เพราะโลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคสมัยของ Internet of Things ดังนั้นแล้วข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันแทบทุกสิ่งก็สามารถเปลี่ยนเป็นอุปกรณ์ที่แสนฉลาดมาพร้อมระบบควบคุมการทำงานอัตโนมัติได้ทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่ขวดเจลดับกลิ่นใต้วงแขน ที่วันนี้มีคนคิดค้นสร้างมันขึ้นมาและกำลังระดมทุนผ่านเว็บ Kickstarter โดยใช้ชื่อผลิตภัณฑ์ว่า ClickStick
Xiaomi บริษัทไฟแรงจากจีนยังคงขยายไลน์ผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง หลังจากประสบความสำเร็จกับสมาร์ทโฟนไปแล้ว ล่าสุดได้เผยโฉมแพลตฟอร์มสมาร์ทโฮมชุดแรก ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะ
สมาร์ทโฮมชุดแรกของ Xiaomi ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ของตัวเองสองชิ้นได้แก่ Mi Smart Power Plug ปลักไฟควบคุมไร้สายได้ ตั้งเวลาปิด-เปิด และมี USB มาให้ในตัว และ Mi Smart Remote Centre ศูนย์กลางเชื่อมต่อกับเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอื่นๆ รวมถึงอีกสองชิ้นจากผู้ผลิตอื่นอย่าง Ants smart webcam กล้องวงจรปิดความละเอียด 720p มีไมโครโฟนในตัว และ Yeelight Smart Lightbulb หลอดไฟอัจฉริยะ
หลายคนที่ต้องนั่งทำงานติดโต๊ะเป็นเวลานานๆ คงเจอปัญหาปวดหลังซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากท่านั่งที่ไม่เหมาะสม เทคนิคที่แต่ละคนนำมาใช้แก้ปัญหาก็มีแตกต่างกันไป บ้างก็เลือกหาเก้าอี้นั่งตัวใหม่ บ้างก็หาหมอนหรือเบาะมาหนุนหลังเสริมเป็นการพิเศษ แต่ Darma คิดมองไกลกว่านั้น พวกเขาเลือกที่จะสร้างเบาะรองนั่งแบบพิเศษที่จะคอยตรวจจับท่านั่งของผู้ใช้และแจ้งเตือนได้หากนั่งในท่าที่ไม่เหมาะสม หรือนั่งนานเกินไป
SmartMat คือโครงการพัฒนาเสื่ออัจฉริยะสำหรับผู้เล่นโยคะก็สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อให้ข้อมูลและคำแนะนำในการเล่นโยคะแก่ผู้ใช้ได้ โดยมันประสบความสำเร็จอย่างสวยงามในการระดมทุนผ่าน Indiegogo ได้รับยอดเงินสนับสนุนทะลุเป้า 110,000 ดอลลาร์ภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง
เคยทำอาหารโดยใช้กระทะ อาทิ ทอดไข่เจียว แล้วไข่ไหม้หรือเปล่า? ถ้าใช่ กระทะอัจฉริยะนี้น่าจะช่วยผู้ทำอาหารได้ครับ
SmartyPans เป็นกระทะทำอาหารอัจฉริยะที่สามารถติดตามน้ำหนัก อุณหภูมิภายในและความชื้น และส่งต่อข้อมูลไปยังแอพบนอุปกรณ์พกพาผ่าน Bluetooth 3.0 ซึ่งจะแนะนำวิธีการปรุงอาหารรวมถึงคำนวณแคลอรี่แบบเรียลไทม์ให้ผู้ใช้อีกต่อหนึ่ง มีแบตเตอรี่ที่ชาร์จไฟเพียงหนึ่งชม. ใช้ได้หนึ่งเดือน
แอพบนอุปกรณ์พกพาจะมีทั้ง Android, iOS และ Windows Phone มีสองโหมดการทำงาน คือ Recipe Mode แนะนำการเมนูอาหารกว่าหนึ่งพันรายการพร้อมวิธีทำซึ่งจะแปรผันไปตามอุณหภูมิภายในและความชื้นที่วัดได้ และ Metrics Mode แสดงผลเฉพาะอุณหภูมิและน้ำหนักของในกระทะเท่านั้น
