LG Innotek บริษัทลูกของ LG ที่เน้นการพัฒนาเซ็นเซอร์หลากชนิด วันนี้ออกมาเปิดตัวเซ็นเซอร์ตัวใหม่สำหรับอุปกรณ์ไอทีสวมใส่ที่มีจุดเด่นอยู่ที่ขนาดบางเพียง 1 มม.
เซ็นเซอร์ตัวใหม่มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ชีวภาพที่รองรับฟีเจอร์อย่างการวัดชีพจร วัดออกซิเจน วัดระดับความเครียด (stress levels) โดยในความบาง 1 มม. ตัวเซ็นเซอร์นี้ประกอบไปด้วยโฟโตไดโอด ไฟ LED 5 ตัว และแผงวงจร
นอกจากความบางแล้ว LG Innotek ยังระบุว่าเซ็นเซอร์ตัวนี้กินพลังงานน้อยกว่ารุ่นอื่นในตลาดถึง 20% และแม่นยำกว่า โดยมีอัตราความผิดพลาดในการวัดชีพจรบวกลบไม่เกิน 5 ครั้งต่อนาที เทียบกับรุ่นก่อนหน้าที่บวกลบ 8 ครั้งต่อนาที
นอกจากเครื่องใช้ไฟฟ้าหลากประเภทแล้ว ช่วงหลังมานี้ซัมซุงดูจะสนใจนำเทคโนโลยีไปผนวกกับเครื่องแต่งกายมากขึ้นเป็นพิเศษ หลังจากเพิ่งโชว์ผลงานของทีมภายในอย่าง Welt เข็มขัดอัจฉริยะไปในงาน CES 2016 ล่าสุดก็ถึงคิวของรองเท้าอัจฉริยะแล้ว
Jason Jacobs ผู้ก่อตั้ง Runkeeper แอพสุขภาพที่ตรวจจับการออกกำลังกาย ได้ประกาศผ่าน Medium ว่า Runkeeper ได้บรรลุข้อตกลงที่จะขายกิจการทั้งหมดให้กับ ASICS Corporation บริษัทผู้ผลิตรองเท้ากีฬาและอุปกรณ์กีฬาจากประเทศญี่ปุ่น
แอพ Runkeeper ก่อตั้งในปี 2008 มีผู้ใช้งานปัจจุบันหลายล้านคน โดยแอพรองรับการตรวจจับการออกกำลังกาย ทั้งการวิ่ง เดิน หรือปั่นจักรยาน โดย Jacobs บอกว่าการร่วมมือกับ ASICS เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล เพราะแอพ Runkeeper นั้นเน้นที่กิจกรรมการวิ่งเป็นหลักอยู่แล้ว
ด้าน ASICS กล่าวว่าการซื้อ Runkeeper เข้ามา จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการแก่ลูกค้าที่รักการออกกำลังกายได้ดีมากขึ้น
เมื่อปี 2014 เราเห็นข่าว Nintendo ผุดแผนใหม่สร้างอุปกรณ์วัดคุณภาพการนอนหลับ ซึ่งถือเป็นยุทธศาสตร์ใหม่ของนินเทนโดที่จะขยายไปทำตลาดสุขภาพ "Quality of Life" หรือ QOL
แต่ล่าสุดประธานนินเทนโด Tatsumi Kimishima กล่าวในที่ประชุมผู้ถือหุ้นว่าโครงการ QOL ถูกยกเลิกไปแล้ว เพราะไม่สามารถพัฒนาสินค้าที่มีคุณภาพระดับขายจริงได้ อย่างไรก็ตาม นินเทนโดจะยังมองหาโอกาสในตลาด QOL ต่อไปในอนาคต
จุดที่น่าสนใจคือ Kimishima พูดเรื่อง QOL ขึ้นมาเอง เพราะ "ไม่มีนักลงทุนคนไหนถามถึงโครงการนี้เลย"
ที่มา - Wired
ช่วงปีที่ผ่านมา ตลาดอุปกรณ์ไอทีสวมใส่ได้โดยเฉพาะสมาร์ทวอทช์ และสายรัดข้อมือเริ่มไปสู่จุดที่ฟีเจอร์แต่ละเจ้าไม่ต่างกัน แต่ไปเน้นออกแบบให้แตกต่างแทน ตอนนี้ Fitbit ผู้นำตลาดรายแรกๆ ของตลาดที่หลายคนบอกว่าออกแบบได้ "เห่ย" ก็เริ่มหันมาสนใจทำอุปกรณ์ที่หน้าตาดูดีบ้างแล้วในชื่อรุ่น Alta
