Chase Pay เป็นแอปจ่ายเงินจากธนาคาร Chase ของสหรัฐฯ​ ซึ่งอยู่ภายใต้เครือ JPMorgan Chase เปิดตัวเมื่อสี่ปีที่แล้วโดยจับมือกับกลุ่ม MCX เจ้าของแพลตฟอร์ม CurrentC ที่เกิดจากการรมตัวของกลุ่มร้านค้าปลีกในสหรัฐฯ และตอนหลัง JPMorgan Chase ก็ซื้อ MCX เข้ามาเพื่อเสริมทัพ Chase Pay ด้วย

ผ่านมาหลายปี Chase Pay ก็ยังไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร วันนี้ JPMorgan Chase จึงประกาศหยุดให้บริการแอปจ่ายเงินบนมือถือ Chase Pay ในปีหน้า ซึ่งหลังจากที่หยุดให้บริการแล้ว Chase Pay จะไม่สามารถจ่ายเงินที่แคชเชียร์ของร้านค้าได้อีก

South China Morning Post รายงานความเคลื่อนไหวของวงการระบบจ่ายเงิน (Payment) ในจีน จากที่ผ่านมาเราพอทราบกันว่า QR Code เป็นเทคโนโลยีหลักในการจ่ายเงิน แต่ตอนนี้สองค่ายใหญ่ทั้ง Alipay ของ Alibaba และ WeChat Pay ของ Tencent พยายามผลักดันการจ่ายเงินแบบใหม่ โดยใช้การยืนยันด้วยใบหน้าบุคคลแทน

ปัจจุบัน Alipay มีจุดรับชำระเงินด้วยการใช้ใบหน้าอยู่มากกว่า 300 เมืองในจีน และติดตั้งในซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ของปักกิ่ง ซึ่งระบบของ Alipay นั้นเรียกว่า Smile to Pay กล่าวคือ ลูกค้าต้องยิ้มให้กล้องก่อนเพื่อยืนยันการจ่ายเงิน

ผู้ใช้แอป 7pay ที่เป็นบริการของ 7-Eleven ในญี่ปุ่นถูกขโมยบัญชีจนกระทั่งเสียเงินเป็นวงกว้าง รวมเหยื่อประมาณ 900 คน มูลค่าความเสียหาย 55 ล้านเยน หรือประมาณ 15 ล้านบาท จากการออกแบบระบบรีเซ็ตรหัสผ่านที่ผิดพลาด

หน้าจอรีเซ็ตรหัสผ่านของ 7pay ถามข้อมูลอีเมล, วันเกิด, และหมายเลขโทรศัพท์ แต่หลังจากนั้นกลับมีหน้าจอถามว่าต้องการให้ส่งลิงก์รีเซ็ตรหัสผ่านไปที่ใด ทำให้คนร้ายที่รู้ข้อมูลเบื้องต้นของเหยื่อสามารถขโมยบัญชีของเหยื่อได้โดยง่าย

มีกรณีศึกษาที่น่าสนใจจากการแข่งขันเบสบอลในญี่ปุ่น โดยสนามของทีม Tohoku Rakuten Golden Eagles ที่มี Rakuten อีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของญี่ปุ่นเป็นเจ้าของ พบว่าเมื่อให้อาหารและเครื่องดื่มที่จำหน่ายในสนามรองรับการจ่ายเงินด้วย QR Code ก็พบว่ายอดขายเพิ่มขึ้นถึง 20% เนื่องจากมีความคล่องตัวในการซื้อ-ขาย ซึ่งในฤดูกาลนี้สนามของทีมจะเปลี่ยนมารับเฉพาะการจ่ายด้วย QR Code เลย

Rakuten หวังว่าผู้ชมในสนามจะปรับตัวได้ และ Rakuten เองก็ต้องการใช้พื้นที่ในการโปรโมตระบบจ่ายเงินของตนเอง รวมทั้งหวังเห็นพฤติกรรมลูกค้าที่ยอมรับ QR Code มากขึ้น

