ทั้งบิล เกตส์ และสตีฟ จ็อบส์ต่างยืนยันว่าจะขึ้นไปถกเรื่องอนาคตของวงการไอทีบนเวทีเดียวกัน ในงาน D: All Things Digital ที่จัดโดย Wall Street Journal
รูปแบบของงาน D (ปีนี้ครั้งที่ห้าเรียก D5) จะเป็นการสัมภาษณ์สดล้วนๆ นอกจากจะได้สองคนนี้มาเป็นไฮไลต์แล้ว บรรดา CEO ดังๆ ของวงการก็มากันพร้อมหน้า ไม่ว่าจะเป็น John Chambers (Cisco), Steve Case (AOL ใครจำกันได้บ้าง), Steve Ballmer, Eric Schmidt (Google), Jeff Hawkins (คนคิด Palm) หรือแม้แต่ George Lucas
งานยักษ์แบบนี้บัตรขายหมดตั้งนานแล้ว ใครอยากดูคงต้องรอหลังวันที่ 30 พฤษภาคม น่าจะมีวิดีโอ ผมแอบหวังให้เริ่มต้นมาแบบนี้คงเยี่ยม
"Hi, I'm Steve" "Hi, I'm Bill"
Jonathan Schwartz ประธานและซีอีโอของ Sun Microsystems ได้เขียนบล็อกเกี่ยวกับ OpenDocument โดยใช้วิธีเปรียบเทียบให้เข้าใจได้ง่าย ผมเห็นว่าบล็อกอันนี้มีประโยชน์และจะช่วยเผยแพร่ OpenDocument และแนวคิดด้านมาตรฐานเปิดในบ้านเรา เลยแปลมาให้อ่านกัน
ร่วมกันโปรโมท OpenDocument โดยส่งเรื่องนี้ไปให้คนรู้จักของคุณอ่าน หรือใส่ลิงก์กลับมายังบล็อกนี้ในเว็บของคุณ
ผลการศึกษาที่สปอนเซอร์โดย AMD พบว่าปี 2005 ปริมาณการใช้ไฟของเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดในสหรัฐคิดเป็น 0.6% ของการใช้ไฟทั้งประเทศ และถ้านับรวมระบบทำความเย็นของเซิร์ฟเวอร์ด้วยแล้ว ตัวเลขนี้จะขึ้นมาเป็น 1.2% ซึ่งเท่ากับทีวีทั้งประเทศรวมกัน
ตัวเลขเปอร์เซนต์นี้คิดเป็นพลังงาน 5 ล้านกิโลวัตต์ต่อปี (1 ใน 4 ของพลังงานจากโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิล) คิดเป็นเงินก็ 2.7 พันล้านดอลลาร์ ถ้านับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา อัตราการบริโภคพลังงานเพิ่มขึ้นปีละ 14% ซึ่งนับ 5 ปีก็โตขึ้นเป็น 2 เท่าพอดี
Shigeru Miyamoto ให้สัมภาษณ์รายการ Talk Asia ทาง CNN ในหลายแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นประวัติการทำงานของเขาที่นินเทนโด, แนวคิดในการออกแบบเกม, Wii และความรุนแรงในเกมหรือการ์ตูน
อันที่น่าสนใจคือที่มาของชื่อ Wii ซึ่ง Miyamoto บอกว่าคนญี่ปุ่นนิยมเรียกคำย่อ (อย่าง Family + Computer = Famicom) นินเทนโดจึงเลือกคำเดียวที่ไม่สามารถย่อได้อีกแล้ว และชื่อสั้นยังเอาไปนำหน้าชื่อเกมอย่าง "Wii Sports" หรือ "Wii Play" ได้อีกด้วย
Miyamoto บอกว่ากลุ่มลูกค้าที่ท้าทายมากๆ คือผู้หญิง อย่างเช่นภรรยาของเขาที่ทำยังไงก็ไม่ยอมสนใจ เขาหวังว่า Wii จะช่วยให้บรรดาแม่ๆ ทั้งหลายเข้ามามีส่วนร่วมกับกิจกรรมบันเทิงภายในบ้านได้มากขึ้น
ลืมบอกไปว่า Miyamoto คือผู้ใช้กำเนิด Mario, Donkey Kong และ Zelda ครับ
