ไมโครซอฟท์เปิดตัวแว่น HoloLens 2 ที่งาน MWC 2019 ตามความคาดหมาย ถือเป็นการอัพเกรดใหญ่ครั้งแรกนับจากเปิดตัวแว่น HoloLens รุ่นแรกในปี 2016
HoloLens 2 แก้จุดอ่อนหลายอย่างของแว่นรุ่นแรก โดยเฉพาะพื้นที่แสดงผลตรงกลางจอ (field of view) ที่เพิ่มขึ้นจากเดิมเท่าตัว และยังรักษาความละเอียดของภาพที่ 47 พิกเซลต่อองศาได้เท่ากับของเดิม
ตัวแว่นเองก็ปรับปรุงให้มีขนาดเบาขึ้น ใช้วัสดุเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ รูปลักษณ์ดูกะทัดรัดกว่าของเดิม ใส่สบายขึ้น ปรับสมดุลน้ำหนักใหม่ไม่ให้เอียงง่าย และใช้เทคโนโลยีระบายความร้อน vapor chamber ไม่ให้ร้อนหัวเวลาสวมใส่ ที่สำคัญคือออกแบบมาให้สวมแว่นตาขณะใส่แว่น HoloLens ได้แล้ว
เราเห็นไมโครซอฟท์พยายามผลักดันการใช้งาน Mixed Reality กับการใช้งานเฉพาะทาง เช่น การประชุมทางไกล การรีโมทเข้าไปแก้ปัญหาหน้างาน แต่ที่ผ่านมาก็ยังเน้นเฉพาะบนแพลตฟอร์มแว่น HoloLens เป็นหลัก
ล่าสุดไมโครซอฟท์ขยายบริการเหล่านี้มายังอุปกรณ์พกพาด้วย โดยเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ของโปรแกรมชุด Dynamics 365 (รวม CRM+ERP เข้าด้วยกัน)
Alex Kipman หัวหน้าทีม HoloLens ของไมโครซอฟท์ (ก่อนหน้านี้เขายังเป็นคนสร้าง Kinect ด้วย) โพสต์วิดีโอทีเซอร์ถึงงานแถลงข่าวของไมโครซอฟท์ในงาน MWC 2019 วันที่ 24 กุมภาพันธ์
ข้อมูลในวิดีโอไม่ได้บ่งชี้ว่าเราจะเห็นไมโครซอฟท์เปิดตัวอะไร แต่คาดกันว่าน่าจะเป็น HoloLens รุ่นที่สอง ซึ่งถือเป็นการอัพเกรดใหญ่ครั้งแรกนับตั้งแต่เปิดตัว HoloLens ในปี 2016
ที่มา - Fortune
เทคโนโลยีมีส่วนเสริมช่วยให้พิพิธภัณฑ์สื่อสารความรู้แก่ผู้เข้าชมได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีชีวิตชีวามากขึ้น ปัจจุบันมีพิพิธภัณฑ์หลายแห่งใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ให้เป็นประโยชน์มากมายไม่ว่าจะเป็นการฉายหนังสามมิติ ใช้เสียงแนะนำผู้ชมแม้จะเป็นต่างภาษารวมถึงแอพพลิเคชั่นด้วย และ AR คืออีกหนึ่งเทคโนโลยีที่พิพิธภัณฑ์หลายแห่งเห็นประโยชน์และลงทุนกับมัน
แว่น HoloLens ของไมโครซอฟท์มีจุดอ่อนสำคัญคือ ราคาแพงมากถึงชุดละ 5,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.6 แสนบาท) จึงอาจเป็นอุปสรรคสำหรับภาคธุรกิจที่สนใจเทคโนโลยีนี้ แต่กำลังจ่ายไม่เยอะพอ
ทางออกที่น่าสนใจของไมโครซอฟท์ จึงเป็นการจับมือกับพาร์ทเนอร์ เพื่อให้เช่าแว่น HoloLens เป็นรายเดือนแทน
