ไอบีเอ็มรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2013 มีกำไรสุทธิ 6.2 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนหน้า และมีรายได้รวม 27.7 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 5% โดยกลุ่มธุรกิจซอฟต์แวร์และการให้บริการมีรายได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่กลุ่มงานระบบและเทคโนโลยีมีรายได้ลดลง
ซีอีโอ Ginni Rometty กล่าวว่าปีที่ผ่านบริษัทดำเนินงานได้อย่างแข็งแกร่ง สร้างผลกำไรได้มากขึ้น รวมถึงมีความคืบหน้าที่ดีในกลุ่มธุรกิจใหม่ในอนาคต และเพื่อรับผลงานในส่วนยอดขายที่ลดลง ตัวซีอีโอและกลุ่มผู้บริหารระดับสูงทั้งหมดจะงดรับเงินค่าตอบแทนพิเศษของปี 2013
โนเกียรายงานว่าได้ยุติการดำเนินงานธุรกิจอุปกรณ์และบริการ (Devices & Services) ที่บริษัทขายให้ไมโครซอฟท์แล้ว โดยจะมีผลในรายงานประจำไตรมาสสุดท้ายและรายงานตลอดทั้งปีของปีที่ผ่านมา
โนเกียยังรายงานว่า ปัจจุบันนี้บริษัทดำเนินสามธุรกิจ คือ Nokia Solutions & Networks (NSN), HERE และ Advanced Technologies และบริษัทจะแถลงผลประกอบการของทั้งสามหน่วยธุรกิจและข้อมูลของธุรกิจที่สิ้นสุดการดำเนินงาน ในวันที่ 23 ม.ค. ที่จะถึงนี้
ที่มา: โนเกีย
อินเทลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2013 มีรายได้ 13.8 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 2.6 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6% ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มเป็น 62% จากปีก่อนอยู่ที่ 58%
ซีอีโอ Brian Krzanich กล่าวว่าไตรมาสที่ 4 บริษัทมีผลประกอบการที่ดีจากสัญญาณที่เริ่มดีขึ้นในกลุ่มธุรกิจพีซี นอกจากนี้ในงาน CES บริษัทยังเปิดตัวผลิตภัณฑ์หลายอย่างที่เดิมไม่อยู่ในแผน แสดงให้เห็นถึงความรวดเร็วมากขึ้นในการปรับตัวที่จะนำเสนอนวัตกรรมใหม่สู่ตลาด
สำหรับรายได้ในกลุ่มธุรกิจพีซีนั้นเพิ่มขึ้น 2%
ที่มา: อินเทล
ซัมซุงเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2013 โดยมีกำไรจากการดำเนินงาน 8.3 ล้านล้านวอน (7.8 พันล้านดอลลาร์) ถือเป็นกำไรที่ลดลงครั้งแรกในรอบ 9 ไตรมาส และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งก็ประเมินว่าจะลดลงอยู่แล้ว
ทั้งนี้ซัมซุงไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของผลประกอบการตามหน่วยธุรกิจ โดยจะรายงานอย่างเป็นทางการวันที่ 24 มกราคมนี้ ด้านนักวิเคราะห์ให้สาเหตุที่ส่งผลต่อกำไรซัมซุงว่าจะมาจากหลายปัจจัย
HTC รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี มีกำไรสุทธิ 310 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ลดลง 70% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน โดยมีรายได้รวม 42.9 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน
ถ้าดูแค่กำไรสุทธิก็อาจรู้สึกว่า HTC สถานการณ์ดีขึ้น เพราะไตรมาสก่อนหน้านี้ขาดทุนเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์บริษัท แต่ทว่าในไตรมาสที่ 4 นี้บริษัทมีรายการพิเศษจากการขายหุ้น Beats ที่ทำให้บริษัทบันทึกกำไรได้ 85 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ฉะนั้นเมื่อหักลบแล้ว HTC ก็ยังคงขาดทุนในธุรกิจหลักต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่สองนั่นเอง
