในขณะนี้ และระบุว่าหากทำได้สำเร็จ อาจช่วยลดการสูญเสียกำลังคนในการก่อเหตุของกลุ่มก่อการร้ายได้ค่อนข้างมาก ซึ่งทางนาโต้จะคอยจับตาและสืบหาข่าวกรองมากยิ่งขึ้น
การเปิดเผยขององค์การนาโต้ครั้งนี้ สอดรับกับความกังวลที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาว่า รถไร้คนขับจะกลายเป็นเครื่องมือของการก่อการร้าย และจะสร้างความยากลำบากให้แก่ทางการในการป้องกันและติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุมากยิ่งขึ้น
Barrie Kirk ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยในรถยนต์กล่าวกับสื่อของแคนาดาว่าในอนาคตเมื่อมีรถยนต์ไร้คนขับแพร่หลายเมื่อไร อัตราการมีเพศสัมพันธ์บนรถยนต์ก็จะสูงขึ้น สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือเมื่อสมองกลต้องการการตัดสินใจอย่างฉับพลันจากคนขับที่ไม่ได้จดจ่อกับเส้นทางก็อาจจะเกิดปัญหาได้ ในกรณีนี้ทางการแคนาดาจึงกำลังพิจารณาให้มีกล่องดำช่วยบันทึกเหตุการณ์หากมีอุบัติเหตุ
ข่าวไม่ได้บอกว่าเหตุใดผู้เชี่ยวชาญถึงออกมาให้ความเห็นว่าต้องเป็นเรื่องเพศสัมพันธ์เท่านั้น แต่ในอดีตที่ผ่านมามีการออกแบบรถยนต์ให้เอื้อต่อการทำกิจกรรมแบบนั้นอยู่บ้างในบางตลาดเช่นออสเตรเลีย
ที่มา - The Register
Google ประกาศความร่วมมือกับ Fiat Crhysler บริษัทผลิตรถยนต์สัญชาติอิตาเลียนอเมริกัน เพื่อพัฒนารถมินิแวนไร้คนขับ ซึ่งนับเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายที่ 2 ถัดจาก Ford ที่จับมือกับ Google
ความร่วมมือครั้งนี้ Google ยังคงมีอิสระในการพัฒนาและทดสอบรถไร้คนขับ ขณะเดียวกับก็ยังคงสามารถจับมือกับผู้ผลิตเจ้าอื่นเพิ่มเติมได้ ส่วนทาง Fiat จะได้ know-how และการเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่นี้แลกเปลี่ยน แต่สิทธิของเทคโนโลยียังคงอยู่ที่ Google เจ้าเดียว
ความร่วมมือนี้นับเป็นหนึ่งในวิสัยทัศน์ของ Sergio Marchionne ซีอีโอ Fiat Crysler ที่มองว่าบริษัทควรที่จะร่วมมือกับยักษ์ใหญ่ไอทีที่กระโดดเข้ามาในวงการรถยนต์อย่าง Google และ Apple มากกว่าที่จะแข่งขันกัน เนื่องจากที่ผ่านมาอุตสาหกรรมรถยนต์สูญเสียทรัพยากรไปมาก ในการพัฒนารถไร้คนขับ ขณะเดียวกับ Fiat เองก็ไม่มีทรัพยากรเพียงพอจะไปแข่งกับ Google, Apple หรือแม้แต่ผู้ผลิตรถเจ้าอื่นอย่าง GM และ Toyota
ที่มา - Bloomberg
กระบวนการขับเคลื่อนให้รถยนต์ไร้คนขับ ให้กลายเป็นที่ยอมรับทั้งในเชิงกฎหมายและสังคมในสหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด Google ได้จับมือกับ Ford, Volvo, Uber และ Lyft จัดตั้งกลุ่ม Self-Driving Coalition for Safer Streets ในการทำงานร่วมกับภาครัฐ เพื่อผลักดันร่างกฎหมาย รวมถึงสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชนและภาคส่วนอื่นๆ เกี่ยวกับรถไร้คนขับให้มากยิ่งขึ้น
ให้หลังการออกข่าวเรื่องแผนการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับในประเทศจีนมาไม่นาน ล่าสุด Volvo ออกมาประกาศว่าเตรียมจะทำการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับในสภาพการจราจรจริงบนถนนใน London ประเทศอังกฤษปีหน้าด้วย
Volvo ตั้งชื่อโครงการทดสอบนี้ว่า 'Drive Me London' ซึ่งจะมีการคัดเลือกผู้โชคดีที่จะรับโอกาสทดลองใช้ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติของรถยนต์ Volvo จำนวน 100 คัน บนถนนที่ได้รับอนุญาตใน London โดยในระหว่างที่รถอยู่ในโหมดขับเคลื่อนอัตโนมัตินั้น Volvo ก็จะทำการเก็บข้อมูลไปด้วยว่ารถมีการทำงานและตอบสนองต่อสถานการณ์ต่างๆ อย่างไร
เพื่อผลักดันเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับให้เป็นที่ยอมรับ และเพื่อให้การประสานงานกับหน่วยงานอื่นมีความชัดเจน กลุ่มบริษัทอันประกอบไปด้วย Google, Volvo, Ford, Uber และ Lyft ได้ประกาศรวมตัวกันเป็นพันธมิตรเพื่อประสานความร่วมมือกันเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว
