หลังจากเหตุระเบิดที่โรงงานเมืองเฉิงตูได้ไม่นาน ควันยังไม่ทันจางก็มีข่าวเกี่ยวกับผู้สืบทอด iPad รุ่นต่อไปออกมาอีกครั้ง โดยมีรายงานจากบริษัทหลักทรัพย์ CLSA (Credit Lyonnais Securities Asia) ซึ่งเป็นกลุ่มลงทุนแถวหน้าของเอเชีย ความว่า
"ในขณะที่ผู้ผลิตรายอื่นดูเหมือนจะยุ่งอยู่กับการทำให้ผลิตภัณฑ์ของตัวเองมีความสามารถเทียบชั้นกับ iPad 2 จากผลการตรวจสอบได้บ่งชี้ว่า Apple จะวางจำหน่าย iPad 3 ในช่วงวันหยุดยาวนี้ (ก่อนคริสต์มาส) โดยมีการอัพเกรดความละเอียดหน้าจอ และรองรับ LTE"
ในส่วนของ iPhone CLSA เชื่อว่าจะยังไม่มีรุ่นใหม่ออกมาภายในปีนี้
คงต้องไปถาม Samsung ดูว่า Apple แอบสั่งชิ้นส่วนแปลกๆเพิ่มขึ้นมาหรือเปล่า
JP Morgan รายงานว่าผู้ผลิต Tablet รายอื่นนอกจากแอปเปิล เริ่มลดจำนวนการผลิตสินค้าลงในเดือนมิถุนายนเทียบกับเดือนมีนาคมของปีนี้ เนื่องมาจากยอดขายที่ไม่ได้ดังเป้า โดยยอดการผลิต Tablet ลดลงโดยเฉลี่ย 10 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ iPad ยังคงกำลังการผลิตเท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
โดยผู้ผลิต Tablet ที่ลดจำนวนการผลิตลงมากที่สุดคือ Dell กับ Toshiba (20%) รองลงมาคือ Motorola (18%), Acer (16%), RIM (14%), Samsung (13%) และ HP (6%)
ที่มา - Apple Insider
หลังจากที่ศาลได้อนุญาตให้แอปเปิลดูสินค้าในอนาคตของซัมซุงที่ยังไม่เปิดตัวในกรณีที่แอปเปิลได้ยื่นฟ้องว่าซัมซุงทำการลอกเลียนแบบและละเมิดสิทธิบัตรของสินค้าตระกูล iOS ล่าสุด ซัมซุงได้ยื่นขอต่อศาลเพื่อขอดูสินค้าในอนาคตของแอปเปิล เช่น iPhone 4S หรือ iPhone 5, iPad 3 และกล่องบรรจุ
สำหรับสาเหตุของซัมซุง การได้เห็นสินค้าเหล่านี้ของแอปเปิลล่วงหน้าจะทำให้ซัมซุงสามารถที่จะเลี่ยงการฟ้องร้องด้วยการทำสินค้าที่หน้าตาไม่เหมือนกัน
ที่น่าตลกคือฝ่าย Manufacturing ของซัมซุงก็คงจะรู้ดีอยู่แล้วว่าแอปเปิลกำลังคิดจะผลิตอะไรออกมา เพราะว่าแอปเปิลเองก็สั่งซื้อชิ้นส่วนภายในของสินค้าตระกูล iOS จากซัมซุงมาเสมอ
สืบเนื่องจากข่าว Apple Store เตรียมการขนสินค้าเข้าไปในร้านเพื่อฉลองครบรอบ 10 ปีนั้น ล่าสุดทาง Apple Insider ได้ข้อมูลใหม่มาว่าอาจจะไม่มีสินค้าใหม่อะไรเปิดตัวเลย แต่เป็นการปรับปรุงระบบจัดการภายใน Apple Store ต่างหาก
ข้อมูลจากสาขาหนึ่งที่ได้มาคือมีการส่ง iPad มากกว่า 40 ตัวไปที่ร้านโดย iPad ทุกตัวถูกปิดไว้ด้วย Smart Cover และไม่ให้เปิดใช้งานจนกว่าจะมีคำสั่ง ซึ่งด้วยปริมาณที่มากขนาดนี้ทาง Apple Insider มองว่าน่าจะเป็นการเปลี่ยนมาใช้ iPad กับระบบจัดการภายในร้านที่เรียกว่า EasyPay มากกว่า