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่สถาบันการศึกษาจะมีมาตรการสำหรับตรวจสุขภาพประจำปีของนักศึกษาภายใน แต่สำหรับระเบียบใหม่ของมหาวิทยาลัยโอรัล โรเบิร์ตส ในรัฐโอคลาโฮมาอาจจะดูล้ำไปอีกระดับด้วยการให้นักศึกษาใหม่ต้องใช้ Fitbit เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการดังกล่าวแล้ว
ระเบียบใหม่นี้ถูกรายงานโดยสำนักข่าว Washington Post โดยระบุว่ามหาวิทยาลัยโอรัล โรเบิร์ตส จะให้นักศึกษาใหม่กว่าพันคนสวมสายรัดข้อมือ Fitbit Charge HR เพื่อเก็บข้อมูลสุขภาพ และส่งข้อมูลไปยังคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัย (ไม่มีข้อมูลส่วนตัว) ซึ่งตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ นักศึกษาใหม่จะต้องเดินอย่างน้อย 10,000 ก้าวต่อวัน ออกกำลังกายหนักอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ โดยสถิติเหล่านี้จะมีผลกับเกรดของวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา
มีเรื่องราวของ Koby Soto นักศึกษาสาขากฎหมายจากอิสราเอล (และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งสตาร์ตอัพ Guesty ระบบดูแลบ้านที่ให้เช่าบน Airbnb) ที่แสดงอัตราการเต้นของหัวใจในวันที่ถูกแฟนหนุ่มตัดความสัมพันธ์ จากการที่เขาสวมใส่อุปกรณ์ wearable tech อย่าง Fitbit Charge HR ตลอดวันนั้น พบว่าตั้งแต่เช้า ชีพจรเฉลี่ยของเขาอยู่ที่ 88bpm จนถูกบอกเลิกทางโทรศัพท์ แม้ไม่ได้ออกกำลังกายใดๆ ชีพจรวิ่งขึ้นไปถึง 88 และ 118bpm ตามลำดับ กว่าจิตใจจะสงบก็เป็นช่วงค่ำเข้าไปแล้ว ...ร่างกายไม่เคยโกหก และอุปกรณ์พวกนี้ก็ช่วยบันทึกเรื่องราวชีวิตของผู้ใช้ได้ในรูปแบบกราฟอย่างจริงจัง
นอกจาก Jack Dorsey และ Ev Williams แล้ว Dick Costolo ถือเป็นหนึ่งอดีตซีอีโอในประวัติศาสตร์หน้าสำคัญของทวิตเตอร์ ลองหาประวัติอ่านดูครับ หนังสือภาคแปลไทยอ่านสนุกมากๆ
ล่าสุด Dick เผยข้อมูลในทวิตเตอร์ของตนว่ากำลังจะเปิดตัวสตาร์ตอัพเกี่ยวกับสุขภาพและการออกกำลังกาย จับใจความได้ว่า "เป็นได้มากกว่าการวัดค่าสุขภาพ สร้างแรงบันดาลใจให้ออกกำลังกาย แต่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่ที่สนุกและมีสังคมกับเพื่อนฝูงมากขึ้น" แม้ไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมจากนี้มากนัก แต่ก็เปิดเผยว่าเป็นแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ที่ใช้งานกับอุปกรณ์ได้หลากหลาย มาดูกันว่าเขาจะทำอะไรออกมา
ถึงเวลาของเทคโนโลยีที่ลามมาถึงเรื่องของการมีครอบครัวอีกหนึ่งชิ้น เมื่อ First Response ผู้ผลิตอุปกรณ์ตรวจการตั้งครรภ์ เปิดตัว Pregnancy PRO เครื่องตรวจครรภ์สุดไฮเทค ที่เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านบลูทูธ และแสดงผลว่าจะมี "ข่าวดี" บนแอพที่ทำมาคู่กัน