New Payments Platform (NPP) บริษัทผู้ให้บริการโอนเงินทันที (real time payment) แบบเดียวกับพร้อมเพย์ของไทย ประกาศออกมาตรฐาน QR สำหรับโอนเงินโอนผ่านโทรศัพท์มือถือ แบบเดียวกับ Thai QR Payment

LINE Pay ประกาศความร่วมมือกับ Visa โดยผู้ใช้ LINE Pay จะสามารถยื่นสมัครบัตรเครดิต Visa ได้จากแอพ LINE โดยตรง และได้บัตรเครดิตดิจิทัลที่เปิดใช้งานจากในแอพได้ (ข้อมูลจากฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ LINE ประเทศไทย ระบุว่าวิธีจ่ายเงินคือผ่าน QR และยังใช้ได้เฉพาะในญี่ปุ่น-ไต้หวัน)

ในอนาคต ผู้ใช้จะสามารถเพิ่มบัตร Visa ที่มีอยู่แล้วเพื่อใช้เป็นบัตรดิจิทัลในแอพ LINE ได้ด้วย โดยจะยังได้สิทธิประโยชน์อย่างการสะสมแต้ม หรือการชำระเงินในรูปแบบใหม่ๆ หากเดินทางไปต่างประเทศ

Facebook ส่งอีเมลแจ้งเตือนให้ผู้ใช้ที่เคยทำรายการส่งเงินให้เพื่อนว่าทางบริษัทกำลังจะยกเลิกให้บริการนี้ในวันที่ 15 มิถุนายน 2019 หลังจากนั้นผู้ใช้จะไม่สามารถใช้บริการส่งเงินให้เพื่อนได้อีก แต่สำหรับการทำรายการอื่นเช่นการบริจาคยังสามารถทำได้ตามปกติ

เมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมาทาง True Money ได้มีการประกาศจากทางแฟนเพจว่าด้วยเรื่องการปรับระยะวันเวลาในการโอนเงินเข้าธนาคารให้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยปกติจะใช้เวลา 2 วันทำการ (ไม่รวมวันนักขัตฤกษ์ และวันเสาร์ - อาทิตย์) และต้องโอนขั้นต่ำ 500 และไม่เกิน 25,000 บาทถึงจะเงินเข้าธนาคาร

โดยหลังจากประกาศนี้ออกไปจะเป็นการปรับเปลี่ยนวันเวลาให้เร็วขึ้น ภายใน 3 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 8.00 - 22.00 น. ของทุกๆวันไม่เว้นวันหยุดต่างๆ และลดขั้นต่ำกับขยายเพดานในการโอนเข้าธนาคารในขั้นต่ำ 100 บาท และไม่เกิน 50,000 บาท/ครั้ง ค่าธรรมเนียมยังคง 15 บาทต่อรายการเหมือนเดิม มีผลทันทีทั้งระบบ iOS และ Android

บริษัท โฮวา ผู้ให้บริการสหกรณ์แท็กซี่สุวรรณภูมิ เปิดตัว HaHa Taxi แอปเรียกแท็กซี่ผ่านมือถือ เลือกได้ว่าจะจ่ายเงินสด หรือผ่านบัตร Mastercard ก็ได้

HaHa Taxi จะมีรถให้บริการจะมี 3 แบบ ได้แก่ รถแท็กซี่แบบปกติ, รถแท็กซี่แบบ 7 ที่นั่ง ทั้งสองแบบค่าบริการเริ่มต้นที่ 35 บาท ส่วน Premium HRV เริ่มต้นที่ 120 บาท มีจุดจอดรถตามโรงแรมและศูนย์การค้า

รัฐบาลกรุงโซลในเกาหลีใต้เปิดทดสอบ Zero Pay ระบบจ่ายเงินให้ร้านค้าค่าธรรมเนียมต่ำ โดยการรับจ่าย 800 ล้านวอน (23 ล้านบาท) แรกในแต่ละปี จะไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ หลังจากนั้นจะมีค่าธรรมเนียม 0.3-0.5%