Dr. Jack Dongarra นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ผู้มีชื่อเสียงทางด้านการประมวลผลสมรรถนะสูง ได้เริ่มโครงการวิจัยเพื่อวัดสมรรถนะการประมวลผลของ iPad ด้วยโปรแกรม LINPACK แต่ข้อมูลล่าสุดของโครงการเผยว่า นักวิจัยยังวัดสรรถนะของโปรเซสเซอร์ได้เพียงแค่คอร์เดียวของ iPad 2 ที่มีอยู่จริง 2 คอร์ อย่างไรก็ตาม Dr. Dongarra กล่าวว่า หากโครงการนี้เสร็จสิ้น ค่าสมรรถนะโดยประมาณของ iPad 2 ที่ใช้โปรเซสเซอร์ 2 คอร์ น่าจะอยู่ระหว่าง 1.5 ถึง 1.65 กิกะฟลอป ซึ่งเร็วกว่า iPad รุ่นแรกประมาณ 10 เท่า
Umeng ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มสำหรับผู้พัฒนาอุปกรณ์พกพา ได้เปิดเผยรายงานทางสถิติของการใช้งานอุปกรณ์ iOS ในประเทศจีนจากข้อมูลในช่วงไตรมาสแรกของปี พบว่า
สิ้นสุดการรอคอยสำหรับผู้ที่รอ iPad 2 ในไทย โดยหลังจากมีการรายงานข้อมูลกันเต็ม Twitter ตลอดทั้งวันนี้ รวมถึงเว็บที่เผยแพร่ข้อมูลอย่างเป็นทางการก็รีบลบออกอย่างรวดเร็ว ในที่สุดข้อมูลก็เปิดออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว โดย iPad 2 จะเริ่มวางจำหน่ายในไทยวันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม 2554 ในร้าน iStudio และร้าน Power Buy โซน Apple Shop 13 สาขา
ราคาสำหรับ iPad 2 Wi-fi 16GB, 32GB และ 64GB เป็น 15,900 18,900 และ 21,900 ตามลำดับ ส่วน iPad 2 Wi-fi+3G ราคาเป็น 19,900 22,900 และ 25,900 ตามลำดับ
แอปเปิลได้ปล่อยโฆษณา iPad 2 ตัวใหม่ภายใต้ธีม "We Believe" โดยในโฆษณานี้ แอปเปิลได้เลือกที่จะอธิบาย iPad 2 ผ่านคำถาม "If you ask..."
If you ask a parent, they might call it intuitive. If you ask a musician, they might call it inspiring. To a doctor, it's groundbreaking. To a CEO, it's powerful. To a teacher, it's the future. If you ask a child, she might call it magic. And if you asked us, we'd say it's just getting started
กดเข้ามาดูตัวโฆษณาได้เลยครับ
ที่มา - MacRumors
มีใครยังจำแท็ปเล็ตในฝัน Courier จากไมโครซอฟท์ได้อยู่หรือไม่ แน่นอนมันคงยากที่จะลืม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหลาย ๆ คนได้เห็น UI ที่แปลกใหม่ในยุคก่อนที่คนจะได้ลิ้มลองกับ iPad ตัวเป็น ๆ แต่น่าเสียดายที่สุดท้ายไมโครซอฟท์ได้เลือกที่จะไม่สานต่อโปรเจคนี้
แต่อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะสองนักพัฒนาที่หลงใหลใน UI ของ Courier ได้ตัดสินใจที่จะสานต่อไอเดียนี้ และพร้อมจะนำฟังก์ชั่นต่าง ๆ ของ Courier มาลงบน iPad ภายใต้ชื่อ "Taposé" แต่ในตอนนี้ พวกเขากำลังต้องการการสนับสนุนทางด้านการเงินอยู่ เพื่อที่พวกเขาจะได้พัฒนา Taposé ได้เต็มเวลา
