มีผู้ใช้จำนวนหนึ่งรายงานว่า ไอแพดมีปัญหาด้านความร้อน สัญญาณ Wi-Fi อ่อนหรือขาดหายไปเป็นบางช่วง รวมถึงไม่สามารถจำการตั้งค่าเน็ตเวิร์คและรหัสผ่านได้ - Engadget
iSuppli ก่อนหน้านี้ได้รายงานว่าต้นทุนของแอปเปิลในการผลิต iPad นั้นน่าจะตกอยู่ที่ประมาณ 219 ดอลลาร์ต่อเครื่องสำหรับรุ่นที่ต่ำที่สุด แต่หลังการได้ดูส่วนประกอบของเครื่อง iPad แล้วนั้นพบว่าต้นทุนนั้นสูงกว่าที่คาดไว้ในตอนแรก โดยตอนนี้นั้นคาดว่าต้นทุนของ iPad รุ่นต่ำสุดตกอยู่ที่ 260 ดอลลาร์ต่อเครื่อง
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว iSuppli ยังได้ทำการคาดเดาไว้อีกว่า iPad น่าจะขายได้ทั่วโลกประมาณ 7.1 ล้านเครื่องภายในปีนี้ และเพิ่มขึ้นมาเป็น 14.4 ล้านเครื่องเมื่อสิ้นปี 2011 และ 20.1 ล้านเครื่องสิ้นปี 2012 โดยตัวเลขนี้นั้นน่าจะเป็นจริง (ตามที่ iSuppli เชื่อ) หากแอปเปิลทำการเพิ่มความสามารถให้กับ iPad และหั่นราคาลงตามเวลา และจำนวน App ที่น่าใช้เพิ่มมากขึ้น
หมายเหตุ mk: ประสบการณ์การทดลองจับ iPad ตัวเป็นๆ เป็นเวลาครึ่งวัน โดยคุณ @sugree สรุปสั้นๆ เป็นหัวข้อ
ต้นฉบับจาก - sugree.com
เพื่อนฝากซื้อ iPad จาก @L77 โดยมีค่าจ้างคือได้แตะมันครึ่งวัน ก็โอเค คิดซะว่าลองอะไรๆ ที่มันเป็นของ Apple บ้าง อยากดูรูปไปหาที่ tweetphoto
กระแส iPad กำลังมาแรง นอกจากจะสังเกตได้จาก Blognone ที่มีการจัด section "iPad Special" ขึ้นเป็นพิเศษแล้ว จำนวนรายการสินค้า iPad ใน eBay ก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
iPad เพิ่งเริ่มส่งมอบเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาสำหรับลูกค้าในอเมริกา ส่วนลูกค้านอกอเมริกาต้องรอไปอีก 2 สัปดาห์ครึ่ง ทางเลือกสำหรับผู้ที่อยู่นอกอเมริกาที่ต้องการ iPad อย่างรวดเร็วก็คงไม่พ้น eBay เช่นเคย
ข่าวที่น่าสนใจวันนี้ รายการ iPad ที่ถูกตั้งไว้ 5,000 ดอลลาร์ ใน eBay มีผู้ซื้อไปแล้ว!
Mobclix เครือข่ายโฆษณาสำหรับโปรแกรมในอุปกรณ์พกพา ได้เปิดเผยยอดโปรแกรมของ iPad ใน App Store ว่ามีประมาณ 3,122 ตัว (ตัวเลขเมื่อประมาณสองวันก่อน)
ถ้าแบ่งตามประเภท จะได้ว่า 80% ของโปรแกรมทั้งหมดเป็นโปรแกรมแบบเสียเงิน มีเพียง 20% เท่านั้นที่แจกฟรี ราคาขายเฉลี่ยของโปรแกรมอยู่ที่ 4.99 ดอลลาร์ ถ้าต้องการซื้อโปรแกรมทั้งหมดใน App Store จะต้องจ่ายเงินรวม 12,572.78 ดอลลาร์
สัดส่วนของโปรแกรมบน iPhone ก็ไม่ต่างกันมากนัก ประมาณ 75% เป็นโปรแกรมแบบเสียเงิน
ที่มา - TechCrunch
บริษัท Scottevest ผู้ผลิตเสื้อผ้าที่สามารถใส่ gadget ได้หลากหลายประเภท ได้ออกมาเปิดตัวเสื้อแจ็คเก็ตรุ่นใหม่ Travel Vest for Men ซึ่งรองรับการใส่ไอแพด, Kindle รวมถึงของอื่นๆ (ดูภาพท้ายข่าว) ได้ในตัว
นอกจากจะใส่ gadget ต่างๆ ได้แล้ว เนื้อผ้ายังทำจากเทฟลอน กันน้ำและคราบสิ่งสกปรกได้ รวมถึงรองรับการทำ PAN (Personal Area Network) ในตัว เนื่องจากในเสื้อมีท่อให้ต่อสายเชื่อมอุปกรณ์ต่างๆ ที่ยังคงใส่อยู่ในเสื้อได้!