ช่วงหลังๆ นี้ Vista โดนโจมตีเรื่อง DRM หนักมาก บทความที่สำคัญคือ A Cost Analysis of Windows Vista Content Protection (ยาวมาก) ซึ่งไมโครซอฟท์ต้องออกมาตอบคำถามผ่าน Windows Vista Team Blog ซึ่งหลายๆ คนก็ยังมองว่าเป็นการตอบแบบอ้อมแอ้ม
ช่วงนี้มีความเคลื่อนไหวเรื่อง DRM เยอะ หลังคำให้สัมภาษณ์ของสตีฟ จ็อบส์ ก็มีทั้งฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยและต้องการให้คง DRM ต่อไปอย่าง Warner และฝ่ายที่เห็นด้วยกับการปลดล็อค DRM ซึ่งตอนนี้มี Yahoo Music กับ EMI
Dave Goldberg ผู้จัดการของ Yahoo Music ให้สัมภาษณ์ว่าค่ายเพลงเริ่มเข้าใจว่า DRM ไม่มีประโยชน์ และมีแนวโน้มจะปลด DRM กันมากขึ้น ล่าสุดคือ EMI ได้เจรจากับบริการขายเพลงคู่แข่งของ iTunes หลายแห่งไม่ว่าจะเป็น Napster หรือ Yahoo Music ที่จะขายเพลงแบบไม่มี DRM
ที่ผ่านมาเราประจักษ์กันดีแล้วว่า DRM ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาลิขสิทธิ์เท่าไร แถมยังทำร้ายคนตั้งใจดีจะซื้อของถูกกฎหมายด้วย
เนื่องจากคดีด้านสิทธิบัตรซับซ้อนและมีเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกาจึงได้ผ่านกฎหมายที่เตรียมความพร้อมให้กับผู้พิพากษาในการตัดสินคดีเกี่ยวกับสิทธิบัตร
(ถ้าผมแปลผิดก็แก้ด้วยนะครับ) ใจความสำคัญของกฎหมายก็คือการเลือกตัวผู้พิพากษาแบบสุ่มสำหรับคดีทางด้านสิทธิบัตร เพื่อให้ผู้พิพากษาทุกคนมีโอกาสได้ตัดสินคดีแบบนี้โดยเท่าเทียมกัน ประสบการณ์ไม่ไปกองอยู่กับผู้พิพากษาที่เชี่ยวชาญบางกลุ่ม โครงการนี้มีเวลา 10 ปีพร้อมกับงบอุดหนุนการอบรมอีกจำนวนหนึ่ง
BSA ได้ออกมาแสดงการชื่นชมกฎหมายนี้ โดยบอกว่าจะช่วยสนับสนุนทางด้านทรัพยากรและเครื่องมือสำหรับคดีแบบนี้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
จากที่เคยมีข่าวว่า Ubuntu เตรียมจะรวมไดรเวอร์การ์ดจอแบบ closed source ของ Nvidia และ ATI มาลงให้ตั้งแต่ตอนติดตั้ง ก็ทำให้เกิดข้อถกเถียงมากมาย ฝั่งสนับสนุนมองว่ามันจะช่วยให้การใช้งาน Beryl และเอฟเฟคต์ชนิดใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้น ส่วนฝั่งคัดค้านก็บอกว่านี่ทำให้จิตวิญญาณโอเพนซอร์สเสียไป
ตอนนี้ Technical Board ของ Ubuntu ก็ได้ตัดสินใจแล้วว่า Ubuntu 7.04 จะไม่เปิดไดรเวอร์ closed source มาตั้งแต่ต้น (ไม่ต่างอะไรกับตัวก่อนๆ) อย่างไรก็ตามจะอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ในการดาวน์โหลดและติดตั้งไดรเวอร์เหล่านี้เพิ่มมากขึ้น เหตุผลก็ตามอ่านกันเองได้ตามลิงก์
งาน 3GSM วันนี้ที่บาร์เซโลนา มีการเปิดตัวมือถือและพีดีเอใหม่เยอะมาก ขอรวบเป็นข่าวเดียวละกัน
ฟีเจอร์อีกอันที่น่าสนใจใน Vista คือ SuperFetch และ ReadyBoost