พวกเขายังสัญญาอีกว่าหากมีเงินสนับสนุนมากพอ พวกเขาจะทำ Taposé เวอร์ชั่น Android ออกมาอีกด้วย
หลังจากที่แอปเปิลได้ออกมาตอบคำถามเกี่ยวกับปัญหาการตรวจจับพิกัดของผู้ใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตแล้ว ตอนนี้ BGR ได้ออกมารายงานว่าแอปเปิลได้เตรียมอัพเดต iOS เวอร์ชั่น 4.3.3 เพื่อแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะแล้ว โดยจากรายงาน iOS 4.3.3 มีการปรับปรุงดังนี้:
วันนี้แอปเปิลได้ออกมาตอบคำถามเกี่ยวกับปัญหา iOS แอบเก็บพิกัดของผู้ใช้ โดยแอปเปิลได้บอกว่าแอปเปิลไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดความเป็นส่วนตัวผู้ใช้ แต่แอปเปิลต้องการสร้างฐานข้อมูล Crowd-sourcing ด้วยการเก็บข้อมูลพิกัดของ Wi-Fi Hotspot และเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือเพื่อการหาตำแหน่งของผู้ใช้ได้รวดเร็วที่สุดเมื่อผู้ใช้ต้องการ ข้อมูลพิกัดเหล่านี้จะถูกส่งกลับมาที่แอปเปิลเพื่อสร้างฐานข้อมูลและเพิ่มประสิทธิภาพในการระบุตำแหน่งโดยไม่ต้องใช้ GPS
แอปเปิลอ้างว่าการค้นหาตำแหน่งจาก GPS จริง ๆ นั้นสามารถใช้เวลานานเป็นนาที แต่การทำแบบนี้ทำให้อุปกรณ์ iOS สามารถหาตำแหน่งได้เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น
Bloomberg รายงานว่ามีผู้ฟ้องแอปเปิลกับศาลกลางสหรัฐ (Federal Court) ในข้อหาการละเมิดความเป็นส่วนตัว หลังจากที่พบว่าแอปเปิลทำการเก็บข้อมูลตำแหน่งของผู้ใช้ภายในอุปกรณ์ iOS โดยจดหมายฟ้องในครั้งนี้ถูกส่งให้กับศาลกลางในเมืองแทมป้า รัฐฟลอริด้า
โดยทนายของฝ่ายผู้ฟ้องได้ให้ข้อมูลกับ Bloomberg ว่าแอปเปิลไม่ควรจะทำอย่างนี้ เพราะขนาดเจ้าหน้าที่รัฐยังจำเป็นที่จะต้องมีหมายตรวจค้นจากศาลในการทำอะไรแบบนี้ ทำไมแอปเปิลไม่ต้องมีหมายค้นใด ๆ เลย
ตัวผู้ฟ้องเองต้องการให้ศาลสั่งให้แอปเปิลเลิกการเก็บข้อมูลเหล่านี้ทันที และอ้างว่าตนจะไม่ซื้อไอโฟนและไอแพ็ดอย่างแน่นอน หากรู้ว่ามีการเก็บข้อมูลในลักษณะนี้ ส่วนทางแอปเปิลเองยังไม่มีความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับการเข้าฟ้องในครั้งนี้แต่อย่างใด
เว็บ ThisIsMyNext พบว่าในจดหมายฟ้องซัมซุงของแอปเปิล มีข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลขยอดขายสินค้าของแอปเปิลที่ยังไม่เคยถูกเปิดเผยมาก่อนอยู่ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดขาย iPod touch ซึ่งก่อนหน้านี้แอปเปิลเลือกที่จะเผยแต่ยอดขาย iPod โดยรวมมากกว่าการรายงานเฉพาะรุ่น