วิธีการใช้งานไม่ยากนัก ติดตั้งแอพ แกะห่อตัวเครื่อง แล้วทำขั้นตอนตามแอพ ผลว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่นั้นก็ปรากฏที่แอพแทนขีดๆ แบบเดิม แต่ระหว่างการลุ้นรอผลราวสามนาทีนั้น ตัวแอพจะมีคอนเทนต์ระหว่างรอให้ผู้ใช้ไม่กังวล ในขณะเดียวกันจะถามข้อมูลเรื่องรอบประจำเดือนล่าสุด ถามว่ามีความตั้งใจจะตั้งครรภ์หรือไม่ แอพจะได้ช่วยคำนวณการปฏิสนธิที่สัมฤทธิ์ผลในอนาคตให้ด้วย เครื่องนี้เปิดตัวครั้งแรกในงาน CES 2016 กับราคาในช่วง 15-20 เหรียญสหรัฐฯ
ในยุคที่ใครๆ ก็อยากหุ่นดี หลายคนคงมีตัวช่วยสำหรับสแกนแคลอรี่ในอาหารตามแบบฉบับของตัวเองไม่ว่าจะเป็นใช้แอพ หรือถ่ายรูป แต่ดูเหมือนจะยังดีไม่พอสำหรับบางคน โดยเฉพาะกับ DietSensor ที่พัฒนาเครื่องมือสำหรับสแกนแคลอรี่ง่ายๆ เพียงส่องไฟเท่านั้น
เครื่องมือตัวนี้ชื่อว่า SCiO เป็นแท่งขนาดจิ๋วภายในมีไฟสำหรับส่อง และเซ็นเซอร์สำหรับวิเคราะห์การทำปฏิกิริยาระหว่างแสง และโมเลกุลเพื่อระบุว่าอาหาร หรือเครื่องดื่มที่ตรวจสอบนั้นเป็นอะไร และวิเคราะห์มีปริมาณแคลอรี่เท่าไร แล้วส่งข้อมูลไปยังสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อกันผ่านบลูทูธ
หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์จากค่าย Misfit ที่ถูกออกแบบมาค่อนข้างแตกต่างโดยเน้นในเรื่องของการสวมใส่ได้ในแบบเครื่องประดับมาก่อน วันนี้ทางค่ายก็ได้ออกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่มาแบบที่ไม่ทำให้ต้องผิดหวัง
ด้วยรูปลักษณ์ของ activity tracker ตัวใหม่นั้นได้ฉีกกฎเกณฑ์ของการออกแบบจากเจ้าอื่นๆ โดยมาในลักษณะของอะลูมินัมรูปทรงกระบอกมาพร้อมกับสายยางแบบแบนหรือสายหนังให้เลือกใช้ตามความต้องการ บนกระบอกเล็กๆ นี้จะมีไฟ LED ติดไว้เพื่อบอกสถานะการใช้งาน หน้าตารวมๆ แล้วก็พอจะบอกได้ว่ามันช่างคล้ายกับตะกรุดเสียเหลือเกิน
อยู่ในวงการผู้ผลิตชิปมาพักใหญ่ ก็ถึงเวลาที่ซัมซุงจะขยายไปทำชิปอื่นๆ นอกเหนือจากชิปประมวลผลมือถือบ้างแล้ว และตลาดต่อไปที่ซัมซุงหมายตาไว้คือการทำชิปเพื่อการเก็บข้อมูลสุขภาพที่เหนือกว่าด้วยชิปที่ชื่อว่า Bio-Processor
Bio-Processor เป็นชิปที่รวมเอาเซ็นเซอร์สำหรับการออกกำลังกายที่สามารถเก็บสถิติสำคัญทั้งห้าอย่างที่มากกว่าแค่วัดชีพจร ตั้งแต่การตรวจวัดไขมันในร่างกาย มวลกระดูก อุณหภูมิผิวหนัง และอัตราการขับเหงื่อ แน่นอนว่าสามารถวัดชีพจรได้เช่นกัน
ซัมซุงบอกว่า Bio-Processor ทำมาสำหรับใช้งานกับอุปกรณ์หลากหลายประเภทไม่จำกัดเฉพาะสายรัดข้อมือ แม้ว่าจะยังไม่มีข้อมูลของสินค้าที่ใช้ชิปตัวนี้ออกมาในตอนนี้ แต่ก็บอกว่าจะเริ่มส่งของให้ได้ภายในครึ่งแรกของปี 2016
Google ยื่นคำขอจดสิทธิบัตรอุปกรณ์เก็บตัวอย่างเลือดแบบใหม่โดยอาศัยการยิงอนุภาคไมโครทะลุผ่านผิวหนังแทนการใช้เข็มโลหะเจาะผ่านแบบเดิมๆ