สนนราคาอยู่ที่ 100 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,300 บาท) สามารถสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ได้แล้ว ยกเว้นขนาด XXXL เท่านั้น
Engadget ได้เปิดเผยข้อมูล HP Slate จากไฟล์นำเสนอที่ได้รับจากพนักงานของเอชพี มีรายละเอียดดังนี้
Boy Genius Report รายงานเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าเฟิร์มแวร์ iPhone OS เวอร์ชั่น 3.2 ที่มาพร้อมกับ iPad นั้นมีการอ้างอิงถึงอุปกรณ์ที่จะใช้ iPhone OS ด้วยกันถึงสี่อย่าง โดยจากรายชื่อแล้วที่เห็น ๆ กันชัด ๆ มีไอโฟนรุ่นใหม่, ไอพ็อดทัชรุ่นใหม่และ iPad ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจหากดูตามวันเวลาที่แอปเปิลใช้ประกาศสินค้าชุดใหม่ของตระกูลนี้
หากมาดูรายละเอียดปลีกย่อยของไอโฟนพบว่ามีไอโฟนรุ่นใหม่สามรุ่นด้วยกัน คือ iPhone3,1, iPhone3,2 และ iPhone3,3 โดย iPhone 3GS รุ่นล่าสุดนั้นมีโค้ดคือ iPhone2,1 โดยจากทั้งหมดนี้พบมีการอ้างอิงถึง iPhone3,1 ตั้งแต่ในช่วงเดือนมีนาคมปี 2009 หรือหนึ่งปีผ่านมาแล้วนี่เอง
สำหรับตระกูลไอพ็อดทัชนั้น รุ่นใหม่จะใช้โค้ด iPod3,1 ซึ่งไม่มีอะไรน่าสนใจมาก
จากรายงานที่แล้วที่นักการตลาดคาดว่าแอปเปิลน่าจะขาย iPad ได้มากถึง 700,000 เครื่อง มาคราวนี้ตัวเลขจริงจากแอปเปิลนั้นรายงานว่าแอปเปิลสามารถขาย iPad ได้ในวันแรกเพียงแค่ 300,000 เครื่องเท่านั้น โดยตัวเลขนี้รวมยอดของผู้ที่ทำการสั่งจองล่วงหน้าที่ได้รับเครื่องถึงที่บ้านแล้ว
สรุป Munster คาดการณ์ไว้ถูกแล้วในตอนแรก แต่พอออกมาเปลี่ยนตัวเลขใหม่ก็ผิดไปเลย
ที่มา - MacRumors
คนที่ใช้นามว่า MuscleNerd ได้โชว์วีดีโอคลิป (ดูได้ท้ายข่าว) ว่าเขาสามารถเแฮกเข้าถึง root ของ iPad ได้แล้ว โดยการแฮกนี้เป็นส่วนหนึ่งของ jailbreak ชื่อ Spirit ที่ใช้บั๊กใน iPhone OS 3.1.3 และ iPad OS 3.2
อีกไม่นานเกินรอเราคงสามารถลงโปรแกรมและ widget ได้ตามใจ ไม่ต้องผ่าน App Store อีก ส่วนแอปเปิลก็คงต้องหาทางแก้บั๊กอุดช่องโหว่กันต่อไป
หลังจากที่หลาย ๆ คนได้รับ iPad มาลองเล่นอย่างจุใจกันแล้ว จากการทดสอบความเร็วของเครื่องพบว่าโปรแกรมต่าง ๆ บน iPad สามารถรันที่ความเร็วเหนือกว่า iPhone 3GS ถึง 2 เท่า โดยทั้งหมดนี้มาจาก CPU A4 ของแอปเปิลโดยแท้ เนื่องจากหากเปรียบเทียบสเปคของทั้งสองเครื่องแล้ว จะพบว่า iPad และ iPhone 3GS ใช้แรมขนาด 256MB เท่ากัน และใช้ PowerVR SGX 535 GPU ตัวเดียวกัน