เป้าหมายของการจับมือกันในครั้งนี้คือ "ทำงานร่วมกับผู้ออกกฎหมาย, ผู้ควบคุมบังคับใช้กฎหมาย, และสาธารณชนให้ตระหนักถึงคุณประโยชน์ด้านความปลอดภัยและด้านสังคมของพาหนะไร้คนขับ"
ทางการจีนกำลังร่างแผนโร้ดแมพที่จะใช้เป็นแม่บทกำกับงานพัฒนาทั้งเทคโนโลยี, กฎหมาย และระบบพื้นฐานให้รองรับการใช้งานรถยนต์แบบไร้คนขับได้จริงภายในปี 2025 โดยงานนี้ได้รับการผลักดันจากกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน
Li Keqiang ศาสตราจารย์วิศวกรรมยานยนต์แห่ง Tsinghua University ซึ่งเป็นประธานร่างแผนดังกล่าวได้ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ว่าแผนโร้ดแมพนี้จะประกาศอย่างเป็นทางการภายในปีนี้ โดยในระยะสั้นจะพัฒนารถยนต์ไร้คนขับให้ใช้งานบนทางด่วนได้สำเร็จภายใน 3-5 ปีข้างหน้า ส่วนรถยนต์ไร้คนขับสำหรับเขตชุมชนนั้นจะเป็นไปตามกรอบเวลาที่ระบุไว้ข้างต้นคือในปี 2025 ซึ่งเมื่อการร่างแผนนี้แล้วเสร็จ จะมีการเปิดฟังความเห็นของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งภาคเอกชนและหน่วยงานรัฐอื่นๆ เพื่อขอความเห็นชอบในการประกาศใช้แผนนี้ต่อไป
เราเห็นข่าว Baidu เตรียมทดสอบรถอัตโนมัติในสหรัฐ กันมาได้สักพัก ล่าสุดบริษัทตั้งศูนย์วิจัยรถไร้คนขับในเมือง Sunnyvale รัฐแคลิฟอร์เนีย เมืองเดียวกับสำนักงานใหญ่ของ Yahoo และอยู่ติดกับเมือง Mountain View สำนักงานใหญ่ของกูเกิล
บริษัทเรียกทีมวิจัยนี้ว่า Autonomous Driving Unit (ADU) คาดว่าจะจ้างวิศวกรและนักวิจัยมาร่วมทีมมากถึง 100 คนภายในปีนี้ บริษัทยังได้ Liang Heng วิศวกรด้านรถยนต์ไร้คนขับจาก Tesla Motors มาร่วมทีมในฐานะ Software Architect ด้วย ส่วน Jing Wang หัวหน้าทีม ADU ก็เคยทำงานกับกูเกิลมาก่อน
สำนักงานตำรวจญี่ปุ่น (National Police Agency - NPA) ออกร่างแนวทางการทดสอบรถอัตโนมัติเพื่อรับฟังความคิดเห็น ใจความสำคัญคือการทดสอบรถอัตโนมัติบนถนนจริงไม่จำเป็นต้องขออนุญาตล่วงหน้า
ประกาศฉบับนี้มีข้อบังคับจริงๆ ไม่มากนักและส่วนมากเป็นข้อแนะนำที่ไม่ต้องทำตามก็ได้เป็นส่วนใหญ่ ข้อบังคับเช่น รถต้องมีเสียงเตือนเมื่อกำลังเปลี่ยนจากการควบคุมด้วยมนุษย์เป็นระบบอัตโนมัติ และรถทดสอบต้องมีผู้โดยสารนั่งไปด้วยอีกหนึ่งคนนอกจากตัวคนขับเอง
ข้อแนะนำ เช่น ให้มีการทดสอบในสนามปิดก่อน และค่อยๆ ทดสอบจากพื้นที่ที่รถไม่หนาแน่น, รถต้องมีการป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์, คนขับควรเซ็นยินยอมรับผิดหากเกิดอุบัติเหตุ ข้อแนะนำเหล่านี้หากไม่ได้ทำตามทางตำรวจแนะนำให้ปรึกษาตำรวจล่วงหน้า
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา หน่วยงานด้านความปลอดภัยทางจราจรบนทางหลวงแห่งชาติของสหรัฐฯ (NHTSA) ได้ประกาศจะออกคำแนะนำว่าด้วยการใช้งานรถยนต์ไร้คนขับอย่างปลอดภัย (Guidance on the safe deployment and opperation of autonomous vehicles) ภายในกลางปีนี้ เพื่อเป็นแนวทางในการออกกฎหมายและนโยบายเกี่ยวกับรถยนต์ไร้คนขับต่อไปในอนาคต ซึ่งกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ก็ออกมาเตือน NHTSA ว่ายังเร็วเกินไป
กลุ่ม Association of Global Automakers ชี้แนะต่อ NHTSA ระหว่างการทำประชาพิจารณ์ว่า การกำหนดเดดไลน์เพื่อออกคำแนะนำภายในช่วงกลางปีนี้ยังเร็วไป และอาจทำให้การวิเคราะห์นโยบายเกี่ยวกับรถไร้คนขับต่างๆ ไม่มีความถี่ถ้วนและสมบูรณ์พอ
Volvo ประกาศแผนเตรียมทดสอบรถยนต์ไร้คนขับในประเทศจีน โดยจำนวนรถที่จะใช้ทดสอบอาจมีมากถึง 100 คัน
สำหรับระบบรถยนต์ไร้คนขับของ Volvo นั้นไม่ใช่ระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบอย่างเช่นรถของ Google หรือรถของ nuTonomy ที่เตรียมให้บริการแท็กซี่ในสิงคโปร์ แต่เป็นระบบขับอัตโนมัติที่จะแจ้งเตือนผู้ใช้ว่าพร้อมทำงานเมื่อรถวิ่งอยู่ในสภาวะที่เหมาะสม เช่น บนทางด่วนหรือวิ่งในเขตนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งเมื่อเปิดใช้งานระบบที่ว่านี้แล้ว ผู้ขับขี่สามารถละมือและพักสายตาจากการขับขี่แล้วปล่อยให้รถเคลื่อนที่ไปเองได้