Slice รายงานประมาณยอดขาย Apple Watch จากการสำรวจผู้ใช้ 21,427 คน พบว่ายอดขายน่าจะตกลงอย่างต่อเนื่องหลังจากเปิดตัว
จากรายงานของ Slice ที่ไม่รวมช่วงสุดสัปดาห์ที่เริ่มขายครั้งแรก Apple Watch มียอดขายช่วงแรกอยู่ระหว่าง 15,000 ถึง 40,000 เครื่องต่อวัน แต่ในช่วงครึ่งเดือนหลังมานี้ยอดขายกลับตกลงเหลือไม่ถึง 10,000 เครื่องต่อวัน
จนถึงตอนนี้ทาง Slice คาดว่า Apple Watch Sport ขายได้แล้ว 1.91 ล้านเครื่อง ขณะที่รุ่นสายโลหะขายได้ 1.05 ล้านเครื่อง
ถ้าพูดถึงระบบแชร์ไฟล์จากแอปเปิล หลายคนคงนึกถึง AirDrop ฟีเจอร์แชร์ไฟล์ไร้สายที่ใช้งานได้เกือบทุกอุปกรณ์ของแอปเปิล ... ยกเว้น Apple Watch สมาร์ทวอทช์ตัวใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวมาได้ไม่นานนี้
แน่นอนว่าด้วยขนาดหน้าจอที่เล็กของ Apple Watch การจะยัดอินเทอร์เฟซแชร์ไฟล์ที่ใช้ในสมาร์ทโฟนคงยากเป็นไหนๆ แต่โชคดีที่แอปเปิลคิดเรื่องนี้อยู่แล้ว ด้วยสิทธิบัตรตัวใหม่ที่ให้ผู้ใช้ Apple Watch สามารถแชร์ไฟล์ได้ผ่าน gesture โดยไม่ต้องกดหน้าจอแต่อย่างใด
วิธีการที่ใช้คือการทำงานร่วมกันระหว่างตัวเชื่อมต่ออย่าง NFC, Bluetooth หรือ Wi-Fi ร่วมกับเซ็นเซอร์ที่สามารถจับ gesture ได้ เมื่อผู้ใช้ทำ gesture ที่ตรงกับเงื่อนไข เช่น จับมือ แปะมือ หรือแลกกำปั้นกัน ฟีเจอร์แชร์ไฟล์ก็จะทำงาน
ก่อนที่ Apple Watch จะเริ่มวางขายในไทยในเดือนหน้านี้ แอพแชตที่ชูจุดเด่นด้านความปลอดภัยอย่าง Telegram ก็ได้อัพเดตแอพให้รองรับการใช้งานร่วมกับ Apple Watch แล้ว โดยสามารถแสดงการสนทนาและตอบกลับได้ด้วยสติกเกอร์, ตำแหน่ง, อีโมจิ, ประโยคที่ตั้งไว้ หรือคำที่คาดเดาขึ้นมา นอกจากนี้ยังสามารถดูข้อมูลผู้ใช้และกลุ่ม, เริ่มการสนทนาใหม่ หรือแม้กระทั่งบล็อคผู้ใช้
หลังจากที่แอปเปิลได้เปิดขาย Apple Watch ในประเทศอิตาลี เม็กซิโก สิงคโปร์ เกาหลีใต้ สเปน และไต้หวันเมื่อวานนี้ ทางแอปเปิลก็ได้เปิดเผยข้อมูลในเว็บไซต์อย่างเงียบๆ ว่าจะเริ่มทำการจำหน่าย Apple Watch ในประเทศเนเธอร์แลนด์ สวีเดน และไทย ในวันที่ 17 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป
Apple Watch จะมีจำหน่ายบน Apple Online Store และทางตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยครับ
อัพเดท
ราคาบน Apple Online Store เปิดตัวออกมาแล้ว ดังนี้
Apple Watch Sport ราคา 13,500 ถึง 15,500 บาท
Apple Watch ราคา 20,500 ถึง 22,500 บาท
Apple Watch Edition ราคาเริ่มต้นที่ 395,000 บาท ไปจนถึง 660,000 บาท