อุปกรณ์นี้จะมีลักษณะเป็นกระเปาะทรงกระบอกอันเล็กๆ โดยปลายด้านหนึ่งเปิดเป็นรูไว้ ส่วนปลายอีกด้านเป็นพื้นที่เก็บก๊าซแรงดันสูงเอาไว้ด้านใน ด้านในของกระเปาะจะมีหลอดเก็บตัวอย่างเลือดอยู่อีกชั้นหนึ่งซึ่งจะสามารถลดแรงดันอากาศในหลอดจนติดลบเกิดเป็นแรงดูดได้ พื้นที่ว่างส่วนอื่นของกระเปาะนี้จะเป็นพื้นที่สำหรับจัดเตรียมอนุภาคไมโครไว้สำหรับยิงผ่านผิวหนัง
หลังจากใช้ชื่อบ้านๆ มาพักใหญ่ วันนี้ Alphabet ออกมาประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทวิจัยและพัฒนาเกี่ยววิทยาศาสตร์อย่าง Life Science ให้เป็นชื่อที่เรียกง่ายขึ้นอย่าง "Verily" แทน พร้อมกับเปิดตัวเว็บใหม่ Verily.com มาด้วย
Andy Conrad ผู้ซึ่งเผยชื่อใหม่ในระหว่างสัมภาษณ์ระบุว่า Verily นั้นหมายถึงสิ่งที่ "จริงแท้แน่นอน" ซึ่งการดำเนินงานภายใต้ Verily จะครอบคลุมทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ การแพทย์ และวิทยาศาสตร์ โดยจะเน้นไปที่การใช้เทคโนโลยีร่วมกับด้านสุขภาพ เพื่อตรวจหา ป้องกัน และจัดการโรคร้าย
เริ่มรู้กันบ้างแล้วว่าทีม Life Science อดีตทีมวิจัยด้านชีววิทยาศาสตร์ที่เคยอยู่ใต้ร่มใบของ Google X ก่อนจะแยกเป็นบริษัทใหม่หลังการก่อตั้ง Alphabet ล่าสุดมีภาพหลุดของอุปกรณ์ที่กำลังพัฒนาอยู่ออกมาแล้ว
ก่อนหน้านี้ทีม Life Science โชว์ผลงานแปลกตามาบ้าง ตั้งแต่คอนแทคเลนส์ที่สามารถวัดระดับของน้ำตาลได้จากน้ำตา และอุปกรณ์อีกชิ้นชื่อเล่นว่า "capicola" ที่วางตัวเป็นอุปกรณ์ตรวจเก็บข้อมูลสุขภาพซึ่งไม่มีข้อมูลออกมามากนัก และเจ้า capicola ที่ว่าก็เพิ่งมีภาพหลุดออกมาวันนี้นี่เอง
หลังจากที่พัฒนาระบบของ Watson ด้านสุขภาพในฝั่งของวิทยามะเร็ง (Oncology) ไปแล้ว ล่าสุด IBM ได้แถลงความร่วมมือกับโรงพยาบาลเด็กบอสตัน (Boston Children's Hospital) เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบของ Watson ให้รองรับในสาขาการแพทย์เฉพาะทางเพิ่มเติม ซึ่งก็คือสาขากุมารเวช (Pediatrics) หลังจากมีความร่วมมือในการสร้างแพลตฟอร์มด้านคลาวด์ OPENPediatrics ไปแล้วเมื่อปี 2013
Tim Cook ซีอีโอแอปเปิล ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ The Telegraph ของอังกฤษ ประเด็นที่น่าสนใจคือเขาบอกใบ้ว่าแอปเปิลกำลังจะขยายไปยังอุปกรณ์ด้านการแพทย์ แต่ไม่ใช่การนำ Apple Watch ไปใช้งาน เพราะเขาไม่ต้องการนำสินค้าคอนซูเมอร์ไปใช้กับอุตสาหกรรมการแพทย์ ที่ต้องผ่านการรับรองจาก FDA (อย.ของสหรัฐ)
Cook พูดถึงยอดขายของ Apple TV รุ่นใหม่ว่าไปได้สวย และตอบคำถามที่ว่าแอปเปิลสนใจเปิดบริการสตรีมมิ่งของตัวเองหรือไม่ โดยเขาบอกว่าถ้าบริษัทมองว่ามันจะช่วยเป็นตัวเร่งยอดขายได้ เขาก็จะตัดสินใจทำ แต่เขาไม่ต้องการทำด้วยเหตุผลแค่ว่าเลือกทำเพราะคนอื่นทำ