จากรายงานของ IO Registry Tree dumps นั้นชิป Apple A4 นี้น่าจะมีพื้นฐานมาจาก Cortex A8 คอร์เดียวมากกว่าที่จะมาจาก Cortex A9 ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ การที่ Apple A4 ทำงานที่ 1GHz ทำให้มันมีความใกล้เคียงกับ Hummingbird ARM Processor จากซัมซุงมาก และเป็นไปได้ว่าบริษัท Intrinsity ที่แอปเปิลเพิ่งได้ทำการซื้อไปเป็นผู้อยู่เบื้องหลังชิปตัวนี้
หลังเปิดตัว iPad อย่างเป็นทางการเรียบร้อย เว็บไซต์หลายแห่งก็เริ่มออกคู่มือ, คำแนะนำ, รายชื่อโปรแกรมสำหรับ iPad เพื่อให้เจ้าของเครื่องได้เล่นสนุกกัน คราวนี้เป็นรายชื่อโปรแกรมใน App Store ที่ทาง TechCrunch แนะนำว่าน่าสนใจ
ผมคัดมาเฉพาะรายชื่อ ดูหน้าตาของโปรแกรมและลิงก์ได้จากที่มาครับ
มันเป็นสิ่งที่ย่อมจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แถมมาเร็วมาก
PinkVisualPad เป็นเว็บสำหรับผู้ใหญ่เว็บแรก ที่ออกแบบมาให้เหมาะกับหน้าจอและระบบสัมผัสของ iPad (เค้าโฆษณาว่า "Optimized iPad Porn") แน่นอนว่าค่าเข้าชมไม่ฟรี ต้องจ่ายคิดราคาวันละ 1 ดอลลาร์
คำเตือน: เว็บไซต์มีภาพสำหรับผู้ใหญ่ แต่ถ้าพร้อมแล้วก็เข้าไปดูกันเลยครับ PinkVisualPad
ที่มา - Gizmodo
หลังจาก แอปเปิลให้ผ่าน Kindle App for iPad ทำให้ประเด็นที่น่าสนใจที่สุดของ iPad ในช่วงวางขายวันแรก ไปอยู่ที่ศึกโปรแกรมอ่านอีบุ๊ก ระหว่าง iBooks ของแอปเปิล กับ Kindle for iPad ทันที
เว็บไซต์ ReadWriteWeb ได้เปรียบเทียบโปรแกรมทั้งสองตัว รวมถึงร้านขายหนังสือจากทั้งคู่ด้วย
รายงานจาก Gene Munster แห่ง Piper Jaffray บริษัทที่ปรึกษาและค้นคว้าข้อมูลทางการตลาดคาดว่าแอปเปิลจะสามารถขาย iPad ในวันแรกได้ถึง 600,000 - 700,000 เครื่อง มากกว่าตอนแรกที่เคยคาดไว้ว่าจะขายได้ประมาณ 200,000 - 300,000 เครื่อง โดยตัวเลขนี้รวมจำนวน Pre-order ทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคมแล้ว
ไม่ว่าตัวเลขนี้จะมาจากไหนก็ตาม แต่จากการคาดการณ์ง่าย ๆ จากจำนวนตัวเลขคนที่เข้าไปต่อแถวที่หน้า Apple Store สาขา Fifth Avenue ในนิวยอร์คในปีนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 730 คน มากกว่าตอนที่เปิดตัว iPhone 3GS ที่มีเพียงแค่ 350 คน หรือตอนเปิดตัว iPhone 3G ที่มี 540 คนเท่านั้น
ข่าวสั้นครับ เมื่อวานนี้อเมซอนได้ปล่อย Kindle เวอรชั่น 2.0 โปรแกรมอ่านอีบุ๊กสำหรับไอโฟน ไอพอดทัช และล่าสุดกับไอแพดแล้ว โดยฟีเจอร์เฉพาะไอแพดก็มีทั้งแอนิเมชั่นขณะพลิกหน้าหนังสือ รวมถึงรองรับการ scroll และการซูม และสามารถปรับความสว่างหน้าจอได้ด้วย
ใครสนใจก็เชิญดาวน์โหลดได้ฟรีผ่าน App Store