กำหนดการเปิดบริการ Zero Pay จริงๆ อยู่ในเดือนมีนาคม 2019 โดยมีธนาคาร 20 แห่งร่วมโครงการ แต่เฉพาะช่วงทดสอบล่วงหน้านี้ก็มีธนาคารร่วมทดสอบแล้ว 11 แห่ง

รัฐบาลกรุงโซลเปิดทดสอบโดยร่วมกับร้านแฟรนไชส์ดังๆ เช่น Paris Baguette, Paris Croissant, Lotteria, และ Krispy Kreme สำหรับร้านขนาดเล็กจะเน้นในสถานีรถไฟใต้ดิน Gangnam และ Yeongdeungpo โดยร้านค้าในทั้งสองสถานีมีร้านเข้าร่วมถึง 85%

หน่วยงานของธนาคารกลางจีน (PBoc) ได้ออกมาเตือนซูเปอร์มาร์เก็ต Hema ที่ปัจจุบันมี Alibaba เป็นเจ้าของ หลังจากมีผู้ร้องเรียนว่าซูเปอร์มาร์เก็ตดังกล่าวปฏิเสธที่จะรับชำระเป็นเงินสด ซึ่งในจีนมีกฎว่าห้ามร้านค้าปฏิเสธหากลูกค้าต้องการจ่ายเป็นเงินสด ถึงแม้เราจะได้ยินเรื่องราวของการจ่ายเงินแบบดิจิทัลในจีนที่เป็นเรื่องปกติก็ตาม

ตามที่มีข่าวก่อนหน้านี้ว่า LINE Pay เตรียมประกาศความร่วมมือกับ WeChat Pay เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาญี่ปุ่น LINE ก็ได้ประกาศรายละเอียดความร่วมมือออกมาแล้ว

โดยโครงการดังกล่าวเรียกว่า LINE Pay Global Alliance โดยร้านค้าในญี่ปุ่นที่รับชำระเงินผ่าน LINE Pay จากนี้จะสามารถรองรับบริการจ่ายเงินผ่านมือถือจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งนักท่องเที่ยวนั้นจะใช้แอปเดิมของประเทศตนเองได้เลย ไม่ต้องลงแอปใหม่เพิ่ม เริ่มต้นที่นักท่องเที่ยวจีนด้วยแอป WeChat Pay ก่อนเป็นกลุ่มแรก

หลังจากช่วง Black Friday และ Cyber Money เพิ่งจะผ่านไป หลายบริษัทก็เริ่มออกมาเปิดเผยสถิติในช่วงเทศกาลช้อปปิ้งเหล่านี้ ซึ่งรวมถึง PayPal ด้วย ซึ่งสำหรับสถิติของ PayPal พบว่าในวันนั้นมียอดการใช้จ่าย mobile payment ถึง 1 พันล้านดอลลาร์ต่อวันเป็นครั้งแรกใน Black Friday และ Cyber Money

PayPal ระบุว่า Black Friday ในปีนี้มีวอลุ่มการใช้จ่ายผ่าน mobile payment สูงกว่าปีที่แล้วถึง 42% และสูงกว่า Cyber Monday ของปีนี้ด้วย แต่ถ้านับยอดใช้จ่ายทุกช่องทางรวมกันแล้ว Cyber Monday ก็ยังสูงกว่าอยู่ดี

Nikkei Asian Review รายงานว่า Tencent บริษัทอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ของจีน เจ้าของแอป WeChat เตรียมร่วมมือกับ LINE เพื่อให้บริการจุดจ่ายเงินสำหรับธุรกิจในญี่ปุ่น ที่ต้องการดึงดูดนักท่องเที่ยวจีน ที่เดินทางมาท่องเที่ยวญี่ปุ่น ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี

โดยความร่วมมือนี้ LINE จะเป็นผู้ติดตั้งจุดจ่ายเงินให้กับร้านค้าขนาดกลาง-เล็กต่าง ๆ เพื่อให้รองรับการจ่ายเงินด้วย WeChat Pay ได้

ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาญี่ปุ่นในปีที่ผ่านมาคือ 7.35 ล้านคน และเป็นจำนวนที่เพิ่มถึงสามเท่าตัว เมื่อกับสามปีก่อนหน้านั้น แนวโน้มนี้จึงทำให้ร้านค้าสนใจติดตั้งจุดจ่ายเงินที่รองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้กันมากขึ้น

Alipay Financial Services HK ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการ Alipay ของฮ่องกงประกาศเตรียมนำระบบจ่ายเงินด้วย QR Code มาให้บริการในสถานีรถไฟใต้ดินของฮ่องกง 91 สถานีภายในปี 2020 ซึ่งทาง AlipayHK นั้นเป็นผู้ชนะประมูลงานของ MTR ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรถไฟใต้ดินของฮ่องกง

การใช้ Alipay บนสถานีรถไฟใต้ดินฮ่องกง ผู้ใช้เพียงแค่สแกน QR Code ก็สามารถเข้าสู่ระบบรถไฟได้ทันที ซึ่งการสแกน QR Code นั้นใช้เวลาเพียง 0.4 วินาทีเท่านั้น รวมถึงสามารถใช้งานในสภาพที่อินเทอร์เน็ตไม่อำนวยได้ด้วย ซึ่งแม้ว่าปัจจุบัน MTR จะมีบัตร Octopus ให้ใช้งานอยู่แล้ว และบัตร Octopus ก็ครอบคลุมประชากรฮ่องกงถึง 99% แต่การเพิ่มช่องทางการจ่ายเงินก็ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้เดินทางจากจีนแผ่นดินใหญ่ให้ใช้บริการ MTR ได้สะดวกยิ่งขึ้น

PayPal ประกาศความร่วมมือกับ Walmart เครือซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ของโลก ให้ผู้ใช้ PayPal สามารถเติมเงิน-ถอนเงินได้ที่ Walmart ทุกสาขา ถือเป็นครั้งแรกที่ PayPal ก้าวเข้าสู่โลกออฟไลน์อย่างเต็มตัว

ตอนนี้ฟีเจอร์เติมเงิน (cash in) สามารถใช้งานได้แล้ว ขั้นตอนคือเปิดแอพ PayPal เลือกปุ่ม Add Cash และเลือกช่องทางเป็น Walmart จากนั้นแอพจะสร้างรหัสให้เราแจ้งกับแคชเชียร์ของ Walmart เพื่อใช้คู่กับการเติมเงิน

ส่วนฟีเจอร์ถอนเงิน (cash out) จะใช้งานได้ในเดือนพฤศจิกายน 2018 ขั้นตอนคือกดปุ่ม Get Cash ในแอพ เลือก Walmart แอพจะสร้างบาร์โค้ดให้เราสแกนกับแคชเชียร์เพื่อถอนเงินออกมา

Fitbit มีบริการจ่ายเงิน Fitbit Pay สำหรับอุปกรณ์สวมใส่บางรุ่น เช่น Ionic, Versa หรือ Charge 3 มาได้สักระยะหนึ่ง ล่าสุดบริการตัวนี้ใช้งานในประเทศไทยได้แล้ว

พาร์ทเนอร์ของ Fitbit ในไทยได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และบริษัทบัตรกรุงไทย (KTC) โดยผู้ใช้สามารถเพิ่มบัตรเครดิตหรือเดบิตจากแอพ Fitbit บนสมาร์ทโฟนได้เลย โดยพาร์ทเนอร์บางรายอย่าง KTC ได้จับมือกับ Mastercard ออกโปรโมชั่นคืนเงิน 5% หากใช้จ่ายผ่าน Fitbit Pay จนถึงสิ้นปีนี้ด้วย