สหภาพอุตสาหกรรมนาฬิกาสวิส (Federation of the Swiss Watch Industry หรือ FSWI) ออกรายงานว่ายอดส่งออกนาฬิกาสวิสไปยังสหรัฐอเมริกาในช่วงเดือนเมษายนและพฤษภาคมตกลง 9% ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2009 และสาเหตุก็มาจากการเปิดตัว Apple Watch ในช่วงเดือนเมษายน
นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ว่าตลาดนาฬิกาสวิสในสหรัฐน่าจะโตเพียงแค่เลขหลักเดียว โดยจะลดลงจาก 6% ในปีที่แล้ว นอกจากสหรัฐแล้ว ตลาดฮ่องกงก็มียอดส่งออกลดลงถึง 34% ทั้งๆ ที่ตามปกติคนจีนมักจะซื้อนาฬิกาสวิสจากการลดกำแพงภาษีลง อย่างในก็ดีคาดว่าการที่ในปีนี้วันหยุดในเดือนพฤษภาคมน้อยกว่าปีที่แล้ว อาจส่งผลให้คนฮ่องกงซื้อนาฬิกาน้อยลงด้วยเช่นกัน
เก็บตกงานเมื่อคืนนี้ส่วนของนักพัฒนา นอกจากแอปเปิลจะปล่อย Swift ให้เป็นโอเพนซอร์สแล้ว ฝั่งนักพัฒนายังได้ API เพิ่มเติม ทั้งบน CarPlay และ Apple Watch
ในส่วนของ CarPlay เวอร์ชันใหม่จะเปิดให้ผู้ผลิตรถสามารถพัฒนาแอพเพื่อเชื่อมต่อกับ CarPlay ได้โดยตรง เพื่อควบคุมบางฟังก์ชันของรถ ซึ่งไม่ระบุมาว่าจะมีอะไรบ้าง (อาจจะเป็นพวกเปิด-ปิดกระจก) พร้อมกับฟีเจอร์สำคัญคือการใช้งานแบบไร้สาย จากเดิมที่ต้องต่อสาย Lightning เข้ากับตัวรถเพื่อใช้งาน CarPlay โดยฟีเจอร์ไร้สายตอนนี้ยังไม่รองรับในตัวรถรุ่นปัจจุบัน
แอปเปิลเพิ่มหน้าปัดนาฬิกาใหม่ การแสดงข้อมูลจากแอพ 3rd party ในหน้าปัดนาฬิกา เพิ่มฟีเจอร์ Mail, Friend และ Digital Touch ในส่วนของผู้ใช้งาน
ด้านนักพัฒนาจะได้รับประโยชน์จากการเข้าถึงฮาร์ดแวร์ต่างๆ บน Apple Watch เช่น Digital Crown, Taptic Engine และเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ รวมถึง API ใหม่ๆ
watchOS 2 จะเปิดให้ผู้ใช้ Apple Watch อัพเดตในฤดูใบไม้ผลินี้ (ช่วงเดือนกันยายน – ตุลาคม) เช่นเดียวกับ iOS 9
หลังจากที่ปล่อยให้จองผ่านเว็บและรอกันมานาน ล่าสุดแอปเปิลประกาศแล้วว่า Apple Watch หลายๆ รุ่น (a number of models) จะเริ่มถูกวางจำหน่ายทั้งในสโตร์และออนไลน์ในสหรัฐอเมริกาในอีก 2 อาทิตย์ข้างหน้าแล้ว
ขณะที่อีกอาทิตย์ถัดมาในวันที่ 26 มิถุนายน จะถูกวางจำหน่ายใน 7 กลุ่มประเทศแรกก่อนคือ อิตาลี เม็กซิโก เกาหลีใต้ สิงคโปร์ สเปน ไต้หวัน และสวิตเซอร์แลนด์ ทั้งนี้แอปเปิลยังชี้แจงด้วยว่าออเดอร์ของ Apple Watch ทุกรุ่นที่จองไว้ตั้งแต่เดือนที่แล้ว จะถูกจัดส่งให้ผู้จองในอีก 2 อาทิตย์ข้างหน้า ยกเว้นรุ่นสเตนเลสขนาด 42 มิลลิเมตรพร้อมสายแบบ link bracelet ที่ต้องรอเพิ่มอีก 2 อาทิตย์