จนถึงตอนนี้ แอปเปิลได้ขายไอโฟนไปแล้วกว่า 108 ล้านเครื่อง, iPod touch กว่า 60 ล้านเครื่องและไอแพ็ดกว่า 19 ล้านเครื่อง และหากรวมกับยอดขาย Apple TV แล้วแอปเปิลขายสินค้าที่มี iOS ไปแล้วรวมทั้งสิ้นเกือบ 200 ล้านเครื่อง
เราหลาย ๆ คนทราบดีว่าเครื่องอ่าน eBook อย่าง Kindle กำลังเป็นที่นิยมกันในกลุ่มคนรักการอ่าน อาจจะเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ผู้ใช้ eBook เหล่านี้ตัดสินใจที่จะไม่ซื้อหนังสือเป็นเล่ม ๆ มาอ่านอีกต่อไปแล้ว .. แต่สำหรับ ส.ส. จากรัฐ Illinois นาย Jesse Jackson Jr คนนี้ iPad เป็นต้นเหตุเพียงอย่างเดียวที่ทำให้ชาวอเมริกันที่ประกอบอาชีพเกี่ยวกับสิ่งพิมพ์นั้นต้องตกงาน โดยไม่ได้พูดถึง Kindle และยอดขายหลักล้านของ Kindle แต่อย่างใด
ถ้าหากหยิบยกคำพูดของ ส.ส. คนนี้มาตรง ๆ เขากล่าวว่าการที่ iPad เป็นที่ยอดนิยมนั้น ทำให้ยอดประชากรที่ตกงานในอเมริกานั้นสูงขึ้น ในขณะเดียวกัน iPad กลับไปสร้างอาชีพในประเทศจีน ซึ่งเป็นแหล่งผลิตของ iPad นั่นเอง
ไมโครซอฟท์ออกเวอร์ชันสำหรับไอโฟนมาตั้งแต่ปลายปี 2009 ตอนนี้ออกมาสำหรับไอแพดแล้วครับ
โดยหลักๆ เวอร์ชันนี้ได้ถูกออกแบบให้มีหน้าตาที่ใช้ง่าย เหมาะกับขนาดจอของไอแพด และเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ให้ง่ายที่สุดเช่น ข่าว ภาพยนตร์ แผนที่ เป็นต้น มีเพิ่มเติมหน้าแสดง "Trends" ไว้สำหรับดูว่าในแต่ละวันมีหัวข้อไหนที่ถูกค้นหามากที่สุด และยังเพิ่มฟีเจอร์ Voice Search ให้อีกด้วย
ดูหน้าตาได้จากภาพท้ายข่าวครับ
ที่มา: Bing Community
หน้าโฮมของ Bing ภาพพื้นหลังเปลี่ยนได้เองในแต่ละวัน
แอปเปิลออกอัพเดท iOS 4.3.2 แล้วซึ่งห่างจากอัพเดทก่อนหน้าไม่ถึงหนึ่งเดือน โดยมีรายการแก้ไขหลักคือปัญหาหน้าจอค้างขณะ Facetime และปัญหาการเชื่อมต่อ 3G สำหรับ iPad Wifi + 3G นอกจากนั้นก็เป็นรายการแก้ไขด้านความปลอดภัยอื่นๆ
ผู้ใช้งาน iPhone 4 (เฉพาะ GSM), iPhone 3GS, iPad ทั้ง 1 และ 2 และ iPod Touch 3rd กับ 4th Gen สามารถอัพเดทได้ผ่าน iTunes
ที่มา: MobileCrunch
ถ้าจะพูดถึงสินค้าไฮเทคที่มีอุปกรณ์เสริมมากที่สุด อันดับต้นๆ คงหนีไม่พ้นสินค้าของแอปเปิลอย่างแน่นอน และความพยายามที่จะให้ iPad แสดงผลออกมาเป็นสามมิติก็มีให้เห็นบ่อยครั้ง แต่ในครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อนๆ คือเป็นการแสดงผลออกมาเป็นสามมิติอย่างแท้จริง เราสามารถมองเห็นความลึกของภาพ ระยะหน้า กลาง หลัง ดีใช่ไหมล่ะ
