บล็อกล่าสุดของ John Carroll พนักงานคนหนึ่งของไมโครซอฟท์ที่เขียนลง ZDNet มีการเปิดใจถึงกรณีการโจมตีไมโครซอฟท์ว่ากำลังทำร้ายโลกโอเพนซอร์สด้วยการฝัง IE เข้าไปในวินโดวส์ ว่าแม้จริงแล้วการทำเช่นนี้กลับเป็นการช่วยให้ผู้คนเข้าถึงโลกโอเพนซอร์สได้เป็นอย่างดี โดยเขาระบุว่าหากไม่มี IE แล้วการเข้าถึงซอฟต์แวร์อื่นๆ ก็จะกลายเป็นเรื่องยากไป โดยเนื้อบทความพาดพิงถึงการตัดสินของคณะกรรมการการค้าเสรีของเกาหลีใต้ ที่ให้ไมโครซอฟท์วางตลาดวินโดวส์ที่ไม่มี IM และ Media Player

หลังจากยืนยันกับกระทรวงยุติธรรม ศาล และสาธารณชนมาเป็นเวลาสิบปี ว่าวินโดวส์กับ IE น่ะ เป็นคู่แท้ปาฏิหารย์ ไม่สามารถพรากจากกันได้ แต่สำหรับ IE7 นั้น ไมโครซอฟท์ก็ทำตัวเป็นพ่อตาใจร้าย แยก IE ออกจากวินโดวส์เรียบร้อยแล้ว

เหตุผลของไมโครซอฟท์ก็คือความปลอดภัย (คงไม่ต้องอธิบายต่อมั้ง น่าจะรู้ดีกันหมดแล้ว)

เมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้ยื่นเรื่องของเข้าร่วมคณะกรรมการ INCITS/V1 ที่เป็นคณะกรรมการที่จัดการเรื่องการโหวตมาตรฐาน เอกสารออฟฟิศเพื่อรับเข้ามาตรฐาน ISO ที่ทางฝั่ง OpenDocument กำลังผลักดันกันอย่างหนักในตอนนี้

โดยไม่ต้องสงสัย การเข้าร่วมครั้งนี้มีเพื่อการผลักดันมาตรฐาน OpenXML ของไมโครซอฟท์เอง โดยก่อนหน้านี้ไมโครซอฟท์ได้ยื่นฟอร์แมต OpenXML ของตนเข้ามาตรฐาน ECMA ของทางยุโรปไปก่อนแล้ว

หลังจากการดีเลย์ของ Vista ที่มีข่าวลือว่าเกิดจากปัญหาภายในของไมโครซอฟท์ ตอนนี้ทำท่าจะจริงแล้วครับ

เมื่อมีบล็อกชื่อ Mini-Microsoft อ้างว่าเป็นคนในของไมโครซอฟท์เอง (แต่ใช้ Blogger อะ หุๆ) ได้ออกมาเรียกร้องให้ผู้บริหารระดับสูงของไมโครซอฟท์แสดงความรับผิดชอบ (คุ้นๆ มะ)

Vista เลื่อนแล้ว Office 2007 ก็เลื่อนตามมา

โดยจะเลื่อนไปต้นปี 2007 เหมือนกัน แต่ตัวซอฟต์แวร์จะเสร็จก่อนสิ้นปี 2006 และเปิดขายแบบยกล็อตให้กับบริษัทก่อน เหมือนกับกรณีของ Vista

ตัว Office ไม่มีปัญหาในการพัฒนา แต่สาเหตุที่เลื่อนก็เป็นเพราะ Vista ล่ะครับ ลองคิดดูว่าถ้า Office 2007 ออกก่อน ลูกค้าต้องลงบน XP หลังจากนั้นไม่นานพอ Vista ออก ลูกค้าที่ซื้อไปก็ต้องลงซ้ำบน Vista อีกครั้ง ไม่ใช่เรื่องน่าสนุกสำหรับผู้ใช้หน้าใหม่นัก