รายงานจาก Bloomberg เมื่อสองวันที่ผ่านมาได้มีข้อมูลเกี่ยวกับไมโครซอฟท์และ iPad โดยนาย Stephen Elop หนึ่งในผู้บริหารระดับสูงของไมโครซอฟท์ได้ออกมากล่าวว่า ณ เวลานี้ไมโครซอฟท์ยังไม่มีแผนที่จะพัฒนา Office Suite ให้กับ iPad แต่อย่างใด
ก่อนหน้านี้เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมามีรายงานออกมาว่าไมโครซอฟท์สนใจที่จะพัฒนา Office บน iPad แต่นั่นเป็นเพียงแค่ความเป็นไปได้เท่านั้น ถ้ามาดูเรื่องงานจริง ๆ ยังไม่ได้มีการเริ่มทำงานแต่อย่างใด และถ้ามีจริงก็คงจะอีกนานอย่างแน่นอน
และถ้าหากจะมี Office สำหรับ iPad จริงละก็คงจะเป็นเวอร์ชั่นที่ถูกพัฒนาโดยหน่วย Consumer Business ที่ทุกวันนี้ทำ Office สำหรับคอมพิวเตอร์แมคอินทอช
นอกจากรีวิว iPad ของ Wall Street Journal แอปเปิลยังได้แจก iPad ให้กับสื่อรายใหญ่อีกหลายเจ้า เพื่อไม่ให้เปลืองเนื้อที่ ก็เอา "บทสรุป" ที่รวบรวมโดยนิตยสาร Fast Company มาให้ดูดีกว่านะครับ
ณ เวลานี้คงไม่มีกระแสไหน (ในต่างประเทศ) แรงเท่าไอแพดกันอีกแล้ว ก็เลยมีคนสร้างโปรแกรมเสริมออกมาขายกันมากมาย แต่มีโปรแกรมหนึ่งมีชื่อว่า "iDisplay for iPad/iPhone" ซึ่งดูน่าสนใจทีเดียว เนื่องจากมันช่วยให้สามารถขยายการแสดงผลจากแมคเดสก์ท็อปไปยังไอแพด/ไอโฟนได้โดยผ่านการเชื่อมต่อ WiFi (นึกภาพไม่ออกลองดูภาพท้ายข่าว)
ราคาเปิดตัวบน iPhone App Store เพียง 4.99 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 160 บาท) ส่วนโปรแกรมสำหรับติดตั้งบนแมคเดสก์ท็อปนั้นดาวน์โหลดฟรีได้จาก Shape Services
ทันเวลาพอดีก่อนที่ iPad จะเริ่มถึงมือลูกค้าทั่วไปจะได้ iPad มาเล่นกับมือจริง ๆ โปรแกรม Amazon Kindle นั้นได้ผ่านการตรวจสอบของแอปเปิลและได้วางขายบน App Store สำหรับ iPad แล้ว
โดยคราวนี้ Amazon Kindle ได้กลายเป็น "Universal App" คือเป็น App ตัวเดียวที่สามารถทำงานได้บนอุปกรณ์ที่ใช้ iPhone OS ทั้งหมด ตั้งแต่ iPad, iPhone และ iPod touch
iPad จะเริ่มวางขายในร้าน Apple Store ทุกสาขาในสหรัฐ ณ เวลา 9 โมงเช้าของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐ
ที่มา - MacRumors
อ่านบทรีวิวในทางบวก ไปแล้ว มาดูด้านตรงข้ามกันบ้าง
Cory Doctorow นักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ชื่อดัง และบล็อกเกอร์ของ Boing Boing บล็อกชื่อดัง ได้เขียนบทความชื่อ Why I won't buy an iPad (and think you shouldn't, either) บอกว่า iPad ไม่ใช่อุปกรณ์แห่งอนาคต เพราะความ "ปิด" ของมัน
เขายกตัวอย่างโปรแกรมหนังสือการ์ตูน Marvel บน iPad ซึ่งไม่เอื้อให้เกิดการแบ่งปันการ์ตูนกันระหว่างเด็กๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกของการ์ตูนกระดาษในสหรัฐ ที่เด็กๆ สามารถแลกเปลี่ยน หรือซื้อขายการ์ตูนเก่าในราคาถูกได้