ข่าวนี้ต่อเนื่องจาก มวลมหาการขาดทุน - BlackBerry รายงานผลประกอบการล่าสุดขาดทุน 4.4 พันล้านดอลลาร์
John Chen ซีอีโอของ BlackBerry (ที่มาทำงานถาวรแล้ว ไม่ได้เป็นแค่ซีอีโอชั่วคราว) ให้สัมภาษณ์ต่อเนื่องหลังการแถลงผลประกอบการว่าปี 2014 จะเป็นปีที่สำคัญมากของบริษัท และจะเป็นปีที่บริษัทเน้นการลงทุนเพิ่มเติมในด้านต่างๆ เพื่อให้กลับมาได้ในอนาคต
เขาคาดหวังว่าผลประกอบการของ BlackBerry จะเปลี่ยนจากขาดทุนเป็นเท่าทุนในปี 2015 และกลับมาทำกำไรได้อีกครั้งในปี 2016 โดยยุทธศาสตร์จะเน้นการเติบโตของยอดขายจริง ไม่ใช่การลดค่าใช้จ่ายเพื่อให้บริษัทกลับมามีกำไร
BlackBerry รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัทสิ้นสุดเดือนพฤศจิกายน มีรายได้รวม 1,193 ล้านดอลลาร์ ลดลง 56% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และลดลง 24% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้
สมาร์ทโฟนในไตรมาสนี้ขายได้ 1.9 ล้านเครื่องซึ่งส่วนใหญ่เป็นระบบปฏิบัติการเก่า BlackBerry 7 และสุทธิแล้วไตรมาสนี้ขาดทุนสูงถึง 4,401 ล้านดอลลาร์
กูเกิลไม่ค่อยเปิดเผยรายละเอียดด้านผลประกอบการของ YouTube มากนัก (มักรวมอยู่ในงบของทั้งบริษัท) แต่ล่าสุดบริษัทวิจัยตลาด eMarketer ประเมินว่า YouTube น่าจะมีรายได้มากถึง 5.6 พันล้านดอลลาร์ตลอดปี 2013 หรือโตขึ้น 51.4% จากปีก่อน
ถ้าตัวเลขนี้เป็นจริง YouTube จะทำรายได้ให้กูเกิลคิดเป็น 11.1% ของรายได้ทั้งบริษัท
ส่วนกำไรหลังหักค่าใช้จ่าย (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นส่วนแบ่งให้กับเจ้าของวิดีโอ) จะเหลือที่ 1.96 พันล้านดอลลาร์ ถือว่าเติบโตขึ้น 65.5% จากปีก่อน ซึ่งก็ถือว่าไม่เลวเลยสำหรับบริการที่เคยขาดทุนมากๆ ในอดีตตัวนี้
ที่มา - Guardian
ถ้ายังจำกันได้ เมื่อปี 2009 ที่ไมโครซอฟท์ซื้อยาฮูไม่สำเร็จ สองบริษัทก็ตกลงกันว่ายาฮูจะเลิกทำเครื่องมือการค้นหาของตัวเอง และเปลี่ยนมาใช้เอนจิน Bing ของไมโครซอฟท์แทน โดยไมโครซอฟท์จะหักส่วนแบ่งรายได้ของ Bing ให้กับยาฮูจำนวนหนึ่ง (ข่าวเก่า)
ข้อมูลทางการเงินล่าสุดที่ยาฮูเปิดเผยต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) คือรายได้ของบริษัทในไตรมาสล่าสุด (ไตรมาส 3/2013) มาจากสัญญาทางธุรกิจด้านเครื่องมือค้นหากับไมโครซอฟท์ถึง 31% (ช่วงหนึ่งปีก่อนหน้านั้นคือไตรมาส 3/2012 มีสัดส่วน 27%)
HP รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปีการเงิน 2013 สิ้นสุดเดือนตุลาคม มีรายได้รวม 29.1 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 3% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 1.4 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งดีกว่าปีก่อนที่ขาดทุน
ซีอีโอ Meg Whitman กล่าวว่าผลงานในไตรมาสนี้แสดงให้เห็นการฟื้นตัวของ HP ว่ามาถูกทางและจะดำเนินต่อไปในปีการเงิน 2014 ซึ่งบริษัทยังมีอะไรต้องทำอีกมากเพื่อให้เป็นไปตามกลยุทธ์ที่วางไว้ และเพื่อนำเสนอสิ่งต่างๆ ให้กับลูกค้าตามรูปแบบใหม่ของวงการไอที