ให้หลังจาก Quirky เปิดตัวแพลตฟอร์มสมาร์ทโฮมที่เน้นความเรียบง่ายอย่าง Wink พร้อมกับอุปกรณ์ตัวกลาง Wink Hub ไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ตอนนี้ได้ฤกษ์เปิดตัวอุปกรณ์ชิ้นที่สองอย่าง Wink Relay อุปกรณ์สั่งงานผ่านหน้าจอสัมผัสแบบฝังฝาผนัง
Relay เป็นอุปกรณ์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อทดแทนสวิทช์โดยเฉพาะ สามารถเปลี่ยนแทนกันได้ทันที ตัวเครื่องแบ่งเป็นสองส่วนคือ Power Box สำหรับฝังลงไปในผนัง และ Main Unit ที่จะประกอบด้วยสวิทช์ไฟสองปุ่ม กับหน้าจอสัมผัสขนาด 4.3" รัน Android รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สมาร์ทโฮมแบรนด์อื่นๆ และเซนเซอร์ต่างๆ รวมถึงมี Wi-Fi, Bluetooth และ Zigbee อีกด้วย
ตลาดสมาร์ทโฮมสำหรับจัดการและควบคุมอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้านยังคงมีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาในตลาดอยู่เรื่อยๆ รายล่าสุดเป็น Peq (อ่านว่าพีค) ที่เพิ่งเปิดตัวฮับสำหรับเชื่อมต่อกับเครื่องใช้ในบ้านในราคาที่ถูกกว่าคู่แข่งพอสมควร
ในชุดเริ่มต้นของ Peq ราคา 119.99 เหรียญ จะมาพร้อมกับฮับหนึ่งตัวหน้าตาเหมือนเราท์เตอร์ทั่วไป สำหรับเป็นศูนย์กลางให้อุปกรณ์อื่นๆ มาเชื่อมต่อเพื่อส่งข้อมูลไปยังสมาร์ทโฟน/แท็บเล็ต และเซนเซอร์สำหรับหน้าต่าง-ประตูอีกอย่างละหนึ่งชิ้น ชุดใหญ่กว่าหน่อยจะมีสล็อตสำหรับเสียบหลอดไฟมาให้อีกสองอันในราคา 199.99 เหรียญ และชุดใหญ่สุดที่มาพร้อมกับเซนเซอร์จำนวนมากจะราคา 489.99 เหรียญ
จากที่เคยมีข่าวลือว่าซัมซุงกำลังเจรจาซื้อ SmartThings วันนี้ข่าวเป็นทางการมาแล้วครับ ถึงแม้ข้อมูลราคาจะไม่เปิดเผย แต่เว็บไซต์ Re/code อ้างแหล่งข้อมูลใกล้ชิดว่าอยู่ที่ 200 ล้านดอลลาร์
SmartThings เป็นบริษัทที่ทำระบบควบคุมอุปกรณ์ภายในบ้าน (home automation) เริ่มเติบโตจากการระดมทุนใน Kickstarter เมื่อปี 2012 และค่อยๆ ขยายกิจการขึ้นตามลำดับ โดยซีอีโอ Alex Hawkinson ระบุว่าขายให้ซัมซุงเพราะเห็นโอกาสในการใช้ "พลังระดับโลกของซัมซุง" ผลักดันวิสัยทัศน์ smart home ให้ประสบความสำเร็จได้จริง
หลังการซื้อกิจการครั้งนี้ SmartThings จะยังบริหารงานเป็นอิสระต่อไป โดยอยู่ในสังกัด Samsung Open Innovation Center ที่เน้นธุรกิจใหม่ๆ สำหรับอนาคต
แอพพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนที่เกี่ยวข้องกับการนอนเท่าที่เห็นส่วนใหญ่นั้นสามารถตรวจจับ sleep cycle ได้ บันทึกเสียงขณะที่เรานอนหลับ หรือสามารถปลุกเราในช่วงที่ร่างกายกำลังตื่นเต็มที่ แต่ตอนนี้มีคนพยายามที่จะทำให้เรื่องของการนอนหลับเป็นเรื่องที่ซีเรียสกว่านั้นแล้วครับ
Sense เป็นโครงการบน Kickstarter ซึ่งจะช่วยให้การนอนหลับของเราดีขึ้นด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลการหลับของเรา รวมถึงสภาพแวดล้อมภายในห้องนอน การทำงานของ Sense สามารถแบ่งได้ตามอุปกรณ์ที่ต้องใช้ทั้งหมด 3 ตัวด้วยกัน