จากกระแสสุขภาพที่เริ่มมาแรงขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ปีที่แล้วเราได้เห็นหลายบริษัทลงมาผลิตอุปกรณ์สวมใส่ เพื่อใช้เป็นเพื่อนรักนักดูแลสุขภาพของคุณ มาถึงปีนี้ก็ได้ออกรุ่นที่ 2 มาหลายตัวล่ะ ไม่ว่าจะเป็น Fitbit Charge HR, Garmin vívofit 2, Garmin vívosmart HR ฯลฯ
คราวนี้ก็ถึงรอบของเหรียญหลวงพ่อชายน์ จากค่าย Misfit บ้างแล้ว กับ Misfit Shine 2 ที่หน้าตาเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือบางลงอีกหน่อย ตัวอุปกรณ์ยังคงกันน้ำได้ ใส่ลงว่ายน้ำได้ลึก 50 เมตร เซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว 3 แกนสำหรับการตรวจจับกิจกรรมการเคลื่อนไหวและการนอน วัดการใช้พลังงานในแต่ละวัน
เมื่อไม่นานมานี้ Hosain Rahman ซีอีโอของ Jawbone เพิ่งไปขึ้นเวที Code Mobile เพื่อพูดถึงอนาคตของอุปกรณ์ไอทีสวมใส่ได้ หนึ่งในตลาดที่ Jawbone ลงทุนไปหนักในช่วงหลัง
แม้ว่า Jawbone จะออก UP ซีรีส์อุปกรณ์ไอทีสวมใส่ได้มาถึงรุ่นที่ 4 แล้ว แต่ทว่า Rahman ก็ยังให้ความเห็นว่าตัวอุปกรณ์ไอทีสวมใส่ได้ยังคงยากที่จะโน้มน้าวให้ผู้คนมาใช้อุปกรณ์แนวนี้มากขึ้น โดยเฉพาะกับแผนต่อไปของ Jawbone ที่วาดภาพว่าจะทำเซ็นเซอร์เก็บข้อมูลสุขภาพรูปแบบใหม่ที่ใช้งานด้วยการให้ผู้ใช้กลืนเข้าไปในร่างกาย หรือฝังไปในเส้นเลือด ซึ่งจะเก็บข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าแนวทางสายรัดข้อมือในปัจจุบัน ในขณะเดียวกันก็ยากต่อการจะให้ผู้คนมาใช้ด้วยเช่นกัน
ที่ประเทศสเปน คณะแพทย์ของโรงพยาบาลประจำมหาวิทยาลัย Salamanca ได้ทำการผ่าตัดเปลี่ยนซี่โครงที่ทรวงอกของผู้ป่วยอายุ 54 ปี รายหนึ่ง ซึ่งป่วยเป็นมะเร็งที่ทรวงอกแบบที่เติบโตรอบซี่โครงที่ทรวงอก (chest wall sarcoma) แต่ซี่โครงที่เอามาเปลี่ยนนั้นเป็นซี่โครงที่ทำมาจากการพิมพ์สามมิติจากวัสดุโลหะไทเทเนียม
ชิ้นส่วนดังกล่าวนี้ออกแบบโดยบริษัท Anatomics ซึ่งเป็นบริษัทออกแบบอุปกรณ์ทางการแพทย์ของออสเตรเลียที่ตั้งอยู่ที่เมลเบิร์น โดยใช้อุปกรณ์และห้องปฏิบัติการ Lab 22 ของ CSIRO (The Commonwealth Scientific and Industrial Research Organisation) ซึ่งเป็นองค์กรสายการวิจัยของรัฐบาลกลางออสเตรเลีย ผลิตชิ้นส่วนดังกล่าวนี้จากเครื่องพิมพ์สามมิติของ Arcam ก่อนส่งต่อไปให้ทีมแพทย์ที่สเปน
Baidu ยักษ์ใหญ่เสิร์ชเอนจินจากจีน เผยแอพตัวใหม่ AskADoctor ที่ผู้ใช้สามารถพูดคุยกับแอพเพื่อหาอาการเจ็บป่วยได้ก่อนไปเข้ารับการรักษาจากแพทย์ และมีฟีเจอร์เด่นที่ใช้เทคโนโลยีการรับรู้ภาษามนุษย์มาเสริมอีกต่อ
Wei Fan นักวิจัยของ Baidu ผู้ริเริ่มแอพตัวนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากการที่แม่ของเธอต้องรอแพทย์เป็นเวลานานถึงสองชั่วโมงด้วยอาการบาดเจ็บที่ไม่คาดคิดอย่างการปวดหัวเข่า เป็นที่มาของ AskADoctor ที่นอกจากจะตอบคำถามอาการเจ็บป่วยได้แล้ว ยังสามารถติดต่อไปยังคลินิกข้างเคียงให้ได้อีกด้วย