ในบรรดา 6 กลุ่มธุรกิจของ HP นั้นมีเพียงกลุ่มสินค้าองค์กรที่ยังมีการเติบโต 2% ขณะที่ธุรกิจอื่นได้แก่ พีซี, เครื่องพิมพ์, บริการ, ซอฟต์แวร์ และการเงิน ล้วนมีรายได้ลดลง
องค์กรไม่หวังผลกำไรอย่าง Mozilla ออกมาเผยรายได้ประจำปี 2012 อยู่ที่ 311 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นพรวดพราดจากรายได้ปี 2011 ที่ 163 ล้านดอลลาร์
เหตุผลที่รายได้ของ Mozilla เพิ่มขึ้นมาจากการเจรจาส่วนแบ่งรายได้จาก search engine กับกูเกิล ที่ทำให้ Mozilla มีสัดส่วนรายได้เพิ่มจากสัญญาฉบับก่อนมาก
อย่างไรก็ตาม Mozilla ยังต้องพึ่งพารายได้จากกูเกิลคิดเป็น 90% ของรายได้ทั้งหมดขององค์กร และ Mozilla ก็ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของสัญญากับกูเกิลมากนัก (ซึ่งเป็นจุดที่ Mozilla โดนวิจารณ์มาตลอด)
ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในไทยทั้ง 3 เจ้าได้รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2556 ครบแล้ว โดยไตรมาสที่ผ่านมาเป็นการแข่งขันช่วงชิงลูกค้าเข้ามาใช้งาน 3G
บนเครือข่ายคลื่น 2100 MHz อย่างหนักที่ต่อเนื่องจากไตรมาสที่แล้ว นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์สำคัญคือ
สามารถ ไอ-โมบาย รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2556 มีรายได้รวมถึง 2,658 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 221 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 531.7%
กลุ่มธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ถือเป็นรายได้หลักของสามารถ ไอ-โมบาย โดยคิดเป็นสัดส่วน 89% (ธุรกิจอื่นคือ BUG1113 และ MVNO) มีการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 80.8% ซึ่งเป็นการเติบโตจากสินค้ากลุ่มสมาร์ทโฟน โดยในไตรมาสที่ผ่านมา ไอ-โมบายมีการเปิดตัวสมาร์ทโฟน 9 รุ่นและฟีเจอร์โฟน 4 รุ่น มียอดขายรวมทั้งไตรมาส 9 แสนเครื่อง
สำหรับผลประกอบการไตรมาสที่สามของ LINE มีรายละเอียดตามนี้
Lenovo รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ประจำปีการเงิน 2013/14 ของบริษัท สิ้นสุดเดือนกันยายน มีรายได้รวม 9.8 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 219 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 36%
ตัวเลขส่งมอบพีซีในไตรมาสของ Lenovo ก็ยังคงเพิ่มขึ้นสวนทางกับอุตสาหกรรม เป็นจำนวน 14.1 ล้านเครื่อง และยังรักษาส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ที่ 17.7% ซึ่งสูงที่สุดในประวัติศาสตร์บริษัท โดยในรายละเอียดของพีซีนั้นยอดขาย 51% เป็นสินค้าประเภทแล็ปท็อป ซึ่งเติบโตถึง 8% ขณะที่กลุ่มเดสก์ท็อปเติบโตเพียง 1% (ซึ่งก็ดีกว่าภาพรวมอุตสาหกรรมที่ยังคงลดลง)
ที่มา: Lenovo
เอเซอร์รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ของปี 2013 มีรายได้ 92.15 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน (3.13 พันล้านดอลลาร์) ลดลง 11.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน แต่สุทธิแล้วขาดทุนถึง 13.12 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน (446 ล้านดอลลาร์)