พาร์ทเนอร์ของไมโครซอฟท์คือบริษัท JTRS ในเครือ Econocom ในอังกฤษ ที่เปิดบริการ Mixed Reality as-a-Service ให้เช่าแว่นในราคาจ่ายเป็นรายเดือน ราคาเริ่มต้นที่เดือนละ 260 ปอนด์ (ประมาณ 1.1 หมื่นบาท) มาพร้อมบริการส่งถึงที่ และเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ให้ถ้ามีปัญหา
ช่วงนี้มีข่าวลือของฮาร์ดแวร์ใหม่ๆ ไมโครซอฟท์ออกมาหลายตัว เช่น Xbox รุ่นหน้าออกปี 2020 รอบนี้เป็นข่าวลือของผลิตภัณฑ์ตระกูล Surface กันบ้างครับ
Microsoft ร่วมมือกับ Case Western Reserve University พัฒนาการตรวจหาเนื้องอกที่เป็นเนื้อร้ายด้วยเครื่อง MRI โดยใช้อัลกอริทึมควอนตัมรันบนคอมพิวเตอร์และ HoloLens
Case Western Reserve ได้ริเริ่มการค้นคว้าวิจัยการตรวจโรคด้วยเครื่องสร้างภาพด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า หรือ MRI ซึ่งใช้เทคโนโลยีเดิมที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมาหลายทศวรรษ เพื่อความแม่นยำที่มากขึ้นของผลตรวจและใช้เวลาที่น้อยลง Case Western Reserve จึงนำเสนอวิธีการใหม่ที่เรียกว่า 'magnetic resonance fingerprinting' ซึ่งความร่วมมือกับ Microsoft จะเป็นการใช้อัลกอริทึมควอนตัมรันบนคอมพิวเตอร์มาช่วยเพิ่มความแม่นยำในการวินิจฉัยโรคและให้ความรวดเร็ว อันจะนำไปสู่ประสบการณ์ของผู้ป่วยที่ดียิ่งขึ้น
หลังจาก HoloLens เงียบหายไปพักใหญ่ๆ ไมโครซอฟท์ก็กลับมาประกาศข่าวเกี่ยวกับ HoloLens ใหม่ด้วยแอพ 2 ตัวที่เน้นตลาดภาคธุรกิจ-อุตสาหกรรม
แอพตัวแรกคือ Microsoft Remote Assist สำหรับการประชุมทางไกลแบบเห็นภาพของจริง มันถูกออกแบบมาสำหรับพนักงานหน้างาน (เช่น อยู่หน้าเครื่องจักรอุตสาหกรรม) และต้องการความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ ก็สามารถประชุมผ่านแว่น HoloLens โดยที่อีกฝั่งจะเห็นภาพสถานการณ์หน้างานจากกล้องของ HoloLens และวาดหรือไฮไลท์จุดที่สำคัญกลับมาให้ผู้สวมใส่แว่นได้เห็นด้วย
ในขณะที่ตลาดล่าง ไมโครซอฟท์จับมือกับพาร์ทเนอร์เริ่มวางขายแว่น Mixed Reality ราคาค่อนข้างถูกไปแล้ว ล่าสุดไมโครซอฟท์ก็ขยายตลาดบนของ HoloLens โดยเน้นที่ลูกค้าธุรกิจ โดยวางขายแว่นในยุโรปเพิ่มอีก 29 ประเทศ รวมตอนนี้เป็น 39 ประเทศแล้ว
แว่น HoloLens ยังวางตัวเป็นอุปกรณ์เฉพาะทาง โดยแว่นสำหรับนักพัฒนาขายตัวละ 3,000 ดอลลาร์ และชุดที่ใช้ในธุรกิจ (เพิ่มประกันและระบบรักษาความปลอดภัย) ราคา 5,000 ดอลลาร์
ตัวอย่างพาร์ทเนอร์ของไมโครซอฟท์ที่นำ HoloLens ไปใช้ในทางธุรกิจ ได้แก่ Ford นำไปช่วยในกระบวนการออกแบบรถยนต์ และบริษัทผลิตลิฟต์ thyssenkrupp ใช้ฝึกซ้อมการอบรมซ่อมแซมลิฟต์