สิ่งที่คุณต้องทำคือ ติดฟิล์มพิเศษบนจอ iPad ของคุณ และติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติมอีกนิดหน่อย เท่านี้ก็จะได้ iPad เวอร์ชันสามมิติสมใจแล้วครับ โดยผลงานชิ้นนี้เป็นของบริษัท NewSight Japan จากประเทศญี่ปุ่น
Gartner ประเมินตัวเลขส่วนแบ่งตลาดแท็บเล็ต นับจากปี 2010-2015 พบว่า iPad/iOS จะยังเป็นแชมป์ต่อไป แม้จะมีส่วนแบ่งตลาดลดลงเรื่อยๆ ทุกปีก็ตาม
ส่วนแบ่งตลาดในปี 2015 จะเป็นดังนี้
Gartner ให้ความเห็นว่า ecosystem ของ iPad จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้แอปเปิลครองแชมป์ไปได้อีกนาน ในขณะที่คู่แข่งรายอื่นมุ่งเน้นไปที่ฮาร์ดแวร์ แต่กลับละเลย ecosystem
Gartner ยังวิจารณ์แนวทางของ Android Honeycomb ว่าการเปิดซอร์สช้าจะช่วยลดปัญหา fragmentation จริง แต่ก็จะทำให้แท็บเล็ต Honeycomb มีราคาตกลงช้า ซึ่งส่งผลต่อส่วนแบ่งตลาด
AppleInsider พบสิทธิบัตรใหม่ของ Apple ที่เพิ่งยื่นขอจดชิ้นหนึ่งแสดงถึงโหมดใหม่ที่ผู้ใช้ iPad สามารถเลือกเป็นโหมด Electronic Paper Display และ Video Display ได้ซึ่งไม่มีโหมดนี้มาก่อนใน iPad
AppleInsider จึงคาดว่าจอสำหรับ iPad รุ่นต่อไปอาจเป็นจอ hybrid เหมือน Pixel Qi ที่สามารถเลือกโหมดขาวดำที่ประหยัดไฟและถนอมสายตา และอ่านกลางแจ้งชัดหรือจะใช้โหมดจอ LCD ก็เป็นได้งานนี้ได้เลิกปวดหัวว่าอยากอ่าน E-Book แบบสบายตาแต่จอ iPad มันไม่สบายตาสักที สนใจภาพเมนูกดที่ที่มาด้านล่างเลยครับ
ที่มา : AppleInsider
ปล.ได้เวลาปล่อย Kindle DX แล้วสินะ...
เราเห็นนิตยสารที่ทำขึ้นมาสำหรับ iPad โดยเฉพาะอย่าง The Daily กันไปแล้ว คราวนี้มาดูนิตยสารสำหรับเด็กกันบ้าง
Timbuktu เป็นนิตยสารสำหรับเด็กที่บอกว่าเป็น "รายแรก" บน iPad แนวทางของนิตยสารก็ใช้ความสามารถด้านอินเทอร์แอคทีฟของ iPad อย่างเต็มที่
ตัวเทคโนโลยีของนิตยสารเขียนขึ้นด้วย HTML5 เป็นหลัก โดยสำนักพิมพ์ของ Timbuktu มาจากประเทศอิตาลี (แต่นิตยสารเป็นภาษาอังกฤษนะครับ)
สำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าอเมริกาได้เปิดเผยสิทธิบัตรล่าสุดของแอปเปิล ซึ่งเป็นภาพของอุปกรณ์หน้าตาอย่าง iPhone แต่เพิ่มจอแสดงผลขนาดเล็กๆ ไว้รอบตัวเครื่อง โดยให้รายละเอียดว่าส่วนรอบๆที่เพิ่มเข้ามาเป็นส่วนแสดงผลแบบแผ่นเรืองแสงอิเล็กทรอนิกส์ที่คอยแนะนำผู้ใช้งานใน input ที่จำเป็น หรืออาจทำตัวเป็นส่วนรับ input เองเลย
ในรายละเอียดของสิทธิบัตรนี้บอกว่าแต่เดิมของอุปกรณ์จะมีแค่หน้าจอเดียว และทำหน้าที่เป็นส่วนแสดงผลและรับ input ในเวลาเดียวกัน บางครั้งส่วนที่คอยแนะนำผู้ใช้งานก็เข้ามากินพื้นที่ในหน้าจอมากเกินไป โดยเฉพาะถ้าเป็นอุปกรณ์ที่มีพื้นที่จำกัดอย่าง iPhone จึงแก้ปัญหาโดยขยายปุ่มออกไปรอบตัวเครื่อง