ที่มา - Ars Technica

หลังจากข่าว Vista เลื่อนไปออกต้นปีหน้า (เฉพาะรุ่นสำหรับผู้ใช้ตามบ้าน)

ต้องอธิบายก่อนว่าธุรกิจไมโครซอฟท์แบ่งเป็น 3 ฝ่ายใหญ่ๆ แยกขาดจากกัน ในแต่ละฝ่ายก็จะมีหน่วยงานด้านกฎหมาย การเงิน บุคคล ของตัวเอง

Avalon หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ Windows Presentation Foundation (WPF) เป็นเทคโนโลยีสำคัญอย่างหนึ่งของ Vista ที่ทำให้เราได้ใช้เดสก์ท็อปใสๆ ตามที่เห็นกันใน screenshot (ส่วน Aero และ Aero Glass เป็นชื่อของธีมครับ อย่าสับสนกันนะ)

เทคโนโลยีสำคัญใต้ WPF ก็คือภาษา XAML ของไมโครซอฟท์เอง (มีพื้นมาจาก XML แนวคิดเหมือนกับ XUL ของ Mozilla) และ JavaScript ในเมื่อ Mozilla ยังรันข้ามแพลตฟอร์มได้ ทำไม WPF จะทำมั่งไม่ได้

การต่อสู่ระหว่าง ODF และ OpenXML ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ ล่าสุดไมโครซอฟท์ออกหมัดใหม่ด้วยการตั้งกลุ่มนักพัฒนา OpenXML ที่เปิดให้บริษัทต่างๆ เข้าร่วมได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งในการเปิดตัวนี้ บริษัทใหญ่ๆ ที่เราเห็นเป็นสมาชิกกันนอกจากไมโครซอฟท์ ก็คงเป็นแอปเปิลกับโตชิบา

ความพยายามที่จะให้ OpenXML กลายเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับ โดยเฉพาะจากภาครัฐซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ แต่ไม่ว่าผลของการต่อสู้นี้เป็นอย่างไร ก็คงต้องบอกว่ามันให้ผลดีโดยรวมขึ้นมาก เพราะในวันนี้ไมโครซอฟท์ต้องยอมเปิดฟอร์แมตไฟล์ของตนเองให้กับสาธารณะ ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปแทบไม่ได้เลยในสมัยก่อน

งาน MIX'06 ที่คาดว่าจะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ ของไมโครซอฟท์กัน วันนี้ก็ไม่ผิดหวังด้วยการเปิดตัวเฟรมเวิร์คอย่าง Atlas ที่เป็นเฟรมเวิร์ค AJAX ที่น่าจับตามองทีเดียว ผู้ใช้เทคโนโลยี Atlas นี้ที่หลายๆ คนน่าจะรู้จักกันคือ PageFlake ที่ใช้เพียงตัวพรีวิวแรกของ Atlas

แต่ผมใช้ Google Personal อ่ะ...

ที่มา - eWeek

งาน MIX'06 ซึ่งเป็นงาน Web 2.0 ของไมโครซอฟท์ ที่จะจัดอาทิตย์หน้าในลาสเวกัส มีเรื่องน่าสนใจเป็นข่าวหลายอย่าง

อย่างแรกคือ IE7 เวอร์ชัน layout-complete ซึ่งแปลว่าการแสดงผลเว็บเพจจะไม่เปลี่ยนแปลงอีกแล้ว และเว็บดีไซเนอร์ทั้งหลาย สามารถใช้ build นี้เป็นตัวอ้างอิงทำเว็บรอ IE7 ตัวจริงที่จะออกปลายปีได้เลย

อย่างที่สองคือ งานสัมนาในวันที่ 20 มีนาคม จะมีเรื่องแผนของ IE ในอนาคตถัดจาก IE7 ด้วย ส่วนอย่างสุดท้าย Expression Web Designer ลูกของ FrontPage ก็เตรียมเปิดตัวในงานนี้เช่นกัน