SuperFetch คือการใช้แรมที่เหลือว่างอยู่โหลดโปรแกรมที่น่าจะใช้บ่อยมารอไว้ (โดย Vista จะวิเคราะห์จากการใช้งานของเรา) เพื่อจะได้เรียกโปรแกรมนั้นได้เร็วขึ้น ซึ่งตรงนี้จะขึ้นกับว่าเรามีแรมเหลือเยอะแค่ไหนด้วย
ส่วน ReadyBoost คือการให้ SuperFetch ไปโหลดใส่ USB drive นอกเหนือไปจากแรม ถึงแม้ว่า USB จะมีความเร็วในการถ่ายข้อมูลต่ำเมื่อเทียบกับแรมหรือแม้แต่ฮาร์ดดิสก์ แต่สิ่งที่ช่วยได้คือ access time ที่เร็วมากตามธรรมชาติของหน่วยความจำแบบแฟลช
หลายคนอาจรู้แล้วว่า หลังเขียนข่าว Vista วันวางจำหน่าย โดยทิ้งท้ายให้ไมโครซอฟท์ประเทศไทยส่ง Vista มาให้รีวิว ผมก็ได้รับการติดต่อจากคุณ Derek Brown ผู้จัดการฝ่ายการตลาดในวันเดียวกัน ซึ่งคุณ Derek บอกกับผมทางโทรศัพท์ว่ามีคอร์สอบรมทางเทคนิคเกี่ยวกับ Vista ที่ Microsoft China Technology Center กรุงปักกิ่ง สนใจจะไปรึเปล่า
ไปฟรีแบบนี้จะพลาดได้ยังไง และนี่คือรายงานว่าไปเห็นอะไรมาบ้าง
IBM developerWorks มีบทความคาดการณ์แนวโน้มจาวาในปี 2007 สรุปคร่าวๆ มาบางส่วน
จากครั้ง Blognone Desktop Showcase 2007 ผมเลยรู้ว่ามีสาวก Beryl เยอะผิดคาด ไปเจอความเคลื่อนไหว Beryl ตัวใหม่เลยเอามาฝาก
Beryl 0.2.0 กำลังจะออกเร็วๆ นี้ ทางเว็บไซต์ Lunapark6 เลยลองเล่น 0.2.0RC2 บน Kubuntu และผลออกมาน่าประทับใจ ฟีเจอร์ใหม่ใน Beryl 0.2.0 อย่างพรีวิวหน้าต่างใน taskbar (แบบเดียวกับ Vista) หรือย่อ-ขยายหน้าต่างแบบ Expose ทำให้ Beryl ใช้งานได้จริงมากขึ้นไม่ใช่แค่เท่อย่างเดียว ส่วนเรื่องเท่นั้นก็มีเอฟเฟคต์ใหม่ๆ อย่าง Cube กลับด้านใน เป็นต้น
โนเกียยังไม่ยอมแพ้ถึงแม้ว่า N-Gage รุ่นแรก (และรุ่นที่สอง N-Gage QD) จะขายได้ไม่ดีนัก แตได้เปิดเผยข้อมูลผ่านบล็อกกึ่งทางการของโนเกียเองว่า N-Gage รุ่นที่สามจะเปิดตัวเดือนกันยายนนี้
ตอนนี้มีผู้พัฒนาเกม 2 รายที่ประกาศจะทำเกมให้คือ EA Mobile และ Gameloft โนเกียหวังว่าปี 2008 จะมีเกมดังๆ พอร์ตมาลง N-Gage ใหม่นี้มากขึ้น
ใครมี (หรือเคยมี) ในครอบครอง แสดงตัวกันหน่อย
ที่มา - Game Daily
เว็บเบราว์เซอร์ในตำนานกลับมาอีกครั้งแล้ว Netscape 9 จะอิงการพัฒนาบน Firefox เหมือนกับ Netscape 8 และมีแต่เบราว์เซอร์เพียงอย่างเดียว (Netscape 7 ที่พัฒนาจาก Mozilla Seamonkey รวมพวกอีเมล, โปรแกรมสร้างเว็บมาด้วย)
เป้าหมายของ Netscape 9 คือเป็นเบราว์เซอร์ที่ผสานกับ Netscape.com ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนใหม่เป็นเว็บแบบเดียวกับ digg โดยจะลง extension สำหรับ Netscape Mail และฟีเจอร์การ invite เพื่อนบน Netscape.com มาให้ในตัว
หน้าตามีการเปลี่ยนแปลงจาก Netscape 8 บ้าง สนใจก็เข้าไปดูกันในลิงก์ ทาง Netscape บอกว่า Netscape 9 จะออกในเร็วๆ นี้