เอเซอร์ระบุว่าปัญหาในไตรมาสที่ผ่านมาเนื่องจากบริษัทเร่งทำยอดขาย Windows 8.1 มากจนกระทบกับอัตรากำไร และยังมีปัญหาการจัดการสินค้าคงคลังด้วย นอกจากนี้บริษัทยังลงบันทึกขาดทุนค่าความนิยมในแบรนด์ที่เอเซอร์ซื้อกิจการอย่าง Gateway และ Packard Bell อีก 9.94 พันล้านดอลลาร์ไต้หวันด้วย และบริษัทยังเตรียมปลดพนักงานออก 7% ทั่วโลกเพื่อลดค่าใช้จ่าย
Facebook รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2013 มีรายได้รวม 2.02 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 60% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน โดยเป็นรายได้จากการโฆษณาที่เพิ่มขึ้น 66% เป็น 1.80 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งรายได้ส่วนโฆษณานี้ 49% มาจากโฆษณาบนมือถือ และสุทธิมีกำไร 425 ล้านดอลลาร์
ซีอีโอ Mark Zuckerberg กล่าวว่าผลงานในไตรมาสที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าเราพร้อมเข้าสู่ยุคถัดไปของบริษัทแล้ว ที่จะนำผู้ใช้งานอีกกว่า 5 พันล้านคนเข้าสู่โลกออนไลน์และโลกเศรษฐกิจแห่งความรู้
หลังจากเริ่มต้นปี 2013 อย่างยากลำบาก ตอนนี้นินเทนโดประกาศผลประกอบการครึ่งปีแรกตามปีงบประมาณ (นับตั้งแต่เดือนเมษายน-กันยายน) ทำรายได้รวม 196.5 พันล้านเยน ยังขาดทุนจากการดำเนินงานอยู่ราว 23.2 พันล้านเยน แต่ยังปิดครึ่งปีแรกได้โดยไม่ตัวแดง ทำกำไรไปได้เล็กน้อยที่ 600 ล้านเยน
ส่วนตัวเลขยอดขายของแต่ละเครื่องเกม ครึ่งปีแรก Wii U ขายเพิ่มได้อีก 460,000 เครื่อง ยอดรวมตอนนี้อยู่ที่ 3.9 ล้านเครื่องแล้ว ฝั่งเกม Wii U ขายเพิ่มได้อีก 6.3 ล้านก็อปปี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นมาค่อนข้างมาก ส่วนหนึ่งมาจากเกมเด่นๆ อย่าง Pikmin 3 และ Zelda ภาคใหม่นั่นเอง
โนเกียรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2013 มีรายได้รวมลดลง 22% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนเป็น 5.66 พันล้านยูโร แต่กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 139% เป็น 215 ล้านยูโร และขาดทุนสุทธิ 86 ล้านยูโร โดยนี่เป็นการรายงานผลประกอบการครั้งแรกหลังไมโครซอฟท์เข้าซื้อส่วนธุรกิจโทรศัพท์มือถือ ซึ่งส่วนธุรกิจนี้ยังขาดทุนจากการดำเนินงานอยู่ 86 ล้านยูโร
Lumia ในไตรมาสนี้ขายได้ 8.8 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 7.4 ล้านเครื่อง โดยเป็นยอดขายในอเมริกาถึง 1.4 ล้านเครื่อง ส่วน Asha ขายได้ 5.9 ล้านเครื่อง และยอดขายโทรศัพท์มือถือรวมทั้งหมดคือ 64.6 ล้านเครื่อง
โนเกียเผยผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ มีรายได้ 5.66 พันล้านยูโร ลดลง 22% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ถ้าหากดูรายได้รวมแล้วถือว่าโนเกียกลับมามีกำไรอีกรอบ ภายหลังจากที่มีกำไรเมื่อปลายปีที่แล้ว
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมที่น่าสนใจมีดังนี้ครับ
แอปเปิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่สี่ตามปีการเงินบริษัท มีรายได้รวม 37.5 พันล้านดอลลาร์ กำไรสุทธิ 7.5 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ไตรมาสเดียวกันในปีก่อน รายได้รวมอยู่ที่ 36 พันล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 8.2 พันล้านดอลลาร์ ส่วนอัตรากำไรอยู่ที่ 37% ลดลงจากปีก่อนที่ 40% และยอดขาย 60% อยู่นอกอเมริกา
สำหรับยอดขายรายหมวดผลิตภัณฑ์นั้น iPhone ขายได้ 33.8 ล้านเครื่อง เป็นสถิติสูงสุดใหม่ของไตรมาสโดยปีก่อนขายได้ 26.9 ล้านเครื่อง ส่วน iPad ขายได้ 14.1 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเล็กน้อยที่ 14 ล้านเครื่อง ส่วน Mac ขายได้ 4.6 ล้านเครื่อง ลดลงจากปีก่อนที่ขายได้ 4.9 ล้านเครื่อง
Zynga รายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุด ขาดทุน 68,000 ดอลลาร์ จากรายได้รวม 203 ล้านดอลลาร์ซึ่งลดลง 36% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ส่วนตัวเลขผู้เล่นเกมลดลงกว่าครึ่งมาอยู่ที่ 30 ล้านคนต่อวัน ส่วนผู้เล่นเป็นประจำทุกเดือนอยู่ที่ 133 ล้านคน
ซีอีโอคนใหม่ Don Mattrick บอกว่าเขายังมั่นใจว่า Zynga จะกลับมาเติบโตได้ และประกาศแต่งตั้ง Clive Downie จากบริษัทเกม DeNA ของญี่ปุ่นมาเป็นซีโอโอคนใหม่
ที่มา: TechCrunch
อเมซอนรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2013 โดยยังขาดทุนอีก 41 ล้านดอลลาร์ แต่ก็ขาดทุนน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดกันไว้ ขณะที่รายได้นั้นเติบโตถึง 24% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน อยู่ที่ 17.1 พันล้านดอลลาร์
แม้ว่าบริษัทจะกำไรเล็กน้อยสลับกับขาดทุน แต่นักลงทุนก็ยังคงมั่นใจในยุทธศาสตร์ของอเมซอนที่เลือกทำกำไรต่ำแต่หวังผลการเติบโตในระยะยาว ซึ่งก็คงต้องใช้เวลาต่อไปเพราะอเมซอนประเมินว่าไตรมาสที่ 4 ก็จะยังขาดทุนอีกเช่นเคย
ที่มา: GeekWire
LG รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ของปี 2013 มีรายได้รวม 13.89 ล้านล้านวอน (ประมาณ 12.51 พันล้านดอลลาร์) และมีกำไรจากการดำเนินงานสุทธิ 217.8 พันล้านวอน เพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน
กลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้มากที่สุดยังเป็นกลุ่ม LG Home Entertainment แต่รายได้ลดลง 7% ขณะที่กลุ่ม LG Mobile Communications รายได้เพิ่มขึ้นถึง 24% โดยมียอดส่งมอบสมาร์ทโฟนถึง 12 ล้านเครื่อง แต่บริษัทยอมรับว่ากำไรส่วนนี้ยังคงลดลง เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงและบริษัทต้องลงทุนในค่าการตลาดเพิ่มสูงขึ้นมาก ซึ่งบริษัทจะแก้ไขปัญหานี้โดยเร่งยอดขายสินค้าระดับบนอย่าง LG G2 และเร่งออกสินค้าระดับบนตัวใหม่ให้มากขึ้น
ที่มา: BGR
ซัมซุงรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2013 มีรายได้ 59.08 ล้านล้านวอน (ประมาณ 55.59 พันล้านดอลลาร์) และมีกำไรสุทธิ 8.05 ล้านล้านวอน (ประมาณ 7.6 พันล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ตัวเลขนี้สูงกว่าที่ซัมซุงออกมาประเมินก่อนหน้านี้เล็กน้อย และถือเป็นสถิติสูงสุดใหม่ของบริษัทอีกครั้ง
กลุ่มธุรกิจโทรศัพท์มือถือที่เป็นรายได้หลัก 2 ใน 3 ของซัมซุงยังคงเติบโต โดยสมาร์ทโฟนระดับล่างโต 10% ส่วนสมาร์ทโฟนระดับบนนั้นทรงตัว ขณะที่แท็บเล็ตเติบโตถึง 20%