ข่าวบอกว่า วิศวกรของซัมซุงซึ่งกำลังรอทดสอบเครื่องต้นแบบกับ official OS จากทางไมโครซอฟท์ ได้ทำการติดตั้งลินุกซ์ลงไป (ไม่มีการระบุชื่อดิสโทร) พบว่าสามารถโหลด GNOME ขึ้นมาได้อย่างไม่มีปัญหาใดๆ

หน้าตาดูแล้วผมคิดว่า KDE ซะอีก งานนี้จะเป็นการตบหน้าไมโครซอฟท์หรือป่าวหว่า....

อีกข่าวในหน้าเดียวกัน

ถ้าสนใจพัฒนาโปรแกรมขายบนเครื่อง Ultra Mobile PC ที่เพิ่งเปิดตัวไป ลองอ่านรายละเอียดของชุดพัฒนาโปรแกรม และดาวน์โหลดไปลองเล่นได้ครับ (ต้องเป็นสมาชิก MSDN ด้วยมั้ง)

ผมมอง UMPC เหมือนกับตลาดของ PocketPC ที่โปรแกรมคนไทยขายได้ และมีโอกาสโตสูง อย่างน้อยๆ UMPC ใช้คีย์บอร์ดแบบ onscreen (ดูรูปในลิงก์) ซึ่งก็ต้องมีคนทำให้เป็นภาษาไทยอยู่แล้ว (รวมไปถึงระบบลายมือภาษาไทยด้วย) ขึ้นกับว่าใครเป็นเจ้าแรกเท่านั้นเอง

ถ้าทำสำเร็จ เรายินดีเป็นสื่อกลางประชาสัมพันธ์ให้ครับ เชื่อว่ากลุ่มผู้อ่านของเรา คงมีคนไปซื้อมาบ้างแหละ

หลังจากมี Blognone เอาวีดีโอสุดฮา แสดงตัวอย่างว่าถ้าไมโครซอฟท์ออกแบบกล่องไอพ็อด จะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร วันนี้ iPod Observer ก็รายงานว่าพบผู้ทำวีดีโอดังกล่าวแล้ว

ก่อนอ่านต่อ ลองเดาซิว่าใคร...

เขาคือฝ่ายการตลาดของไมโครซอฟท์เอง ที่ทำวีดีโอขึ้นมาเพื่อใช้ศึกษาความผิดพลาดของการออกแบบบรรจุภัณฑ์ของไมโครซอฟท์

วีดีโอดังกล่าวไม่ได้ถูกปล่อยออกมาจากไมโครซอฟท์ตรงๆ แต่เนื่องจากมันฮามาก เลยคาดเดาได้ว่ามันจะถูกส่งต่อไปยังเพื่อนฝูง และคนใกล้ชิดจนแพร่หลายในอินเทอร์เน็ตในที่สุด

หลังการประกาศตั้งค่าหัว ผู้ที่สามารถทำให้ WinXP ไปทำงานบนเครื่องแมคได้อย่างถูกต้อง จนตอนนี้ยอดเงินรางวัลสูงกว่า 12,000 ดอลลาร์ไปแล้ว ตอนนี้ก็มีผู้ใช้ของเว็บ onmac.net ชื่อ narf2006 ออกมาประกาศว่าเขาได้ทำให้ WinXP ทำงานบนเครื่องอินเทลแมคได้จริงแล้ว โดยทิ้งหลักฐานยืนยันเอาไว้เป็นภาพถ่ายบนเว็บ Flickr

หลังจากเปิดตัวชุดโปรแกรมกราฟิก Expression มาชนกับโปรแกรมค่าย Adobe/Macromedia ตรงๆ ทางไมโครซอฟท์ก็พบปัญหาจนต้องพักการพัฒนา Expression Graphics Designer (เดิมรู้จักในนาม Acrylic) ซะแล้ว