Black Marble บริษัทเทคโนโลยีเป็นหนึ่งในพาร์ทเนอร์ของ Microsoft ทำแอพพลิเคชั่น tuServ สำรวจพื้นที่เกิดเหตุอาชญากรรมด้วย Microsoft HoloLens แก้ปัญหาการปนเปื้อนและความคลาดเคลื่อนของหลักฐานในที่เกิดเหตุ
แอพพลิเคชั่น tuServ ช่วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุตำแหน่งหลักฐานในที่เกิดเหตุได้อย่างชัดเจน เพราะในแว่น HoloLens เจ้าหน้าที่สามารถระบุตำแหน่งหลักฐานแม่นยำกว่ากะด้วยสายตา รวบรวมหลักฐานในรูปแบบมัลติมีเดียเพื่อลดความเสี่ยงทำหลักฐานเสียหาย
เจ้าหน้าที่ยังสามารถส่งภาพที่เกิดเหตุไปยังคอมพิวเตอร์ที่สำนักงานหลักที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows ได้แบบเรียลไทม์ แต่ต้องติดตั้ง tuServ HoloLens Command and Control App ก่อน
Satya Nadella เล่าข้อมูลเบื้องหลังในหนังสือ Hit Refresh ของเขา ถึงที่มาของโครงการ HoloLens ว่ามาจากความล้มเหลวของ Windows Vista
Nadella เล่าถึง Alexa Kipman วิศวกรชาวบราซิลของไมโครซอฟท์ ซึ่งมีผลงานโดดเด่นในฐานะผู้สร้างทั้ง Kinect และ HoloLens ว่าเดิมที Kipman อยู่ในทีมออกแบบ Windows Vista ที่มีฟีเจอร์ใหม่หลายอย่าง แต่ผลตอบรับกลับออกมาแย่ ส่งผลให้ Kipman เสียใจอย่างหนักจนต้องกลับไปพักใจที่บราซิลบ้านเกิด
Ford ได้เริ่มโครงการใหม่ คือการพัฒนารถยนต์โดยใช้ HoloLens อุปกรณ์ mixed reality จาก Microsoft
HoloLens นี้จะนำมาเพื่อการพัฒนารถยนต์ของ Ford เพื่อให้นักออกแบบเห็นโมเดลตัวรถเสมือนจริงซึ่งมีขนาดเท่ากับของจริงในสภาพแวดล้อมจำลอง แทนที่จะต้องไปสร้างโมเดลของจริงขึ้นมา และยังสามารถปรับเปลี่ยนเพื่อดูว่าเมื่อใช้วัสดุใดแล้วจะได้ผลเป็นอย่างไรในแบบเรียลไทม์
การใช้ HoloLens สำหรับการออกแบบรถยนต์ Ford ยังอยู่ในขั้นทดลอง โดยการนำอุปกรณ์มาช่วยนี้สามารถลดกระบวนการพัฒนารถยนต์ที่ต้องคอยออกแบบและเปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ลงมาเหลือระดับวันเท่านั้น
ที่มา - TechCrunch
ถึงแม้ HoloLens รุ่นใหม่ยังไม่น่าจะมาเร็วๆ นี้ แต่ทางไมโครซอฟท์ได้ออกมาเปิดเผยรายละเอียดของ HoloLens รุ่นใหม่คร่าวๆ แล้วว่าจะมาพร้อมกับชิปประมวลผล Deep Learning โดยเฉพาะ ซึ่งก็ดูสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ Intelligent Cloud, Intelligent Edge ของซีอีโอเองด้วย
สำหรับหน่วยประมวลผลดังกล่าว ทางไมโครซอฟท์จะเป็นคนออกแบบซิลิคอนเอง เพื่อให้รองรับการทำงานของ Deep Neural Network ผ่านแว่น Mixed Reality ได้อย่างมีประสิทธิภาพและใช้แบตเตอรี่น้อยที่สุด โดยชิปตัวนี้จะฝังอยู่ใน HPU 2.0 (Holographic Processing Unit) หน่วยประมวลผลรุ่นใหม่ของ HoloLens ที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา
บริษัทซอฟต์แวร์ Scopis ที่ทำเรื่อง VR,AR และเทคโนโลยีสามมิติ เปิดตัวแพลตฟอร์มสำหรับ Microsoft HoloLens เพื่อช่วยในการผ่าตัดเส้นประสาทบริเวณไขสันหลัง (Holographic Navigation Platform)
Scopis ระบุว่าแพลตฟอร์ม Holographic Navigation จะฉายภาพซ้อนกันของกระดูกไขสันหลังของผู้ป่วย และภาพจำลองที่มองเห็นผ่าน Microsoft HoloLens หรือที่เรียกอีกอย่างว่า mixed-reality ช่วยให้แพทย์สามารถผ่าตัดตามขั้นตอนและติดตามการทำการผ่าตัดว่าตอนนี้ผ่าตัดไปถึงส่วนไหนของกระดูกแล้ว ประกอบกับเทคโนโลยีสามมิติของ Scopis จะทำให้แพทย์ผ่าตัดเร็วขึ้นและลดความเสี่ยงจากการฉายรังสีตอนส่องกล้องทำการผ่าตัดด้วย
เว็บไซต์ข่าวไมโครซอฟท์ Thurrott.com รายงานข่าวลือว่า ไมโครซอฟท์ยกเลิกแผนการออกแว่น HoloLens รุ่นที่สอง เพื่อข้ามไปออกแว่นรุ่นที่สามทีเดียวเลย
เหตุผลที่ไมโครซอฟท์ยกเลิกแว่นรุ่นที่สอง เป็นเพราะแว่นรุ่นที่สองเป็นการปรับลดขนาดและราคาของแว่นรุ่นแรกลง แต่ไม่มีเทคโนโลยีใหม่มากนัก ในขณะที่สภาพการแข่งขันในตลาดเริ่มมีผู้เล่นรายใหม่ๆ อย่าง Magic Leap เข้ามา ส่งผลให้ไมโครซอฟท์ตัดสินใจเลิกออกแว่นรุ่นที่สอง แล้วขยับมาออกแว่นรุ่นที่สาม (ซึ่งมีเทคโนโลยีใหม่ๆ) ให้เร็วขึ้น
แหล่งข่าวของ Thurrott.com ระบุว่าแว่นรุ่นที่สามน่าจะออกในปี 2019 หรืออีก 2 ปีนับจากนี้ ระหว่างนี้ไมโครซอฟท์จะยังใช้ฮาร์ดแวร์แว่นรุ่นแรกทำตลาดไปก่อน แล้วเน้นการอัพเดตซอฟต์แวร์แทน
อุปสรรคสำคัญของแว่น AR แบบ HoloLens ของไมโครซอฟท์คือคนที่ไม่ได้สวมแว่น ไม่สามารถมองเห็นได้ว่าคนที่สวมแว่นเห็นอะไรอยู่ในตอนนั้น ในงานแถลงข่าวของไมโครซอฟท์ที่สาธิต HoloLens เราเห็นทีมงานมีกล้องถ่ายวิดีโอคนที่สาธิตบนเวที แล้วประมวลผลภาพขึ้นจอให้ผู้ชมเห็นอีกต่อหนึ่ง
ล่าสุดไมโครซอฟท์พัฒนาระบบการถ่ายทอดวิดีโอแบบเดียวกันให้คนทั่วไปใช้งาน โดยเรียกมันว่า Spectator View
หลักการของ Spectator View คือใช้แว่น HoloLens อีกตัวแสดงภาพโฮโลกราฟิกในมุมมองของผู้ชม จากนั้นส่งภาพโฮโลแกรมผ่าน Wi-Fi เข้าไปยังคอมพิวเตอร์ และจากคอมพิวเตอร์ส่งภาพเข้ามาที่กล้อง DSLR เพื่อบันทึกเป็นภาพ/วิดีโอร่วมกับภาพจริงๆ ที่กล้องมองเห็น
หลังจากที่ได้มีภาพต้นแบบแว่น VR/AR แพลตฟอร์ม Windows Holographic ออกมาในช่วงงาน CES 2017 ล่าสุด Vlad Kolesnikov จากไมโครซอฟท์ ได้ออกมาเผยผ่านวิดีโอบน Channel 9 ว่า จะมีชุดต้นแบบสำหรับนักพัฒนา (developer kit) ออกมา ในงาน Game Developer Conference ที่จะมีขึ้นในช่วงต้นเดือนมีนาคม