ที่มา - MozillaZine
ถ้ายังจำกันได้ เมื่อปีที่แล้วไมโครซอฟท์ได้สปอนเซอร์นักพัฒนากลุ่มหนึ่งให้เขียนปลั๊กอินสำหรับ Microsoft Office เพื่อให้สามารถเซฟเป็น OpenDocument ได้
ปลั๊กอินตัวนี้เสร็จแล้วครับ สามารถใช้ได้กับ XP, 2003 และ 2007 แต่มีข้อแม้ว่าเฉพาะเอกสาร Word (.doc) เท่านั้น ทางทีมงานได้ย้ายไปทำส่วนของ Excel และ PowerPoint ต่อ ซึ่งคาดว่าจะออกได้ภายในเดือนพฤศจิกายน 2007 นี้
ผมไม่มี MS Office ให้ทดสอบ คงต้องฝากลองกันแล้วแหละ ลองเอาเอกสาร .doc เดิมเซฟเป็น .odt แล้วเอาไปเปิดใน OpenOffice.org เทียบกับเอา .doc ไปเปิดใน OpenOffice.org โดยตรงดูครับ
Mary Jo Foley นักเขียนของ ZDNet ซึ่งเขียนข่าวกับไมโครซอฟท์โดยเฉพาะ ได้เปิดเผยข้อมูลจากคนในไมโครซอฟท์ว่า รหัสการพัฒนาวินโดวส์ตัวถัดไปจะไม่ใช่ Fiji/Vienna (ข่าวเก่า) แล้ว แต่จะเป็น "Windows 7"
สาเหตุก็เพราะการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กร รวมถึงนโยบายภายในของฝ่าย Windows and Windows Live Engineering ซึ่งนำโดย Steven Sinofsky โค้ดเนมนี้จะใช้้คู่กับ "Office 14" ที่กำลังเริ่มการพัฒนาเช่นกัน (โค้ดเนมของ Office 2007 คือ "Office 12" คราวนี้ข้ามเลข 13 ไป)
หลายคนคงมีคำถามว่าทำไมเป็น Windows 7 อันนี้ลองนับเวอร์ชันเก่าๆ เทียบเลขกับชื่อกันดูนะครับ
บน YouTube มีวิดีโอสาธิตการใช้งาน "Prada" โทรศัพท์มือถือแบบทัชสกรีนตัวใหม่จาก LG (สเปก) ซึ่งลักษณะการใช้งานก็คล้ายคลึงกับ iPhone หน้าตาก็เข้าไปดูกันเองตามลิงก์ มาแนวเดียวกับ LG Chocolate
อย่างไรก็ตาม LG Prada ไม่มีระบบมัลติทัช (เพราะแอปเปิลจดสิทธิบัตรไว้แล้ว) และนายคนที่สาธิตวิดีโอนี้ก็ใช้งานแบบติดๆ ขัดๆ เล็กน้อย ไม่รู้ว่าเครื่องจริงจะแก้ปัญหาพวกนี้ขนาดไหน (อ่านวิเคราะห์การใช้งานจากคอมเมนต์ใน OSNews)
ตอนที่ Flickr โดน Yahoo! ซื้อไปในปี 2005 ทาง Yahoo! ก็สัญญาว่าสมาชิกเดิมของ Flickr จะยังใช้ได้ และสมาชิกใหม่ที่สมัครหลังจากนั้นจะใช้ล็อกอินของ Yahoo! แทน แต่นโยบายนี้เพิ่งเปลี่ยน โดยผู้ใช้ Flickr เก่าแก่หรือที่เรียกบนหน้าเว็บว่า Old Skool จะต้องเปลี่ยนไปใช้ Yahoo ID ภายในวันที่ 15 มีนาคมนี้
ผู้ใช้กลุ่มนี้ไม่พอใจที่ตัวเองจะต้องเปลี่ยนวิธีการล็อกอิน เลยรวมกลุ่มกันประกาศว่าจะเลิกใช้ Flickr และไปใช้บริการยี่ห้ออื่น เช่น Zoomr แทน ดูรายละเอียดได้ที่กลุ่ม Flick off
ทาง Yahoo! เองให้ข้อมูลว่าปัจจุบันผู้ใช้ 95% ใช้ Yahoo ID กันหมดแล้ว เหลือกลุ่มสมาชิกที่ใช้มาตั้งกะเว็บเปิดใหม่ๆ อีก 5% เท่านั้น
เรารู้กันดีว่า iPod ทำอะไรได้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นฟังเพลง, ดูหนัง หรือเล่นเกม แต่นักเบสบอลอาชีพใน Major League Baseball ของสหรัฐกำลังใช้ iPod เพื่อดูฟอร์มการเล่นของตัวเองและคู่แข่ง