รายชื่อธนาคารทั้งหมดที่รองรับ Fitbit Pay สามารถดูได้จาก เว็บไซต์ Fitbit

ธนาคารกสิกรไทยแถลงถึงตัวเลขการใช้งานแอพพลิเคชั่น K PLUS ที่มีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงสองปีที่ผ่านมา โดยข้อมูลเดือนกันยายนมีผู้ใช้ถึง 9.4 ล้านคน คิดเป็น 61% ของลูกค้าธนาคารทั้งหมด ขณะที่ยอดผู้ใช้ช่วงปลายปี 2017 อยู่ที่ 7.3 ล้านราย หรือเติบโต 29% ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา

ในแง่ปริมาณธุรกรรมก็เติบโตขึ้นอย่างมาก โดยช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา มีจำนวนธุรกรรมสูงถึง 3,634 ล้านรายการ เทียบกับปี 2017 ทั้งปีที่มี 3,052 ล้านรายการ หรือเติบโตขึ้น 58% ต่อปี ขณะที่ยอดการใช้ฟังก์ชั่นธนาคารพื้นฐานคือโอนเติมจ่าย นั้นอยู่ที่ 125 ล้านรายการต่อเดือน

ปัจจุบันแอพ Venmo เป็นแอพระบบจ่ายเงินบนมือถือที่ได้รับความนิยมมากในสหรัฐฯ​ ซึ่งด้วยความที่ตัวแอพมีคุณลักษณะทั้งเป็นแอพจ่ายเงิน โอนเงิน และมีความสามารถด้านโซเชียล แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเป็นส่วนตัว ซึ่งแม้ว่า Venmo จะปิดไม่ให้แชร์ลงโซเชียลได้ แต่ค่าเริ่มต้นก็คือแชร์ลงโซเชียลอยู่ดี หมายความว่าจะทำธุรกรรมทางการเงินอะไรคนอื่นก็เห็นได้

ธนาคารกลางสิงคโปร์ (Monetary Authority of Singapore - MAS) และ IMDA หน่วยงานสนับสนุนด้านไอทีของสิงคโปร์ เปิดตัว SGQR มาตรฐานกลาง QR สำหรับจ่ายเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยรวมเอา QR ของผู้ให้บริการถึง 27 รายเข้าไว้ด้วยกัน โดยระบุว่าเป็นครั้งแรกของโลกที่มีการใช้งานเช่นนี้

ตัว QR เป็นมาตรฐานของ EMVco แบบเดียวกับของไทย แต่ทางสิงคโปร์เลือกใช้ชื่อแอพพลิเคชั่นเป็นโดเมนแทนที่จะเป็นเลข AID แบบของไทย

หน่วยงานทั้งสองตั้งเป้าไว้ว่าภายในหกเดือนข้างหน้าจะเปลี่ยน QR ที่ผู้ให้บริการต่างๆ ติดตามร้านไปแล้วให้กลายเป็น SGQR ทั้งหมด ตอนนี้มีการร่วมมือกับเชนร้านค้าเช่น Toast Box, Subway, และร้านขาไข่มุก

แอพ LINE เวอร์ชันล่าสุด รองรับการเติมเงินรถไฟฟ้า BTS ผ่านบริการ Rabbit LINE Play จากแอพ LINE โดยตรงแล้ว

กระบวนการใช้งานคือเข้าเมนู BTS จากใน Rabbit LINE Pay จากนั้นเชื่อมบัตร Rabbit เข้ากับแอพ LINE แล้วนำบัตรไปเปิดใช้งาน (activate) ที่สถานี BTS ซึ่งปัจจุบันยังใช้งานได้ 5 สถานีคือ อโศก, อนุสาวรีย์ชัย, ช่องนนทรีย์, ศาลาแดง และเพลินจิต

Rabbit LINE Pay เป็นบริษัทร่วมทุนที่เริ่มต้นโดย LINE และกลุ่มรถไฟฟ้า BTS ในปี 2016 จากนั้นได้ AIS เข้ามาร่วมทุนด้วยอีก 1 รายในช่วงต้นปี 2018

มีรายงานว่า Berkshire Hathaway บริษัทด้านการลงทุนของมหาเศรษฐี Warren Buffett กำลังเจรจาเพื่อเข้าลงทุนใน Paytm บริษัทบริการจ่ายเงินดิจิทัลรายใหญ่ของอินเดีย โดยวงเงินลงทุนอยู่ราว 286-357 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นการเข้าซื้อหุ้นของ One97 Communications บริษัทแม่ของ Paytm ซึ่งจะทำให้ได้หุ้นราว 3-4%