เราทุกคนคงเคยประสบเหตุการณ์ขับถ่ายอยู่แล้วพบว่ากระดาษชำระหมด ซึ่งแต่ละคนคงมีวิธีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้านี้แตกต่างกันออกไป ล่าสุดมีคู่สามีภรรยาจากรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เปิดโครงการระดมทุนบน Kickstarter ในชื่อ RollScout โดยผลิตภัณฑ์ที่ทั้งคู่จะทำคือ "ที่ใส่กระดาษชำระ" ที่สามารถเตือนเราก่อนจะปฏิบัติภารกิจได้ว่ากระดาษหมด
งานศิลปะที่แขวนตามผนังบ้านส่วนใหญ่มักจะเป็นภาพวาดหรือไม่งั้นก็เป็นภาพถ่าย ส่วนงานศิลปะที่พบตามอินเทอร์เน็ตนั้นมักมีข้อจำกัดในเรื่องของอุปกรณ์ที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อแสดงภาพโดยเฉพาะอย่างสมาร์ทโฟนก็อาจจะโดนรบกวนด้วยข้อความแจ้งเตือนต่างๆ ที่ทำให้เสียอรรถรสในการรับชมได้ ด้วยเหตุนี้จึงมีโครงการบน Kickstarter ซึ่งระดมทุนเพื่อสร้างจอภาพที่จะมาเติมเต็มความต้องการเหล่านั้น
อนาคตของการสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านเสียงเข้าใกล้ความเป็นจริงเข้าไปทุกขณะ หลังจากมีผู้พัฒนาโซลูชันสำหรับอุปกรณ์สมาร์ทโฮมอย่าง Insteon ออกมาประกาศว่าจะเชื่อมการทำงานของ Cortana เข้ากับอุปกรณ์ที่ใช้โซลูชันของ Insteon เร็วๆ นี้
โดยการจับมือกันระหว่าง Insteon และไมโครซอฟท์นั้น จะมีผลทำให้ผู้ผลิตที่ใช้โซลูชันของ Insteon สามารถรองรับการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Cortana ได้ภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยสามารถสั่งงานด้วยคำพูดทั่วไปอย่าง ปิดไฟให้หมด หรี่ไฟลง หรือใช้สั่งงานอุปกรณ์อื่นๆ เช่น เครื่องปรับอากาศ หรือที่ล็อกประตูได้อีกด้วย
เว็บไซต์ TechCrunch รายงานข่าวลือว่าซัมซุงเตรียมบุกตลาดบ้านอัจฉริยะด้วยการซื้อ SmartThings บริษัทที่ทำระบบควบคุมอุปกรณ์ภายในบ้าน (home automation - ข่าวเก่า) ด้วยมูลค่าประมาณ 200 ล้านดอลลาร์
แนวคิดของ SmartThings คือสร้างฮับศูนย์กลางและเปิด SDK ให้อุปกรณ์ต่างๆ มาต่อเชื่อมและสื่อสารกัน แพลตฟอร์มของ SmartThings รองรับการสื่อสารผ่าน ZigBee, Z-Wave, Wi-Fi และทำงานได้กับอุปกรณ์ของบริษัทใหญ่ๆ อย่าง GE, Honeywell, Philips Hue, Trane (ดูคลิปท้ายข่าว)
ก่อนหน้านี้ ซัมซุงเพิ่งประกาศแบรนด์ Smart Home สำหรับขายเครื่องใช้ไฟฟ้ายุคใหม่ที่สื่อสารกันเองได้
สงครามของตลาดเครื่องใช้ในบ้านกำลังร้อนระอุขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดบรรดาเหล่าบริษัทที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ อย่าง Nest, Samsung, ARM และอีกสี่บริษัท รวมกลุ่มกันเพื่อสร้าง Thread มาตรฐานส่งข้อมูลข้อมูลแบบไร้สายในเครือข่ายภายใน (mesh network) ที่กินไฟต่ำ และใช้งานได้กับอุปกรณ์เดิมอย่างโมดูล ZigBee ที่ใช้มาตรฐานไร้สาย 802.15.4
Quirky บริษัทออกแบบอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เปิดตัว Wink แพลตฟอร์มควบคุมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ภายในบ้าน โดยเน้นจุดขายไปที่ความเรียบง่ายในการสั่งงานและการควบคุมจากผู้ใช้ ซึ่งเอามาชนกับคู่แข่งรายใหญ่อย่าง Nest ที่ขายความสะดวกสบาย ให้ระบบจัดการเองทุกอย่าง