เรื่องเริ่มจาก Brian Jones ผู้ช่วยโค้ชฝ่ายวิดีโอของทีม Colorado Rockies ได้รับ iPod เป็นของขวัญคริสต์มาส เขาก็เกิดปิ๊งไอเดียขึ้นมาว่าน่าจะใช้เป็นอุปกรณ์ช่วยศึกษาฟอร์มของผู้เล่นได้ เมื่อเครื่อง iPod หาซื้อได้สะดวกและทางทีมงานก็มีวิดีโอของนักเบสบอลแต่ละคนอยู่แล้ว iPod จึงฮิตในทีม Rockies และระบาดไปยังทีมอื่นๆ ใน MLB เช่นกัน
นาย Daniel Giersch ชาวเยอรมันวัย 32 ปีชนะคดีฟ้องร้องชื่อ Gmail ในทวีปยุโรปต่อกูเกิล
Giersch เปิดบริการ "G-mail" ในเยอรมนี (gmail.de) ซึ่งให้บริการจัดพิมพ์เอกสารผ่านทางอีเมล (ส่งไฟล์ไปให้พิมพ์ แล้ว gmail.de ส่งกลับมาให้ทางไปรษณีย์) นาย Daniel Giersch คนนี้ชนะคดีในเยอรมนีมาซักพักแล้ว และตอนนี้ก้าวเข้ามาชนะคดีในยุโรป ทำให้ Google ต้องใช้ชื่อ googlemail.com แทนสำหรับผู้ใช้ในทวีปยุโรป
Giersch เรียกกูเกิลว่า "Googliath" และอ้างว่ากูเกิลยินดีจ่ายเงิน 250,000 ดอลลาร์เพื่อซื้อชื่อนี้ แต่เขาไม่ยินยอม
ที่มา - Ars Technica
Jim Allchin หัวหน้าใหญ่ทีมพัฒนา Windows Vista ประกาศไว้นานแล้วว่า เขาจะอยู่ช่วยประคองให้ Vista ออกวางจำหน่ายให้เรียบร้อย แล้วจะเกษียณอายุการทำงานของตัวเอง ตอนนี้ Vista ออกแล้วก็ได้เวลาที่ Allchin จะไปเสียที
หน้าที่ของ Allchin จะถ่ายโอนมาให้ Kevin Johnson ซึ่งเดิมเป็นประธานร่วมของฝ่าย platform ร่วมกับ Allchin
ใครใช้ Vista อยู่ก็ระลึกไว้ซักนิดว่ากว่าจะฝ่าฟันความล่าช้าทั้งหมด ก็ฝีมือ Allchin คนนี้นี่เอง แปะๆ
ที่มา - Microsoft Press
บ้านเราเปิดตัวกันไปเรียบร้อยแล้ว ในต่างประเทศเองก็ทยอยเปิดตัวกันตามความต่างเวลา วันนี้ข่าวเลยเยอะหน่อย รวมเป็นข่าวเดียวละกันครับ
ข่าวแรกคือไมโครซอฟท์ออกแพตช์ 6 ตัวผ่าน Windows Update ถึงแม้จะดูแปลกๆ หน่อยที่แพตช์ชุดแรกออกก่อนตัวระบบปฏิบัติการ แต่ก็ดีกว่ารู้ปัญหาแล้วไม่ทำอะไรน่า - Ars Technica
หลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงจาก Gears of War ซึ่งใช้เกมเอนจิน Unreal Engine 3.0 เป็นเกมแรก (อีกเกมที่ออกมาแล้วในตอนนี้คือ Rainbow Six: Vegas) บริษัทต่างๆ ก็มาซื้อเอนจินไปใช้งานกันยกใหญ่ ล่าสุดที่ประกาศก็คือ Square Enix
Taku Murata ผู้จัดการฝ่าย R&D ของ Square Enix ให้ความเห็นว่าการทำเกมยุคหน้าจะซับซ้อนขึ้นมาก ทั้งต้องประมวลผลแบบขนาน (Xbox 360 มี 3 คอร์ ส่วน Cell มี 8 คอร์) และทำภาพความละเอียด HD ดังนั้นการซื้อเอนจินคุณภาพสูงมาใช้งานก็เป็นการประหยัดเวลาและทรัพยากรไปได้มาก เอาเวลาไปใส่รายละเอียดให้กับตัวเกมดีกว่า ทั้งนี้ Square Enix ยังไม่ได้ประกาศว่าเกมไหนบ้างจะใช้เอนจิน Unreal