ในการให้สัมภาษณ์รอบล่าสุดกับทาง Bloomberg ผู้บริหารของ Montblanc หนึ่งในบริษัทผลิตสินค้าหรูชื่อดัง ออกมาระบุว่าแนวทางการออกแบบนาฬิกาอัจฉริยะที่เป็นสายนาฬิกาติดไปกับตัวนาฬิกาหลัก (ข่าวเก่า) จะเป็นแนวทางที่ยั่งยืน (outlast) มากกว่า Apple Watch
ก่อนถึงงาน WWDC ที่คาดว่าแอปเปิลจะเปิดตัว iOS 9 และ OS X 10.11 ในปีนี้ก็มีรายงานออกมาว่าปีนี้แอปเปิลจะปรับฟอนต์ของทั้งสองระบบปฏิบัติการเสียใหม่ หลังจากเพิ่งเปลี่ยนมาใช้ Helvetica Neue เมื่อปี 2013 ที่ผ่านมา
ฟอนต์ตัวใหม่ที่แหล่งข่าวรายงานว่าจะนำมาใช้กับ iOS 9 และ OS X 10.11 ก็คือ "San Francisco" ที่เพิ่งใช้เป็นครั้งแรกกับ Apple Watch เมื่อช่วงปลายปีก่อน โดยจุดเด่นของฟอนต์ตัวนี้อยู่ที่คงความชัดเจน และอ่านง่ายในทุกขนาด รวมถึงทำให้ทั้งสองแพลตฟอร์มมีความเข้ากันได้มากขึ้นในแง่ของรูปลักษณ์ แต่ก็มีเสียงติงมาว่าฟอนต์ San Francisco นั้นไม่เหมาะกับหน้าจอที่ไม่ใช่ Retina Display ซักเท่าไร
Jeff Benjamin แห่ง iDownloadBlog ได้เขียนบทความแสดงความกังวลต่อ Apple Watch ว่าคุณสมบัติหนึ่งที่ควรมีอย่างมากแต่ยังไม่มีคือ Activation Lock ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เริ่มมีใน iOS 7 ทั้งบน iPhone และ iPad ซึ่งทำให้หลังการรีเซ็ตเครื่อง ก็ยังต้องใส่รหัสผ่านอีกชั้นหากต้องการใช้ต่อ จึงเป็นการยากที่เครื่องถูกขโมยจะนำไปใช้งานต่อได้
Apple Watch ปัจจุบันมีการใช้รหัสผ่าน Passcode หากนาฬิกาไม่ถูกสวมใส่ ซึ่งทำได้เพื่อป้องกันข้อมูลใน Apple Watch เท่านั้น แต่ผลการทดสอบพบว่าเราสามารถสั่งลบข้อมูลทั้งเครื่องได้ง่ายมากโดยไม่ต้องใส่ Passcode เลยด้วยซ้ำ อีกทั้งยังสามารถนำไปจับคู่กับ iPhone เครื่องอื่นได้เลยด้วย
บริษัทไปรษณีย์ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของรัฐบาลกลางออสเตรเลีย ประกาศออกแอพสำหรับ Apple Watch ในวันนี้ ซึ่งผู้ใช้สามารถนำเอาไปใช้ในการเปิดตู้ไปรษณีย์ของตัวเอง ณ ที่ทำการไปรษณีย์ได้
สำหรับตัวแอพ นอกจากจะเอาไว้แจ้งเตือนการส่งไปรษณีย์และพัสดุแล้ว ยังสามารถสร้าง QR Code เพื่อไว้สำหรับสแกนเพื่อเปิดตู้ไปรษณีย์ ณ ที่ทำการไปรษณีย์บางแห่งที่กำหนดเอาไว้ได้ด้วย (ไปรษณีย์ออสเตรเลียเรียกบริการนี้ว่า Parcel Locker ลองดูวิดีโอได้ท้ายข่าว)
ที่มา - Australia Post
แม้ว่าตัวเลือกของสาย Apple Watch จากแอปเปิลจะมีมาให้มหาศาล แต่สำหรับคนที่ไม่ถูกใจสายของแอปเปิลเลย (หรืออาจด้วยเหตุผลอื่นๆ) จะสามารถใช้สายนาฬิกาของผู้ผลิตภายนอกได้เร็วๆ นี้ หลังจากแอปเปิลออกมาเผยแนวทางการทำสายนาฬิกาสำหรับผู้ผลิตภายนอกมาแล้ว