อีกโครงการที่น่าสนใจบน Kickstarter ครับ Sentri เป็นกล่องรักษาความปลอดภัยที่หน้าตาเหมือนนาฬิกาติดผนัง มันมีความสามารถของอุปกรณ์หลายอย่าง ประกอบด้วย
ตัวเครื่องแสดงข้อมูลต่างๆ บนหน้าจอเป็นไอคอนสวยงาม (หน้าจอสามารถปรับเปลี่ยนให้ดูเป็นของตกแต่งบ้านได้) และสามารถดูข้อมูล-แจ้งเตือนได้จากระยะไกลผ่านแอพมือถือ Android/iOS สุดท้ายคือดูแลรักษาง่าย แค่เสียบปลั๊กและเชื่อมต่อ Wi-Fi เท่านั้น
ในยุคที่ Internet of Things กำลังคืบคลานเข้ามามีบทบาทกับชีวิตผู้คนมากขึ้น ทำให้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ได้รับความสนใจในกลุ่มของแฮกเกอร์เช่นกัน ล่าสุดมีข่าวว่าแฮกเกอร์กลุ่มหนึ่งสามารถโจมตีหลอดไฟอัจฉริยะได้สำเร็จแล้ว
GE เปิดตัวหลอดไฟ LED อัจฉริยะหรือ smart bulb ใหม่ ใช้ชื่อว่า Link ตามหลังผู้เล่นในตลาดนี้อย่าง Samsung, LG และ Philips Hue โดยรอบนี้ GE มีจุดขายของหลอดไฟอัจฉริยะของตัวเองคือ "ราคา" ที่ถูกกว่าเจ้าอื่นในตลาด
เหตุผลที่กูเกิลซื้อ Nest Labs ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ โดยวันนี้ Nest เปิดตัว Nest Developer Program เปิด API ของสินค้าตัวเอง (ปัจจุบันมี 2 ชนิดคือเทอร์โมสตัต และเครื่องตรวจจับควัน) ให้นักพัฒนารายอื่นๆ เข้าถึงได้แล้ว
Nest ประกาศชัดเจนว่าโครงการนี้มีจุดประสงค์ให้อุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้านสื่อสารกันได้อัตโนมัติ และต้องการไปให้ไกลกว่าการเป็นแค่รีโมทควบคุมการเปิดปิดจากระยะไกล เหมือนระบบ smart home ในท้องตลาดปัจจุบัน
เบื้องต้น Nest API รองรับ 3 แพลตฟอร์มคือ iOS, Android, เว็บ สามารถใช้งานกับภาษาโปรแกรมได้ 3 ภาษาคือ Java, Objective-C, JavaScript รายละเอียดสามารถดูได้จาก Nest Developer
ทุกวันนี้ดูเหมือนแทบจะทุกอย่างจะต้องอัจฉริยะไปเสียหมด ไม่แว้นแม้แต่ "แก้วน้ำ" เมื่อบริษัทสตาร์ทอัพหน้าใหม่ Mark One เปิดตัวผลิตภัณฑ์ชิ้นแรก เป็นแก้วน้ำอัจฉริยะ Vessyl ที่สามารถบอกได้ว่าในแก้วคือน้ำอะไร มีคุณค่าทางโภชนาการและให้พลังงานเท่าไหร่ มีส่วนประกอบอะไรบ้าง
แก้ว Vessyl นี้มีความจุ 13 ออนซ์ หรือประมาณ 390 มิลลิลิตร และจะแสดงผลได้คร่าวๆ ว่าของเหลวในแก้วคืออะไรให้พลังงานเท่าไหร่ คาเฟอีนเท่าไหร่ ผ่านหน้าจอที่ฝังมาบนผิวแก้วโดยตรง ทำให้ตัวแก้วจะมีแบตเตอรี่มาด้วย การชาร์จแก้ว 1 ครั้ง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงและสามารถใช้งานได้ประมาณ 1 อาทิตย์ และแน่นอนว่าเป็นการชาร์จไร้สาย ขณะที่ข้อมูลทางโภชนาการอื่นๆ จะถูกแสดงผ่านทางแอพพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน
จากที่มีข่าวลือ กูเกิลสนใจซื้อบริษัทกล้องวงจรปิด Dropcam เสริมทัพ Nest วันนี้ข่าวประกาศอย่างเป็นทางการแล้ว
การซื้อกิจการครั้งนี้จะเป็น Nest Labs ซื้อ Dropcam (ไม่ใช่กูเกิลซื้อเองโดยตรง) มูลค่า 555 ล้านดอลลาร์โดยจ่ายเป็นเงินสด