วันนี้ (ตามเวลาในประเทศไทย) IBM ประกาศแสดงเจตจำนงที่จะเข้าซื้อกิจการของบริษัท Merge Healthcare ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการจัดการและประมวลผลภาพทางการแพทย์อย่างเป็นทางการ
IBM ระบุว่าการเข้าซื้อกิจการในรอบนี้ จะนำเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มของ Merge เข้ามาใส่ให้กับ Watson และทำให้ Watson สามารถประมวลผลข้อมูลแบบภาพได้ (ต้นฉบับระบุว่า เทคโนโลยีนี้จะทำให้ Watson สามารถ "เห็น" ได้) จากเดิมที่ประมวลผลได้เฉพาะข้อมูลแบบประเภทข้อความ/อักษรเท่านั้น ซึ่งทำให้ Watson สามารถประมวลผลภาพถ่ายรังสี, ภาพ MRI ทางการแพทย์ได้
ResearchKit ชุดเครื่องมือวิจัยด้วยอุปกรณ์ iOS ที่ก่อนหน้าเปิดให้ใช้งานแค่ในสหรัฐฯ ตอนนี้ขยายการรองรับออกไปยังต่างประเทศเป็นครั้งแรก ผ่านหนึ่งในแอพที่ใช้งานได้ตั้งแต่เปิดตัวอย่าง MyHeart Count จากมหาวิทยาลัย Oxford
โดยแอพ MyHeart Count ออกแบบมาสำหรับเก็บข้อมูลการออกกำลัง และการเต้นของหัวใจเพื่อศึกษาหาความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ ซึ่งเพิ่งจะอัพเดตเวอร์ชันใหม่ และรองรับการใช้งานเพิ่มอีกสองแห่งคือ สหราชอาณาจักร และฮ่องกง ตั้งแต่เปิดตัวมามีผู้เข้าร่วมวิจัยมากกว่า 41,000 รายเข้าไปแล้ว
เป้าหมายของแอพตัวนี้คือจะเป็นฐานเก็บข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลการออกกำลังกายที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจและหลอดเลือดขนาดใหญ่ และทันสมัยที่สุด ซึ่งน่าจะเป็นผลดีกับทั้งตัวแอพ และแพลตฟอร์ม ResearchKit เอง
Adidas ประกาศเข้าซื้อกิจการ Runtastic บริษัทผู้ผลิตแอพสุขภาพและการออกกำลังกาย ด้วยมูลค่า 240 ล้านดอลลาร์ (220 ล้านยูโร)
Runtastic ก่อตั้งขึ้นที่ออสเตรียในปี 2009 เป็นผู้ผลิตแอพสำหรับฟิตเนส สุขภาพและการออกกำลังกายมากกว่า 20 แอพ ปัจจุบันมียอดดาวน์โหลดรวมกว่า 140 ล้านครั้ง จากผู้ใช้งานจำนวน 70 ล้านคน นอกจากนั้นแล้วยังมีสายรัดข้อมือสุขภาพในชื่อ Runtastic Orbit อีกด้วย
Runtastic กล่าวว่าบริษัทยังคงทำงานจากออฟฟิศในออสเตรียและซานฟรานซิสโก ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้ปกติ และจะมีแอพใหม่ออกภายในสิ้นปีนี้
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา IBM ประกาศความร่วมมือกับ CVS Health บริษัทด้านการดุแลสุขภาพของอเมริกา ในการพัฒนาโซลูชั่นด้านสุขภาพร่วมกันสำหรับโรคเรื้อรัง (chronic diseases) เช่น ความดันสูง, โรคหัวใจ, เบาหวาน หรือโรคอ้วน
โซลูชั่นที่สองบริษัทจะพัฒนาร่วมกัน จะใช้ Watson ซึ่งเป็นระบบประมวลผลของ IBM เข้ามาวิเคราะห์และคาดการณ์ (predict) ความเสี่ยงของผู้ป่วย และให้คำแนะนำด้านสุขภาพ รวมไปถึงวิธีการรักษาที่เหมาะสม (แบบเดียวกับ Watson for Oncology ที่ใช้ในโรคมะเร็ง) นั่นเอง
ที่มา - IBM