ดีลดังกล่าวน่าจะมีข้อสรุปภายในสัปดาห์หน้า และทำให้มูลค่ากิจการของ Paytm สูงถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันที่อยู่ราว 7 พันล้านดอลลาร์

ที่น่าสนใจคือดีลนี้จะเป็นการลงทุนโดยตรงในอินเดียครั้งแรกของ Warrent Buffett เท่ากับว่าเขาได้แสดงความสนใจในตลาดนี้มากขึ้น

Paytm เป็นบริการจ่ายเงินดิจิทัลผ่านมือถือรายใหญ่ ปัจจุบันมีผู้ลงทุนรายสำคัญทั้ง SoftBank, Alibaba และ Ant Financial

Samsung ประกาศครบรอบ 3 ปีของการเปิดใช้งาน Samsung Pay บริการจ่ายเงิน mobile payment อย่างเป็นทางการ โดย Samsung Pay นั้นเปิดให้บริการครั้งแรกในประเทศเกาหลีใต้วันที่ 20 สิงหาคม 2015

ในการครบรอบนี้ Samsung เผยสถิติที่น่าสนใจมาด้วย ซึ่งตอนนี้ Samsung Pay ได้ให้บริการทั้งหมด 6 ทวีปทั่วโลกแล้ว ประเทศล่าสุดที่เพิ่งจะเปิดให้บริการคือแอฟริกาใต้ และเป็นประเทศแรกในทวีปแอฟริกาที่ให้บริการ Samsung Pay รวมแล้วตอนนี้ Samsung เปิดให้บริการทั้งหมด 24 ประเทศ และมีสถาบันการเงินเข้าร่วมให้บริการกว่า 2,000 แห่ง ซึ่งจำนวนครั้งในการใช้จ่ายผ่าน Samsung Pay ตั้งแต่เปิดให้บริการมามีทั้งสิ้น 1.3 พันล้านครั้ง

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประกาศยกเลิกการให้บริการแอพ UP2ME Mobile (แอพทำธุรกรรมด้วย QR Code) โดยจะปิดการให้บริการในวันที่ 31 ตุลาคม 2561

สำหรับผู้ใช้บริการที่สร้าง e-wallet ใน UP2ME สามารถทำรายการได้จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2561 หลังจากนั้น(1 พฤศจิกายน 2561 เป็นต้นไป) ต้องทำการติดต่อผ่านสาขาของธนาคารเท่านั้น

ความเห็นผู้เขียน: เนื่องด้วยการทำรายการผ่าน QR Code ปัจจุบันสามารถทำบนแอปพลิเคชั่นหลักได้หมดแล้ว จึงไม่จำเป็นที่จะต้องแยกบริการเป็นคนละผลิตภัณฑ์

ที่มา: ธนาคารไทยพาณิชย์

SoftBank และ Yahoo! Japan ประกาศความร่วมมือกับ Paytm ผู้ให้บริการจ่ายเงินผ่านมือถือรายใหญ่ของอินเดีย (ซึ่ง SoftBank ถือหุ้นอยู่) จัดตั้งบริษัทใหม่ Paypay เพื่อเตรียมให้บริการจ่ายเงินผ่านมือถือในประเทศญี่ปุ่น กำหนดเปิดตัวเดือนพฤศจิกายนนี้

ระบบของ Paypay เป็นการชำระเงินผ่าน QR Code ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมใช้ในหลายประเทศของเอเชียรวมทั้งไทย แต่ญี่ปุ่นเองเป็นประเทศที่มีการใช้งานเงินดิจิทัลที่ไม่สูง ปัจจุบันอัตราการชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสดอยู่ที่ 20% ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นมีเป้าหมายให้เกิดการไม่ใช้เงินสดเป็น 40% ภายในปี 2025