Matt Rogers ผู้ก่อตั้ง Nest ระบุว่าได้ประเมินบริษัทกล้องวงจรปิดหลายราย และพบว่า Dropcam ที่ดีที่สุดทั้งในแง่ผลิตภัณฑ์และประสบการณ์ใช้งาน แถมยังมีวัฒนธรรมใกล้เคียงกับ Nest มาก กลุ่มลูกค้าของทั้งสองบริษัทก็ซ้อนทับกันอยู่มาก
เมื่อเดือนเมษายน Nest ได้ประกาศเรียกคืน Nest Protect เครื่องตรวจจับควันที่มีปัญหาเรื่องการใช้งานฟีเจอร์ Nest Wave ที่ใช้การโบกมือเพื่อปิดสัญญาณแจ้งเตือน ซึ่งอาจถูกใช้โดยไม่ได้ตั้งใจเมื่อยามเกิดไฟไหม้จริงๆ โดยสัญญาว่าจะกลับไปทำใหม่ให้ดีขึ้น โดยปิดการใช้งานฟีเจอร์นี้ไปก่อน
ให้หลังการเรียกคืนไปพอสมควร Nest ออกมาประกาศขาย Nest Protect อีกครั้งแล้ว และลดราคาลงจาก 129 เหรียญ เหลือ 99 เหรียญ แต่ยังปิดการใช้งานฟีเจอร์ Nest Wave ต่อไป ซึ่งสามารถหาได้จากเว็บไซต์ทางการของ Nest หรือ Amazon, Best Buy, Home Depot และ Play Store
Honeywell พาร์ทเนอร์ของแอปเปิลในการเปิดตัว HomeKit ที่งาน WWDC ที่ผ่านไป ได้เปิดตัว Lyric ตัวควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะภายในบ้าน โดยมีรูปร่างหน้าตาไม่ต่างกับ Nest คู่แข่งของทางฝั่ง Google เลย
ความสามารถรวมๆ ไม่ต่างกับ Nest มากนัก ทั้งการควบคุมอุณหภูมิจากสมาร์ทโฟน ปรับอุณหภูมิอัตโนมัติ เป็นต้น ขณะเดียวก็มีฟีเจอร์ที่โดดเด่นกว่า Nest เช่นกัน อย่างการปรับอุณหภูมิโดยอิงกับอุณหภูมิในบ้าน นอกบ้าน ความชื้น และสภาพอากาศ หากวันที่มีอากาศชื้น Lyric จะปรับอุณหภูมิลงโดยอัตโนมัติ เป็นต้น
แอปเปิลเปิดตัว HomeKit เป็นโปรโตคอลสำหรับการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ iOS กับเครื่องใช้ในบ้านนับแต่ประตู หลอดไฟ ไปจนถึงกล้องวงจรปิด
แอปเปิลระบุว่าตัวโปรโตคอลจะทำให้โทรศัพท์และเครื่องใช้ในบ้านจับคู่กันโดยมีความปลอดภัย ทำให้โทรศัพท์เฉพาะเครื่องของเราเท่านั้นที่จะควบคุมประตูหรือหลอดไฟในบ้านได้ ขณะที่ฟีเจอร์เมื่อควบคุมเครื่องใช้ทั้งหมดแล้ว เราจะสามารถจัดกลุ่มเพื่อเซ็ตค่าเป็นชุดๆ ได้ เช่น เมื่อจะเข้านอนก็สามารถล็อกประตู ปิดไฟ และปรับอุณหภูมิห้อง
ผู้ผลิตที่ประกาศจะรองรับ HomeKit แล้วมีตั้งแต่ผู้ผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าโดยตรงอย่าง Haier, Honeywell, หรือ Philip ไปจนถึงผู้ผลิตชิปอย่าง Texas Instrument และ Broadcom
เว็บไซต์ The Information รายงานข่าววงในว่ากูเกิลสนใจเสริมทัพกิจการอุปกรณ์ภายในบ้าน Nest Labs ผ่านการซื้อบริษัทกล้องวงจรปิดต่อเน็ต Dropcam
ปัจจุบัน Nest มีอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่อเน็ตขายอยู่ 2 อย่างคือ เทอร์โมสแตต และเครื่องตรวจจับควัน ซึ่งการซื้อกิจการกล้องวงจรปิดก็ดูสมเหตุสมผลที่จะมาเสริมแพลตฟอร์มของตัวเอง
Dropcam ขายกล้องราคา 150 ดอลลาร์ ที่สามารถเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi เพื่อบันทึกวิดีโอไว้บนกลุ่มเมฆให้ดูย้อนหลังได้ง่ายๆ นอกจากนี้ก็มีอุปกรณ์ตรวจจับความเคลื่อนไหวชื่อ Dropcam Tabs ที่ทำงานแบบเดียวกันคือเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi