แอปเปิลเตรียมเปิดร้าน Apple Store สาขาแรกในฮ่องกง โดยมีรายงานข่าวว่าร้านมีกำหนดเปิดให้บริการในวันที่ 24 กันยายนนี้ สาขาดังกล่าวจะตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า International Finance Centre (IFC) ซึ่งอยู่ใจกลางฮ่องกง มีพื้นที่ 2 ชั้น คาดว่าจะใช้พนักงานรวมกว่า 300 คน และน่าจะมีลูกค้ามาใช้บริการไม่ต่ำกว่า 40,000 คนต่อวัน อย่างไรก็ตามตัวแทนของแอปเปิลปฏิเสธที่จะยืนยันวันเปิดให้บริการดังกล่าว
แอปเปิลยังมีแผนจะเปิด Apple Store สาขาที่สองในฮ่องกงด้วยในปีหน้าที่ Hysan Place บริเวณอ่าว Causeway
ปลายปีคนไทยนิยมไปช้อปปิ้งกันที่ฮ่องกงอยู่แล้ว คาดว่า Apple Store ก็คงเข้ามาอยู่ในลิสท์ของปีนี้กัน
หนังสือพิมพ์ South China Morning Post จากฮ่องกงรายงานข่าวว่า ผู้ใช้ iPhone ในฮ่องกงประสบปัญหาว่าฮ่องกงมีความชื้นมากเกินไป จนตัวตรวจวัดความชื้นของ iPhone (ดูภาพประกอบ ผมก็เพิ่งรู้ว่ามี) ฟ้องว่าความชื้นเกินกำหนด และมีปัญหาเรื่องประกันหลุดเพราะแอปเปิลถือว่าเอาเครื่องไปใช้นอกสภาวะที่กำหนด (เช่น ตกน้ำ) ทั้งที่จริงๆ แล้วอาจไม่ได้ทำอะไร
iPhone มีข้อกำหนดว่าใช้ได้ระหว่างความชื้นในอากาศ 5-95% แต่ความชื้นเฉลี่ยของฮ่องกงบางฤดูกาลนั้นสูงกว่า 95% เสียอีก
ตามข่าวมีผู้ใช้ iPhone คนหนึ่งคือ Justin Hayward ประสบปัญหานี้ แม้ว่าโอเปอเรเตอร์ยินดีให้เครื่องใหม่โดยต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนหนึ่ง แต่เขายืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรผิดเงื่อนไข เขาให้สัมภาษณ์ว่า "ไม่เชื่อว่าอุปกรณ์แบบนี้จะขายในฮ่องกงได้"
หลังจากเจรจาต่อรองกับรัฐบาลจีนในเรื่องการเซ็นเซอร์ผลการค้นหาไม่เป็นผล ล่าสุดกูเกิลได้ทำเปลี่ยนเส้นทางทราฟฟิก (redirect) จาก Google.cn ไปยังเว็บไซต์ Google.com.hk ที่ตั้งอยู่ในฮ่องกงแล้ว แน่นอนว่า Google.com.hk จะไม่มีการเซ็นเซอร์ข้อมูล และกูเกิลจะเปิดบริการค้นหาในภาษาจีนกลางบน Google.com.hk สำหรับผู้ใช้งานที่มาจากจีนแผ่นดินใหญ่
ในบล็อกของกูเกิลกล่าวว่า "รัฐบาลจีนแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนระหว่างการเจรจาว่า การเซ็นเซอร์ข้อมูลเป็นข้อกำหนดที่ไม่สามารถต่อรองได้ ดังนั้น เราเชื่อว่าวิธีการที่ให้บริการค้นหาสำหรับภาษาจีนกลาง จาก Google.com.hk เป็นทางออกที่น่าจะดีที่สุดสำหรับปัญหานี้ วิธีการนี้ถูกต้องตามกฏหมาย 100% และแน่นอนว่ามันจะทำให้ชาวจีนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้นแน่นอน"
จากความเดิมตอนที่แล้ว ของ งาน BlogFest.Asia ที่ฮ่องกง ตอนที่ 1 ก็จะมาต่อวันที่ 2 ซึ่งในวันที่ 2 งานยังคงจัดขึ้นที่เดิม คือ ที่ศูนย์ชุนชม Yau Ma Tei (Yau Ma Tai Community Center) โดยวันนี้งานจะแบ่งเป็น 2 งานย่อยภายในคือ งาน HKbloggercon และงานที่เป็นส่วน Open group discussion
เมื่อวันที่ 6-8 พฤศจิกายนที่ผ่านมานั้น มีงานที่ชื่อว่า BlogFest.Asia ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่เมืองฮ่องกง ประเทศจีน โดยผมนั้นได้รับเงินทุนในเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางและค่าที่พัก รวมถึงค่าอาหารในการไปฮ่องกงนี้ด้วย งานนี้ผมเดินทางไปกับ @ripmilla และ @nytonkla ครับ วันนี้ผมเลยจะมาเป็นตัวแทนทั้ง 3 คนเล่าประสบการณ์และบรรยายกาศของงานให้ฟัง ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 ตอน
หลังจากทาง Kogan ยกเลิกโทรศัพท์ Agora ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android ออกไปอย่างไม่มีกำหนด ล่าสุดก็มีโทรศัพท์ที่หน้าตาเหมือนกันแทบทุกกระเบียดนิ้วออกมาวางจำหน่ายล็อตละ 100 เครื่องแล้วที่ฮ่องกง ด้วยราคา 240 ดอลลาร์สหรัฐต่อชุด หรือ 8,400 บาท
ทาง Kogan ออกมาระบุว่าบริษัทไม่มีส่วนรู้เห็นกับสินค้าที่วางจำหน่ายในตอนนี้ และยังตั้งข้อสังเกตว่าโทรศัพท์นี้ใช้ Android จริงหรือไม่ เพราะอาจจะเป็นระบบปฎิบัติการของจีนเอง หรือ Windows Mobile 6 ที่ได้รับความนิยมกันอยู่ในจีนก็ได้
ถ้าจะซื้อยกล็อตมาลองก็เกือบล้านไม่รวมค่าส่ง...
ที่มา - iTWire
บริษัท RIM (Research In Motion) และบริษัท CSL ในเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน นำเครื่องสมาร์ทโฟน แบลคเบอรี รุ่น Pearl Flip 8220 ออกจำหน่ายแล้ว และเป็นเครื่องสมาร์ทโฟนของแบลคเบอรีสไตล์ใหม่รุ่นแรกของฮ่องกง
ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของ CSL กล่าวว่า บริษัทเป็นพันธมิตรธุรกิจกับ RIM มาเป็นเวลานานแล้วในการนำเครื่องสมาร์ทโฟนรุ่นต่างๆเข้ามาจำหน่ายในฮ่องกง และการที่บริษัทตัดสินใจนำเครื่องรุ่น Pearl Flip เข้ามาในครั้งนี้อีกนั้นก็เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้า
ที่มา - China Tech News
บริษัท ซิตี้บัส (Citybus) และบริษัท นิว เวิลด์ เฟิร์ส บัส (NWFB) ของเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ร่วมกันประกาศต่อสาธารณชนเมื่อเร็วๆนี้ว่า รถโดยสารประจำทางที่สามารถใช้บริการไว-ฟาย (Wi-Fi)ได้คันแรกเริ่มวิ่งแล้ว และอีก 10 คันใน 11 เส้นทางอยู่ระหว่างติดตั้งอุปกรณ์ไว-ฟาย คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์
บริการไว-ฟาย เป็นบริการเสริมพิเศษของรถโดยสารประจำทาง ที่ต้องการอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารในการใช้อินเทอร์เน็ต และเพื่อเป็นการส่งเสริมการพัฒนา ไว-ฟาย ในฮ่องกง ทั้งนี้จะมีการประเมินผลเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อดูการสนองตอบของผู้โดยสารต่อบริการใหม่ หากได้ผลเป็นที่น่าพอใจ บริษัทจึงจะตัดสินใจอีกครั้งว่าจะเพิ่มบริการดังกล่าวไปยังรถโดยสารคันอื่นๆอีกหรือไม่