iPad จะวางขายที่สหรัฐในวันพรุ่งนี้ (3 เมษายน) ทางบล็อกเกอร์และคอลัมนิสต์ชื่อดังต่างทยอยกันเขียนรีวิว iPad กันบ้างแล้ว
เจ้าแรกที่ออกมาคือ Walt Mossberg แห่ง Wall Street Journal ที่มักจะได้ผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลมาก่อนใครเพื่อน เผอิญผมอ่านช้าไปนิดเลยเพิ่งมีโอกาสได้เขียนถึงครับ
คุณลุง Mossberg บอกว่า อย่าไปมองว่า iPad เป็นอุปกรณ์ที่ต้องพกเพิ่มเติมจากโน้ตบุ๊กหรือเน็ตบุ๊ก แต่ต้องมองว่ามันจะมาแทนเน็ตบุ๊ก ซึ่งมันก็ทำได้ดีทีเดียว
ปัญหาไม่มี Flash บน iPad ยังก่อให้เกิดความขัดแย้งอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าแอปเปิลจะประกาศว่า "ไม่ง้อ Flash" แต่ในความเป็นจริงมันคงไม่ง่ายขนาดนั้น ล่าสุดแอปเปิลได้ทำหน้า iPad Ready ซึ่งรวมเว็บไซต์ชื่อดังจำนวนหนึ่ง ที่สามารถแสดงผลได้สวยงามบน iPad แล้ว
เว็บไซต์ที่อยู่ในหน้า iPad Ready ตอนนี้ก็อย่างเช่น CNN, Reuters, NYTimes, Vimeo ฯลฯ ซึ่งส่วนมากได้อยู่ในรายชื่อเพราะมีวิดีโอเวอร์ชัน HTML5 ให้เลือกนอกเหนือจาก Flash นอกจากนี้ แอปเปิลยังมีฟอร์มรับแจ้งเว็บที่ดูสวยบน iPad ซึ่งอาจจะได้ขึ้นไปโชว์ในหน้านี้เช่นกัน
แม้ว่าในช่วงสองสามวันนี้คนที่สั่งซื้อ iPad ในสหรัฐจะเริ่มได้รับเครื่อง iPad ไปใช้กันแล้วก็ตาม แต่ดูเหมือนข่าวลือจากแอปเปิลมันไม่มีวันจบสิ้น เพราะลือทีไรก็เป็นจริงซะครึ่งหนึ่งทุกที
เมื่อเดือนที่แล้วมีข่าวออกมาว่ามีคนพบข้อความเกี่ยวกับ Multitasking ใน iPhone SDK 3.2 beta ล่าสุด Apple Insider ได้ออกมาคอนเฟิร์มแล้วว่า iPhone OS 4.0 จะมี Multitasking มาแน่นอน โดยการสลับเปลี่ยนระหว่าง Apps นั้นผู้ใช้จะต้องทำการ Double Click ปุ่ม Home หลังจากนั้นจะมีปุ่มไอคอนของ Apps ต่าง ๆ ที่รันอยู่ให้เลือก หรืออาจจะเป็นลักษณะ Exposé เหมือนบนเครื่องแมคก็ได้
มหาวิทยาลัย Seton Hill ในรัฐ Pennsylvania ประกาศแจก MacBook และ iPad ให้กับนักศึกษาปีหนึ่งของปีการศึกษา 2010 ทุกคน
โครงการของมหาวิทยาลัยนี้มีชื่อว่า Griffin Technology Advantage มีจุดประสงค์เพื่อให้นักศึกษาได้ใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุด และใช้เทคโนโลยีในการศึกษาร่วมกันเป็นหมู่คณะ นักศึกษาสามารถดาวน์โหลดตำราเรียนจาก iBooks Store และดาวน์โหลดเอกสารประกอบคอร์สได้ตลอดเวลา
เมื่อเรียนจบปีสอง มหาวิทยาลัยจะเปลี่ยนโน้ตบุ๊กเป็นรุ่นใหม่ให้อีกครั้ง ซึ่งเรียนจบเมื่อไร เอาเครื่องนี้กลับบ้านไปด้วยเลย