ตัวโครงการนี้เรียกว่า Made for Apple Watch แบบเดียวกับที่แอปเปิลทำในอุปกรณ์เสริมของ iPhone โดยมีข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น ต้องใช้ที่ล็อกมาตรฐานแบบเดียวกับแอปเปิล ห้ามรวมฟีเจอร์ชาร์จเข้ามาในสาย มีความยาวตามมาตรฐานที่กำหนด และผ่านมาตรฐานความคงทนที่แอปเปิลตั้งไว้ รวมถึงวัสดุที่ใช้ด้วย
พร้อมกับโครงการดังกล่าว แอปเปิลได้ปล่อยพิมพ์เขียวสำหรับทำสายของทั้งขนาด 38 และ 42 มม. มาด้วย รายละเอียดสามารถอ่านได้จากเอกสารในที่มาครับ
แปลกอยู่อย่างที่หลังๆ นโยบายของ LINE มักจะทำแอพบน Android ก่อนเสมอ แต่ครั้งนี้มีการทำแอพรองรับ Apple Watch ด้วย แต่ก็เป็นเรื่องของ LINE เอาเป็นว่าหลังจากนี้ ใครที่ใช้ Apple Watch ก็สามารถใช้ LINE ได้ ในการอ่านข้อความ และส่งอีโมจิตอบกลับได้ (ยังทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้)
ดูภาพตัวอย่างของแอพ LINE บน Apple Watch ได้ท้ายเบรก
ที่มา - LINE
เริ่มมีคนได้ Apple Watch ล็อตแรกที่วางขายกัน ทางฝั่งจอมแกะอย่าง iFixit ก็พร้อมสำหรับการแยกชิ้นส่วนสมาร์ทวอทช์ตัวแรกของแอปเปิล รวดเดียวทั้งสองขนาด สองรุ่น (อะลูมิเนียม และสเตนเลส)
ด้วยขนาดอันเล็กจิ๋วของ Apple Watch ทำให้ชิ้นส่วนภายในเล็กตามไปเสียหมด ภายในวางชิ้นส่วนไว้อย่างสะอาด และเป็นที่เป็นทาง การเปลี่ยนหน้าจอแม้ว่าจะแกะได้ยากไปเสียหน่อย แต่ก็เป็นชิ้นส่วนแรกสามารถนำออกมาได้ทันที รวมถึงแบตเตอรี่ที่เปลี่ยนได้ง่ายแม้ว่าจะใช้กาวเชื่อมกับตัวเครื่องก็ตาม
ความยากในการซ่อมแซมของ Apple Watch จะอยู่ที่ชิ้นส่วนขนาดเล็กอย่างน็อตที่เล็กกว่าปกติทำให้ต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้น อุปกรณ์อื่นๆ รวมถึงชิป Apple S1 ถูกฝังลงไปในบอร์ด ถ้าพังก็เปลี่ยนใหม่หมดสถานเดียว
แอพ Blognone Community ออกอัพเดตเวอร์ชัน 2.0 เพิ่มความสามารถให้แอพหลักโดยสามารถอ่านข่าวจากหมวดต่างๆ, แสดงระดับคอมเมนต์ระดับต่างๆ ได้ถูกต้อง, การเข้าถึงจาก Today Widget และความสามารถอื่นๆ
ความสามารถเวอร์ชัน Apple Watch ยังรองรับแค่การอ่านข่าวจากหน้าแรกเท่านั้น
สนใจดาวน์โหลดได้แล้วที่ App Store ครับ
เว็บไซต์รายงานข่าวสายแอปเปิล 9to5mac เปิดเผยเอกสารภายในของแอปเปิลที่ได้มา ซึ่งเป็นขั้นตอนในการขอคืนสินค้าสำหรับ Apple Watch Edition ที่เป็น Apple Watch รุ่นราคาแพงที่สุดและหรูที่สุดกว่ารุ่นอื่น โดยระบุว่ากระบวนการคืนสินค้าจะยุ่งยากมากกว่ารุ่นปกติ