คาดว่ากลุ่มผู้ใช้งานทั่วไป จะได้ใช้งานในช่วงหลังจากการมาของ Windows 10 Creators Update ที่จะออกในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
ที่มา - MSPoweruser
นอกจาก Lenovo ที่ได้โชว์ต้นแบบแว่น VR ที่ใช้เทคโนโลยีจาก HoloLens แล้ว ในงาน CES 2017 ยังได้มีแบรนด์อื่นที่ได้นำตัวต้นแบบมาโชว์เหมือนกัน น่าเสียดายที่ยังไม่มีภาพการใช้งานจริงออกมา และอุปกรณ์ทั้งหมดได้ถูกกั้นไว้ด้วยกระจก ทำให้ไม่สามารถถ่ายภาพได้อย่างใกล้ชิด
ภาพทั้งหมดสามารถดูได้ในที่มา
ที่มา - Windows Central
ถ้ายังจำกันได้ เมื่อกลางปีที่แล้ว ไมโครซอฟท์ประกาศเปิดแพลตฟอร์ม Windows Holographic ให้บริษัทอื่นสร้างแว่น VR/AR แบบ HoloLens แต่มีราคาถูกกว่ามาก สัปดาห์นี้ Lenovo ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรของไมโครซอฟท์ก็นำแว่นต้นแบบมาโชว์แล้ว
แว่นของ Lenovo ยังไม่มีชื่อรุ่น ใช้หน้าจอ OLED ความละเอียด 1440x1440 สำหรับตาแต่ละข้าง (ละเอียดกว่าทั้ง Oculur Rift/HTC Vive) และมีน้ำหนักเบากว่าคือประมาณ 350 กรัม (Vive หนัก 555 กรัม) น่าเสียดายว่าต้นแบบที่ Lenovo นำมาโชว์ยังไม่สามารถใช้งานได้จริง เลยยังตัดสินยากว่าคุณภาพของภาพจะดีกว่าแว่นคู่แข่งรายอื่นๆ หรือไม่
ส่วนราคาจะอยู่ราว 300-400 ดอลลาร์ โดย Lenovo ระบุว่าจะพยายามให้ถูกที่สุดเท่าที่ทำได้ กำหนดวางขายบอกคร่าวๆ เพียงแค่ภายในปีนี้
ไมโครซอฟท์ประกาศเตรียมวางขาย HoloLens ในประเทศญี่ปุ่น หลังจากที่ช่วงเดือนตุลาคมได้วางขายเพิ่มเติมไปอีก 6 ประเทศ
ไมโครซอฟท์จะเปิดให้สั่งจองในวันที่ 2 ธันวาคม ที่ Microsoft Store ประเทศญี่ปุ่น และจะส่งมอบสินค้าในช่วงต้นปี 2017
ก่อนหน้านี้ไมโครซอฟท์ได้จับมือกับ Japan Airlines ในการจำลองสถานะต่างๆ บนเครื่องบิน สำหรับพนักงานในบริษัทมาแล้ว
ที่มา - Windows Devices Blog
Terry Myerson ยังอธิบายยุทธศาสตร์การสร้างฮาร์ดแวร์ของไมโครซอฟท์ในช่วงหลัง เขาบอกว่าไมโครซอฟท์ผลักดันตัวเองให้ทำฮาร์ดแวร์ใหม่ๆ อย่าง Surface Studio หรือ HoloLens แต่อุปกรณ์เหล่านี้มีราคาแพงระดับ 3,000 ดอลลาร์ ตลาดจึงจำกัด
ขั้นถัดไป ไมโครซอฟท์จะกระจายเทคโนโลยีเหล่านี้ผ่านพาร์ทเนอร์ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ เพื่อให้มีอุปกรณ์ลักษณะเดียวกันในทุกระดับราคา (ซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นกับแว่น HoloLens ราคา 299 ดอลลาร์) เขาบอกว่าคนไม่จำเป็นต้องใช้สินค้าแบรนด์ไมโครซอฟท์ แต่ใช้สินค้าที่เกิดจากความร่วมมือของไมโครซอฟท์กับพาร์ทเนอร์เสียมากกว่า