เหตุผลก็คือไมโครซอฟท์ต้องการทุ่มกำลังลงไปที่ Vista และจะกลับมาพัฒนาต่อเมื่อ Vista วางตลาด สำหรับโปรแกรมอีกสองตัวในชุดคือ Interactive Designer (Sparkle) และ Web Designer (Quartz - ร่างใหม่ของ Frontpage) จะยังดำเนินต่อไปตามปกติ

ใครที่ซื้ออินเทลแมคโดยแอบหวังว่าจะเอาวินโดวส์มาใช้ในรุ่นวิสต้า วันนี้ไมโครซอฟท์มีการเปิดเผยออกมาแล้วว่าในวิสต้าจะไม่มีการรองรับ EFI ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ไม่สามารถบูตวินโดว์บนอินเทลแมคได้จนวันนี้

ไมโครซอฟท์เคยระุบุว่าวินโดวส์ วิสต้าจะรองรับ EFI แต่การประกาศวันนี้เป็นการระบุว่าวินโดวส์วิสต้าจะไม่รองรับ EFI จนกว่า Longhorn Server จะวางตลาด ซึ่งก็ไม่แน่ว่าจะรองรับในวิสต้าทุกตัว หรือจะรองรับเพียงเฉพาะ Longhorn Server เท่านั้น

อย่างนี้คงต้องเป็นลูกค้าเอเซอร์ไปอีกนานแฮะ...

ในงาน CeBIT อีกเช่นกัน ไมโครซอฟท์ได้โชว์หน้าตาแบบปรัับปรุงใหม่ของ Office 2007 สามารถดูรูปได้ที่เว็บของไมโครซอฟท์เอง หรือบล็อกของ Jensen Harris ทีมดีไซน์ ที่อธิบายว่ามีอะไรเปลี่ยนบ้าง

สิ่งแรกที่เปลี่ยนคือมีปุ่ม Office มาอยู่ที่มุมซ้ายบน ซึ่งดูจาก screenshot แล้วมันคือเมนู File ที่แปลงร่างมาให้เหมือนกับปุ่ม Start ของวินโดวส์ มีปุ่ม New, Open, Save, Save as อย่างที่คุ้นเคย

ที่งาน CeBit ประเทศเยอรมนี ไมโครซอฟท์ได้เปิดตัว Ultra-Mobile PC ซึ่งเป็นชื่ออย่างเป็นทางการของโครงการ Origami ที่โหมประชาสัมพันธ์มาตลอดในช่วงนี้

ผู้ผลิตเจ้าแรกคือซัมซุง ออกวางจำหน่ายเดือนเมษา แล้วของ Asus จะตามมาเดือนมิถุนา

สเปกขั้นพื้นฐานในเว็บของไมโครซอฟท์ คือ จอ 7 นิ้ว ความละเอียดอย่างน้อย 800x480 น้ำหนัก 2 ปอนด์ มี Wi-Fi ในตัว และใช้ Windows XP Tablet PC Edition 2005 ดูจากสเปกกับภาพที่ออกมาแล้ว ตลาดน่าจะอยู่กึ่งๆ ระหว่าง PocketPC กับ Tablet เดิม

ถ้าวันนี้ว่างลองหาเวลาซักแป๊บ นั่งดู screencast ของ Ray Ozzie (คนสร้าง Lotus Notes ปัจจุบันอยู่ที่ไมโครซอฟท์) เค้าโชว์ Cut/Copy/Paste ในยุคหน้า

ชื่ออย่างเป็นทางการเรียกว่า Windows Live Clipboard มันมี 3 โหมด

นาย Andreas Pleschek open source and Linux technical sales ที่ดูแลยุโรปตะวันออก จากไอบีเอ็มประเทศเยอรมันนี ประกาศในงาน LinuxForum 2006 ครับ

เค้าบอกว่า
"ไอบีเอ็มจะยกเลิกสัญญากับไมโครซอฟท์สำหรับเครื่อง desktop ของพนักงานไอบีเอ็มเอง ในเดือนตุลาคมปีนี้ซึ่งหมายความว่า ไอบีเอ็มจะไม่เปลี่ยนเป็น Vista สำหรับเครื่องตั้งโต๊ะของตนเอง ตั้งแต่เดือนกรกฏาคมเป็นต้นไป(version อื่นๆยังใช้ต่อไปนะ) และพนักงานไอบีเอ็มจะเปลี่ยนไปใช้ IBM Workplace ซึ่งเป็น Red Hat-based แทน"

มีคำถามตามมาว่าเฉพาะไอบีเอ็มเยอรมันนีหรือว่าทั่วโลก

หลังจากขึ้นแท่นบริษัทด้านเทคโนโลยีมานาน ไมโครซอฟท์ก็ได้รับสิทธิบัตรใบที่ห้าพันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยสิทธิบัตรใบที่ห้าพันนี้เป็นเรื่องของเทคนิคการรับชมที่ใช้ในเครื่อง XBox 360

สิบปีก่อนไมโครซอฟทต์ยื่นเรื่องขอสิทธิบัตรเพียงปีละสองสามร้อยรายการเท่านั้น แต่ในทุกวันนี้ไมโครซอฟท์ขอสิทธิบัตรปีละกว่า 3,000 รายการ ซึ่งทำให้ไมโครซอฟท์เป็นหนึ่งในห้าบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐไปแล้ว

ที่มา - C|Net

เนื่องจากใน Vista นั้นจะเปิดออพชันการเข้ารหัสไฟล์ในเครื่องมาให้อัตโนมัติ (ชื่อเทคโนโลยีคือ BitLocker Drive Encryption) ทำให้เข้าถึงข้อมูลได้ยากขึ้นถ้าเครื่องโดนแฮปไป ซึ่งก็เป็นผลดีสำหรับลูกค้า ในอีกกรณีหนึ่งคือป้องกันการรันโปรแกรมหรือฟังเพลงที่ไม่ได้รับอนุญาต ตามแนวคิด DRM ซึ่งใช้ร่วมกับชิป Trusted Platform Module ที่อยู่ในฮาร์ดแวร์มาซักพักแล้ว

ช่วงหลังนี้ข่าวของ Vista เริ่มเยอะ ก็จะพยายามคัดอันที่ไม่ซ้ำของเก่ามานะครับ

หลังออก Vista CTP ประจำเดือนกุมภาพันธ์ ที่ ActiveWin มีรีวิวตัว CTP ตัวนี้ (Build 5308) ซึ่งถือเป็นตัวที่ฟีเจอร์ครบแล้ว (ต่อไปจะเป็นการแก้บั๊กอย่างเดียว)

การติดตั้งยังใช้เวลานานพอสมควร 40-50 นาที และต้องบูตเครื่องใหม่หลายครั้ง เนื้อที่บนดิสก์ที่หลายคนอยากรู้ สรุปว่าใช้ประมาณ 8 กิกะไบต์

ไม่รู้จะจัดเข้าหมวดไหน เอาว่าลองเข้ามาดูเองแล้วกัน

ที่มา - ArsTechnica

ตอนนี้ไมโครซอฟท์ยืนยันแล้วครับว่าจะมีวินโดวส์วิสตา ทั้งหมด 6 เวอร์ชัน จริงๆ ทั้ง 6 เวอร์ชันนี้จะแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้ 2 เวอร์ชันสำหรับผู้ใช้ธุรกิจ 3 เวอร์ชันสำหรับผู้ใช้ทั่วไป และ 1 เวอร์ชันสำหรับผู้ใช้ระดับสูง

โดยทั้ง 6 เวอร์ชัน ประกอบด้วย