จากเอกสารระบุว่า ผู้ที่นำเอา Apple Watch Edition มาคืนนั้น จะต้องผ่านกระบวนการขั้นตอนต่างๆ จำนวนมาก เช่น ตัวเครื่องจะต้องผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียดจากช่าง เพื่อพิสูจน์ว่าไม่มีการขูดเอาทองที่ขึ้นเป็นตัวเรือนออกไป หรือไม่มีการแกะสลักและเป็นรอยใดๆ รวมถึงจะต้องให้หัวหน้าสาขา (store leader) เป็นผู้ทำรายการคืนสินค้าด้วย
กระบวนการซื้อที่ว่ายากแล้ว กระบวนการคืนโดยเฉพาะของแพงนั้นยากกว่า
ใกล้จะถึงวันวางจำหน่าย Apple Watch นาฬิกาอัจฉริยะตัวแรกของ Apple อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งมีข่าวมาตลอดว่าทำยอดจองได้ดีมาก ทว่าด้วยระบบการจัดจำหน่ายสินค้าแบบใหม่ ทำให้คนที่สั่ง Apple Watch ตอนนี้ต้องรอของค่อนข้างนาน รวมไปถึงมีจำหน่ายเพียงบางประเทศเท่านั้น ทำให้คนที่อยากไปเล่นตัวจริง ต้องไปที่ร้าน Apple Store หรือมุมของ Apple Watch ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำที่สำคัญๆ ในประเทศที่กำหนดไว้
ไมโครซอฟท์อัพเดตแอพ PowerPoint for iOS เป็นรุ่น 1.8 โดยผนวกแอพ PowerPoint Remote App for Apple Watch สำหรับเริ่มต้นการนำเสนอ เปลี่ยนสไลด์บน iPhone และดูเวลาที่ใช้นำเสนอไป เลขสไลด์ปัจจุบันกับจำนวนสไลด์ทั้งหมดได้จาก Apple Watch โดยตรง
ดาวน์โหลดได้จาก App Store ครับ
อนึ่ง นี่เป็นแอพตัวที่สองจากไมโครซอฟท์ที่ได้รับอัพเดตเพื่อเพิ่มความสามารถผ่านการใช้งานบน Apple Watch โดยแอพตัวแรกคือ OneDrive for iOS ครับ
หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมคราวนี้ไม่มีการเข้าไปต่อคิวยาว ๆ เพื่อซื้อ Apple Watch เช่นเดียวกับสินค้าแอปเปิลชนิดอื่น ๆ จากรายงานล่าสุดของ The New York Times แอปเปิลได้เลือกใช้ช่องทางการจำหน่ายสำหรับ Apple Watch ใหม่ทั้งหมด โดยได้เลือกที่จะวางขาย Apple Watch เป็นสินค้าประเภทแฟชั่นระดับหรูแทน
ซึ่งหมายความว่าคู่ค้าที่ได้สิทธิในการจำหน่ายสินค้าของแอปเปิลรายเดิม ๆ เช่น Best Buy ในสหรัฐฯ จะไม่สามารถนำ Apple Watch มาจำหน่ายได้ แต่ในทางกลับกันแอปเปิลกลับเลือกที่จะเปิดร้านจำหน่าย Apple Watch ตามห้างสรรพสินค้าหรู ควบคู่ไปกับร้าน Apple Store แทน
ไมโครซอฟท์อัพเดตแอพ OneDrive for iOS เป็นรุ่น 5.3 มีฟีเจอร์ใหม่ดังนี้
ดาวน์โหลดได้แล้วที่ App Store ครับ
ที่มา: App Store
หนังสือพิมพ์จากประเทศไต้หวัน ระบุว่าไอโฟนรุ่นต่อไปจะเปลี่ยนมาใช้วัสดุอะลูมิเนียมที่แอปเปิลได้สั่งผลิตพิเศษเพื่อ Apple Watch Sport โดยแอปเปิลได้เรียกอะลูมิเนียมชนิดนี้ว่า "อะลูมิเนียมอัลลอย ซีรีส์ 7000"