จากรายงานของ Digitimes แอปเปิลได้ขาย iPad 2 ไปแล้วประมาณ 2.4 ถึง 2.6 ล้านเครื่องในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้ และคาดว่าตัวเลขยอดขายต่อเดือนน่าจะสูงขึ้นเกือบเท่าตัวในช่วงไตรมาสที่สองของปี นั่นหมายความว่ายอดขาย iPad 2 ภายในไตรมาสที่สองน่าจะถึง 12 ล้านเครื่อง
นอกจากนี้ในรายงานเดียวกันยังได้อ้างว่า แอปเปิลไม่ได้รับผลกระทบจากโรงงานที่โดนซึนามิถล่มในประเทศญี่ปุ่นมาก และยังมีชิ้นส่วนที่ต้องใช้ในการประกอบ iPad 2 เพียงพอ
ก่อนหน้านี้แอปเปิลสามารถขาย iPad รุ่นแรกได้ 15 ล้านเครื่องภายในระยะเวลาเก้าเดือน ส่วนตัวเลขของคู่แข่งอย่าง Motorola Xoom นั้น Deutsche Bank คาดว่ายอดขายน่าจะอยู่ที่หลักแสน
ที่ผ่านมาเราเห็นซอฟต์แวร์ตระกูล Photoshop บนอุปกรณ์พกพาในรูป Photoshop Express (รุ่นบน iOS, รุ่นบน Android) ซึ่งก็ยังมีความสามารถไม่มากนัก แต่ในงาน Photoshop World ทาง Adobe ได้เดโม Photoshop รุ่นใหม่บน iPad ที่แต่งภาพแบบมีเลเยอร์ได้แล้ว
ดูวิดีโอสาธิตการใช้งานได้จากเว็บไซต์ Photography Bay
ตอนนี้ Adobe ยังแค่ออกมาเดโม และไม่ยอมให้รายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับ Photoshop รุ่นนี้
แหล่งข่าวจากผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ระดับต้นน้ำแห่งหนึ่งบอกว่า แอปเปิลได้ตกลงที่จะแบกรับต้นทุนชิ้นส่วนที่จำเป็นในราคาที่สูงขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น บรรดาโรงงานต่างๆ ต้องควบคุมกำลังการผลิตอย่างมากตามระเบียบการจ่ายไฟฟ้าที่เข้มงวดขึ้น ส่งผลให้สินค้าผลิตออกมาได้ไม่ทันความต้องการ และชิ้นส่วนหลายอย่างที่สำคัญในผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลอย่าง iPad หรือ iPhone ก็ทำในประเทศญี่ปุ่น โรงงานหลายแห่งยอมรับว่าสินค้าคงเหลือนั้นพอส่งมอบได้ถึงเดือนพฤษภาคมเท่านั้น แล้วหลังจากนั้นน่าจะเริ่มเห็นภาวะขาดแคลนมากขึ้น (ข่าวเก่า)
สงครามน้ำลายยังคงมีต่อเนื่องเมื่อ Andy Lark หัวหน้าฝ่ายการตลาดของกลุ่มสินค้าองค์กรขนาดใหญ่แห่งเดลล์บอกว่า ถึงแม้ iPad จะประสบความสำเร็จในตอนนี้แค่ไหน แต่มันจะล้มเหลวอย่างหนักกับตลาดกลุ่มลูกค้าองค์กร เขากล่าวว่าในระยะยาวนั้นระบบเปิด ยืดหยุ่น และมีราคาเหมาะสมจะเป็นผู้ชนะ ไม่ใช่ระบบปิด ขายแพง และมีความเฉพาะตัวอย่างที่แอปเปิลกำลังอยู่ตอนนี้ Lark ยอมรับว่าแอปเปิลทำได้ดีในตอนนี้ มีสินค้าที่ดี แต่จะเห็นว่าแอปเปิลก็กำลังถูกท้าทายหนักขึ้นเรื่อยๆจาก Android