ประกาศที่น่าสนใจอีกอย่างของไมโครซอฟท์เมื่อคืนนี้คือ ไมโครซอฟท์จะร่วมมือกับผู้ผลิตพีซีรายใหญ่ 5 ราย ออกแว่น VR/AR ที่ใช้เทคโนโลยี mixed reality แบบเดียวกับ HoloLens ในราคาจับต้องได้ เริ่มต้นเพียง 299 ดอลลาร์ ซึ่งถือว่าถูกกว่าแว่น VR ระดับไฮเอนด์ในปัจจุบันที่ขายกันราว 500 ดอลลาร์
แว่นเหล่านี้จะออกพร้อม Windows 10 Creator Update ช่วงต้นปีหน้า ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดอย่างอื่น มีแค่ภาพต้นแบบให้ดูเล็กน้อย
ไมโครซอฟท์ประกาศวางขาย HoloLens เพิ่มอีก 6 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย, ไอร์แลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, นิวซีแลนด์ และ สหราชอาณาจักร โดยได้เปิดให้สั่งจองได้แล้ว และจะเริ่มส่งมอบในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ในส่วนของราคายังคงแบ่งไว้ที่ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 107,000 บาท) สำหรับ Development Edition และ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 178,000 บาท) สำหรับ Commercial Suite
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วไมโครซอฟท์ได้ปล่อย Holographic Remoting Player แอปสตรีมคอนเทนต์โฮโลกราฟิกจากแอปหรือเกมบนพีซีที่รองรับ Holographic Remoting ไปยัง HoloLens และในทางกลับกันก็ทำให้ HoloLens สามารถส่งข้อมูลจากเซ็นเซอร์บนอุปกรณ์กลับไปยังพีซีเพื่อการประมวลผลได้
การสื่อสารทั้งสองทางนั้นผ่าน Wi-Fi ไมโครซอฟท์กล่าวว่ามันเร็วพอที่จะรอรับการแสดงผลที่ 60 เฟรมต่อวินาที และช่วยการประมวลผลคอนเทนต์ที่ซับซ้อนได้โดย offload มายังพีซี
ฟีเจอร์อื่นๆ อาทิ ความสามารถในการจำลองอินพุตใน Unity Play Mode และ Unity Remote Debugging รองรับการดีบักแอปหรือเกมได้โดยตรง
ที่มา: MSPoweruser
เชื่อว่าหลายๆ คน น่าจะรู้จัก Yu-Gi-Oh! เกมการ์ดชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น (หรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่า ไพ่ยูกิ) ที่ถูกนำไปสร้างเป็นการ์ตูนและได้มีออกมาหลายภาค ล่าสุด Generalkidd ช่องบน YouTube ได้ปล่อยวิดีโอถึงโครงการที่ทีมของเขากำลังพัฒนาอยู่ นั่นก็คือการทำให้ตัวละครที่อยู่ในการ์ด แสดงผลออกมาในโลกจริงผ่านมุมมองของ HoloLens
จากในวิดีโอจะเห็นได้ว่า เมื่อเราทำการหมุนการ์ดไปในทิศทางใด ตัวโมเดลที่แสดงผลออกมาก็จะหันตามไปด้วย ซึ่งในวิดีโอก็จะมีตัวที่หลายคนคุ้นเคยอย่าง Slifer the Sky Dragon, Obelisk the Tormentor, The Winged Dragon of Ra รวมไปถึง Blue-Eyes White Dragon
ที่มา - WinBeta