ตามคำอธิบายในการตลาดของแอปเปิล อะลูมิเนียมอัลลอย ซีรีส์ 7000 มีความแข็งแรงกว่าอะลูมิเนียมธรรมดาถึง 60% มีความหนาแน่นที่ 1 ใน 3 ของเหล็กสเตนเลส แต่ยังมีน้ำหนักที่เบาอยู่เท่าเดิม โดยผู้ใช้จะรู้สึกว่าพื้นผิวของวัสดุดังกล่าวนั้นเรียบ แต่มีความหยาบเหมือนเนื้อผ้าซาติน นอกจากนี้ยังมีขั้นตอนเคลือบผิววัสดุเพื่อป้องกันการเกิดรอยขูดขีดอีกด้วย
แม้ว่าแอปเปิลยังไม่ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่าสามารถจำหน่าย Apple Watch ไปได้กี่เรือนแล้ว แต่ล่าสุดรายงานจาก KGI Securities อ้างว่ายอดสั่งซื้อล่วงหน้า Apple Watch ทั่วโลกน่าจะอยู่ที่ 2.3 ล้านเรือนแล้ว
ข้อมูลจากทาง KGI Securities ได้ใช้วิธีเปรียบเทียบความสามารถในการผลิตกับระยะเวลาในการรอสินค้า โดยทาง KGI สามารถเข้าถึงข้อมูลจากห่วงโซ่อุปทานของแอปเปิลได้ และพบว่าแอปเปิลสามารถผลิต Apple Watch ได้ประมาณ 2.3 ล้านเรือนในช่วงเดือนมีนาคมไปจนถึงพฤษภาคม แต่กลุ่มลูกค้าที่ได้สั่งซื้อล่วงหน้าไปแล้ว กลับจะได้รับสินค้าจริงช่วงต้นเดือนมิถุนายน ทำให้ทาง KGI เชื่อว่าแอปเปิลน่าจะมียอดขาย Apple Watch เกิน 2.3 ล้านเรือนแล้ว
ในช่วงที่ผ่านมา Apple ได้เริ่มส่งมอบ Apple Watch Edition ให้กับดาราและผู้มีชื่อเสียงหลายคน (ไม่มีข้อมูลว่าซื้อเองหรือไม่) แต่กับกรณีของนักออกแบบอย่าง Karl Lagerfeld ซึ่งเป็นหัวหน้านักออกแบบของแบรนด์อย่าง Chanel และ Fendi นอกจาก Apple จะส่งมอบ Apple Watch Edition แล้ว ยังส่งมอบสายนาฬิกาที่ทำมาจากทองคำอีกด้วย
ภาพของ Apple Watch Edition พร้อมสายทองคำดังกล่าว (ดูได้จากที่มา) เป็นภาพซึ่งถ่ายโดยบอดี้การ์ดของ Lagerfeld ที่ระบุว่า Apple ได้ทำสายนาฬิกาอันนี้ให้เป็นการเฉพาะ ซึ่งไม่มีการระบุว่านำสายนาฬิกาแบบ Link Bracelet ไปชุบทอง หรือสร้างสายใหม่ที่ทำมาจากทองทั้งหมดแล้วส่งมอบให้กับเจ้าตัวเลย
แอพจัดการรหัสผ่าน 1Password ได้ปล่อยอัพเดตล่าสุดเป็นเวอร์ชัน 5.4 ให้กับระบบปฏิบัติการกลุ่ม iOS อย่างเป็นทางการแล้วในวันนี้ โดยของสำคัญที่สุดก็คือการอัพเดตแอพให้รองรับกับ Apple Watch อย่างเป็นทางการ ซึ่งผู้ใช้จะสามารถแสดงรหัสหรือข้อมูลที่สำคัญผ่านหน้าจอของ Apple Watch ได้ทันทีอย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตาม หากต้องการใช้คุณสมบัติดังกล่าวนี้ ผู้ใช้งานจะต้องจ่ายเงินเพิ่มเพื่อปลดล็อกคุณสมบัติดังกล่าวนี้ในราคา 9.99 ดอลลาร์ สรอ. (ประมาณ 320 บาท) ครับ
ที่มา - iMore